ตอนที่ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ไร้เหตุผล!

หยุนหนีนางนี้มีนิสัยหัวรั้นไม่ยอมคน และไม่คิดสนใจความคิดของคนอื่นแม้แต่น้อย

ซานหยางนั้นรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

เขานั้นหัวเราะขึ้นมาพร้อมส่งคลื่นวิญญาณทะลวงฟ้าออกไป

หยุนหนีนั้นยังคงมองดูเย่หยวนอย่างไม่วางตาไม่คิดสนใจว่าซานหยางนั้นคิดจะทำอะไร

ไม่นานจากนั้นห้วงมิติมันก็แหวกออกเผยให้เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

นี่คือผู้นำของแดนวิญญาณกลาง เจ้าโลกยู่เทียน!

“ขอคารวะท่านยู่เทียน!”

ซานหยางและมหาจักรพรรดิล้ำทั้งสี่นั้นก้มหัวลงคารวะเจ้าโลกยู่เทียน แต่หยุนหนีนั้นกลับไม่คิดสนใจใดๆ

เรื่องนี้ย่อมจะทำให้เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเกิดไม่พอใจขึ้นมาในใจและกล่าว “ในเมื่อหวางเฉียนได้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษท่านมาแล้วเราจะยังรออะไรกันอีก? แค่เด็กมันสร้างเรื่อง…พวกเจ้าก็จะยอมเสียเวลาไปกับมันด้วย?”

เขานั้นหันไปมองเย่หยวนพร้อมความเย้ยหยันดูถูกอย่างถึงที่สุด

มหาจักรพรรดิคิดเข้าใจคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเคยลองและก็ไม่อาจทำได้สำเร็จในที่สุด

เพราะมันยากจนเกินไป!

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่บู๋เมี่ยคนเดียวที่ทำได้

แน่นอนว่าสิ่งที่ยู่เทียนพยายามทำความเข้าใจนั้นมันย่อมจะมิใช่คลื่นกำเนิดหมอกหุ้มแต่เป็นสิ่งที่ง่ายดายกว่าหลายเท่าตัว

ทว่าตัวเขาในตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่ามันยากล้ำสวรรค์ไป

แท้จริงแล้วมันมิใช่แค่เขาเท่านั้นที่คิดทำเช่นนั้นตอนบรรลุมหาจักรพรรดิ

เพราะคนส่วนมากที่คิดลองก็ต่างล้มเหลวลงทั้งสิ้น

ตอนนี้กลับบอกว่าไอ้เด็กน้อยคนนี้จะสำเร็จคลื่นกำเนิดได้?

ตลกแล้ว!

พูดไปนั้นเจ้าโลกยู่เทียนก็ปล่อยคลื่นวิญญาณออกมาหมายสังหารเย่หยวน

“หากเจ้ากล้าลงมือจริงๆ ข้าจะบรรลุเจ้าโลกและสู้กับเจ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปตรงนี้!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาเบาๆ ราวกับแค่พูดเล่น

แต่คำพูดเดียวนี้มันหยุดคลื่นวิญญาณของเจ้าโลกยู่เทียนไว้ทันที

“หากพวกเจ้ารีบกันนักก็พาหวางเฉียนมันไปก่อนข้าเลย หากเย่หยวนมันไม่สำเร็จคลื่นกำเนิดจริงๆ ข้าก็ย่อมจะสังหารมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาช่วยเรื่องของข้า แน่นอนว่าหากเจ้าคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหา ข้าก็พร้อมจะสู้กับพวกเจ้าทุกคน!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหวานๆ

แต่คำพูดของนางนั้นมันกลับเย่อหยิ่งจนไม่รับฟังคำค้านใครๆ

เจ้าโลกนั้นคือจุดสูงสุดของชีวิตที่ทุกคนหมายเหยียบเข้าไป

แต่ในสายตาของหยุนหนีนั้นมันเหมือนเป็นแค่หน้าผาสูงไม่กี่เมตรเท่านั้น

หากคิดอยากจะปีนมันก็ปีนได้!

เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเป็นเจ้าโลกสุดแกร่งของแดนวิญญาณกลาง

แต่ตอนนี้เขาเริ่มลังเลขึ้นมา

เพราะแม้แต่ซานหยางและพวกทั้งหลายนั้นก็ไม่รู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของหยุนหนี

แต่เขานั้นรู้!

หากหยุนหนีคิดเสี่ยงชีวิตแล้วแดนวิญญาณอมตะนี้มันคงตกอยู่ในสภาพโกลาหลแน่นอน

คำขู่!

ขู่กันซึ่งๆ หน้า!

‘เจ้าโลกอย่างข้านั้นจะต้องถูกมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อย่างเจ้าขู่?’

“ในเมื่อหลานศิษย์หยุนหนีมั่นใจขนาดนั้น เราก็แค่เฝ้าดูมันเถอะ!” เจ้าโลกยู่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง!

เรื่องบ้าอะไรกัน?

ท่านเป็นเจ้าโลกนะ จะไม่อายหน่อยหรือ?

ตูม!

ขณะที่คนทั้งหลายกำลังสนใจเรื่องทางนี้อยู่ประตูแห่งชีวานิรันดร์มันก็ระเบิดพลังรุนแรงออกมา

พลังของมันนั้นอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักแต่มันก็ทำให้เจ้าโลกต้องผงะไปได้

เย่หยวนที่กำลังบรรลุอยู่นั้นเบิกตากว้างขึ้นมา

ความลับที่อยู่หลังบานประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันเหมือนราวกับว่าเขาได้มองเห็นความลับของโลก

“นี่หรือคือประตูแห่งชีวานิรันดร์? ดูแล้วความลับใดๆ ของข้ามันช่างน่าขันไปทีเดียว! ประตูนี้มันเชื่อมต่อไปถึงที่ใดกันนะ?” เย่หยวนสงสัยขึ้นในใจ

ตอนที่เขาอยู่ในเจดีย์เจ็ดสีนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว

การบรรลุมหาจักรพรรดินั้นเป็นแค่การที่ตัวเขาใช้อะไรบางอย่างออกมา

การบ่มเพาะของเขาที่ผ่านๆ มามันก็มากพอที่จะส่งเขาขึ้นมหาจักรพรรดิได้ไม่ยากเย็นแล้ว

แต่สมบัติสืบทอดที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยทิ้งไว้นั้นมันกลับเปิดประตูบานใหม่ให้แก่เขา

ตอนนี้คลื่นกำเนิดสายหนึ่งมันค่อยๆ หมุนวนรอบตัวเย่หยวน

มันเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องลำบากลงแรงใดๆ

แต่ในสายตาของคนที่มองอยู่ด้านล่างนั้นพวกเขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา!

“คลื่นกำเนิด! นั่นมัน…คลื่นกำเนิดจริงๆ! มหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! เขานั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่คิดสนใจผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย ที่แท้เขามองเห็นมันมาตั้งแต่แรกแล้ว! และการที่มีคลื่นกำเนิดของตัวเองเช่นนี้ ยังต้องไปเอาของคนอื่นมาทำไมอีก?”

“ก็จริง! นอกจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแล้วมันจะมีใครทำความเข้าใจเจดีย์เจ็ดสีได้อีก?”

หลังจากการปรากฏขึ้นของคลื่นกำเนิดนั้นเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง

ตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกยู่เทียนเองก็ยังแทบลืมหายใจ!

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน? เขานั้นกลับมีร่างวิญญาณอมตะของจริง!” ยู่เทียนนั้นร้องขึ้นมาด้วยเสียงสั่นๆ

หวางเฉียนนั้นร้อนไปทั้งหน้าเหมือนถูกตบเข้าอีกครั้ง

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันน่าตกตะลึงกว่าครั้งใดๆ

แม้แต่ตอนที่เย่หยวนเล่นงานเขาจนปางตายนั้นเขาก็ไม่คิดว่าเย่หยวนจะมีร่างวิญญาณอมตะของจริง

แต่ตอนนี้จะไม่เชื่อมันก็คงไม่ได้แล้ว

หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์!

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มันมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่ทำได้

ตอนนี้มันกลับมีเย่หยวนขึ้นมาอีกคน!

