ตอนที่ 3419

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3419 :ให้มันอยู่ต่ออีก 2 ปี!

 

“ฮ่าๆๆ…ยากนักที่จักได้เห็นเจ้าแลดูมีความสุขเช่นนี้”

 

จักรพรรดิอมตะฝูโหย่วเทียนหัวเราะ จากนั้นก็หันไปมองต้วนหลิงเทียน “ข้าไม่คิดเลยจริงๆ ว่าสามีของเฟยเอ๋อจะเป็นศิษย์ที่แท้จริงของชายผู้นั้น”

 

“ต้วนหลิงเทียน ในอดีตอาจารย์ของเจ้า จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง กับข้า พวกเราเคยประมือกันครั้งหนึ่ง ถึงแม้วันนั้นพวกเราจะไม่มีผู้ชนะและอาจารย์เจ้ากล่าวบอกไว้ว่าวันหน้าจะมาประลองกับข้าอีกครั้งหลังมีความก้าวหน้า แต่ตอนนั้นข้ารู้ดี อาจารย์เจ้าจะมาก็ดีไม่มาก็ดี ข้าคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาจารย์เจ้าอีกต่อไป…”

 

“จักรพรรดิสวรรค์ฟังชิงหยาง ยังเป็นตัวตนที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอ..ตลอดชีวิตของอาจารย์เจ้า ไม่ค่อยมีโชควาสนาอะไรมากนัก เรียกว่าทุกสิ่งอย่างที่มีล้วนพึ่งพากําลังของตัวเองทั้งสิ้น”

 

“มันเข้าใจกฏทําลายล้างผ่านวิถีกระบี่ ก่อเกิดเป็นเต่ากระบี่ทําลายล้างอันร้ายกาจนัก แต่ละความลึกซึ้งของกฎทําลายล้าง ล้วนใช้ออกได้ล้ำลึกสุดหยั่งถึง….ยามข้าประมือกับอาจารย์เจ้า ข้ารู้สึกเหมือนความลึกซึ้งที่ผู้อื่นยากจะเข้าใจ กลับถูกอาจารย์เจ้าประยุกต์ใช้ได้อย่างแยบคาย…”

 

“อา…ข้าพูดมาตั้งมาก แต่ยังมิได้แนะนําตัวเองเลย ข้าคือจักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียน หยางอวิ๋นเซียว หากจะนับตามลําดับอาวุโส เช่นนั้นเจ้าก็เรียกหาข้าว่าอาจารย์ลุงเถอะ”

 

“เพราะอย่างไรเสีย ในปืนนั้นอาจารย์ของเจ้า จักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางก็เรียกหาข้าว่า พี่หยางด้วย..”

 

พอหยางอวิ๋นเซียวกล่าวถึงจุดนี้ สองตามันก็ฉายประกายสว่างวาบ

 

“อาจารย์ลุงหยาง”

 

เมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์ฟูโหย่วเทียน ทั้งยังรู้จักกันกับอาวุโสฟงชิงหยาง แถมสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ อีกฝ่ายยังเป็นอาจารย์ปูของลี่เฟยอีก เช่นนั้นต่อหน้าอีกฝ่าย ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่กล้าละเลย

 

“ฮ่าๆๆ..!!”

 

หลังได้ยินคําเรียกหาตัวเองของต้วนหลิงเทียน หยางอวิ๋นเซียวก็หัวเราะออกมาอย่างถูกใจ จากนั้นก็สะบัดมือเรียกบางสิ่งออกมาจากแหวนพื้นที่

 

“สิ่งนี้ถือว่าอาจารย์ลุงให้เจ้าเป็นของขวัญแรกพบ”

 

พอกล่าวจบคํา บางสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาเหนือฝ่ามือหยางอวิ๋นเซียว ก็ถูกพลังขุมหนึ่งหอบหิ้วมาหยุดลอยเบื้องหน้าต้วนหลิงเทียน มองไปก็พบว่ามันเป็นลูกปัดกลมๆสีหม่นลูกหนึ่ง

 

“อาจารย์ลุงหยาง ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก”

 

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาพลางกล่าวปฏิเสธ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้คืออะไร แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นของที่จักรพรรดิสวรรค์คนหนึ่งเก็บไว้ในแหวนพื้นที่ เช่นนั้นไหนเลยจะเป็นของธรรมดาๆไร้ราคาค่างวดได้

