ตอนที่ 2985 คำเชิญจากทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ได้ยินมาหรือไม่? เจ้าคนใหม่นั้นมันท้าขุนเขาไปทั่วแผ่นดินจนตอนนี้เอาชนะยอดฝีมือร้อยอันดับแรกได้เกือบครบแล้ว!”

“ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน เจ้าบ้านี่มันคลั่ง! ชีหยูแห่งเผ่ากรุงมังกรนั้นเริ่มท้าขุนเขาเมื่อราวสองร้อยปีก่อนและไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ใครแต่สุดท้ายแล้วก็ยังพ่ายให้แก่มันคนนี้ มันจะบ้าเกินไปแล้ว!”

“เป้าหมายแรกที่มันเริ่มท้าขุนเขานั้นคือเผ่ากรุงมังกรและเอาชนะยอดฝีมือติดอันดับสามคนไปต่อเนื่อง! หลังจากเอาชนะชีหยูได้แล้วมันก็เดินทางออกไปท้าทายพวกที่ติดสิบอันดับและสุดท้ายก็เอาชนะมาได้สิ้น! เจ้าบ้านี่มันโผล่ขึ้นมาจากนรกขุมไหนกัน?”

“เจ้าหมอนี่มันเป็นสัตว์ประหลาด ดูอย่างไรก็เป็นมนุษย์แต่กลับมีสายเลือดถึงระดับสวรรค์แห้ง น่ากลัวเกิน!”

“ข้าได้ยินมาว่าเป้าหมายต่อไปของมันคือเผ่ามังกรนรกของเรา!”

“เฮอะ ไม่ว่ามันจะเก่งมาจากไหนมันก็ไม่มีทางเอาชนะหลงยี่ได้หรอก! หลายปีที่ผ่านมานั้นมันมีดาวรุ่งกี่คนคิดท้าทายเขา? แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้กลับไปสิ้น! ท่านหลงยี่นั้นคือตัวตนที่ไร้พ่ายในอาณาจักรมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้ว!”

“เรื่องนั้นมันแน่นอน! แค่ไอ้เด็กนี่คนเดียวมันก็กล้ามาท้าทายตำแหน่งท่านหลงยี่ ดูอย่างไรก็เรื่องไร้สาระ!”

สองปีได้ผ่านไปแล้วตั้งแต่ที่เย่หยวนเอาชนะชีหยูมาได้

สองปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้ไปท้าขุนเขาทุกที่ทางในหลายๆ เผ่าที่ทรงพลังทั่วทั้งแดนตรังค์ตะวันออกโดยไม่รู้จักคำว่าพ่ายแพ้!

ชื่อเสียงของเย่หยวนนั้นมันดังลั่นไปทั่วทั้งแดนตรังค์ตะวันออกแล้วในตอนนี้

เขานั้นแตกต่างจากคนอื่นจึงทำให้กลายเป็นที่จับตามอง

เพราะเวลาคนอื่นเริ่มท้าขุนเขานั้นพวกเขาจะไปท้าจากเผ่าเล็กๆ ก่อนแล้วค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาสู้คนเก่งๆ

แต่เย่หยวนนั้นกลับไปท้าเผ่ากรุงมังกรเป็นแห่งแรก

จากนั้นเขาก็เดินทางออกไปท้าทายสิบสุดยอดเผ่า

บ้างนั้นมีถึงคนที่ติดอันดับท้าขุนเขาห้าอันดับแรกด้วยซ้ำ!

การท้าทายเช่นนี้มันย่อมจะกลายเป็นเป้าสายตาของคนทั้งหลายอย่างไม่แปลก

แน่นอนว่านั่นคือเป้าหมายของเย่หยวน

ขึ้นไปสูงยอดของอันดับท้าขุนเขาให้เร็วที่สุด!

คำพูดของคนรอบๆ นั้นมันดังมาเข้าหูของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังเดินมาในเมือง

“ตอนนี้ในแดนตรังค์ตะวันออกมันมีแต่คนพูดถึงเรื่องของเจ้าไม่ขาดปาก เจ้าจะไม่วางท่าเสียหน่อยหรือ?

จะเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว” เฟิ่งชิงซวนกล่าวขึ้น

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วเพราะเขารำคาญหญิงนางนี้อย่างมาก

นางคนนี้ติดตามเขามาตลอดสองปีที่ผ่านและเขาก็ไม่อาจจะสลัดนางได้หลุด

เพราะว่าเรื่องราวของเขาเป็นที่จับตามองของคนทั้งแดนตรังค์ตะวันออกแน่นอนว่าถามไม่กี่คำนางก็รู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ใดหรือจะมุ่งหน้าไปไหน

หลังจากจบเรื่องวันนั้นไปแล้วนางคนนี้ยังสามารถบรรลุมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขึ้นมาได้ด้วย

ตอนนี้นางจึงยิ่งสามารถตามติดเย่หยวนได้อย่างไม่ยากลำบากนัก

“ข้าได้ยินมาว่าหลงยี่นั้นมีสายเลือดระดับสวรรค์แห้ง พลังของเขานั้นเทียบเคียงกับมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ได้! เจ้าคิดว่าตัวเองจะยังชนะเขาได้หรือ?”

“ท้าขุนเขาฤดูกาลนี้มันจะออกในสองวันใช่หรือไม่? ด้วยผลลัพธ์ที่เจ้าทำมานี้มันคงติดห้าอันดับแรกได้ง่ายๆ แน่แล้ว!”

ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นมันมีแต่เฟิ่งชิงซวนพูดอยู่คนเดียว

เผ่ามังกรนรกนั้นมันใหญ่โตอย่างมากและมีสมาชิกสุดแข็งแกร่ง พวกเขาทั้งสองนั้นเดินทางมานานกว่าจะมาถึงหน้าเผ่าจริงๆ

ตอนนี้ยอดฝีมือจากทั่วทิศต่างเดินทางมายังเผ่ามังกรนรกเพื่อที่จะรอดูการต่อสู้ระหว่างเย่หยวนและหลงยี่ทั้งสอง

เพราะฉะนั้นตอนนี้ทั้งมังกรและงูหลากหลายเผ่าพันธุ์นั้นต่างกำลังเลื้อยเข้าออกเผ่ามังกรนรกกันไม่ขาดสาย

การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้สร้างความแตกตื่นอะไรมากมายให้แก่คน

เพราะเป้าหมายที่เขาจะมาท้าขุนเขาที่นี่มันต่างเป็นที่รู้ดีของยอดฝีมือในเผ่ามังกรนรก

อันดับหนึ่งท้าขุนเขาอย่างหลงยี่และอันดับสองอย่างหวู่ฟานั้นต่างเป็นคนเผ่ามังกรนรกนี้!

ส่วนอันดับที่สามนั้นถูกเย่หยวนเล่นงานจนพ่ายแพ้ไปแล้ว!

เรื่องนี้มันไม่ได้แปลกอะไรมากมาย

เพราะสองปีก่อนตัวชีหยูที่ฝึกแปดรูปแบบห้วงมิติไปนั้นเองก็มีฝีมือเทียบเคียงกับยอดคนสามอันดับแรกได้แล้ว

เย่หยวนเอาชนะชีหยูลงได้มันย่อมจะเท่ากับเขานั้นมีฝีมือติดสามอันดับแรกได้เช่นกัน

แต่จู่ๆ มันก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในฝูงชนด้านหน้าพร้อมเสียงคนร้องประกาศ “อันดับท้าขุนเขาฤดูใหม่ออกแล้ว! อันดับท้าขุนเขาฤดูใหม่ออกแล้ว!”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็แตกตื่นกันขึ้นมาทันที

ตอนนี้แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องขมวดคิ้วแน่นเพราะว่าอันดับท้าขุนเขาอันใหม่นี้มันช่างถูกประกาศออกมาได้ถูกเวลาเหลือเกิน

การประกาศอันดับท้าขุนเขานั้นมันไม่ได้มีกฎที่ตายตัวใดๆ

และเรื่องที่ว่าใครเป็นคนประกาศออกมานั้นก็ไม่มีใครทราบ

แต่คนส่วนใหญ่นั้นเดาว่ามันคงเป็นทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ประกาศอันดับท้าขุนเขาออกมา

เพียงแค่ว่าเขาคนนั้นก็ไม่ได้ออกมายืนยันใดๆ

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวตนลึกลับที่มีคนเคยเห็นแค่หยิบมือเท่านั้น

ฮือ!

