ตอนที่ 3432

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3432 : ซื้อถูฉชิงหนีไปแล้ว

 

ฟงชิงหยางลองแทนตัวเองเป็นตัวนหลิงเทียนดู ก็ไม่ยากที่จะบังเกิดความชื่นชมต้วนหลิงเทียนขึ้นมาจับใจ

 

เพราะตอนที่มันถูกไล่ล่าจนต้องหลบหนีเข้าสู่นรกอสุรานั้น มันคิดว่ากระทั่งมันที่ไม่เคยพบเจอ้วนหลิงเทียนสักครั้ง ยังโดนคนของระนาบเทพไล่ฆ่าขนาดนี้ เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนเล่าไม่เจอหนักกว่ามันหรือ?

 

ด้วยเหตุผลดังกล่าวมันจึงแทบไม่เหลือความหวังว่าต้วนหลิงเทียนจะรอดมาได้เลย และคิดว่าต้วนหลิงเทียนไม่พ้นต้องถูกฆ่าแล้วแน่

 

ตอนที่มัออกจากนรกอสุรา เหตุไฉนที่มันให้คนอื่นไปตามหาต้วนหลิงเทียนที่ระนาบเซียนแทนที่จะไปด้วยตัวเอง นั่นเพราะมันรู้สึกว่าตัวนหลิงเทียนสมควรเกิดเรื่องแน่แล้วจึงให้คนไปยืนยันเรื่องราวแทน

 

ต่อมาเมื่อคนที่ส่งไปรายงานมาว่าไม่พบเจอต้วนหลิงเทียนที่ระนาบเซียน มันก็ได้ ลงไปตรวจสอบเรื่องราวที่ระนาบเซียนด้วยตัวเองครั้งหนึ่ง และพบว่าไม่มีข่าววเรื่องการตายของด้วนหลิงเทียนเลย

 

ตอนนั้น ในใจของมันบังเกิดภาพลวงตาประการหนึ่ง

 

แน่นอนว่าเป็นแค่การจินตนาการในแง่บวก

 

ลึกลงไปในใจมันยังคงรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนไม่น่ารอดแล้ว เพราะสุดท้ายคนที่ตวนหลิงเทียนล่วงเกินก็เป็นถึงคนจากระนาบเทพ อาศัยต้วนหลิงเทียนที่ยังเป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะในระนาบโลกียะไม่ทันได้ขึ้นสวรรค์กายเป็นเซียนอมตะด้วยซ้ํา จะเอาปัญญาที่ไหนไปรอด..

 

ในสายตาของเซียนอมตะบนระนาบเทวโลก ต้วนหลิงเทียนในตอนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากมดตัวกระจ้อย นับประสาอะไรกับตัวตนจากระนาบเทพ

 

หังจากได้ยินเรื่องราวที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอในอดีต ฟงชิงหยางก็รู้สึกมีโมโหในใจไม่น้อยด้วยไม่คิดว่าตัวตนระดับเทพคนหนึ่งจะทําเรื่องสามานย์ถึงขนาดนี้

 

“ลั่วสุ่ยเทียน?”

 

ได้ยินคําพูดของฟงชิงหยาง ต้วนหลิงเทียนที่เดิมพอคิดถึงเรื่องเค่อเอ๋อจนอารมณ์เริ่มขุ่นมัวก็สงบลงทันที เพราะความสนใจเขาถูกเบนมาเรื่องใหม่หมดสิ้น

 

ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดถึงเรื่องในอดีต และในใจก็ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งแต่พอพูดขึ้นมาทีไรก็อดไม่ได้ที่จะถูกความแค้นเข้าครอบงํา

 

เพราะสุดท้าย เค่อเอ๋อภรรยารักเขาก็ยังคงอยู่ในดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ

 

“อืม”

 

ฟงชิงหยางพยักหน้ารับคํา แม้สีหน้าท่าที่จะยังแลดูสงบ แต่ตัวนหลิงเทียนก็เห็นได้ชัดถึงประกายเยียบเย็นในแววตา ยังเป็นแววตาอันแหลมคมปานมีดดาบ

 