 

“เจ้ารับไว้เถอะ”

 

หยางอวิ๋นเซียวพูดด้วยรอยยิ้ม “ของสิ่งนี้เป็นข้าได้มาจากสมรภูมิอเวจี และมันเป็นวัตถุที่ประหลาดมาก…หากข้าใช้พลังบีบอัดมันก็ยังพอทําให้มันเสียทรงได้ แต่ให้ข้าทําอย่างไรก็ไม่อาจทําลายมันได้”

 

“กระทั่งเป็นพลังที่สามารถทําลายได้กระทั่งแหวนพื้นที่ ก็ไม่อาจทําลายมันได้”

 

“เต็มที่ก็แค่บีบอัดให้มันเสียรูปเท่านั้น”

 

“ข้าพยายามศึกษามันมากว่าหมื่นปีแล้ว แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆเช่นนั้นวันนี้พอดีได้พบเจ้า ข้าก็เลยคิดให้มันเป็นของขวัญแรกพบเสีย เพราะของมีค่าอย่างอื่นเจ้าเองก็คงมีไม่ขาดอยู่แล้ว”

 

“เช่นนั้นเจ้าก็รับมันไปเถอะ เพราะข้าไม่อาจใช้ประโยชน์อะไรได้จริงๆ”

 

“อย่างไรก็ตามถึงงข้าจะไม่อาจหาประโยชน์ของมันได้พบ แต่ข้ารู้สึกมาตลอดว่ามันไม่น่าจะเป็นของธรรมดา…”

 

หยางอวิ๋นเซียวกล่าว

 

ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มขื่นขม “อาจารย์ลุงหยาง ในเมื่อท่านคิดว่ามันไม่ใช่ของธรรมดา แล้วข้าจะรับไว้ได้ยังไง”

 

หลังได้ยินคําพูดของงหยางอวิ๋นเซียว ต้วนหลิงเทียนก็ตระหนักได้ทันที ไม่ว่าลูกปัดสีหม่นเบื้องหน้าคือสิ่งใด แต่มันห่างไกลคําว่าธรรมดาเป็นแน่!

 

สิ่งของที่กระทั่งพลังที่ทาแหวนพื้นที่ได้ กลับไม่อาจทําอะไรมันได้ ยังจะธรรมดาได้หรือ?

 

“เจ้าไม่ยอมรับหรือ…หรือเจ้าไม่อยากยอมรับว่าข้าเป็นอาจารย์ลุง?”

 

หยยางอวิ๋นเซียวมองจ้องถาม

 

“เอ่อ…”

 

ต้วนหลิงเทียนได้แต่คลี่ยิ้มแหยๆออกมา ไม่ว่าจะความกระตือรือร้นของหยางอวิ๋นเซียวก็ดี หรือความกระตือรือร้นของจักรพรรดิสวรรค์สือฉีเทียนที่เจอในสือฉีเทียนก็ดี ล้วนทําให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง

 

แต่เพราะเรื่องเหล่านี้ ทําให้ต้วนหลิงเทียนระหนักได้ถึงอิทธิพลของอาจารย์ที่เขายังไม่เคยพบเจอมาก่อนชัดเจน!

 

กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์ของ 2 ระนาบเทวโลกยังให้หน้าเขาถึงขนาดนี้

 

ถึงแม้เขาจังงไม่เคยพบเจอฟังชิงหยางตัวเป็นๆ และไม่ทราบว่าที่แท้ฟงหยางมีไมตรีกับจักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียนถึงระดับไหน แต่เขาก็พอเดาได้ว่าไม่พ้นก็แค่คนที่รู้จักกันผิวเผิน…

 

คนที่รู้จักกันแค่ผิวเผิน แต่พอพบเจอศิษย์ของอีกฝ่าย กลับส่งมอบวัตถุประหลาดจากสมรภูมิ 9 ยมโลกที่ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดาออกมาให้เป็นของขวัญแรกพบ?

 

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายให้ความสําคัญกับคําว่า “คนรู้จักผิวเผิน” มากขนาดไหน!

 

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ยอมรับลูกปัดประหลาดมาแต่โดยดี

 

และที่เขายอมรับมา ไม่ใช่เพราะการเร้าหรือของจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนถ่ายเดียว แต่เป็นเพราะคําพูดของหวงเอ้อ จิตวิญญาณกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน ที่อยู่ๆก็ดังขึ้นในร่างเขาด้วย!

