ตอนที่ 1799 ร่วมดื่มกับจักรพรรดิ

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อวี่ชิงหยาง

หนึ่งในจักรพรรดิที่เจิดจรัสที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ครองอำนาจบนโลกมาแปดพันปี ถูกคนทั่วไปยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิดาบชิงหยาง

ทั่วเขตแดนดาราจื่อเหิงก็เรียกได้ว่าเป็นบุคคลในตำนานระดับยอดจักรพรรดิ!

คนในตระกูลอวี่อย่างพวกอวี่เสวี่ยหลิน ไหนเลยจะไม่รู้จักบรรพชนคนนี้ของตน

เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึง ว่าผู้อาวุโสชิงหยางที่หายไปไม่รู้กี่ปีจะปรากฏตัวในตระกูลยามนี้!

อวี่อวิ๋นเหอปากแห้งลิ้นฝืด ถูกทำให้ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น ที่แท้บรรพชนคนนี้ของตนก็กลับมาที่เผ่าแล้วจริงๆ…

เขามองหลินสวินวูบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้พี่หลินจะนิ่งสงบเช่นนั้น เกรงว่าเขาคงรู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้วกระมัง

‘อวิ๋นเหอ รีบมาคารวะผู้อาวุโสเร็วเข้า’

อวี่ปี้คงสื่อจิต

อวี่อวิ๋นเหอพลันได้สติ รีบก้าวมาข้างหน้าคุกเข่าลงกับพื้น “ลูกหลานไม่รักดีอวี่อวิ๋นเหอ คารวะผู้อาวุโส”

“ลูกหลานไม่รักดีอวี่ปี้หยวน คารวะผู้อาวุโส”

“ลูกหลานไม่รักดี…”

ชั่วขณะเดียวบุคคลสำคัญของตระกูลอวี่ทั้งหมดในที่นั้น รวมถึงคนรุ่นหลังมากมายอย่างพวกอวี่อวิ๋นเจิงต่างคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและว้าวุ่นใจ

ในที่นั้นก็เหลือเพียงหลินสวินและชายชราชุดนักพรตสองคนที่ยังยืนอยู่ สถานการณ์เงียบสงัดน่าครั่นคร้ามหาใดเปรียบขึ้นมาทันที

นี่ก็คือมาดสง่างามของระดับจักรพรรดิ!

“ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าอวี่ชิงหยางไว้ ยามนี้ได้มาถึงภูเขาเทพนพเลิศนี่ ทว่าไม่เพียงถูกมองเป็นคนถ่อย ยังถูกคนรุ่นหลังอย่างพวกเจ้าข่มเหงประทุษร้าย ช่างไร้สาระซะจริง…”

เสียงเฉยชาของชายชราชุดนักพรตดังก้องอยู่ในที่นั้น

อะไรนะ

เจ้าหมอนั่นถึงกับเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตผู้อาวุโสชิงหยางไว้หรือ…

ผู้อาวุโสระดับกึ่งจักรพรรดิเจ็ดคนอย่างพวกอวี่เสวี่ยหลินราวกับถูกฟ้าผ่าทีละคน สีหน้าซีดเผือด

ต่อให้พวกเขาผ่าสมองออกมาก็คิดไม่ถึง ว่ามกุฎมหาอริยะคนหนึ่งจะมีความเกี่ยวข้องที่ยิ่งใหญ่กับบรรพชนตระกูลตนเช่นนี้!

ในที่สุดอวี่อวิ๋นเหอก็เข้าใจว่าทำไมหลินสวินถึงมีป้ายคำสั่งของผู้อาวุโสชิงหยางป้ายนั้น ที่แท้เจ้าหมอนี่ก็เคยช่วยผู้อาวุโสชิงหยางมาก่อน…

พวกอวี่ปี้คงก็อดสูดหายใจเย็นเยียบไม่ได้ ในใจสั่นสะท้าน

“ผู้อาวุโส พวกเราไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ขอท่านโปรดอภัย!”