“ท่านอาจารย์ เป็นข้าทําร้ายระนาบเซียน..ข้าไม่คิดเลยว่าจักรพรรดีสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนนั่นพอหาข้าที่ฆ่าลูกสาวนางไม่เจอ นางจะเอาความแค้นไปลงกับบ้านเกิดเราแบบนี้”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอโทษออกมาด้วยความรู้สึกผิด

 

เรื่องที่เกิดขึ้นกับระนาบเซียน เขาย่อมโทษตัวเอง เพราะสุดท้ายเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพราะน้ํามือเขาล้วนๆ หากเขาไม่ทําลายวิญญาณของลูกสาวของ ซื้อถูฉซิง จักรพรรดินีสวรรค์ถั่วสุ่ยเทียนเพื่อช่วยมู่อีอี ไหนเลยจะทําให้อีกฝ่ายแค้นถึงขั้นลงมือแบบนี้ได้?

 

“ข้ารู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมดแล้ว ข้าไม่เคยคิดโทษเจ้าในเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว”

 

ฟงชิงหยางหัวเราะกล่าว “หากข้าเป็นเจ้า ข้าก็จะทําเหมือนกัน…คนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้เราไหนเลยปล่อยให้ผู้อื่นมาคิดช่วงชิงร่างได้!!”

 

กล่าวถึงท้ายประโยค เจตนาฆ่าฟันก็เอ่อล้นออกมาจากแววตาฟงชิงหยาง ราวกับ จะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คนสดๆ

 

“จักรพรรดินีสวรรค์ถั่วสุ่ยเทียน ชื่อถูฉชิง ผู้นั้น เลือกที่จะฆ่าล้างสรรพชีวิตบนระนาบ เซียนเพื่อระบายอารมณ์เพราะนางถือว่าตัวเองยิ่งใหญ่และสิ่งมีชีวิตในระนาบเซียนเป็นแค่มดที่นางจะเหยียบอย่างไรก็ได้”

 

พอฟังชิงหยางกล่าวออกอีกครั้ง น้ําเสียงก็เย็นชานัก “น่าเสียดาย ที่ครั้งนี้นางเลือกลงมือผิดระนาบโลกียะแล้ว…”

 

“บ้านเกิดของข้า ใช่อะไรที่ซื้อถูลูชิคิดจะทําลายก็ทําได้งั้นหรือ?”

 

กล่าวจบคํา ฟงชิงหยางก็ใช้พลังหอบหิ้วพาต้วนหลิงเทียนใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายข้ามระนาบเทวโลกในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ขี้เมียเทียนไปทันที และในระหว่างเดินทางไปถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายต้วนหลิงเทียนก็ไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งยืนอยู่บนค่ายกลเคลื่อนย้ายแล้วทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก!

 

“นี่คือความเร็วของตัวตนขอบเขตเทพหรือ?

 

พอมาปรากฏตัวในลั่วสุ่ยเทียน ต้วนหลิงเทียนก็อดอึ้งไม่ได้

 

ถึงแม้เขาจะรู้แต่แรกแล้ว ว่าช่องว่างระหว่างจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศกับขอบเขตเทพนั้น กว้างใหญ่มาก แต่พอมาพบเจอความเร็วที่ฟงชิงหยางใช้เข้าจริงๆ เขาจึงได้ตระหนักว่าที่ทําคํา กว้างใหญ่ไพศาลมันเป็นเช่นไร อีกทั้งต้องทราบด้วยว่าอาจารย์เขาที่เห็น เป็นแค่ร่างอวตารกฏ แห่งดินเท่านั้น!

 

กฏแห่งดิน สามารถกล่าวได้ว่าเป็นกฏที่มีความลึกซึ้งหนุนเสริมความเร็วน้อยที่สุดในบรรดากฏทั้งมวล โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้กฏแห่งดินก็จะเชื่องช้าที่สุด

 

ทว่าต้วนหลิงเทียนมั่นใจ

 

ภายใต้ขอบเขตเทพ แม้แต่จักรพรรดิอมตะสมญานามที่โดดเด่นในแง่ความเร็วที่สุด ก็ยังด้อยกว่าความเร็วที่เขาเผยออกมาเมื่อครู่

 

“พระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ลั่วสุ่ยเทียนข้าไม่เคยไปมาก่อนเลย…เจ้าเคยไปหรือไม่?”