 

“นายท่าน ยอมรับของที่ชายชราผู้นี้มอบมาให้เถอะ สิ่งนี้มีประโยช์กับหวงเอ้อยิ่ง หากหวงเอ้อได้มาต้องสร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ให้นายท่านได้แน่!”

 

หวงเอ้อเป็นใคร?

 

จิตวิญญาณของอุปกรณ์เทพขั้นสูง กระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน!

 

ถึงแม้ในอดีตหวงเอ้อจะไม่ใช่จิตวิญญาณของกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนแต่แรก แต่อย่างไรก็เคยเป็นจิตวิญญญาณของกระบี่เล่มอื่นที่มีระดับพอๆกัน!

 

เมื่อหวงเอ้อทําราวกับรู้ว่าสิ่งของที่จักรพรรดิสวรรค์ยูโหย่วเทียนให้มาคืออะไร ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “หวงเอ้อ สิ่งนี้คืออะไรหรือ?”

 

“ของสิ่งนี้มีชื่อเรียกมากมาย และยังแตกต่างกันไปตามระนาบเทพต่างๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยมีของสิ่งนี้ หวงเอ้อมั่นใจว่ากระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน จะสามารถพัฒนาไปเป็นอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดได้”

 

ทันทีที่หวงเอ้อกล่าวประโยคนี้ออกมา ใจต้วนหลิงเทียนก็เต้นรัวขึ้นมาทันที

 

อุปกรณ์เทพขั้นสูงสุด?

 

ในอดีตต้วนหลิงเทียนเคยถามหวงเอ้อแล้ว ว่ากระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนที่เป็นอุปกรณ์เทพขั้นสูงนั้น ใช่อุปกรณ์เทพที่ทรงพลังที่สุดแล้วหรือไม่? วันนั้นหวงเอ้อก็ตอบว่าไม่!

 

จากนั้นภายใต้การซักถามเพิ่มเติม หวงเอ้อก็ได้บอกเขาว่า…เหนืออุปกรณ์เทพขั้นสูง ยังมีอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดอยู่อีกด้วย!

 

แน่นอนว่าอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดไม่ใช่จะหาได้พบง่ายๆ ผู้ที่ถือครองอุปกรณ์เทพระดับนี้ปกติแล้วก็มีแต่ชนชั้นผู้นําขุมกําลังระดับแนวหน้าของระนาบเทพเท่านั้น อาศัยคนธรรมดาย่อมไม่มีทางเข้าถึงพวกมันได้

 

และเหนือกว่าอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุด คืออุปกรณ์เทพขั้นสุดยอด

 

อุปกรณ์เทพขั้นสุดยอดนั้น มีแต่ผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่สร้างขึ้นมาได้ พลังอํานาจของมันไม่ใช่อะไรที่อุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดจะเทียบเทียมได้เลย

 

อุปกรณ์เทพขั้นสุดยอด ปกติแล้วก็มักจะอยู่ในมือของตัวตนระดับผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น

 

แน่นอนว่าผู้ที่เป็นคนใกล้ชิดของผู้แข็งแกร่งที่สุด ก็อาจจะมีมันในครอบครอง

 

“นายท่าน อันที่จริงแล้ววัสดุที่ใช้หลอมสร้างอุปกรณ์เทพขั้นสุดยอด ก็มิได้แตกต่างอะไรจากวัสดุที่ใช้หลอมสร้างอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดเลย..อุปกรณ์เทพขั้นสุดยอดนั้น แท้จริงแล้วก็คืออุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดเก็บไว้ในตัว และใช้พลังหล่อเลี้ยงบํารุงมันมานานนับหมื่นๆปีเท่านั้น”

 

“อย่างไรก็ตาม แม้วัสดุที่ใช้หลอมสร้างจะเหมือนๆกัน ทว่าต่อให้คนใช้มีพลังฝีมือพอๆกัน ถ้าคนหนึ่งใช้อุปกรณ์เทพขั้นสุดยอด อีกคนใช้แค่อุปกรณ์เทพขั้นสูงสุด คนแรกก็สามารถฆ่าคนที่สองได้ในพริบตา”

 

“ช่องว่างระหว่างอุปกรณ์เทพขั้นสุดยอดกับอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดนั้นมากกว่าช่องว่างระหว่างอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดกับอุปกรณ์เทพขั้นต่ำ ไม่สิ ยังมากกว่าช่องว่างระหว่างอุปกรณ์เทพขั้นสูงสุดกับอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิด้วยซ้ำ!”

