ตอนที่ 2968 ยืมร่ม!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ไอ้หนู บางเรื่องแค่คำพูดมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก!” เชียหลงนั้นกล่าวขึ้น

แต่เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายร่างของหยุนหนีก็หายไปกับตา

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นรวมเป็นหนึ่งพุ่งเข้ากระแทกประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตูม!

ผนึกที่สามนั้นมันค่อยๆ มีรอยร้าวออกมา

แต่เมื่อหยุนหนีปรากฏร่างขึ้นมาอีกครั้งร่างวิญญาณของนางกลับจางไปลงอย่างมาก

ร่างวิญญาณของนางใกล้จะแตกสลายลงเต็มที!

สามเจ้าโลกนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกร้องขึ้นมา “นังเด็กนี่มันไม่คิดมีชีวิตต่อไปแล้วหรืออย่างไร?

เผาร่างวิญญาณของตัวเองเป็นพลังเช่นนี้มันเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!”

หยุนหนีนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาและหายตัวไปอีกครั้ง

ตูม!

ครั้งนี้รอยร้าวนั้นมันใหญ่ขึ้นอย่างมากแต่ว่าร่างของหยุนหนีเองก็จางลงไปกว่าเก่าเช่นกัน

สี่ยอดเจ้าโลกนั้นต้องอ้าปากค้างพร้อมหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นตาเดียว

ภาพนี้มันช่างดูคุ้นตา!

เจ้าเด็กสองคนที่บุกเข้ามาในคราวนี้มันกลับเป็นคนบ้าที่ไม่คิดรักชีวิตตัวเองเหมือนๆ กัน!

ตูม!

ตูม!

ตูม!

หยุนหนีนั้นกระแทกเข้าไปเรื่อยๆ จนร่างแทบจางหายไปแต่ว่ารอยร้าวของผนึกนั้นมันก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

พริบตาเดียวนั้นร่างของหยุนหนีมันก็ไม่อาจจะปรากฏให้สายตาได้เห็นอีกต่อไป

มันเป็นสภาพที่หนักหนายิ่งกว่าตัวเย่หยวน

แต่ว่านางนั้นก็ยังทุ่มสุดตัวเข้าโจมตีผนึกอย่างไม่คิดชีวิต

ตูม!

ผนึกที่เปิดออกในที่สุด!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์ที่ไม่เคยเปิดออกนั้นมันกลับค่อยๆ แง้มออกมา!

จากนั้นคลื่นพลังยอดเต๋ารุนแรงมหาศาลก็พุ่งออกมาจากภายในเหมือนเขื่อนแตก

สีหน้าของพวกเชียหลงทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที

นังเด็กนี่กลับทำได้สำเร็จ!

สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นข่าวร้ายอย่างมาก

เพราะพวกเขาทั้งสามที่แทบไม่เหลือแรงขยับตัวนี้ พวกเขาย่อมจะไม่อาจหนีไปได้แน่นอน!

หรือก็คือการบรรลุขึ้นของหยุนหนีนั้นมันเป็นดั่งสาสน์สั่งตายสำหรับพวกเขา!

ฟุบ!

ร่างวิญญาณของหยุนหนีที่แทบจะแตกสลายนั้นกลับมาก่อรูปใหม่ภายใต้พลังของยอดเต๋าจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์

คลื่นพลังของนางพุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นมันเจิดจ้าขึ้นมาจนแทบไม่อาจมองตรงๆ ได้อีก

หยุนหนียืนมั่นอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ว่าพลังจากตัวของนางแทบจะเป็นพลังจากสวรรค์

ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ยังต้องอ้าปากค้างออกมา

จากนั้นนางก็ทิ้งตัวกลับลงมาและเดินมาหยุดก้มหัวคารวะเจ้าโลกบู๋เมี่ย “คารวะบรรพบุรุษ”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจเพราะว่าหยุนหนีนั้นคือไพ่ตายที่เขาเก็บไว้จัดการกับตระกูลวิญญาณฉี

เขานั้นไม่นึกฝันว่าในเวลานี้ตัวนางกลับจะบรรลุเจ้าโลกขึ้นมา!

