ตอนที่ 2971 ความลับของสังสารวัฏ ทำตามคำสัญญา!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ผู้อาวุโส ข้าต้องทำอย่างไรถึงจะหารากวิญญาณที่เหลือของหลินเสวียเจอ?” เย่หยวนถามขึ้นมาอย่างไม่อยากยอมรับความจริงตรงหน้า

ชุบชีวิตมู่หลินเสวียขึ้นมาได้นั้นมันย่อมจะทำให้เย่หยวนรู้สึกโล่งใจขึ้นอย่างมาก

แต่หากยังไม่อาจชุบชีวิตมู่หลินเสวียได้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วเย่หยวนก็ยังรู้สึกว่าหน้าที่ของตนนั้นมันยังไม่จบลง

หมี่เทียนมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ทั่วสวรรค์ทั้งสามสิบสามนี้ข้ารู้จักแค่คนเดียวที่จะช่วยพานางกลับมาได้!”

เย่หยวนหรี่ตาลงกล่าว “เจ้าโลกหลุนฮวย?”

หมี่เทียนพยักหน้ารับตอบกลับไป “ใช่แล้ว! เจ้าเฒ่านั้นมันแตกต่างจากคนอื่นๆ สิ้นเชิง เขานั้นศึกษาเพียงแค่เต๋าสังสารวัฏเพียงอย่างเดียวแต่กลับมีพลังเหนือล้ำเรียกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดตัวตนของเหล่าเจ้าโลก! เรียกว่ามีพลังเหนือล้ำความเข้าใจเจ้าไปมาก! ความเข้าใจต่อเต๋าสังสารวัฏของเขานั้นมันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ แม้ว่าเขาจะควบคุมสังสารวัฏไม่ได้จริงๆ แต่เขานั้นก็เดินอยู่บนเส้นทางของมัน! ส่วนเรื่องที่ว่าเขาก้าวเดินไปได้ไกลแค่ไหน แม้แต่ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน! หากจะมีใครที่เรียกวิญญาณชุบชีวิตนังหนูมันขึ้นมาได้มันก็คงมีแค่เขาคนนั้นเท่านั้นแล้ว”

ในโลกหล้านี้มันไม่มีใครกล้าพูดได้เต็มปากว่าตัวเองเข้าใจเต๋าอย่างหมดจน!

ในสามพันยอดเต๋านั้นต่อให้จะควบคุมได้เพียงแค่เต๋าเดียวมันก็ถือว่ามีพลังเทียบเคียงสวรรค์!

ตำนานที่เล่ากล่าวกันมาในสามสิบสามสวรรค์นั้นว่ากันว่าคนที่สามารถควบคุมคลื่นกำเนิดได้อย่างสมบูรณ์แบบจะเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์และขึ้นสู่อาณาจักรล้ำสวรรค์ได้

แต่ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันไม่เคยมีใครทำได้

เพราะว่าสิ่งที่ควบคุมเต๋าได้จริงๆ นั้นมีเพียงแค่เต๋าสวรรค์

เพราะฉะนั้นคนส่วนมากจึงคิดจะศึกษายอดเต๋าหลายๆ อย่างและใช้พลังของมันเปิดผนึกประตูแห่งชีวานิรันดร์

การควบคุมเพียงหนึ่งเต๋าหรือศึกษาหลายเต๋า สองเส้นทางนี้มันคงบอกไม่ได้ว่าอันไหนแข็งแกร่งอ่อนแอกว่ากัน

แต่เจ้าโลกหลุนฮวยนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แข็งแกร่งจนเข้าใกล้คำว่าควบคุมเต๋าไปได้แล้ว!

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างถามขึ้น “แล้วเขาอยู่ที่ใดกัน?”

