ตอนที่ 1876: คลัง

หลังจากเจี้ยนเฉินจับขั้นเทพทั้งหมดของครอบครัวโม่ลงในมิติของวัตถุเซียนแล้ว เขาก็ประกาศถึงความผิดต่าง ๆ ที่ครอบครัวโม่ทำมาหลายปี

ตอนนี้ครอบครัวโม่มีเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตดั้งเดิมและคนรับใช้ไม่กี่คนรวมถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้หนีไป พวกเขาเหล่านี้เชื่อว่าความตายคือการปลดปล่อยและพวกเขาต้องการที่จะตายไปพร้อมตระกูลของพวกเขา

เจี้ยนเฉินไม่สนใจคนเหล่านั้น เขาลอยอยู่บนฟ้าขณะที่เขาขยายสัมผัสวิญญาณของเขา เขาค้นหาทุกตารางนิ้วของครอบครัวโม่ ความรู้สึกของเขาขยายลึกลงไปในดินในขณะที่เขากำลังค้นหาใครก็ตามที่เขาอาจพลาดไป

อันที่จริงเขาพบขั้นเทพ 2 คนลึกลงไปที่ใต้ดินหลังจากที่เขาเริ่มค้นหาอย่างละเอียด พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในห้องลับ

ตูม !

เจี้ยนเฉินพุ่งออกไปอีกครั้ง กระบี่สายรุ้งส่องแสงไปรอบ ๆ มันทำลายพื้นดินตรง ๆ เขาใช้วิธีการที่โหดร้ายที่สุดเพื่อที่จะทำการขุดและกำจัดพื้นดิน เขาใช้พละกำลังขั้นเหนือเทพช่วงปลายเต็มที่เพื่อที่จะขุดหลุมลงไป

สองขั้นเทพที่ซ่อนอยู่ในพื้นดูเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เขาหยิบป้ายอาคมเคลื่อนย้ายออกมาทันทีโดยไม่มีการลังเล พวกเขาต้องการหลบหนีในตอนนี้

อย่างไรก็ตามกระบี่ได้แทงทะลุเพดานด้วยความเร็วของแสง มันปรากฏด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อและตัดแขนของเขาเพื่อไม่ให้หลบหนี

หลังจากนั้นเพดานห้องก็ทรุดตัวลง ดินจำนวนมากตกลงมา อุโมงค์ยาวกว่าหนึ่งพันเมตรก็ได้รับแสงอาทิตย์ด้านนอกที่ส่องเข้ามาในห้องลับ

“ไม่มีขั้นเทพในครอบครัวโม่ที่จะหลบหนีไปได้” เจี้ยนเฉินปรากฏตัวอยู่ในห้องลับ เขาได้ทำให้ทั้งสองบาดเจ็บสาหัสและปิดผนึกการบ่มเพาะก่อนที่จะโยนพวกเขาทั้งสองเข้าไปในวัตถุเซียน

เจี้ยนเฉินกำลังออกจากห้องลับหลังจากที่จับทั้งสองคน อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาก็หรี่ลงในตอนนี้ เขาจ้องมองเข้าไปในส่วนลึกของห้องลับ

ห้องใต้ดินนั้นใหญ่มาก มีแท่นหยกสองสามอันที่มีขนาดเท่ากับเบาะรองนั่ง จากร่องรอย เขาสามารถบอกได้ว่าพวกมันถูกใช้เพื่อการบ่มเพาะ

อย่างไรก็ตามหลังแท่นหยกเขาพบประตูขนาดใหญ่ ค่ายกลที่ทรงพลังในขั้นเหนือเทพได้ปกป้องมันเอาไว้

มีแสงวาบผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉิน เขาเดินไปยังทางเข้า หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พังค่ายกล

เกิดเสียงดังในห้องใต้ดินทันที เมืองทั้งเมืองด้านบนสั่นอย่างรุนแรงราวกับว่ามีแผ่นดินไหว รอยแตกหนาปรากฏขึ้นบนพื้นทำให้ทุกคนในเมืองตกใจ

ไม่นานหลังจากที่เจี้ยนเฉินก็ทำลายค่ายกลและเข้าทางประตู

ในเวลานี้พลังงานดั้งเดิมก็เกิดความผันผวนกระจายออกมา สิ่งแรกที่เจี้ยนเฉินเห็นคือเหรียญผลึกกองเท่าภูเขา 2 กอง พวกมันส่องแสงออกมาจนแสบตา

กองหนึ่งเป็นเหรียญผลึกระดับต่ำ ขณะที่อีกกองเป็นเหรียญผลึกระดับกลาง มันมีอยู่มากมาย

นอกจากกองเหรียญผลึกทั้งสองกองแล้ว รอบ ๆ ยังมีสมบัติต่าง ๆ ไม่เพียงมีวิธีการบ่มเพาะและทักษะระดับสัจจะเท่านั้น มันยังมีกระทั่งสมบัติสวรรค์และยาบางส่วน

