บทที่ 1595 ความแข็งแกร่งของหยางเฉิน

The king of War

บทที่ 1595 ความแข็งแกร่งของหยางเฉิน

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทุกคนก็ตกใจ ตอนนี้ด้วยการสนับสนุนจากทั้งสามราชวงศ์ ไม่มีใครกล้าท้าทายหยางเฉิน แต่ในเวลานี้กลับมีคนปรากฏตัวขึ้น และพูดเสียงดังเพื่อท้าทายหยางเฉิน
ใบหน้าของหยางเฉินเคร่งขรึมขึ้นมาทันที สายตามองไปที่ทางเข้าสถานที่ ปรากฏรูปร่างผู้สูงวัยขึ้น
“หลิวเหล่าก้วย!”
เมื่อเห็นหลิวเหล่าก้วยอีกครั้ง ดวงตาของหยางเฉินมีเจตนาสังหารที่รุนแรง
คนนี้ที่มาจากแดนที่เก้า ปรมาจารย์แห่งพิษกู่เมืองเหมียว เคยร่วมมือกับเย่หลินเพื่อฆ่าหยางเฉิน แต่เนื่องจากหยางเฉินได้ปลุกสายเลือดคลั่ง เขากับเย่หลินจึงหนีไป
หลิวเหล่าก้วยต้องการฆ่าหยางเฉินครั้งแล้วครั้งเล่า และตอนนี้ยังกล้ามายั่วยุ เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมาก
หยางเฉินเหล่ตาและพูดว่า “ไม่คิดว่า แกยังกล้ามาหาฉันด้วยตัวเอง ก็ดี จะได้ไม่ต้องให้ฉันเสียเวลาไปหาถึงแดนที่เก้า เมืองเหมียว”
หลิวเหล่าก้วยแสยะยิ้ม “หยางเฉิน แกคงคิดว่าตอนนี้ตัวเองแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถปราบแกลงได้เหรอ?”
หยางเฉินเยาะเย้ย “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น แต่เมื่อเทียบกับแกแล้ว ฉันแข็งแกร่งจริงๆ อย่างน้อยฉันก็ไม่เหมือนแก เกือบจะถูกฉันฆ่า สุดท้ายก็ถูกผู้แข็งแกร่งจากแดนที่เก้า เมืองเหมียวช่วยชีวิตไว้”
เดิมทีหยางเฉินมีโอกาสที่จะฆ่าหลิวเหล่าก้วย แต่ตอนที่เขากำลังจะฆ่าหลิวเหล่าก้วย ก็มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่งในเมืองเหมียวจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น ใช้พลังมหาศาลพาตัวหลิวเหล่าก้วยไป
ในตอนนั้น หยางเฉินยังไม่ได้เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ ก็ได้ต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์แล้ว
เพียงแต่ว่า ไม่มีใครคาดคิดว่า ความแข็งแกร่งของหยางเฉินจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและดุเดือด ในเวลาสั้นๆเพียงแค่ปีเดียว จากผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด กลายเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกในตอนนี้
แต่ว่า การฝึกฝนของหลิวเหล่าก้วยนั้นเร็วกว่า หนึ่งปีก่อนเขามีเพียงความแข็งแกร่งของแดนเทพชั้นยอด แต่ตอนนี้ เขามีความแข็งแกร่งของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด
ในตอนนี้ ดมเมนตัมวิถีบู๊ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ได้ปะทุขึ้นมาจากตัวของหลิวเหล่าก้วย ครอบคลุมทั่วสถานที่นี้
“ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์!”