หมี่เทียนส่ายหัวตอบกลับไปด้วยหน้าเศร้าๆ “ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขานั้นอยู่ที่ใด! เจ้าเฒ่านั้นเดินทางผ่านสวรรค์แผ่นดินภพต่างๆ มากมายเพื่อทำความเข้าใจความหมายของชีวิต ศึกษาเต๋าแห่งสังสารวัฏ! บางทีตอนนี้มันอาจจะเป็นแค่มนุษย์สามัญในภพเบื้องล่างสุดหรือบางทีมันอาจจะกลายเป็นยอดเจ้าโลกที่ไหนอยู่ก็ได้ และมันอาจจะกำลังล่องลอยอยู่ข้างตัวข้าหรือเจ้า แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่! หากข้ารู้! มีหรือที่ข้าจะใช้ให้เจ้ามายืมร่มคลื่นม่วงเช่นนี้? หากเจ้าเฒ่านั่นลงมือแล้วการคืนชีพให้นังหนูมันคงง่ายดายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ”

เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกด้วยความโล่งใจก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นมา “เช่นนั้นหมายความว่าตราบเท่าที่ข้าหาตัวเจ้าโลกหลุนฮวยเจอแล้วข้าก็สามารถชุบชีวิตผู้คนได้มากมายเท่าที่ต้องการ?”

หมี่เทียนพยักหน้า “คงเป็นเช่นนั้น! ตราบเท่าที่รากวิญญาณของคนทั้งหลายนั้นยังอยู่บนสวรรค์และกำลังของคนผู้นั้นไม่ได้บรรลุเจ้าโลกไปแล้วมันย่อมจะคืนชีพกลับมาได้สิ้น! ในเต๋าแห่งสังสารวัฏนั้นมันคงไม่มีใครเหนือกว่าตัวเขาคนนั้นไปได้!”

เจ้าโลกนั้นเป็นผู้ทำลายสามผนึกและแง้มประตูแห่งชีวานิรันดร์

เป็นตัวตนที่ไม่ได้อยู่ในสังสารวัฏและธาตุทั้งห้าอีกต่อไป

เพราะฉะนั้นหากเจ้าโลกตาย มันก็จะเป็นความตายอย่างแท้จริง

แต่ตราบเท่าที่ยังไม่บรรลุเจ้าโลกแล้ว พวกเขาก็ย่อมจะต้องไหลไปตามสังสารวัฏแน่นอน

แม้ว่าเจ้าโลกหลุนฮวยนั้นจะไม่อาจควบคุมสังสารวัฏได้แต่ว่าแค่คืนชีพให้คนมันย่อมจะไม่เกินมือเขา

ก่อนนั้นสิ่งที่เย่หยวนสัมผัสได้จากหลุมศพของจี้เฉินหยังนั้นคือรากวิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัยและนี่เป็นสิ่งที่จุดประกายความหวังให้เย่หยวนด้วย

แต่หยุนหนีกลับขัดขึ้นมา “ยอมแพ้เสียเถอะ! หลายปีที่ผ่านมานี้แม้แต่เจ้าโลกเทียนเหวินเองก็ยังแทบไม่ได้เจอหน้าเจ้าโลกหลุนฮวยเลย! หากท่านไม่คิดแสดงตัวออกมาเอง มันย่อมจะไม่มีใครหาตัวท่านเจอแน่!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เขาต้องปรากฏตัวขึ้นแน่! หากศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันตื่นขึ้นมาแล้วมันย่อมจะกลายเป็นหายนะของทุกสวรรค์แน่นอน! ข้าเชื่อว่าเจ้าโลกหลุนฮวยนั้นจะต้องปรากฏตัวขึ้นเป็นแน่ เพราะหากมองจากมุมหนึ่งคนทั้งสองนั้นก็เป็นตัวตนในระดับเดียวกัน พวกเขานั้นคือผู้ที่ศึกษาหนึ่งเต๋าจนถึงระดับที่แทบควบคุมเต๋าได้! ถึงตอนนั้นหากเผ่าเลือดมันสร้างหายนะให้ทุกเผ่าพันธุ์บนทุกสวรรค์แล้วเจ้าโลกหลุนฮวยย่อมจะไม่นั่งเฉยศึกษาเต๋าสังสารวัฏต่อไปแน่”

หนึ่งนั้นคือกำเนิดเลือด หนึ่งนั้นคือกำเนิดสังสารวัฏ

ทั้งสองนั้นต่างเป็นยอดเต๋าที่ทรงพลังอย่างมาก!