อวี่เสวี่ยหลินกล่าวด้วยเสียงรันทด

“ใช่แล้ว หากรู้ว่าสหายน้อยคนนี้เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตผู้อาวุโสไว้แต่แรก ต่อให้มอบความกล้าคับฟ้ากับพวกเรา ก็ไม่มีทางกล้าทำเรื่องเลอะเลือนเช่นนี้เด็ดขาด”

“ขอผู้อาวุโสเมตตา!”

คนอื่นก็พากันพูดเพื่อหาทางรอดให้ตัวเอง

ชายชราชุดนักพรตสีหน้าเย็นชา สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

ตูม!

กึ่งจักรพรรดิเจ็ดอย่างพวกอวี่เสวี่ยหลินถูกพันธนาการในชั่วพริบตา

“ผู้อาวุโส…”

พวกอวี่เสวี่ยหลินตื่นตระหนก ขวัญหนีดีฝ่อ

บุคคลสำคัญของตระกูลอวี่คนอื่นๆ ในที่นั้นล้วนหน้าเปลี่ยนสี ร้อนอกร้อนใจ

“ถึงกับก่อเรื่องโกลาหลวุ่นวายในตระกูลเพื่อแย่งชิงอำนาจ วันนี้หากไม่มีข้าอยู่ สักวันรากฐานตระกูลที่ยิ่งใหญ่ต้องถูกทำลายด้วยมือของพวกเจ้าแน่”

เสียงของชายชราชุดนักพรตไม่มีคลื่นความรู้สึกแม้แต่น้อย “ตั้งแต่วันนี้ไปจะขังพวกเจ้าไว้ที่ ‘ถ้ำใต้พิภพ’ เขตหวงห้ามของตระกูลหนึ่งพันปี ให้สำนึกผิดไถ่บาป!”

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น พวกอวี่เสวี่ยหลินก็เหมือนจะพังทลาย

ถ้ำใต้พิภพ!

นั่นเป็นถึงแดนกักขังคนบาปของตระกูล เต็มไปด้วยเพลิงนรก ถ้าถูกขังอยู่ในนั้น ต่อให้มีพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิก็จะได้รับความทรมานและทุกข์ทนเหลือคณา

“พวกเรา… ขอบคุณผู้อาวุโสที่เมตตา!”

ครู่ใหญ่พวกอวี่เสวี่ยหลินจึงเอ่ยปาก อกสั่นขวัญหาย จิตใจตายด้าน

เดิมทีนี่คือการเคลื่อนไหวชิงอำนาจของตระกูลที่ทำสำเร็จแล้ว แต่ด้วยการปรากฏตัวของอวี่ชิงหยาง ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป…

ชายชราชุดนักพรตสะบัดมือ พวกอวี่เสวี่ยหลินทั้งเจ็ดคนหายไปกลางอากาศ ถูกเคลื่อนย้ายไปกักขังอย่างสมบูรณ์

“พวกเจ้าล่ะ รู้ความผิดดีใช่ไหม”

สายตาของชายชราชุดนักพรตมองไปยังบุคคลสำคัญของตระกูลอวี่คนอื่นๆ ในที่นั้น

“รู้ รู้ขอรับ!”

“ผู้อาวุโสโปรดเมตตา ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเราไม่เคยทำเรื่องที่ผิดต่อตระกูลมาก่อน”

บุคคลสำคัญของตระกูลอวี่พวกนั้นก็ลนลานแล้ว พวกอวี่เสวี่ยหลินล้วนเป็นถึงระดับกึ่งจักรพรรดิ แต่ตอนนี้กลับถูกขังหนึ่งพันปีโดยตรง

การลงโทษที่อำมหิตเช่นนี้ทำเอาพวกเขาต่างขวัญหนีดีฝ่อ

“ปี้คง ยกให้เจ้าจัดการ”

ชายชราชุดนักพรตถอนหายใจเบาๆ เผยแววหน่ายใจอยู่บ้าง

ไม่ว่าใครเห็นลูกหลานตระกูลตัวเองไม่ได้ความเช่นนี้ ก็เกรงว่าคงรู้สึกเสียใจและผิดหวัง

“น้อมรับคำสั่งผู้อาวุโส!”

