บทที่ 2537 ผีเข้าสิงร่าง + ตอนที่ 2538 แผนร้ายของเหยียนหมิงซุ่น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2537 ผีเข้าสิงร่าง

เหมยเหมยใจเต้นระส่ำ หญิงสาวชาวต่างชาติที่ไม่เพียงแต่มีลักษณะเหมือนชาวตะวันออกแต่ยังพูดภาษาฮวาเซี่ยได้อย่างคล่องแคล่วด้วย ไม่สิ แค่เดือนเดียวก็สามารถพูดภาษาฮวาเซี่ยได้อย่างคล่องแคล่ว

ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนความจริงเลยสักนิด!

“เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นอัจฉริยะทางภาษาเหรอคะ?” มีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น

“ฉันก็คิดเช่นนั้นค่ะ แต่น้องชายฉันบอกว่านอกจากเด็กผู้หญิงคนนี้ภาษาฮวาเซี่ยและภาษาอังกฤษที่เรียนได้ไวแล้ว ภาษาอื่น ๆก็เหมือนคนทั่วไป น้องชายของฉันตั้งใจสอนภาษาญี่ปุ่นให้เธอโดยเฉพาะ คุณหมอชาติอื่น ๆก็สอนภาษาฝรั่งเศส เยอรมันให้เธอ แต่ถึงแม้ว่าการเรียนรู้ของเธอไม่ถือว่าช้าแต่ก็ถืออยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงให้ความรู้สึกว่าเธอพูดภาษาฮวาเซี่ยและภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เกิดมากกว่า”

เคย์โกะรู้สึกสงสัยในตัวเด็กผู้หญิงคนนี้จริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถไปหาตัวจริงที่ตะวันออกกลางได้ ไม่เช่นนั้นต้องไปคุยกับเธอเองอย่างแน่นอน

“น้องชายฉันยังบอกอีกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้แม้จะอายุแค่ 14 แต่เรียนรู้ได้ไวมากเหมือนกับผู้ใหญ่ เธอยังดึงผ้าคลุมหน้าออกอย่างกล้าหาญโดยไม่ลังเลที่จะต่อสู้กับประเทศ…”

น้ำเสียงของเคย์โกะเต็มไปด้วยความชื่นชม ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอคงไม่กล้าต่อกรกับประเทศขนาดนั้นอย่างแน่นอน!

“ถ้าอย่างนั้นเธอยังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้เหรอ?” เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะกังวล

ทางตะวันออกกลางนับถือศาสนาอิสลามและสถานภาพของผู้หญิงก็ต่ำต้อยมาก เด็กผู้หญิงคนนี้กล้าที่จะดึงผ้าคลุมหน้าออกเพื่อต่อต้านศาสนา เกรงก็แต่จะโดนคนในพื้นที่แก้แค้นเอาได้น่ะสิ?

“คงจะอยู่ไม่ได้แน่นอนค่ะ แต่เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นพยาบาลที่สภากาชาดสากล และด้วยการสนับสนุนจากสภากาชาดสากลก็คงจะทำให้เธอปลอดภัยไปได้สักพักหนึ่งค่ะ!”

“แต่นั่นก็ไม่ใช่ในระยะยาวนะคะ” เหมยเหมยรู้สึกกังวลกับอนาคตของเด็กผู้หญิงคนนี้มากเพราะเรียกได้ว่าเธอเป็นคนทรยศต่อคนในพื้นที่นั้น ซึ่งการปฏิบัติต่อคนทรยศที่นั่นก็ช่างโหดเหี้ยม โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อผู้หญิง วิธีการลงโทษทำเอาคนโกรธได้เลย!

ไม่รู้ทำไมเหมยเหมยรู้สึกอยากช่วยเหลือเด็กผู้หญิงที่ทั้งประหลาดและกล้าหาญคนนี้มากนัก และก็อยากเจอเธอมากด้วย

แต่เมื่อคิดถึงความวุ่นวายในตะวันออกกลางเธอก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป เธอพาเด็กน้อยสองคนไปเที่ยวในที่ที่ปลอดภัยดีกว่า!

“เหมยเหมยคุณรู้ไหม? สิ่งที่ทำให้ฉันสงสัยที่สุดคือจู่ ๆเด็กผู้หญิงคนนี้ก็ตั้งชื่อภาษาฮวาเซี่ยที่ไพเราะมากให้กับตัวเองซึ่งบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีโบราณจนทำให้ทุกคนต้องมองเขาใหม่จริง ๆ” เคย์โกะพูดต่อ