 

หลังมาถึงลั่วสุ่ยเทียนแล้ว ฟังชิงหยางก็ไม่ได้พาต้วนหลิงเทียนไปไหน เพราะไม่รู้ทาง

 

ต้วนหลิงเทียนที่เคยไปนิกายตั๋วสุ่ยเพื่อหามู่อีอีมาแล้วย่อมรู้ทางกระทั่งเขายังจําได้ดีว่ าวันนั้นเขาตื่นเต้นแค่ไหน ที่จะได้พบเจอม่อีอี เพราะสุดท้ายแล้วนางก็คือสหายอีกคนที่รอดชีวิตมาได้

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ช่วยม่อีอีกแล้ว แต่สถานการณ์ของนางกลับไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และมู่อีอีคนก่อนก็ไม่มีวันหวนกลับมาอีกต่อไป

 

“หากไม่ใช่เพราะข้า ศิษย์น้องอีอีไหนเลยจะพบชะตาแบบนั้น”

 

ไม่คิดก็แล้วไป แต่พอคิดถึงต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างสะทกสะท้อน

 

“เจ้าไม่จําเป็นต้องโทษตัวเอง ถึงแม้เรื่องนี้อาจมีจุดเริ่มต้นเพราะเจ้า แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือการกระทําของอวิ่นชิงเหยยียนจากระนาบเทพนั่นไม่ใช่คนจากระนาบเทพทุกคนที่จะชั่วช้าเช่นมัน”

 

ฟงชิงหยางกล่าวปลอบ

 

มันย่อมเข้าใจความรู้สึกของศิษย์เพิ่งหนึ่งเดียวของตัวเองดี

 

อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างคาดหวังจะได้พบกันมาก ทําให้ไม่ว่าจะต้วนหลิงเทียนหรือฟงชิงหยาง แม้จะพึ่งพบกันได้ไม่ทันไร แต่ก็เข้ากันได้ดีราวเป็นศิษย์อาจารย์กันมาหลายปี ไม่เหมือนคนีที่พึ่งเจอหน้ากันแม้แต่น้อย

 

เพราะครั้งที่แล้วต้วนหลิงเทียนมาหามู่อีอีถึงหน้าประตูใหญ่นิกายตั๋วสุ่ย เขาจึงรู้ทางไป

 

ภายใต้การนําของเขา ฟงชิงหางก็พาเขามาถึงด้านหน้าประตูใหญ่หน้านิกายตั๋วสุ่ยในเวลาอันสั้น

 

และคราวนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่นิกายตั๋วสุ่ยอีกต่อไป แต่ฟงชิงหยางพาเขาบุกเข้าไปในนิกายตั๋วสุ่ยโดยตรง พร้อมกันนั้นยังตะโกนผสานพลังออกมา “ซื้อถูกูชิงไสหัวออกมา!!”

 

เสียงตะโกนของฟงชิงหยางทําให้ต้วนหลิงเทียนอึ้งไปด้วยความรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้าง

 

เพราะการบุกเข้ามาหาคนอย่างอุกอาจแบบนี้ เขาเองก็เคยทํา

 

เดิมที่เขาคิดว่าจะอย่างไรให้อาจารย์ร้ายกาจแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมียเทียนและซื้อถูฉชิงก็เป็นจักรพรรดินีสวรรค์แห่งถั่วสุ่ยเทียน ก็ต้องมีให้เกียรติกันบ้าง

 

แต่ใครจะไปคิดฝัน พอมาถึงอาจารย์เขาก็ตะโกนสั่งให้ผู้อื่นไสหัวออกมา!

 

เป็นธรรมดาว่าเสียงตะโกนของฟงชิงหยาง ย่อมทําให้คนของนิกายตั๋วสุ่ยแตกตื่นกันไม่น้อย

 

“เมื่อครู่ ที่ตะโกนมันพูดว่าอะไรนะ!?”

 

“เจ้านั่นมันเป็นใครกันแน่ ไฉนถึงกล้าเรียกใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์ด้วยชื่อห้วนๆเช่นนั้น?”

