เมื่อกู้เย้นเจิ้งกำลังคิดหาผลประโยชน์จะเอาชนะอยู่นั้น ประตูสำนักงานก็ถูกคนผลักเปิดออกอย่างแรง

ทันทีหลังจากนั้น กู้เย้นจงที่สีหน้าแดงเต็มไปด้วยความไม่โกรธเสแสร้งก้าวเข้ามา

เย่เฉินเดินตามหลังเขาอย่างใกล้ชิด และได้เข้าไปในห้องประชุมด้วย

ทุกคนในห้องประชุมรวมทั้งกู้เย้นเจิ้งและกู้เย้นกางต่างตกตะลึง หลังจากได้เห็นจิตใจเร่าร้อนฮึกเหิมของกู้เย้นจง!

กู้เย้นเจิ้งและกู้เย้นกางมองหน้ากัน แม้ว่าสองพี่น้องจะไม่ได้สื่อสารเลย แต่ในใจพวกเขาก็คิดคำถามแบบเดียวกัน “พี่ชายคนโตที่ป่วยเมื่อวานจู่ๆวันนี้กลับมีชีวิตชีวาแล้ว?! เพียงแค่คืนเดียวความแตกต่างมันจะมากขนาดนี้เชียวหรอ?”

และประธานคณะกรรมการคนอื่นๆของเขา เพราะพวกเขาไม่ได้เห็นกู้เย้นจงมาเป็นเวลานานบวกกับเห็นการรายงานข่าว คิดว่าเขาหมดหนทางรักษาหรือกระทั่งกำลังจะตาย

พวกเขาได้เตรียมใจไว้แล้ว คิดว่ากู้เย้นจงอาจนั่งรถเข็นพร้อมกับสายออกซิเจนและมีคนเข็นเข้ามา

ดังนั้น เมื่อเขาเห็นร่างกายที่แข็งแรงของเขาในทันใด ทุกคนก็ตกตะลึงอย่างมาก

นี่คือประธานที่ถูกสื่อรายงานว่าป่วยหนักในข่าวไม่ใช่เหรอ?

ดูเหมือนว่าประธานคนนี้จะอาการดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

หรือนี่คือสิ่งที่คนพูดบ่อย?

แต่มันไม่เหมือนเลย เขาดูเหมือนชายวัยกลางคนที่สุขภาพแข็งแรงอย่างมาก!

กู้เย้นกางแอบสะกิดกู้เย้นเจิ้ง และถามด้วยท่าทางงุนงง “พี่รอง นี่มัน…เรื่องอะไรกัน… ”

กู้เย้นเจิ้งกัดฟันและส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!”

ในเวลานี้กู้เย้นจงมาถึงที่นั่งพิเศษตรงกลางด้านหน้าโต๊ะประชุมแล้ว จากนั้นให้เย่เฉินนั่งทางขวามือของเขา

หลังจากนั่งลง กู้เย้นจงมองไปรอบๆด้วยสายตาดุร้ายและพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและทรงพลังหลายส่วน “ทุกท่านก่อนอื่นฉันต้องขอโทษทุกท่าน ณ ที่นี้ก่อน ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยเข้ามาในบริษัท และบริษัทสามารถทำงานได้ตามปกติได้ลำบากทุกท่านแล้วนะครับ”

ทุกคนต่างมองซึ่งกันและกันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมากถูกซื้อโดยกู้เย้นเจิ้งและกู้เย้นกาง พวกเขาพร้อมที่จะถอดกู้เย้นจงออกจากคณะกรรมการบริหารในวันนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นกู้เย้นจงอยู่ในสภาพดีในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร

เมื่อเห็นสิ่งนี้กู้เย้นเจิ้งรู้สึกสับสนเล็กน้อยในใจ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหากเขาไม่รีบหาวิธีระงับสถานการณ์ในเวลานี้ แผนทั้งหมดของเขาในวันนี้อาจจะล่ม

ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากพูดทันทีว่า “ท่านประธาน คุณไม่ได้รับหน้าที่ดูแลกิจการของกลุ่มมานานแล้ว ทุกคนที่นี่จ่ายเงินให้กับกลุ่มไปมากแล้ว คุณเป็นประธานกรรมการมันไม่เหมาะสมรึเปล่า?”

กู้เย้นจงพยักหน้าและยิ้มและพูดว่า “คุณพูดถูก ช่วงนี้ฉันทำตัวไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อกี้ฉันจึงไม่พูดอะไร ขอบคุณทุกท่านนี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของฉันที่มีต่อทุกท่าน นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกคน ”

ขณะที่พูดกู้เย้นจงกล่าวอีกครั้งว่า “ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ทุกคนอยู่เคียงข้างฉันและติดตามฉัน ฉันเป็นเกียรติที่ไม่เคยทำให้ทุกท่านผิดหวังและทำให้กรุ๊ปแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆก้าวหน้าอย่างรวดเร็วภายในยี่สิบปี ฉันไม่เคยถือเอาความหยิ่งทะนงหรือทอดทิ้งทุกท่านเลย ในระหว่างนี้ฉันถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลังหนึ่งหรือสองเดือนด้วยเหตุผลส่วนตัว ทุกคนก็นึกถึงสิ่งที่ฉันทำงานหนักมาตลอดยี่สิบปีคงไม่โทษฉันใช่มั้ย?”

ทันทีที่มีการพูดเรื่องนี้ ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆรอบตัวเขาโบกมือโดยไม่รู้ตัวและพูดพร้อมกัน “ใครจะกล้าล่ะท่านประธาน เราจะโทษคุณได้อย่างไร!”