“นี่น่าจะเป็นสมบัติของครอบครัวโม่” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง หลายองค์กรต่างก็มีสมบัติ ท้ายที่สุดมันก็เป็นไปไม่ได้ที่คน ๆ เดียวกับครอบครองความมั่งคั่งทั้งหมดของตระกูล

เนื่องจากคลังมีความสำคัญต่อการสนับสนุนกิจกรรมประจำวันของตระกูล มันจะต้องเข้ามาบ่อย ๆ

บรรพชนของตระกูลจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบ่มเพาะอย่างสันโดษ เพียง 10 ปีก็ผ่านไปพริบตา พวกเขาไม่มีอารมณ์มาจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้

ผลก็คือ ทุกสิ่งที่จำเป็นในการบำรุงรักษาตระกูลก็จะถูกเก็บไว้ในคลัง ค่ายกลที่ทรงพลังและพลังของตระกูลทั้งหมดจะปกป้องมัน

“อาจมีเหรียญผลึกระดับต่ำกว่าร้อยล้านและเหรียญผลึกระดับกลางสองสามล้าน” เจี้ยนเฉินเดินไปรอบ ๆ ทั้งสองกองก่อนที่จะเก็บไว้ในแหวนมิติ

แม้ว่าที่นี่จะมีเหรียญผลึกมากมาย แต่พวกมันก็อยู่ในระดับต่ำหรือระดับกลาง หากพวกมันถูกแปลงเป็นเหรียญผลึกระดับสูงมันอาจจะได้เพียง 4-5 ก้อน

เมื่อเจี้ยนเฉินโผล่ออกมาจากคลัง มันก็ว่างเปล่าเกลี้ยงเกลา เขาเก็บเอาทุกอย่างโดยไม่สนใจว่ามันจะมีประโยชน์กับเขาหรือไม่

เจี้ยนเฉินกลับไปมาบนพื้นอีกครั้ง เขาพบว่าผู้คนล้อมรอบครอบครัวโม่ มีขั้นเทพมากกว่า 20 คนยืนอยู่นิ่ง ๆ อยู่ฝั่งเดียวกันขณะที่ซ่อนตัวตนของเขา ทุกคนจ้องมองไปที่อุโมงค์ที่โผล่ออกมาจากพื้นดิน

“คารวะผู้อาวุโส พวกเรา…”

เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินโผล่ออกมา ขั้นเทพต่างก็พากันโค้งคำนับเขา พวกเขาบอกตระกูลของพวกเขาอย่างสุภาพ

คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นบรรพชนที่ทรงพลังของตระกูลในแคว้นนทีคราม เมื่อเห็นว่าครอบครัวโม่สูญเสียงพลังที่แข็งแกร่งของพวกเขาไปแล้ว พวกเขาก็ระดมคนของพวกเขาทันที พวกเขาตามล่ากองกำลังที่เหลือของครอบครัวโม่และไม่ยอมให้ใครหนีรอดไปได้

มีขั้นเทพไม่กี่คนที่มาจากต่างแดนอยู่ด้วย พวกเขาไม่ได้รับความเดือดร้อนใด ๆ จากครอบครัวโม่ พวกเขาไม่ชอบวิธีที่ครอบครัวโม่กระทำสิ่งต่าง ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงรวมกลุ่มออกล่าด้วย

“ข้าจะปล่อยให้คนในครอบครัวโม่ที่เหลือให้พวกเจ้าจัดการ แต่อย่าฆ่าคนบริสุทธิ์”เจี้ยนเฉินพูดกับเหล่าขั้นเทพ

“ขอรับ ผู้อาวุโส ! ”

ขั้นเทพทั้งหมดตอบกลับมาอย่างสุภาพ

เจี้ยนเฉินออกจากแคว้นนทีคราม เขากลับไปยังตระกูลเทียนหยวนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เขาทิ้งเอาไว้ จากนั้นเขาก็เรียกสมาชิกระดับสูงทุกคนในตระกูล

“ข้าได้เตรียมเส้นทางสำหรับการล่าถอยไว้แล้ว ดังนั้นหากลัทธิปีศาจชั้นฟ้ามาถึงและเราไม่อาจขับไล่พวกเขาออกไปได้ ให้รีบหนีไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยเร็ว อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัย เมื่อเจ้าทุกคนเคลื่อนย้ายออกไป ข้าจะให้คนที่ข้าไว้วางใจป้องกันค่ายกลเคลื่อนย้าย หากเราไม่ต้องการหนีก็ไม่ต้องเข้าใกล้ค่ายกลเคลื่อนย้าย”เจี้ยนเฉินกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมจากที่นั่งของประมุข แน่นอนว่าเขาแค่พูดกับขั้นเทพที่มาจากโลกเซียน