จากนั้นมันก็เกิดเสียงร่ำร้องไม่เป็นภาษาขึ้นมาจากกลุ่มคน

“เป็นไปได้อย่างไรกัน? อันดับท้าขุนเขานี่ผิดพลาดแล้ว?”

“เย่หยวนและหลงยี่นั้นยังไม่ทันได้สู้กันเลย ทำไมมันถึงได้กลายเป็นที่หนึ่งไปเสียก่อนแล้ว?”

“ไม่ยุติธรรม! นี่มันไม่ยุติธรรมเลย! ข้าขอให้เย่หยวนประลองกับหลงยี่!”

เสียงคนแตกตื่นดังลั่นขึ้นมา

เพราะที่แห่งนี้มันคือเผ่ามังกรนรกทำให้คนส่วนมากนั้นเป็นแฟนๆ ของหลงยี่

ตอนนี้คนที่พวกเขาเคารพนับถือนั้นกลับถูกเบียดลงอันดับก่อนที่จะสู้กัน

มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายไม่อยากยอมรับ

บ้างนั้นก็ถึงขั้นพูดท้าทายอำนาจของอันดับท้าขุนเขา

เย่หยวนและเฟิ่งชิงซวนได้แต่ต้องหันมามองหน้ากันและต่างฝ่ายต่างเห็นถึงความตกตะลึงในสายตาของอีกฝ่าย

เขานั้นกลับกลายเป็นอันดับหนึ่งของอันดับท้าขุนเขาไป?

เย่หยวนนั้นเดินเข้าไปซื้อเอาประกาศอันดับท้าขุนเขาออกมาดูบ้าง

เมื่อเขาก้มลงมองเขาก็ต้องเห็นชื่อของตัวเองอยู่บนสุดจริงๆ!

ส่วนนามของหลงยี่นั้นมันถูกเบียดลงไปที่สอง

แน่นอนว่านี่มันแค่ลำดับการจัดเรียงชื่อ มันไม่ได้มีตัวเลขเขียนกำกับไว้ว่าใครอันดับที่เท่าไหร่จริงๆ

ต้องมองลงไปจนถึงชื่อที่สิบเอ็ดมันถึงจะมีตัวเลขเขียนไว้

อันดับหนึ่ง หลงเล่ยแห่งเผ่ามังกรนรก!

เย่หยวนนั้นรู้จักคนผู้นี้ เขานั้นเดิมทีแล้วเป็นอันดับเก้าบนอันดับท้าขุนเขา

แต่ตอนนี้กลับถูกเบียดลงไปที่สิบเอ็ดเสียแล้ว!

เย่หยวนรู้ดีว่าชื่อที่ไม่มีตัวเลขเขียนกำกับไว้นั้นคือชื่อของคนที่ได้รับการยอมรับจากทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์และจะถูกพาไปยังเกาะมังกรสวรรค์ในไม่ช้า!

หรือก็คือความพยายามตลอดสองปีที่ผ่านมาของเขานั้นมันได้เห็นผลลัพธ์เสียที

“ข้าไม่นึกเลยว่าอันดับท้าขุนเขานั้นกลับจะจัดให้ข้าอยู่เป็นอันดับแรกไป” เย่หยวนเองก็กล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง

“ไม่เห็นแปลกอะไร อันดับท้าขุนเขานั้นมันเป็นอันดับที่จัดโดยคนแต่หลายๆ ครั้งคนก็ไม่ได้มองแค่พลังฝีมือในตอนนั้นเท่านั้น เรื่องที่เจ้าได้เป็นอันดับหนึ่งนั้นมันคงเพราะว่าคนที่จัดอันดับนี้เห็นว่าเจ้ามีอนาคตที่สดใสกว่าคนอื่นๆ จึงได้จัดให้เจ้าอยู่ที่หนึ่ง” เฟิ่งชิงซวนกล่าวอธิบาย

“เป็นเช่นนั้นเอง!”

