กู้เย้นเจิ้งตัวสั่นสะท้าน หลุดปากถามหัวหน้าแผนกบุรุษเวชศาสตร์ว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? สืบรู้สาเหตุแล้วหรือยัง?”
หัวหน้าแผนกบุรุษเวชศาสตร์ปาดเหงื่ออันเย็นเฉียบที่หน้าผากแล้วพูดว่า “ท่านรอง เรื่องนี้แปลกประหลาดมาก เราใช้วิธีตรวจสอบทั้งหมดแล้ว แต่ไม่มีเบาะแสเลย ผมทำงานที่แผนกบุรุษเวชศาสตร์มาหลายสิบปีแล้ว ไม่เคยเจออาการป่วยแบบนี้มาก่อน…”
กู้เย้นเจิ้งมองไปที่เด็กสองคนที่กำลังหน้าม่อยคอตก เขาขมวดคิ้วถามว่า “อย่าบอกนะว่าไม่มีวิธีรักษาให้หายน่ะ?”
หัวหน้าแผนกบุรุษเวชศาสตร์พูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านรอง จะรักษาหายหรือไม่เป็นปัญหาขั้นที่สอง ปัญหาขั้นแรกคือต้องเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้พวกเราทุกคนสับสนและไม่มีเบาะแส…”
กู้เย้นเจิ้งรู้สึกเวียนหัว ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ?”
“เด็กสองคนนี้อายุยี่สิบกว่าทั้งคู่ คนที่อายุน้อยที่สุดคือกู้เหว่ยกวง ที่เพิ่งอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น ไม่เข้าใจเลยจริงๆ?!”
“คนรุ่นนี้ของตระกูลกู้ มีแค่เด็กหนุ่มสองคนนี้เองเหรอ!”
“ถ้าพวกเขาทั้งคนใช้การไม่ได้ แล้วใครจะเป็นผู้สืบทอดตระกูลกู้รุ่นต่อไปล่ะ?”
“จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีหลานชายสักคน!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้เย้นเจิ้งก็หันขวับไปหากู้เหว่ยเลี่ยงผู้เป็นลูกชาย แล้วโพล่งถามออกมา “เหว่ยเลี่ยง บอกพ่อที ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แกมีความรู้สึกอะไรบ้างไหม?”
กู้เหว่ยเลี่ยงถูกดึงตัวไปตรวจหลายครั้ง แต่หมอก็ตรวจไม่เจอว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ พลางร้องไห้บอกว่า “พ่อครับ! ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! อยู่ดีๆ ก็ใช้การไม่ได้ ที่สำคัญคือไม่รู้สึกอะไรเลย ผมเอานิ้วบีบก็ยังไม่รู้สึกอะไรแม้แต่นิดเดียว รู้สึกเจ็บก็ยังดี…”
กู้เหว่ยกวงก็สะอื้นไห้พูดว่า “เมื่อกี้ผมก็แอบบีบมันด้วย แรงไม่ใช่น้อยๆ แต่ก็ยังไม่รู้สึกอะไรสักนิดเลย…”
กู้เย้นกางแทบยืนไม่อยู่ รีบปลอบโยน “อย่ากังวลไปเลยลูก ใจเย็นๆ ก่อน อย่าลนลาน ค่อยๆ คิดหาทางออก”
ในเวลานี้กู้เหว่ยเลี่ยงก็พูดขึ้นว่า “พ่อครับ พ่อคิดว่ามันเกี่ยวกับการที่เราพบเจ้าเด็กนั่นที่บ้านลุงใหญ่ในวันนี้หรือเปล่า? วันนี้เจ้าเด็กนั่นได้บอกไว้ว่า จะให้ผมมีลูกไม่ได้ ตอนนั้นผมยังนึกว่าเจ้าเด็กนี่แค่ขู่ไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เรื่องนี้จะเหลือเชื่อจนเกินไปแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเล่นของ?”
“ใช่แล้ว!” กู้เหว่ยกวงก็พูดด้วยความไม่พอใจ “เจ้าเด็กนั่นยังคุยโวอีกว่าเก่งเรื่องการทำหมันทิพย์ สามารถทำหมันให้พวกเราสองคนได้…”
“ทำหมันทิพย์?!” นายแพทย์ด้านบุรุษเวชศาสตร์ตกตะลึง
เรียนแพทย์มาตั้งหลายปี ใครเคยได้ยินเรื่องทำหมันทิพย์บ้าง?
เหมือนกับเรื่องตั้งครรภ์ทิพย์ มันเป็นไปไม่ได้เลย!
จู่ๆ กู้เย้นเจิ้งก็นึกถึงสิ่งที่เย่เฉินพูดในตอนนั้น สีหน้าท่าทางเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้ เขามองไปที่กู้เย้นกางที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดด้วยความสงสัย “น้องสาม นายจำได้ไหมว่า เจ้าเด็กนั่นดูเหมือนยังถามเราสองคนอีกว่า เราสองคนยังไม่แก่เกินไป ควรจะมีความสามารถในการมีบุตรได้…”
“จำได้ จำได้!” กู้เย้นกางพยักหน้าหงึกๆ “เจ้าเด็กนั่นพูดจนเสียดสีเกินไปมาก ตอนนั้นฉันก็นึกสาปแช่งเขาในใจ!”
กู้เย้นกางเดาะลิ้น พลางพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่า เรื่องนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล…”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็ขมวดคิ้วและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เอื้อมมือออกไปจับเป้ากางเกงของตัวเองอย่างแรง…
หลังจากคว้ามัน สีหน้าของเขาก็ตกตะลึง พลันร้องลั่นด้วยความตื่นตระหนก “เร็วเข้า! หมอ ผมก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกัน รีบตรวจให้ผมด้วย!!!”