เจ้าโลกที่เหลือทั้งสามคนนั้นไม่คิดฝันเช่นกันว่าพริบตาเดียวนี้นังเด็กน้อยคนนี้กลับจะกลายเป็นคนตัดสินชีวิตของพวกเขา

“ฮ่าๆ หยุนหนี เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! เอาล่ะ ฆ่าเจ้าเด็กนี่ก่อนเลย!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยชี้หน้าเย่หยวนพร้อมสั่ง

เจ้าเด็กนี่มันทำให้เขาต้องอับอาย

เขานั้นไร้เทียมทานมาตลอดชีวิตไม่เคยถูกใครเย้ยหยามขนาดนี้มาก่อน

แต่เขานั้นต้องยอมก้มหัวให้เย่หยวน!

โชคยังดีที่เขานั้นยังไม่ได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์

เวลานี้เขาจึงสามารถสั่งฆ่าเย่หยวนลงได้โดยไม่ต้องคิดมาก!

เชียหลงและพวกนั้นต่างได้แต่ต้องยิ้มเย้ย

เพราะพวกเขาเองก็ไม่ได้ชอบหน้าเย่หยวนแม้แต่น้อย

หากมิใช่เพราะเจ้าเด็กนี่แล้วพวกเขาคงหนีไปได้ก่อนหยุนหนีจะบรรลุ

มีหรือที่จะต้องมานั่งรอความตายตรงนี้?

หยุนหนีหันไปมองหน้าเย่หยวนโดยที่ตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยิ้มยักไหล่ตอบกลับไป

เขาเองก็ไม่คิดว่าหยุนหนีจะบรรลุขึ้นมาในวินาทีสำคัญก่อนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยจะได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์เช่นนี้

แต่ว่าหยุนหนีกลับก้มหัวให้แก่เจ้าโลกบู๋เมี่ยอีกครั้งพร้อมกล่าวเรื่องที่ทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตาค้าง

“หยุนหนีขอร้องท่านบรรพบุรุษด้วยอีกคน ขอให้ท่านช่วยมอบร่มคลื่นม่วงแก่เย่หยวนได้ยืมใช้ด้วย”

“เจ้าว่าอะไรนะ!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมจองหน้าหยุนหนีด้วยตาแดงก่ำ

เขานั้นไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หยุนหนีนั้นกลับกำลังขอให้เขาเอาร่มคลื่นม่วงให้แก่เย่หยวน?

เชียหลงและพวกนั้นต่างต้องเบิกตากว้างขึ้นมา มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?

นางนั้นเป็นคนของผีเฒ่าบู๋เมี่ยมิใช่หรือ? ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น?

หยุนหนีนั้นไม่คิดหลบสายตาของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแม้แต่น้อยและกล่าวอธิบายขึ้น “เย่หยวนนั้นแค่ต้องการยืมใช้ร่มคลื่นม่วงเพื่อช่วยเหลือคนรักเท่านั้น หยุนหนีเองก็จะตามเขาไปด้วย หากเขาใช้มันแล้วข้าจะเอาร่มคลื่นม่วงกลับมาคืนท่านแน่นอน บรรพบุรุษโปรดมีเมตตาด้วย”

ตอนนี้แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องเลิกคิ้วสูง

นางนั้นกลับ…คิดช่วยเขา?

ก่อนนั้นนางไม่เคยจะแสดงสีหน้าใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย!

ใช่แล้ว

ระหว่างทางที่แกะรอยพลังหมอกหุ้มมา เย่หยวนได้เล่าเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงอยากได้ร่มคลื่นม่วงให้แก่หยุนหนีฟัง

เพียงแค่ว่าระหว่างที่ฟังไปนั้นหยุนหนีก็ทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้สนใจใดๆ แม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้นางนั้นกลับกล่าวขึ้นมาเพื่อช่วยเขาขอร้องถึงขั้นทำให้เจ้าโลกบู๋เมี่ยไม่พอใจ?

นางคนนี้…

ช่างคล้ายกับนางผู้นั้น!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนคิดว่าหยุนหนีนั้นเป็นคนเลือดเย็นเห็นแก่ตัวฆ่าสังหารคนได้อย่างไม่กะพริบตา

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับได้พบว่าเขาคิดผิดไปอย่างมหันต์

ความเย็นเยือกของนางนั้นมันเป็นแค่นิสัยภายนอก

จิตใจของนางนั้นสุดแสนจะมีเมตตา

นิสัยแข็งนอกอ่อนในเช่นนี้มันช่างเหมือนกับมู่หลินเสวียนัก!