“เธอรู้จักบทกวีโบราณด้วยเหรอเนี่ย? ชื่ออะไรเหรอคะ?” เหมยเหมยเลิกคิ้ว

“เธอเรียกตัวเองว่าหานเหมย เธอบอกว่าชอบกลอนท่อนหนึ่งของฮวาเซี่ยมาก กลิ่นหอมของดอกเหมยมาจากความเหน็บหนาวอันขื่นขมและดาบที่คมกริบมาจากการลับของคมดาบ คุณคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เก่งมากไหมคะ? ตั้งแต่เด็กฉันก็ชอบวัฒนธรรมของประเทศฮวาเซี่ยค่ะ แต่ทุกครั้งที่ต้องจำบทกวีโบราณ ฉันก็จะรู้สึกปวดหัวจึงมักจะลืมอยู่บ่อย ๆ แล้วยังมักจะสับสนอยู่เสมอด้วย ทว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กลับจำได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ช่างอัจฉริยะจริง ๆ…”

เคย์โกะพูดไม่หยุด รู้สึกปลาบปลื้มกับเด็กผู้หญิงตะวันออกกลางที่ชื่อหานเหมยคนนี้อย่างเหลือล้น

แต่สีหน้าของเหมยเหมยกลับเปลี่ยนไปอย่างมาก ใจเต้นตึกตักระรัว

หานเหมย?

แล้วยังรู้อีกว่ากลิ่นหอมของดอกเหมยมาจากความเหน็บหนาวอันขื่นขมและดาบที่คมกริบมาจากการลับคมดาบด้วยเหรอ?

ต่อให้เป็นไอน์สไตน์ก็คงไม่ได้เก่งขนาดนี้หรอกมั้ง?

หรือว่าเด็กคนนี้จะถูกผีสิงเข้าร่าง?

แล้วยังเป็นผีฮวาเซี่ยที่อยู่มาห้าร้อยปีสิงร่างด้วย?

ไม่สิ ผีแก่ที่อายุห้าร้อยปีพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แน่ ๆ น่าจะเป็นผียุคใหม่มากกว่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นผีผู้ชายหรือผีผู้หญิง?

“เหมยเหมย สิ่งที่น่าสนใจของเด็กผู้หญิงคนนี้ก็คือเธอมักจะไม่มีสัญชาตญาณของความเป็นผู้หญิง เธอมักจะเข้าห้องน้ำชายบ่อย ๆเพราะเข้าใจผิดอยู่หลายครั้ง…ช่างน่าขบขันจริง ๆ…”

เคย์โกะหัวเราะตัวโยน เหมยเหมยก็หัวเราะตาม แต่ไม่นานรอยยิ้มก็จางหายไปอย่างช้า ๆ ชะงักค้างอยู่แบบนั้น…

จู่ ๆเธอก็ผุดความคิดน่าเหลือเชื่อขึ้นมาอย่างหนึ่ง!

……………………………………….

ตอนที่ 2538 แผนร้ายของเหยียนหมิงซุ่น

เหมยเหมยตกใจกับความคิดของตัวเองและแอบก่นด่าตัวเองว่าไร้สาระ จะเป็นไปได้อย่างไร?

แต่ในหัวของเธอกลับตีกันเองราวกับมีเสียงหนึ่งคอยบอกว่าเรื่องเป็นอย่างนี้แหละ สิ่งที่เธอคิดถูกต้องแล้ว…

ไม่ได้การล่ะ เธอต้องไปเจอน้องชายของเคย์โกะเพื่อทำความเข้าใจเรื่องของหานเหมยมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นเธอคงเที่ยวต่ออย่างเพลิดเพลินต่อไปไม่ได้แล้ว!

“คุณเคย์โกะตอนนี้น้องชายคุณอยู่ที่ไหนคะ? ฉันมีเรื่องอยากจะถามเขา”

“เขากำลังพักฟื้นอยู่ในประเทศค่ะ ถ้าคุณมาก็ดีเลยค่ะ เครื่องบินเที่ยวไหนคะ? ฉันจะไปรับคุณเอง!” เคย์โกะรู้สึกดีใจมาก ตอนอยู่ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งที่แล้วเธอรีบร้อนมากเกินไปเลยไม่ได้ทำการต้อนรับอย่างดีเท่าไร ครั้งนี้จะต้อนรับเป็นพิเศษเลย

เหมยเหมยเริ่มลังเล…เธอเพิ่งฆ่าคนที่ญี่ปุ่นไปนะ!

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตำรวจที่นั่นยังสืบหาคนร้ายอยู่หรือเปล่า?

“คือว่า…ฉันไม่ค่อยสะดวกไปหาคุณที่นั่นค่ะ ถ้าอย่างนั้นรอตอนน้องชายของคุณมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วค่อยไปเจอเขาแล้วกันดีไหมคะ?” เหมยเหมยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เธอเกรงว่าถ้าไปประเทศญี่ปุ่นอีกจะไม่เป็นการสะดวกสำหรับเธอ

เคย์โกะยังคงนิ่งแต่ก็สามารถเดาได้ถึงความกังวลและความหวาดกลัวของเหมยเหมยได้อย่างรวดเร็ว

“คุณมาได้อย่างสบายใจเลยค่ะ ฉันรับรองเลยว่าจะไม่มีใครกล้าเสียมารยาทกับคุณและและลูก ๆของคุณแน่นอน พวกเราครอบครัวโยโกยามะและทากาฮาชิยังคงมีอิทธิพลในประเทศนี้ค่ะจึงไม่มีใครกล้าเสียมารยาทกับแขกของพวกเราแน่นอน!”