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นต้องการพลังและเลือดของชีวิตมากมายเพื่อสนับสนุนการศึกษาเต๋าของมัน

กลับกัน เจ้าโลกหลุนฮวยนั้นศึกษาเต๋าท่ามกลางการใช้ชีวิตรูปแบบต่างๆ!

คนทั้งสองนั้นเรียกได้ว่าเป็นสองขั้วที่แตกต่างกันสิ้นเชิง

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงมองว่าถึงเวลานั้นเจ้าโลกหลุนฮวยคงต้องปรากฏตัวขึ้นแน่

ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าโลกหลุนฮวยจะช่วยเขาหรือไม่นั้นเย่หยวนยังไม่กังวลถึงมัน

เพราะอย่างน้อยๆ ตอนนี้เขาก็ยังมีหวัง

หยุนหนีได้แต่ต้องหัวเราะขึ้นมา “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เจ้าไปขอเจ้าโลกหลุนฮวยให้ชุบชีวิตคนแล้วท่านก็จะช่วยชุบชีวิตให้หรือ?”

เย่หยวนแค่ยิ้มนิ่งๆ ไม่คิดเถียงกลับไป

เรื่องที่ว่าเจ้าโลกหลุนฮวยจะช่วยหรือไม่นั้นเขาไม่รู้ได้ แต่เขานั้นจะพยายาม!

เขานั้นจะพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งและมีฐานะสูงส่งพอจะเทียบเคียงเจ้าโลกหลุนฮวย!

เป้าหมายที่เขาเคยตั้งไว้ก่อนๆ มามันก็สำเร็จมาตลอด

เหมือนดั่งการยืมร่มคลื่นม่วงนี้เอง เดิมทีแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นจริงแต่เขาก็ทำมันได้

แม้ว่าส่วนหนึ่งมันจะได้หยุนหนีช่วยไว้แต่ว่าหากมองดูจริงๆ แล้วมันก็ยังเป็นความพยายามของเย่หยวนทั้งสิ้น

ตอนนี้มู่หลินเสวียคืนชีพขึ้นมาแล้วเย่หยวนย่อมจะไม่ต้องการร่มคลื่นม่วงใดๆ อีก

เขานั้นมิใช่คนที่โลภในสมบัติของคนอื่น

เขาย่อมจะคิดคืนร่มคลื่นม่วง

เขาจึงเดินทางมายังดินแดนวิญญาณอมตะพร้อมหยุนหนีเพื่อกล่าวขอบคุณเจ้าโลกบู๋เมี่ย

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นบาดเจ็บหนักจนตอนนี้ก็ยังไม่หายดี

ได้เห็นหน้าเย่หยวนนั้นเขาก็ย่อมจะไม่แสดงท่าทีต้อนรับใดๆ

“ขอบพระคุณผู้อาวุโสที่ใจกว้างให้ข้ายืมร่มนี้ บุญคุณนี้เย่หยวนจะจำไว้ให้มั่น! เย่หยวนผู้นี้ติดค้างผู้อาวุโสครั้งใหญ่ หากวันหน้าท่านต้องการให้เย่ผู้นี้ช่วยอะไรเย่จะไม่ปฏิเสธแน่นอน!” เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะ

บู๋เมี่ยมองหน้าเย่หยวนและหยิบเอาร่มคลื่นม่วงกลับไป “เจ้าคิดว่าคนอย่างข้านี้ยังต้องการความช่วยเหลืออะไรจากเจ้า?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ตอนนี้ท่านอาจจะยังไม่ต้องการมันแต่วันหน้าย่อมเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทราบได้!

เย่ผู้นี้ลองถามใจตัวเองและพบว่าหากข้าบรรลุขึ้นเจ้าโลกได้แล้ว กำลังของข้านั้นคงไม่ได้ด้อยกว่าผู้อาวุโสแน่นอน!