อวี่ปี้คงกล่าวอย่างเคารพ

“สหายน้อย ไป พวกเราไปดื่มเหล้ากัน”

ชายชราชุดนักพรตพูดพลางสะบัดชายเสื้อ พาหลินสวินและหนานชิวหายไปกลางอากาศ จากพื้นที่ราบแถบนี้ไปพร้อมกัน

กระทั่งพวกเขาจากไป ทุกคนจึงเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน

ยามมองไปที่อวี่ปี้คงอีกครั้ง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสับสนหาใดเปรียบ

มีคนอดกล่าวไม่ได้ “ผู้นำตระกูล เรื่องที่ผู้อาวุโสชิงหยางกลับมา เหตุใดท่านไม่เคยพูดถึงมาก่อน”

ขอแค่ตาไม่บอดก็ย่อมมองออก เห็นได้ชัดว่าอวี่ปี้คงรู้เรื่องที่ผู้อาวุโสชิงหยางกลับมาที่ตระกูลอยู่ก่อนแล้ว แต่กลับปิดบังมาตลอด ทำให้พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้

“นี่เป็นความคิดของผู้อาวุโสชิงหยาง”

ประโยคเดียวของอวี่ปี้คงทำให้ทุกคนต่างอ้ำอึ้ง ต่อให้ในใจไม่ยอมรับก็ไม่กล้าต่อต้านอวี่ปี้คงในยามนี้อย่างสิ้นเชิง

มีคนคิดอย่างสิ้นหวัง หลังจากผ่านเรื่องในวันนี้ไป ตำแหน่งผู้นำตระกูลของอวี่ปี้คงต้องมั่นคงยิ่งกว่าเดิม ไม่มีใครสั่นคลอนได้แน่

วันนั้นเองอวี่ปี้คงได้ออกคำสั่งในฐานะผู้นำตระกูล ใช้วิธีที่ไม่คาดฝันชำระล้างตระกูลอวี่ครั้งใหญ่

คนในตระกูลอวี่อกสั่นขวัญแขวน สถานการณ์สับสนวุ่นวายขึ้นมาทันที

แต่ทุกอย่างนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับหลินสวินแล้ว

ในโลกลึกลับใบเล็กแห่งหนึ่ง

“สหายน้อย ตอนนั้นที่จากกันในป่าต้นหม่อน ในใจข้าก็มีลางสังหรณ์ว่าด้วยพรสวรรค์ของเจ้า วันหน้าต้องก้าวขึ้นมาบนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้ได้แน่”

กระแสธารไหลเอื่อย วิหคขับขานบุปผาส่งกลิ่น หน้าบ้านหินเรียบง่ายหลังหนึ่ง หลินสวินและชายชราชุดนักพรตอวี่ชิงหยางนั่งหันหน้าเข้าหากัน ร่ำสุราเจรจาพาที

ห่างไปไม่ไกล หนานชิวนั่งอยู่ริมลำธาร กำลังนั่งสมาธิ

“มา ดื่มเหล้า”

อวี่ชิงหยางยกจอกสุรา

หลินสวินยิ้มและร่วมดื่มกับเขา นี่เป็นการนั่งดื่มสุราร่วมกับคนที่อยู่ในระดับจักรพรรดิครั้งแรกของเขา

“ผู้อาวุโส ครั้งนี้ข้ามาด้วยมีเรื่องบางอย่างที่อยากขอคำชี้แนะ” ครู่ใหญ่ให้หลังหลินสวินจึงกล่าว

อวี่ชิงหยางยิ้มกล่าว “มิกล้าให้คำชี้แนะหรอก”

เขายังจำภาพของหลินสวินที่อยู่ด้วยกันกับชายหนุ่มจักจั่นทองในปีนั้นได้ดี และรู้ว่าในมือของหลินสวินมีโคมมหามรรคไร้มลทินดวงหนึ่งที่มีความอัศจรรย์คาดไม่ถึง