หลายคนแอบโล่งใจภายในห้องสนทนา เมื่อพวกเขาได้ยินว่าตอนนี้พวกเขามีทางหลบหนี

หลังจากที่ทุกคนแยกย้าย เจี้ยนเฉินได้เรียกผู้คนมาจากโลกเบื้องล่าง เขานำทุกอย่างที่ได้รับมาจากครอบครัวโม่และให้พวกเขาแบ่งสันปันส่วนกันตามใจชอบ

ตามปกติแล้วผู้คนมาจากโลกเซียนที่ถูกทิ้งก็ไม่พลาดด้วยเช่นกัน พวกเขายังเลือกสมบัติด้วยตนเอง

“เจี้ยนเฉิน เจ้าได้รับมามากมายแค่ไหน ? เจ้าพบสุสานอื่นหรือ ? “ซ่างกวนมู่เอ๋อกระพริบตา ของทั้งหลายทำให้นางพูดไม่ออก

“มีเพียงขอบเขตดั้งเดิมและขั้นศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่จะสามารถใช้สิ่งเหล่านี้ได้ ไม่มีอะไรมากพอที่จะให้ขั้นเทพใช้ได้ สำหรับวิถีการบ่มเพาะของพวกมัน ทั้งหมดค่อนไปทางปีศาจ ดังนั้นข้าคิดว่าเจี้ยนเฉินอาจได้สมบัติของตระกูลที่บ่มเพาะทักษะปีศาจ” ฮุสตันยิ้มเมื่อเขานั่งอยู่บนพื้น ตอนนี้เขาได้สวมชุดสีแดงเลือด ผมสีแดงของเขาที่ยาววปะไหล่และทำตัวสบาย ๆ ขณะที่เขาจ้องไปที่สิ่งของต่าง ๆ

“ลุงเซียวพูดถูก ข้ากำจัดขั้นเหนือเทพของตระกูลที่บ่มเพาะทักษะปีศาจและเอาสมบัติมาจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินยิ้มก่อนที่จะนำสิ่งที่เขาได้รับมาจากบรรพชนครอบครัวโม่ออกมา เขากล่าวกว่า “สิ่งเหล่านี้ได้มาจากตัวของขั้นเหนือเทพเอง ดูว่ามีอะไรที่ท่านต้องการ เมื่อท่านเลือกแล้วก็แบ่งให้กับคนที่เหลือ”

“ข้าไม่ต้องการอะไรแล้ว เพียงแค่ให้เหรียญผลึกระดับกลางก็พอ ข้าเพิ่งจะทะลวงผ่านได้” ซ่างกวนมู่เอ๋อกล่าว ดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางเปล่งประกายสดใส ขณะที่เสียงของนางก็ราวกับเสียงสวรรค์

“เจ้าควรจะใช้เหรียญผลึกระดับสูงแทน พลังงานดั้งเดิมในเหรียญผลึกระดับสูงนั้นบริสุทธิ์กว่า มันดีกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับเหรียญผลึกระดับกลาง ข้าเพิ่งจะได้รับมันมาเป็นจำนวนมาก” เจี้ยนเฉินมองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋ออย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นเขาก็มอบเหรียญผลึกระดับสูงทั้งหมดให้กับซ่างกวนมู่เอ๋อ

เหรียญผลึกระดับสูงเหล่านี้มาจากเหนือเทพ 3 คนของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าและบรรพชนครอบครัวโม่ แม้ว่าเฉินเจี้ยนจะเอาเหรียญผลึกระดับสูงของเหนือเทพทั้งสามคนไปครึ่งนึง แต่ก็ยังมีมากมายหากรวมกับของบรรพชนครอบครัวโม่ด้วย

“ก่อนหน้านี้ที่ข้าจะทะลวงไปยังขั้นเหนือเทพ ข้าต้องเดินทางไกลด้วยก้อนผลึกระดับสูงเพียง 3 ก้อนและต้องเอามาย่อยเป็นเหรียญผลึกระดับกลาง มองดูเจ้าตอนนี้ เจ้ากำลังมอบเหรียญผลึกระดับสูงให้กับฮูหยินของเจ้าง่าย ๆ เพื่อการบ่มเพาะ” เสียงหนัก ๆ ดังขึ้น เฉินเจี้ยนเดินมาด้วยเสื้อผ้าที่เรียบง่าย เขาพูดยิ้ม ๆ

“เจี้ยนเฉิน ข้าคิดว่าเจ้าเคยบอกว่าการบ่มเพาะด้วยเหรียญผลึกระดับสูงขณะที่ยังเป็นขั้นเทพนั้นสิ้นเปลืองเกินไป ข้าคิดว่าเจ้าเคยพูดอะไรแบบนั้นมาก่อนนะ” เฉินเจี้ยนนั่งข้าง ๆ เจี้ยนเฉินและพูดติดตลกใส่เขา