 

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนก็พอตระหนักได้ถึงคุณค่าของอุปกรณ์เทพขั้นสุดยอดว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน และขณะเดียวกันก็พบว่ากระบีหลิงหลง 7 สมบัติอันเป็นอุปกรณ์เทพขั้นสูงของเขาที่แท้ก็แค่ของที่ดีพอประมาณเท่านั้น

 

“อุปกรณ์เทพขั้นสูงสุด…”

 

อย่างไรก็ตามหลังได้ฟังสิ่งที่หวงเอ้อกล่าวใจต้วนหลิงเทียนก็เต้นรัวไปด้วยความร้อนรุ่มและในเมื่อจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียนยืนกรานจะมอบให้ ต้วนหลิงเทียนก็เลิกอิดออดและรับมันมาทันที “ขอบคุณอาจารย์ลุงหยาง”

 

“ให้มันได้เช่นนี้สิ!”

 

พอเห็นต้วนหลิงเทียนรับของขวัญไป หยางอวิ๋นเซียวก็คลี่ยิ้มสดใสเต็มใบหน้า ขณะเดียวกันก็หันไปมองผู้เฒ่าหั่วด้านหลังต้วนหลิงเทียน “ข้าเคยได้ยินคําร่ำลือของจักรพรรดิอมตะอีกาทองคํามานานแล้ว ตอนนี้เห็นว่าในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์งี้เมียเทียน ผู้บังคับบัญชาของจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง นอกจากเมิ่งหลัวแล้ว เจ้าก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดสินะ?”

 

“อย่างไรก็ตาม ตอนที่ข้ากับจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางประลองกัน ดูเหมือนเจ้าจักยังไม่ได้เข้าร่วมพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ หรือยังไม่ได้ติดตามจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยางกระมัง?”

 

หยางอวิ๋นเซียวถาม

 

“ข้าพึ่งติดตามใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์เมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านเท่านั้น”

 

ผู้เฒ่าหั่วตอบ

 

จังหวะนี้ ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยิชัดเจน ว่าน้ำเสียยงามผู้เฒ่าหั่วคุยกับจักรพรรดิสวรรค์ของฝูโหย่วเทียน มันแฝงความเคารพมากกว่าตอนคุยกับจักรพรรดิสวรรค์ของสือฉี่เทียน

 

แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนเดาเหตุผลเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

 

หยางอขึ้นเซียว จักรพรรดิสวรรค์แห่งฝูโหย่วเทียนคนนี้ มีพลังฝีมือเหนือกว่าจักรพรรดิสวรรค์แห่งสือฉี่เทียนมาก…คนหลังสมควรเป็นแค่เทพสงคราม 7 ดาราระดับแนวหน้า แต่หยางอวิ๋นเซียวสมควรเป็นเทพสงคราม 8 ดารา!

 

“เช่นนี้นี่เอง”

 

หยางอวิ๋นเซียวพยักหน้า ตระหนักเรื่องราวได้ไม่ยาก

 

“แล้วพวกเจ้าจะไปเมื่อไหร่หรือ?”

 

หยางอวิ๋นเซียวหันไปมองสลับระหว่างต้วนหลิงเทียนกับลี่เฟย พลางถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่นราวผู้อาวุโสใจดีมองชมหลานประเสริฐ

 

“ท่านอาจารย์ปู่”

 

ลี่เฟยเอ่ตอบด้วยน้ำเสียงมากเคารพ “ข้าคิดจะอยู่แสดงความกตัญญต่อท่านอาจารย์ที่พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ฝูโหย่วเทียน 2 ปี ค่อยจากไป…”

 

“อืม”

 

หยางอวิ๋นเซียวพยักหน้า “หาคนที่มีจิตคิดกตัญญเช่นเจ้าได้ยากนัก…”

 