หลังจากนั้นหลินสวินก็ถามข้อสงสัยในใจออกมา

อวี่ชิงหยางพูดทุกสิ่งที่รู้ ไม่หวงคำชี้แนะกับหลินสวินแม้แต่น้อย

หลินสวินถึงได้รู้ในยามนี้ว่าแดนเจินหลงตั้งอยู่ในพื้นที่ลับบนฟ้าดารา ถ้าอยากเข้าไปในนั้นมีเพียงต้องพึ่งพาพลังของเผ่าเจินหลง

จากคำพูดของอวี่ชิงหยาง ภายใน ‘โลกใหญ่หงเหมิง’ ที่เขตแดนดาราใจกลางก็มีขุมอำนาจของเผ่าเจินหลงครองอาณาเขตอยู่ในนั้น

นี่ก็หมายความว่าหากหลินสวินต้องการมุ่งหน้าไปที่แดนเจินหลง ย่อมต้องไปที่โลกใหญ่หงเหมิงก่อน

“พันธมิตรสงครามรกร้างโบราณหรือ ข้าเคยได้ยินว่าในสมัยดึกดำบรรพ์ เคยมีบุคคลระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งจากดินแดนรกร้างโบราณมุ่งหน้ามาบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ร่วมกันก่อตั้งพันธมิตรสงครามนี้ขึ้นเพื่อต่อต้านขุมอำนาจที่แข็งแกร่งบางแห่ง”

“ทว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องในสมัยดึกดำบรรพ์ไปแล้ว หากเจ้าต้องการหาเบาะแสเกี่ยวกับพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ก็ลองไปเยือน ‘สำนักเร้นฤทธิ์เทพ’ ดูได้”

เมื่ออวี่ชิงหยางพูดถึงตรงนี้ หลินสวินก็ใจกระตุกเล็กน้อย

เขานึกถึงหอฤทธิ์เทพในดินแดนรกร้างโบราณขึ้นมา ที่นั่นก็มาจาก ‘สำนักเร้นฤทธิ์เทพ’

ตอนนั้นทายาทของเผ่าเจินหลงอ๋าวเจิ้นเทียน ก็เคยมุ่งหน้ามาที่ดินแดนรกร้างโบราณพร้อมกับผู้สืบทอดของสำนักเร้นฤทธิ์เทพอิ๋นฮวน ด้วยจะเชิญจ้าวจิ่งเซวียนไปร่วม ‘งานชุมนุมเซียนหมื่นมังกร’ ที่แดนเจินหลงด้วยกัน!

“อ้อ สำนักเร้นฤทธิ์เทพนี้ก็อยู่ในโลกใหญ่หงเหมิงด้วย”

อวี่ชิงหยางยิ้มกล่าว “สรุปคือ ไม่ว่าเจ้าจะไปหาแดนเจินหลงหรืออยากสืบข่าวหาเบาะแสของพันธมิตรสงครามรกร้างโบราณ ย่อมต้องไปที่โลกใหญ่หงเหมิง”

หลินสวินสีหน้าแปลกประหลาด

ไม่เพียงแค่นี้ ในมือเขายังมีปิ่นหยกที่ศิษย์พี่เสวียนคงมอบให้ ต้องนำไปส่งให้ ‘เจียงซิงเชวี่ย’ คนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงด้วย

เจียงซิงเชวี่ยเป็นใคร หลินสวินไม่รู้

แต่เท่าที่เขารู้ เจียงเหิงทายาทของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงก็ฝึกปราณอยู่ที่สำนักยุทธ์เสวียนจี และสำนักยุทธ์เสวียนจีก็อยู่ในโลกใหญ่หงเหมิงเช่นกัน!

‘ดูท่าว่าต้องไปเยือนโลกใหญ่หงเหมิงแล้ว’

เวลานี้ในที่สุดหลินสวินก็ตัดสินใจ

ทางเดินโบราณฟ้าดารากว้างใหญ่ไพศาลเกินไป มีเขตแดนดาราและโลกหล้ากระจายอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ หากไม่สืบข่าวพวกนี้ให้ชัดเจน ก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีกว่าเขาจะหาเบาะแสพวกนี้ได้