เย่หยวนคิดดูและก็เห็นว่ามันฟังดูสมเหตุสมผลเพราะบนอันดับท้าขุนเขานั้นในสามสิบอันดับแรกมันคงมีแค่เขาเท่านั้นที่ยังเป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลาง

ที่สำคัญเขานั้นยังบรรลุสายเลือดขึ้นมาถึงระดับสวรรค์แห้งแล้ว

กอปรด้วยพลังกฎแห่งห้วงมิติเขาย่อมจะมีฝีมือที่สามารถพัฒนาได้เหนือล้ำใครๆ

การให้เขาอยู่ที่หนึ่งนั้นมันย่อมจะไม่เกินไปแม้แต่น้อย

เขานั้นมั่นใจว่าตราบเท่าที่เขาสามารถบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นปลายได้เขาก็คงสามารถเอาชนะทุกผู้คนบนอันดับท้าขุนเขานี้ได้อย่างไม่ยากเย็น

ตอนนี้สายตาของคนรอบๆ ตัวนั้นมันเริ่มไม่เป็นมิตรขึ้นมาเย่หยวนจึงตัดสินใจเดินทางกลับออกมาจากเมือง

แต่จู่ๆ มันก็มีชายแก่เดินมาบังทางเขาไว้

เย่หยวนต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาเพราะชายคนตรงหน้านี้เหมือนจะเป็นนักยุทธสายเลือด?

แต่ว่าพลังของเขานั้นสูงส่งอย่างมาก!

“เจ้าคือเย่หยวน?” ชายแก่ถามขึ้นมาราวกับว่าเขากำลังพูดกับมดปลวก

เย่หยวนพยักหน้ารับ “เป็นข้าเอง ผู้อาวุโสเป็นยอดฝีมือมาจากที่ใดหรือ?”

ชายแก่นั้นตอบกลับมา “ข้านั้นคือคนรับใช้ของท่านทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์ ข้ามาเพื่อมอบเหรียญมังกรศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้า!”

พูดจบเขาก็โยนเหรียญให้เย่หยวนและกล่าว “อีกครึ่งเดือน เจ้าเอาเหรียญมังกรศักดิ์สิทธิ์ไปที่ชายฝั่งตะวันออก!

ที่นั่นมันจะมีเรือเหาะรอรับเจ้าอยู่ พวกเจ้าทั้งหลายนั้นจะต้องแสดงเหรียญมังกรศักดิ์สิทธิ์เพื่อขึ้นเรือและถึงตอนนั้นมันก็จะมีคนมานำทางเจ้าไปยังเกาะมังกรสวรรค์เอง”

เย่หยวนเก็บเหรียญไปและโค้งหัวลงกล่าว “ขอบพระคุณผู้อาวุโส!”

ชายแก่พยักหน้ารับเหมือนพอใจกับท่าทีของเย่หยวนอยู่ไม่น้อย

แต่จากนั้นเขาก็หันมาหาเฟิ่งชิงซวน “หากแม่นางชิงซวนสนใจเรื่องราวเจ้าจะตามเขามาก็ได้ เกาะมังกรสวรรค์นั้นพร้อมรับรองคุณหนูจากตระกูลหงส์แดง”

เฟิ่งชิงซวนนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อได้ยิน “ขอบพระคุณมากผู้อาวุโส! เฟิ่งชิงซวนจะไปแน่นอน”

ชายแก่นั้นพยักหน้ารับก่อนจะเดินหายไปกับฝูงชนอีกครั้ง

เมื่อชายแก่คนนั้นเดินหายไปแล้วเฟิ่งชิงซวนก็ยิ้มกว้างกล่าวขึ้น “เห็นไหม? แม้แต่เกาะมังกรสวรรค์ยังต้อนรับข้า

เจ้าจะหนีข้าไปไหนได้อีก? ฮี่ๆ!”

แต่เย่หยวนนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นขึ้นพร้อมกล่าวถาม “เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกๆ บ้างหรืออย่างไร?”