มู่หลินเสวียในตอนนั้นเป็นคนที่มากศักดิ์ศรีเย่อหยิ่งเหมือนดั่งนางสวรรค์

แต่เมื่อนางรักกับเขาเข้าแล้ว

ต่อให้จะต้องตายกลายเป็นผีนางก็จะไม่ลังเล!

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่หลงตัวเองถึงขั้นคิดว่าหยุนหนีนั้นหลงรักตัวเองเข้า

แต่ว่านางนั้นคงซาบซึ้งในเรื่องราวของเขาจริงๆ

คนที่อดทนผ่านความยากลำบากมากมายก้าวขึ้นมาจากภพเบื้องล่างเพื่อคนที่รัก ก้าวขึ้นมาจนถึงสวรรค์ในวันนี้

เรื่องราวเช่นนี้ใครบ้างเล่าที่จะไม่รู้สึกเห็นใจ?

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด หยุนหนีนั้นเห็นใจเขาจริงๆ

แต่สิ่งที่นางเห็นใจนั้นมันมิใช่เรื่องราวเป็นแค่ความยากลำบากที่เขาต้องผ่านมาต่างหาก

เย่หยวนนั้นไม่ยอมตายลง ไม่ยอมสิ้นสูญจนถึงตอนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นปลุกเขาขึ้นมา

เขานั้นไม่กลัวที่จะต้องตายตกลงไปพร้อมกันเพื่อกดดันให้ยอดเจ้าโลกอย่างบู๋เมี่ยต้องก้มหัวให้

เรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงได้แล้ว

แม้ว่าหยุนหนีนั้นกำลังบรรลุเต๋าแต่นางนั้นเห็นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในสนามรบเทพฉงนนี้ทั้งหมด

นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงทำเช่นนี้ บางทีมันอาจจะเพราะว่าพลังลึกลับอะไรบางอย่างก็เป็นได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นด้วยสายตาเย็นเยือก “หากข้าไม่รับปาก เจ้าคงคิดช่วยมันจัดการกับข้าลง?”

หยุนหนีตอบกลับไป “บรรพบุรุษ ทำไมมันต้องทำถึงขั้นนั้นด้วย?”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยหัวเราะลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ “ดี! ดีมาก! ข้าไม่นึกเลยว่าตัวเองกลับจะเลี้ยงเด็กเนรคุณอย่างเจ้าขึ้นมา! เอาไปเสีย! แล้วไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!”

ร่มสีม่วงนั้นพุ่งมาหาตัวหยุนหนีและเมื่อหยุนหนีรับมันมานางก็มอบให้แก่เย่หยวนไป “หากเจ้าวางแผนอะไรข้าจะสังหารเจ้าลงเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่ได้คิดอยากครอบครองร่มคลื่นม่วงแม้แต่น้อย

สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันคือการช่วยเหลือมู่หลินเสวียเพียงเท่านั้น!

วินาทีต่อมาคลื่นกำเนิดมากมายมันก็ปะทุขึ้นจากร่างของหยุนหนี

จากนั้นห้วงมิติก็สั่นสะเทือนก่อนที่ร่างของเจ้าโลกเชียหลงจะแหลกสลายมอดดับไปจนถึงวิญญาณมังกร

ยอดเจ้าโลกคนหนึ่งได้ตายลงไปในทันที!

จากนั้นนางก็ชี้นิ้วเตรียมยิงพลังดัชนีใส่เฉียเกอต่อ

เฉียเกอนั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นมาด้วยหน้าซีดขาว “ศิลามารดา ช่วยข้าด้วย!”

พูดจบคำนั้นมันก็มีแสงสีแดงเลือดพุ่งทะยานแหวกฟ้าเข้ามายังสนามรบเทพฉงน

ตูม!

หยุนหนีนั้นต้องกระเด็นออกมาไกล แม้แต่ใบหน้าเย็นเยือกของนางนั้นก็ยังต้องกระตุกขึ้น

ในตอนนี้เฉียเกอนั้นได้หายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่แล้ว

“ช่างทรงพลังนัก! บรรพบุรุษ มันกลับยังมีตัวตนเช่นนี้อยู่ในเผ่าเลือดหรือ?” หยุนหนีร้องลั่นขึ้น

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็ไม่มีเวลาจะมาคับแค้นใดๆ อีกต่อไปตอนนี้จิตใจของเขานั้นมันมีแต่ความตกตะลึงแทน

ดูท่าแล้วเขาเองก็คงเพิ่งเคยได้เห็นพลังนี้เป็นครั้งแรก

…………………………