ศิษย์พี่มู่ หมิงเจียน ซานหยางพวกเขาที่เคยพูดกล่าวใดๆ กลับต้องหุบปากลงด้วยความอับอาย

เย่หยวนนั้นสำเร็จคลื่นกำเนิดได้มันย่อมจะไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีก!

หยุนหนีนั้นเองก็ต้องผงะไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

แม้ว่านางนั้นจะมั่นใจในตัวเย่หยวนมาก

แต่นางก็ไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของเย่หยวน แถมยังได้แต่ปล่อยให้เขาเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป

ต่อให้เย่หยวนจะบอกว่าตัวเองสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้นางก็เชื่อคำพูดนั้นแค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าหนึ่งในหมื่นนั้นมันกลับเกิดขึ้นจริง?!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์กำลังค่อยๆ จางหายไป

คลื่นวิญญาณของเย่หยวนนั้นผงาดขึ้นจนถึงระดับของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ไป!

เขานั้นหันไปมองหน้าหยุนหนีและกล่าวขึ้น “ตอนนี้ถือว่าข้าพิสูจน์ตัวเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะแล้วใช่หรือไม่?”

หยุนหนีนั้นเงียบลงไป

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นเผ่าวิญญาณมีร่างวิญญาณอมตะแค่สองคนเท่านั้น

นางเชื่อว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันได้แน่นอนระหว่างร่างวิญญาณอมตะทั้งสอง

แต่ตอนนี้นางเริ่มกลัวอะไรบางอย่าง…

กลัวว่าเย่หยวนนั้นจะหลุดรอดจากการควบคุมของนางไป

คนผู้นี้อันตราย!

ให้เขาไปหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยมันจะเป็นทางเลือกที่ดีจริงๆ?

เจ้าเด็กคนนี้มันมีเป้าหมายอะไรกันแน่?

คนทั้งหลายต่างหันมามองหน้าหยุนหนีเป็นตาเดียว

ตอนนี้แม้แต่ยู่เทียน เจ้าโลกคนนี้เองก็ยังถูกเมิน

ดูท่าแล้วคนที่ตัดสินความเป็นความตายของเย่หยวนได้ในที่นี้มันมิใช่ยู่เทียนแต่เป็นหยุนหนี!

“เรื่องนี้จะรอช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไปกันเถอะ!” หลังจากหยุดคิดไปนานหยุนหนีก็กล่าวขึ้นมา

ซานหยาง หญิงชราและหมิงเจียนทั้งสามคนนั้นต่างหุบปากลงทันที

พวกเขานั้นตามหลังหยุนหนีออกไป เดินทางออกจากแดนวิญญาณกลาง

พร้อมกับไม่มีอะไรจะพูด!

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาใช้เรื่องที่เย่หยวนไม่มีคลื่นกำเนิดเล่นงานได้

แต่ตอนนี้จะพูดอะไรได้อีก?

นี่มันคือร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริง ตัวตนระดับเดียวกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

คนที่สองในประวัติศาสตร์!

เย่หยวนจะมีส่วนอย่างมากในการช่วยหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยในครั้งนี้

เย่หยวนเองก็ไม่พูดอะไรมากความและตามหลังยอดฝีมือทั้งหลายเดินทางออกไป

ระหว่างทางนั้นมันก็มียอดฝีมือจากทั่วทิศเดินทางมาร่วม

แต่ละคนที่มาถึงนั้นต่างหันมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

พวกเขานั้นเดินทางออกจากแดนวิญญาณอมตะและไปถึงทะเลแห่งหนึ่งในที่สุด

บนทะเลนั้นมันมีประตูหินบานใหญ่ตั้งอยู่

“นี่คือประตูนรก! สถานที่สุดท้ายที่ท่านบู๋เมี่ยมุ่งหน้าไป! เดิมทีแล้วเราได้ส่งคนไม่น้อยเข้าไปค้นหาหลังประตูนรกแต่ว่ากลับไม่มีใครรอดออกมาได้เลย พวกเจ้าทั้งสองลองสัมผัสดูว่าสามารถรับรู้ถึงคลื่นพลังของท่านบรรพบุรุษได้หรือไม่” หยุนหนีสั่ง

……………………….