มีผู้แข็งแกร่งพูดด้วยความตกใจ
พวกเขาคิดว่า ผู้เข้าร่วมการประลองในวันนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่ในระดับแค่ครึ่งหนึ่งของแดนเหนือมนุษย์ แต่ไม่คาดคิด จะมีแดนเหนือมนุษย์อยู่จริงๆ
พวกเขาไม่แน่ใจว่าหลิวเหล่าก้วยจะเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นไหน แต่ก็รู้สึกได้ว่า หลิวเหล่าก้วยนั้นไม่ใช่แดนเหนือมนุษย์ธรรมดา
ราชวงศ์ซ่านกวนและราชวงศ์หลง และผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ต้วน ล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียดกดดัน
ในฐานะผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ พวกเขารู้ดีว่า ความแข็งแกร่งของเมืองเหมียวนั้นแกร่งขนาดไหน
แม้ว่าเมืองเหมียวจะไม่ใช่ตระกูลบู๊โบราณ แต่ความแข็งแกร่งนั้นอยู่เหนือกว่าราชวงศ์
แข็งแกร่งกว่าราชวงศ์โบราณอีก
พูดให้ถูกต้องคือ มันอยู่ระหว่างตระกูลบู๊โบราณและราชวงศ์โบราณ
เมืองเหมียวมีสิบสามอาณาเขต แต่ละเขตมีเจ้าแดนหนึ่งคน และความแข็งแกร่งของเจ้าแดนแต่ละราย อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ทั้งนั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
เมืองเหมียวมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์อย่างน้อย13คน แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงตัวเลขที่น้อยที่สุด
จำนวนที่แท้จริงนั้น จะยิ่งมากกว่านี้
แม้ว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่า หยางเฉินก็ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย
และหลิวเหล่าก้วย เป็นผู้แข็งแกร่งของแดนที่เก้า
เมืองเหมียว ก่อนหน้านี้ผู้แข็งแกร่งที่เคยช่วยชีวิตหลิวเหล่าก้วยจากน้ำมือของหยางเฉิน มีชื่อว่าหวงจิ้น
และเป็นเจ้าแดนที่เก้า
หยางเฉินมารู้เรื่องนี้ในภายหลัง
หยางเฉินเหลือบมองที่หลิวเหล่าก้วยเล็กน้อย จากนั้นมองไปที่ว่างเปล่าแล้วพูดเสียงดัง “เย่หลิน ไสหัวออกมา!”
ทันทีที่พูดออกมา ผู้ชมต่างตกตะลึง!
โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์ ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เย่หลินชื่อนี้ พวกเขาเคยได้ยิน
บรรพบุรุษของราชวงศ์เย่ แต่ว่า เย่หลินมาที่นี่จริงเหรอ?
ในขณะที่ทุกคนกำลังงุนงง ก็มีเสียงหัวเราะดังลั่น
“คิดไม่ถึงเลย ฉันซ่อนตัวได้ดีขนาดนี้
ยังถูกแกค้นพบจนได้”
เมื่อเขาพูดจบ ร่างของเย่หลินก็ปรากฏออกมา
เย่หลินและหลิวเหล่าก้วยยืนฝั่งซ้ายและขวาตรงข้ามหยางเฉิน ทั้งคู่มองไปที่หยางเฉินด้วยท่าทางขี้เล่น ราวกับว่าพวกเขากำลังจ้องมองเหยื่อ
หยางเฉินกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “ไม่นึกเลย
จะฆ่าฉันได้งั้นเหรอ?”
ว่าพวกแกจะสมรู้ร่วมคิดกัน แต่ถึงอย่างนั้น แล้วยังไง? ลำพังพวกแก
สิ้นเสียง โมเมนตัมวิถีบู๊ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก ก็ปะทุออกจากตัวของเขา
ในตอนนี้
สามารถสัมผัสได้ ถึงแดนวิถีบู๊ของหยางเฉิน
สีหน้าของเย่หลินและหลิวเหล่าก้วยเปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยแดนวิถีบู๊ของพวกเขา
เมื่อปีที่แล้ว พวกเขามีความแข็งแกร่งในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกเพื่อต่อสู้กับหยางเฉินที่มีเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม
เพราะหยางเฉินปลุกสายเลือดคลั่งในร่างกาย และหลังจากตกอยู่ในความบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ พวกเขาก็ได้หนีไป
ในท้ายที่สุด
ไม่เจอแค่ปีเดียว แดนวิถีบู๊ของหยางเฉิน ก็เพิ่มขึ้นถึงสามขั้น
หากเป็นผู้แข็งแกร่งในแดนเทพ ในหนึ่งปีเพิ่มสามารถเพิ่มสามขั้นยังถือว่าปกติ
แต่หยางเฉินมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์
ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งไปตั้งสามขั้น นี่ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก
“ไม่คิดเลยจริงๆ
คิดจะสู้กับพวกเราสองคนที่ร่วมมือกันและอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดได้หรือ?”
