ในขณะที่เซียวอี้เชียนประหลาดใจและตกใจอยู่นั้น เขาก็อดถอนหายใจไม่ได้ “จะว่าไปแล้ว เย่เฉินผู้นี้ช่างลึกลับจริงๆ วันนั้นเขาทำปากขมุบขมิบ จากนั้นผมก็รู้สึกสะลึมสะลือ…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซียวอี้เชียนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงความเจ็บปวดที่เขาได้รับในจินหลิงในช่วงแรกๆ

เริ่มด้วยการถูกเย่เฉินทุบตี จากนั้นก็ถูกพรากความสามารถในการเป็นผู้ชาย แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด!

สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดคือเขาหลงเชื่อชายชราแซ่เว่ย หลังจากกินสิ่งที่ตระกูลเว่ยเรียกว่ายาวิเศษ ไม่เพียงแต่ฟื้นฟูพลังไม่ได้ แต่ยังเกือบเอาชีวิตไปทิ้งด้วย

สุดท้าย เขาก็รักษาอวัยวะสืบพันธุ์เอาไว้ได้ภายใต้การรักษาของเย่เฉิน

ในส่วนของวิธีการรักษาที่เย่เฉินใช้กับตนเอง ก็เป็นประวัติศาสตร์แห่งเลือดและน้ำตา

ปัสสาวะหนึ่งลิตรผสมกับยาหนึ่งลิตรในตอนนั้น ทำให้ตนเองยังมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เฮ้อ ท่านทั้งสองไม่รู้หรอกว่า ตอนที่ผมอยู่ในจินหลิง คนแก่อย่างผมถูกเด็กหนุ่มอย่างเขาทำลาย!”

กู้เย้นเจิ้งกัดฟันพูดว่า “ถ้าว่ากันตามนี้ เจ้าเด็กคนนี้เป็นเพียงลูกเขยของตระกูลเล็กๆ ในจินหลิง แต่ทำไมเขาถึงไปคบหาสมาคมกับพี่ใหญ่ของผมได้? เรื่องนี้มันแปลกมาก!”

หลังจากที่พ่อแม่ของเย่เฉินถูกฆ่าตายในเย่นจิงไปหลายปี กู้เย้นเจิ้งก็ไม่มีภาพความทรงจำเกี่ยวกับพ่อของเย่เฉินเขาเลย ดังนั้นเขาจึงมองไม่เห็นตัวตนของเย่เฉิน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนอื่นในเมืองเล็กๆ อย่างเย่เฉิน ถึงสามารถมาอยู่กับพี่ใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับเชิญจากพี่ใหญ่มาที่บ้าน เพื่อรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวสามคนของเขาด้วย

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าด้วยภูมิหลังของพี่ใหญ่ แม้แต่ผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตที่มีชื่อเสียงหลายรายในประเทศ ก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

เซียวอี้เชียนคิดอะไรบางอย่างออกและโพล่งออกมา “ผมนึกออกแล้ว เย่เฉินคนนี้ได้หลอกผู้คนจำนวนมากในจินหลิง บุคคลที่มีหน้ามีตาในท้องถิ่นจำนวนมาก ต้องเรียกเขาว่าอาจารย์เย่ด้วยความเคารพ”

“อาจารย์เย่?” กู้เย้นเจิ้งขมวดคิ้วแล้วถามเขาว่า “อาจารย์อะไร? อาจารย์ในด้านไหน?”

เซียวอี้เชียนกล่าวว่า “ดูเหมือนจะเป็นด้านฮวงจุ้ย ว่ากันว่าเขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องฮวงจุ้ย เศรษฐีท้องถิ่นเชิญเขาไปดูฮวงจุ้ยครั้งหนึ่ง ได้รับเงินค่าตอบแทนหลายสิบล้านถึงหลายร้อยล้าน ยังมีบางคนได้มอบคฤหาสน์หลังใหญ่มูลค่ากว่าร้อยล้านแก่เขาด้วย ไม่รู้เลยว่าเจ้าเด็กนี่ทำไมถึงหลอกเก่งแบบนี้”

กู้เย้นกางรีบพูดว่า “พี่รอง! ผมเข้าใจแล้ว! พี่ใหญ่ต้องป่วยหนักมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ต้องควานหาหมอมารักษา จึงเริ่มเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยและโชคชะตา”

กู้เย้นเจิ้งพยักหน้าเห็นด้วยพลางยิ้มเยาะ “ฉันเห็นด้วย 80% คือกลัวความตาย กลัวจนบ้า ดังนั้นจึงได้พวกคนพเนจรต้มตุ๋นมาต่อชีวิตให้ตัวเอง!”

กู้เย้นกางพูดเหน็บ “น่าสนใจจริงๆ เขาไม่ได้ประกาศมาทั้งชีวิตเหรอว่าตัวเองไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า? ไม่เคยเชื่อเรื่องผีเรื่องเทพ ทำไมตอนนี้ใกล้ตาย ถึงได้ถึงเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยขึ้นมาแล้วล่ะ?”

“ใครจะไปรู้…?” กู้เย้นกางโบกมือแล้วพูดว่า “แต่เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่น่าเชื่อถือจริงๆ จนถึงตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออกว่า เขาทำให้เราสูญเสียสมรรถภาพเรื่องอย่างว่าไปได้อย่างไร เขาจะมีความสามารถเรื่องซวนซวนจริงๆ เหรอ?”

เซียวอี้เชียนรีบเข้ามาประจบทันที “เฮ้อ ท่านรอง ผมมีข้อคิดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน หากท่านทั้งสองไม่รังเกียจ ผมจะเล่าให้ท่านทั้งสองฟังเพื่อประกอบการพิจารณา”

กู้เย้นกางพยักหน้า “คุณเล่ามาเถอะ!”