บางทีวันนั้นท่านอาจจะต้องการให้ข้าช่วยเหลืออะไรก็ได้”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้แต่ต้องผงะไปด้วยใบหน้าดำมืด “ไอ้หนู เจ้ามันหลงตัวเองดีจริงๆ! เจ้าไม่กลัวหรือว่าข้านั้นจะซัดเจ้าให้ตายลงไปเสียตรงนี้?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโสนั้นตั้งเจดีย์เจ็ดสีขึ้นมาก็เพื่อจะตามหาร่างวิญญาณหมอกหุ้มที่แท้จริงมิใช่หรือ? ตอนนี้ร่างวิญญาณหมอกหุ้มปรากฏขึ้นมาตรงหน้าท่านแล้ว ดังนั้นจะเรียกข้าว่าเป็นกึ่งผู้สืบทอดของท่านก็คงไม่ผิดนัก ท่านเองก็คงไม่อาจทำใจสังหารข้าลงได้ใช่หรือไม่?”

ในสนามรบเทพฉงนนั้นเจ้าโลกบู๋เมี่ยกังวลว่าเย่หยวนจะมีแผนร้ายมากมายไว้เบื้องหลัง

และย่อมไม่คิดมอบร่มคลื่นม่วงให้คนแปลกหน้าที่มาจากต่างเผ่า

แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเย่หยวนแค่ต้องการมันไปช่วยเหลือคนผู้หนึ่ง

และเข้าใจเรื่องของเผ่าเลือดว่ามันเป็นตัวร้ายแค่ไหน เขาย่อมจะไม่ได้คิดฆ่าสังหารใดๆ อีกต่อไปแล้ว

ที่สำคัญไปกว่านั้นคำพูดของเย่หยวนเองก็ยังไม่นับว่าผิด

เขานั้นต้องการหาผู้สืบทอดจริงๆ เพียงแค่ว่าเขาก็ไม่นึกฝันว่าผู้สืบทอดของเขามันกลับจะเป็นเด็กชาวมนุษย์ไป!

นอกจากนั้นแล้วหลังจากเจ้าโลกบู๋เมี่ยกลับมาถึงตระกูล

เขาก็ได้รู้ถึงเรื่องที่เย่หยวนช่วยพวกยู่เทียน พาตระกูลวิญญาณนิพพานรอดพ้นหายนะมา!

แม้ว่าเจ้าโลกหวู่เหวินนั้นจะตายลงไปแต่ฝ่ายสามเผ่านั้นก็เสียหายไปหนักหน่วงเช่นกัน!

เจ้าโลกบู๋เมี่ยคนนี้จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ!

คนทั้งหลายในที่นี้ต่างเป็นคนฉลาด ไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อมให้มากมาย

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นหัวเราะตอบกลับไป “วิญญาณดั่งเดิมของเจ้ากลับเข้าร่างนั้นมันถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย!

เจ้าทิ้งร่างกายและเข้าตระกูลวิญญาณนิพพานข้ามาเถอะ ความสำเร็จในวันหน้าของเจ้านั้นมันย่อมจะไม่ด้อยไปกว่าข้าแน่นอน!”

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ร่างกายนี้พ่อแม่ข้าให้มา เย่หยวนคนนี้จะไม่ขอทิ้งมันไปง่ายๆ ที่สำคัญกว่านั้นเย่ผู้นี้ยังไม่ได้ศึกษาแค่เต๋าวิญญาณ! ข้านั้นมีความทะเยอทะยานที่มากกว่าท่านจะนึกฝันนัก!”

เมื่อเจ้าโลกบู๋เมี่ยได้ยินเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “ไอ้หนูผู้ไม่รู้จักฟ้าดิน! ตระกูลวิญญาณนิพพานของข้าเองก็ไม่ขอต้อนรับเจ้าเช่นกัน! ไสหัวไปเสีย!”

เย่หยวนยิ้มตอบและก้มหัวกล่าวลาเจ้าโลกบู๋เมี่ยไป

หลังจากออกมาแล้วหยุนหนีก็ต้องหรี่ตาลงถามอีกครั้ง “เจ้าจะไม่อยู่จริงๆ?”

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ข้านั้นยังมีเรื่องสำคัญต้องทำ!”

หยุนหนีนั้นขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “เด็กคนนั้นก็คืนชีพขึ้นมาแล้ว เจ้าจะยังมีเรื่องสำคัญอะไรอีกหรือ?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าสัญญากับผู้อาวุโสหมี่เทียนท่านไว้ว่าจะส่งท่านกลับบ้าน ตอนนี้มันคงถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว!”