ไม่นานหลินสวินก็ถามถึงเรื่องของโลกมืดอีก

ระดับจักรพรรดิอย่างอวี่ชิงหยาง ยามพูดถึงโลกมืดก็ยังเผยสีหน้าจริงจัง

“สหายน้อย โลกมืดนี้ถูกมองเป็น ‘แดนชั่วร้าย’ ‘แดนอลหม่าน’ ตั้งแต่โบราณกาลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าเข้าไปใกล้ดีกว่า หากไปที่นั่นแม้เป็นบุคคลระดับจักรพรรดิก็อาจประสบเคราะห์ได้”

หลินสวินสายตาวูบไหวกล่าว “หลายปีมานี้ข้าเคยเจอมือสังหารที่มาจากแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพไม่น้อย ร่องรอยของพวกเขาดูลึกลับมากก็จริง แต่เหมือนว่าจะไม่ร้ายกาจอย่างที่คาดการณ์”

อวี่ชิงหยางส่ายหัว “นั่นได้แต่พิสูจน์ว่าความสามารถของคนที่ลอบสังหารเจ้าสู้เจ้าไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าขุมอำนาจยักษ์ใหญ่ทั้งสองของโลกมืดนี้ไม่น่ากลัว”

“สหายน้อย เจ้าต้องจำไว้ เป้าหมายที่ถูกขุมอำนาจโลกมืดเพ่งเล็ง นอกเสียจากว่าจะถูกฆ่า ชั่วชีวิตนี้ก็ไม่อาจหลุดพ้นไปจากพวกเขาได้”

หลินสวินพยักหน้า

“ยังดีที่บุคคลระดับจักรพรรดิของโลกมืดไม่กล้าปรากฏตัวบนทางเดินโบราณฟ้าดาราอย่างเอิกเกริกง่ายๆ มหาจักรพรรดิในโลกมืดพวกนี้ แม้จะแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่สุดท้ายก็ทำแต่เรื่องชั่วๆ เมื่อปรากฏตัวจะถูกผู้เก่งกาจบนทางเดินโบราณฟ้าดาราเพ่งเล็งทันที”

อวี่ชิงหยางพูดถึงตรงนี้สีหน้าก็ดูแปลกออกไป กล่าวว่า “บนทางเดินโบราณฟ้าดารามีประโยคหนึ่งที่พูดต่อกันมาว่า หากใต้หล้าล้วนเป็นศัตรู เมื่อถอยจนไม่อาจถอย โลกมืดจะเป็นหนทางรอดสุดท้าย”

หลินสวินอึ้งไปแล้วยิ้มกล่าว “หากข้ามีวันนั้นก็อยากไปลองดู”

อวี่ชิงหยางบื้อใบ้ไป “ทางที่ดีเจ้าอย่าไปลองจะดีกว่า โลกมืดสับสนอลหม่าน เหี้ยมโหดหาใดเปรียบ คิดอยากมีที่ยืนล้วนยากยิ่ง”

ทั้งสองคนดื่มสุราไปพลางพูดคุยกันไปด้วย หลินสวินได้รู้ความลับมากมายที่เกี่ยวข้องกับทางเดินโบราณฟ้าดาราจากปากของอวี่ชิงหยาง

ตัวอย่างเช่นเผ่าจักรพรรดิจะยึดตามความต่างของรากฐานมาแบ่งเป็นเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ เผ่าจักรพรรดิบรรพกาล และเผ่าจักรพรรดิปัจจุบัน

เหมือนเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ก็เป็นขุมอำนาจ ‘เผ่าจักรพรรดิบรรพกาล’ ตระกูลหนึ่ง

และในเขตดาราใจกลาง แค่ขุมอำนาจเผ่าจักรพรรดิที่มีชื่อมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ถึงปัจจุบัน ก็มีมากถึงสามสิบหกตระกูลแล้ว

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์!

หรืออย่างในหกเรือนมรรคใหญ่ นอกจากห้าเรือนมรรคใหญ่อย่างโลกาสวรรค์ ดึกดำบรรพ์ จักรวาล เหล่ามาร ยุทธจักรแล้ว สำนักหนึ่งที่ลึกลับที่สุดมีชื่อว่า…

‘คืนกำเนิด’!

…………………….