เคย์โกะพูดด้วยความจริงใจอย่างสุดซึ้ง เหมยเหมยต้องฆ่าไอ้วิปริตนั่นก็เพื่อลูกของเธอ เธอจะต้องคุ้มครองเหมยเหมยรอบด้าน ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นคนเนรคุณมิใช่เหรอ?

อีกอย่างหากไอ้วิปริตนั่นไม่ตาย เธอก็ย่อมคิดหาวิธีที่จะทำให้ไอ้คนโรคจิตที่กล้าทำร้ายลูกชายของเธออยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้อยู่ดี ทำให้เขาได้รับความทรมานจนตายไปในที่สุด!

“โอเคค่ะ ฉันจะไปซื้อตั๋วเครื่องบินตอนนี้เลยแล้วก่อนขึ้นเครื่องฉันจะโทรหาคุณค่ะ!”

เหมยเหมยอยากได้รับการยืนยันในสิ่งที่เธอคาดเดาจริง ๆจึงเลือกที่จะเชื่อเคย์โกะ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาจริง ๆอย่างมากเธอก็แค่เปิดเผยตัวตนแล้วให้เหยียนหมิงซุ่นมาแก้ปัญหาให้!

ถ้าไม่ใช้สามี หมดอายุก็ไร้ประโยชน์พอดีสิ!

ทางด้านเหยียนหมิงซุ่นก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องเช่นกัน  “ไปประเทศญี่ปุ่นอีกแล้วเหรอ? ไม่ใช่ว่าเพิ่งไปเที่ยวมาหรอกเหรอ?”

“ดูเหมือนว่าจะได้รับคำเชิญจากคุณนายโยโกยามะครับ คุณผู้หญิงกำลังเตรียมขึ้นเครื่องแล้ว จะห้ามเธอไหมครับ?” ลูกน้องขอคำแนะนำ

เหยียนหมิงซุ่นครุ่นคิดสักพักแล้วตอบว่า “ไม่ต้องหรอก ให้เธอไปเที่ยวเถอะ!”

ก่อนหน้านั้นเขาจงใจส่งคนไปสืบแล้ว คดีที่ไอ้โรคจิตถูกฆ่าถูกอิทธิพลของครอบครัวโยโกยามะปิดข่าวไว้แล้ว ซึ่งรายงานข่าวออกไปว่าตัวเบรกเกอร์มีอายุเก่ามากจนเกิดเป็นประกายไฟแล้วไฟคอกเขาตาย

ไม่มีใครมานั่งสนใจเหตุผลการตายของฆาตกรที่โหดเหี้ยมแบบนั้นหรอก ปีศาจชั่วแบบนี้ต่อให้ถูกไฟเผาเป็นแสนครั้งก็ยังไม่พอ!

ดังนั้นหากเหมยเหมยจะไปที่นั่นก็น่าจะไม่เป็นไร!

ต่อให้มีคนกล้าเสียมารยาทขึ้นมาจริง ๆ  ถ้าเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้เป็นคนกินมังสวิรัติสักหน่อย พอดีกับโอกาสที่เขาจะได้ออกโรงด้วย!

สายตาของเหยียนหมิงซุ่นเป็นประกายพลันคิดอยากให้ที่นั่นมีปัญหาเล็กน้อยเกิดขึ้นจริง ๆ เขาจะต้องรีบเป็นอัศวินไปช่วยสาวงามอย่างแน่นอน แสดงความสามารถให้เหมยเหมยเห็น ไม่แน่ว่าเหมยเหมยอาจจะยอมพาลูกกลับบ้านก็ได้!

ช่วงนี้เขาต้องอยู่บ้านคนเดียวตลอด ช่างไม่ใช่ช่วงเวลาที่มนุษย์คนหนึ่งจะใช้ชีวิตได้เลย!

ใช้เวลาบินมากว่าสิบชั่วโมง ในที่สุดเหมยเหมยก็มาถึงโอซาก้า เคย์โกะถึงที่สนามบินนานแล้ว หลังจากสวมกอดกับเหมยเหมยก็พาเธอกลับบ้าน

“ตอนนี้น้องชายของฉันอาศัยอยู่ที่บ้านฉันค่ะ หัวใจของแม่ฉันไม่ค่อยแข็งแรงจึงให้ท่านรู้เรื่องนี้ไม่ได้ รอจนแผลหายดีก่อนแล้วค่อยปล่อยเขากลับบ้าน คุณก็ไม่ต้องไปพักที่โรงแรมหรอกค่ะ พักที่บ้านฉันนี่แหละ วางใจได้ค่ะ บ้านของฉันไม่มีผู้อาวุโส คุณจะไม่รู้สึกอึดอัดแน่นอน…”

เหมยเหมยฟังเคย์โกะพูดมาตลอดทางเลยอดยิ้มออกมาไม่ได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนช่างพูดขนาดนี้ พูดตลอดทางไม่หยุดเลยจริง ๆ!

……………………………….