พอกล่าววจบคํา หยางอวิ๋นเซียวก็หันไปมองจักรพรรดิอมตะหนามม่วงอีกครั้ง “ต่อไปเจ้าก็ต้อนรับศิษย์หลานต้วนกับผู้เฒ่าหั่วให้ดี อย่าได้ละเลยเสียเล่า…”

 

“ทราบแล้วท่านอาจารย์”

 

หลังจากจักกรพรรดิอมตะหนามม่วงตอบคํา หยางอวิ๋นเซียวก็หันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง “ศิษย์หลานต้วน หลังจากนี้ข้าคิดจะปิดด่านบ่มเพาะสักระยะ ไม่ว่ามีเรื่องราวใดเจ้าสามารถไปหาจักรพรรดิอมตะหนามม่วงได้ทุกอย่าง”

 

“เข้าใจแล้วอาจารย์ลุงหยาง”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

 

หลังจากนั้นภายใต้สายตามองส่งของหยางอวิ๋นเซียว จักรพรรดิอมตะหนามม่วงก็พาพวกต้วนหลิงเทียนทั้ง 3 กลับไปยังสถานที่พักบ่มเพาะของตัวเอง

 

1 เดือนต่อมา…

 

“ต้วนหลิงเทียนนั่น มันยังไม่ออกมาจากที่นั่นอีกรึ?”

 

จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วหันไปถามข่งโย่ว ด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด

 

“ท่านพ่อ เรื่องนี้ข้าไปถามข้ารับใช้ของบ้างอาจารย์อาเล็กมาแล้ว…”

 

สีหน้าข่งโย่วอี้แลดูมืดมนนัก ขณะกล่าวน้ำเสียงยังเย็นชาเป็นที่สุด “สารเลวต้วนหลิงเทียนนั่นมันคิดจะพักอยู่ที่บ้านอาจารย์อาเล็ก 2 ปี จากนั้นค่อยพานังแพศยาลี่เฟยนั่นจากไป!”

 

“ทั้งหมดเป็นเพราะนังแพศยาลี่เฟยนั่น คิดอยู่ดูแลอาจารย์อาเล็กก่อน 2 ปี!”

 

ข่งโย่วอี้กล่าว

 

“2 ปี?”

 

จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แค่ 2 ปีพริบตาก็ผ่านพ้นไปแล้ว…เช่นนั้นก็รอพวกมันเถอะ”

 

“เจ้าอย่าได้ห่วงไป 2 ปีหลังจากนี้ พ่อจะจับเจ้าต้วนหลิงเทียนนั่นให้ ถึงตอนนั้นเจ้าจะฆ่าจะแกงหรือจะทรมานมันอย่างไรก็ตามใจเจ้าเลย”

 

“อย่างไรก็ตามขอให้เจ้าฆ่ามันก่อนที่อาจารย์อาเล็กของเจ้าจะมาก็พอ”

 

“เพราะหากอาจารย์อาเล็กเจ้ามา แล้วมันยังไม่ตาย เจ้าก็ไม่อาจลงมือฆ่ามันได้อีก…เพราะข้ากลัวว่านางจะบันดาลโทสะจนลงมือกับเจ้า!”

 

“ขอเพียงต้วนหลิงเทียนนั่นไม่ตาย และพวกเราไม่ได้ฆ่าลี่เฟย ต่อให้อาจารย์อาเล็กเจ้ามีโมโหแค่ไหน เต็มที่ก็แค่พุ่งมาสู้กับข้าระบายอารมณ์”

 

“อย่างดีข้าก็ยอมให้นางทุบตีสักหน่อย เรื่องนี้ก็คงแล้วกันไปไม่ยาก…”

 

จักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้วกล่าว

 

ได้ยินคําพูดของจักรพรรดิอมตะวายุสุดขั้ว สองตาข่งโย่วอี้ ก็เป็นประกายสว่างวาบขึ้นมาทันที กัดฟันกล่าวว่า “หึ! เช่นนั้นก็ให้สารเลวต้วนหลิงเทียนนั่นมันเหลือลมหายใจอยู่ต่ออีก 2 ปีเถอะ!”

 

“หลังจากนี้ 2 ปี ข้าจะสับร่างมันให้แหลกเป็นหมื่นๆชิ้นต่อหน้าลี่เฟย!”

 

“ข้าล่ะอยากจะเห็นนักว่าพอถึงตอนนั้น นังแพศยาลี่เฟยนั่นจักทําหน้าอย่างไร!!”