ว่าแกจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ แต่ว่า ด้วยความแข็งแกร่งแค่นี้ของแก
หลิวเหล่าก้วยพูดด้วยความโกรธ
สีหน้าของเย่หลินเคร่งขรึม ดวงตาที่คมลึกลงไป ยังมีการถอดใจเล็กน้อย
หยางเฉินมองทั้งสองด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “จะจัดการพวกแกได้ไหมนั้น พวกเราก็มาลองดูกัน?”
หลิวเหล่าก้วยพูดอย่างโกรธกริ้ว “นี่แกหาเรื่องเองนะ!
เด็กคนนี้แปลกประหลาด พวกเราลงมือพร้อมกัน!”
เจ้าบ้านตระกูลเย่
เย่หลินตอบว่า “ได้!”
ในเวลาเดียวกันที่ทั้งสอง พุ่งเข้าใส่หยางเฉินพร้อมกัน
หยางเฉินยืนอยู่ตรงจุดเดิม แม้แต่ท่าทีที่จะหลบก็ไม่มี
ทันใดนั้นพลังรุนแรง ก็พุ่งออกจากร่างกายของเขา
เพียงแค่กระทืบเท้า
เห็นเพียงพื้นที่อยู่ตรงหน้าเขา ด้วยการกระทืบเท้าของเขา ปรากฏรอยแยกกว้างประมาณหนึ่งเมตร
ทันทีที่เย่หลินและหลิวเหล่าก้วยพุ่งเข้ามา ก็พบรอยแยกตรงหน้าขวางกั้นพวกเขาไว้ ทั้งสองกระโดด และข้ามรอยแยกโดยตรง พุ่งไปที่หยางเฉิน
“ไสหัวออกไป!”
หยางเฉินร้องตะโกน โมเมนตัมวิถีบู๊ที่น่าสะพรึง ราวกับมีดเล่มคม พุ่งเข้าหาทั้งสองคนโดยตรง
วินาทีถัดมา หยางเฉินก็ขยับตัว
“ตูม!”
“ตูม!”
ตัวของเขารวดเร็วราวกับสายฟ้า ทันได้นั้น การโจมตีติดต่อกันสองครั้ง จู่โจมเข้าใส่เย่หลินและหลิวเหล่าก้วย
“ตูม ตูม ตูม!”
พลังอันรุนแรง ราวกับวันสิ้นโลก พื้นดินรอบๆที่ทั้งสามคนอยู่ ก็แตกแยกในทันที
โมเมนตัมวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัว ราวกับภูเขาและทะเล ซัดไปบริเวณที่นั่งผู้ชมในทุกทิศทาง
โต๊ะที่อยู่ใกล้สังเวียนที่สุด ถูกพลังอันบ้าคลั่งนี้ซัด จนพลิกคว่ำ
ในความตื่นตระหนกของทุกคน เย่หลินและหลิวเหล่าก้วยได้โจมตีพร้อมกัน แต่กลับถูกหยางเฉินรับไว้อย่างง่ายดาย นี่ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
“พวกแกมีพลังแค่นี้เองเหรอ?”
หยางเฉินยิ้มทีมุมปากอย่างชั่วร้าย สิ้นเสียงลง ดวงตาของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด โมเมนตัมอันน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น แผ่กระจายออกมาจากร่างกายเขา
โมเมนตัมที่บีบบังคับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ทำให้ทุกคนรู้สึกใจสั่นสะท้าน
สีหน้าของเย่หลินและหลิวเหล่าก้วยแย่มาก หลังจากที่พวกเขาจ้องมองหน้ากัน ทั้งคู่ก็เห็นความเคร่งขรึมในดวงตาของกันและกัน
“ไม่ดีแล้ว ล่าถอย!”
เย่หลินไม่ลังเล กระทืบบนพื้น อาศัยการดีดตัวของพื้นดิน รีบกระโดดไปข้างหลัง