 

“เสียงของมันสมควรดังมาจากบนฟ้าเหนือนิกายเรานี่พวกอาวุโสหน่วยลาดตระเวนมัน งานกันหรือไรไฉนปล่อยให้ผู้อื่นบุกเข้ามาได้ง่ายๆโดยที่พวกเราไม่รู้?”

 

“มันกล้าเรียกหาใต้เท้าจักรรพรดินีสวรรค์ด้วยชื่อห้วนๆ แถมสั่งให้ไสหัวออกไปอีก ไม่ว่าที่มาเป็นใครแต่ข้าว่ามันไม่ง่ายแน่!”

 

ในนิกายตั๋วสุ่ยก็มีอาวุโสหลายคนที่มีโมโหกับเสียงตะโกนของฟังชิงหยาง แต่หลายคนก็เลือกจะเก็บงําความโมโหเอาไว้ไม่ทําอะไรบ่มบ่าม เพราะรู้สึกว่าใครก็ตามที่หาญกล้ามาตะโกนด้วยวาจาเช่นนี้น่ากลัวจะไม่ใช่คนธรรมดา!

 

เกรงว่าหากผู้มาไม่ใช่คนเสียสติ ก็ต้องมีพลังฝีมือสูงเทียมฟ้า!

 

และอย่างแรกน่ากลัวว่าคงบุกเข้ามาถึงด้านในนิกายตั๋วสุ่ยของพวกมันได้

จะอย่างไรก็ตามถึงแม้พวกมันจะบังเกิดความยําเกรงต่อผู้ที่บุกเข้ามาตะโกนอุกอาจ แต่อาวุโสนิกายตั๋วสุ่ยหลายคนก็ได้แต่กัดฟันเห็นร่างขึ้นไปรับหน้า พริบตาก็มีผู้คนนับโหลมาปรากฏตัวเบื้องหน้าตัวนหลิงเทียนกับฟังชิงหยาง

 

ต้วนหลิงเทียนกับฟังชิงหยางก็ลอยร่างเคียงกันกลางหาว ชมมองผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้วยสายตาเฉยเมย

 

“ท่าน มิทราบมาหาใต้เท้าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกเราด้วยเรื่องราวอันใด?”

 

จักรพรรดิอมตะสมญานามชนชั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งของนิกายตั๋วสุ่ย มองถามตัวนหลิงเทียนกับฟงชิงหยางด้ววยสีหน้าแววตากังวล

 

และตอนนี้เอง ชายชราหนึ่งในผู้อาวุโสนับโหลที่เห็นร่างขึ้นมา ก็อดไม่ได้ที่จะชมมองฟงชิงหยางด้วยสายตาเบิกกว้าง อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจโดยไม่รู้ตัว “ท่าน..ท่านคือจักรพรรดิสวรรค์ฟังชิงหยาง!”

 

“เจ้ารู้จักข้า?”

 

ฟงชิงหยางหันไปมองชายชราด้วยความแปลกใจ ด้วยเพราะไม่คุ้นหน้าอีกฝ่ายเลย แถมวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มาเยือนนิกายตั๋วสุ่ยด้วย

 

ด้านคนอื่นพอได้ยินคําของอาวุโสชรา ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจไปตามๆกัน

 

เพราะฟังจากเสียงเอ่ยถามเมื่อครู่ ที่เป็นน้ําเสียยงเดียวกับคําตะโกนก่อนหน้า เห็ นชัดว่าเป็นคนๆเดียวกัน!

 

ฟงชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมียเทียน ไฉนถึงมาหาใต้เท้าจักรพรรดินี สวรรค์ของพวกมันได้?แถมยังวาจาที่ตะโกนก่อนหน้าอีก

 

เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาดีแน่!

 

จังหวะนี้พวกมันรู้สึกเสมือนหนังศีรษะชาหนีบ ทั่วร่างคล้ายมีไอเย็นแล่นวาบ

 

แม้จะเป็นตัวตนระดับจักรพรรดิสวรรค์ดุจเดียวกัน แต่พลังฝีมือของฟงชิงหยางเบื้องหน้าร้ายกาจกว่าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกมันหลายขุม! ที่สําคัญนั้นยังเป็นตอนที่ฟงชิงหยางไม่ได้เข้าสู่นรกอสุราด้วยซ้ํา ตอนนี้ผู้อื่นออกมาแล้วเกรงว่าจักรพรรดินีสวรรค์ของพวกมันคงห่างชั้นกับอีกฝ่ายจนไม่เห็นฝุ่น!!

 

“ผู้น้อย ขอคารวะใต้เท้าจักรพรรดิสวรรค์ฟงชิงหยาง”

 

ชายชราที่ตกใจกับตัวตนของฟงชิงหยาง พอคืนสติก็เร่งกล่าวตอบคําฟงชิงหยางด้วยท่าที่นอบน้อม “พอดีสหายของข้าน้อยเป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามคนหนึ่งในพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์ชวนหยวนเทียน…และตอนที่ข้าไปหาสหายที่นั่น ข้าน้อยมีวาสนาได้เห็นท่านครั้งหนึ่ง”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

ฟงชิงหยางตระหนักได้ทันที ในอดีตมันเคยไปเยือนพระราชวังจักรพรดริสวรรค์ชวนหยวนเทียนบ่อยครั้ง เพราะมันเป็นสหายกับกงซุนซวนหยวนจักรพรรดิสวรรค์แห่งชวนหยวนเทียนและนี่เป็นเรื่องก่อนที่มันจะถูกคนไล่ฆ่า

 

อย่างไรก็ตามหลังกลับออกมาจากนรกอสุรา มันก็ยังไม่ได้ไปเยือนพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์แห่งชวนหยวนเทียนอีกเลย

 

อย่างไรก็ มันไม่ได้ไป ก็ไม่ใช่ว่าผู้อื่นจะไม่มา จักรพรรดิสวรรค์แห่งชวนหยวนเทียน ก งซุนซวนหยวนนั้นได้มาหามันเพื่อแสดงความยินดีที่รอดกลับมาได้เรียกว่าทันทีที่รู้ข่า วว่าตัวมันกลับมาแล้วอีกฝ่ายก็เร่งรุดมาหาโดยไม่ต้องเชิญ

 

เป็นธรรมดาว่าที่กงซุนชวนหยวนมาหาฟงชิงหยาง นอกจากจะมาแสดงความยินดีที่รอดกับมาได้แล้วอีกฝ่ายยังมาเพื่อประลองกระชับมิตรอีกด้วย

 

อนิจจาการประลองกระชับมิตรวันนั้นทําให้จักรพรรดิสวรรค์แห่งซวนหยวน เทียนจขําต้องร่ําร้องโอดครวญด้วยความสิ้นหวัง ด้วยไม่คิดเลยวว่าสหายอย่างฟงชิงหยางจะพบวาสนาในคราวเคราะห์หลังจากเข้าสู่นรกอสุรา…

 

ในอดีตถึงแม้ฟงชิงหยางจะเชี่ยวชาญกฏแห่งดิน แต่หากประมือกับมันก็จําต้องใช้กฏทําลายล้างอย่างเดียวเพราะถ้าใช้กฏแห่งดินก็คงสู้มันไม่ได้เลย

 

ทว่าพบกันอีกครั้ง อีกฝ่ายอาศัยแค่ร่างอวตารกฏแห่งดินกลับไล่บี้มันจนไร้หนทางต่อต้าน!

 

“จักรพรรดิสวรรค์ชวนหยวนเทียน?”

 

ได้ยินคําพูดของชายชรา ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงเร็วไว เพราะหากเขาจําไม่ผิด ผู้เฒ่าหัวเคยบอกเขาไว้ว่าจักรพรรดิสวรรค์แห่งชวนหยวนเทียน ก็คือกงซุนซวนหยวนที่มาจากดาวเหยียนหวง บ้านเกิดเขา!

 

อีกฝ่ายก็เป็นคนของงอ หวงเทียน ทั้งยังเติบโตก้าวหน้าเร็วมาก สุดท้ายก็สามารถเอาชนะจักรพรรดิสวรรค์ของอี้หวงเทียนและแทนที่อีกฝ่าย กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์คนใหม่และเปลี่ยนชื่อระนาบเทวโลกเป็นชวนหยวนเทียน!