ตอนที่ 2619 คนที่น่าสงสารที่สุดคือลูก
ฉีฉีเก๋อปิดปากเงียบไม่ปริปากพูดอะไรเลยมาตั้งแต่ต้นแค่กอดเป่ารื่อน่าไว้แน่น สาวน้อยที่น่าสงสารทำหน้าตื่นตระหนก ดวงตากลมโตมองคุณแม่อย่างสับสนเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เกิดเรื่องแบบนี้คนที่น่าสงสารที่สุดมักเป็นลูกเสมอ!
เหมยเหมยถอนใจเฮือกหนึ่งเดินไปกอดเป่ารื่อน่า มือเล็กของเจ้าหนูกำเสื้อฉีฉีเก๋อไว้แน่นแล้วส่ายศีรษะรัว ๆไม่ยอมให้เหมยเหมยอุ้ม ดวงตากลมโตน้ำตาคลอเบ้าใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“คุณแม่…”
เป่ารื่อน่าเอ่ยเรียกเสียงเบาสองมือคล้องกอดลำคอฉีฉีเก๋อ ศีรษะเล็กแนบหน้าฉีฉีเก๋อไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
“แม่อยู่นี่ แม่ไม่ไปไหนทั้งนั้น แม่จะอยู่กับเป่ารื่อน่า…ไม่ต้องกลัวนะ แม่ไม่ไปจากเป่ารื่อน่าแน่นอน!”
ฉีฉีเก๋อกระชับกอดลูกสาวแล้วหอมแก้มเล็กเธอหลายฟอด สองแม่ลูกน้ำตาไหลพรากทำเอาคนมองรู้สึกแย่จับใจ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปาดน้ำตาทีหนึ่งพลางลอบก่นด่าฉางชิงซานในใจ ไอ้สารเลวใจดำอำมหิต เป่ารื่อน่าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเขาเชียวยังใจร้ายได้ลงคอ มันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานจริง ๆ!
เหมยเหมยก็อยากร้องไห้อีกคน เธอหยิบอมยิ้มจากกระเป๋าแท่งหนึ่งมาแกะเปลือกออกยื่นให้เป่ารื่อน่าพลางพูดปลอบเสียงอ่อนโยน “ใครก็พรากเป่ารื่อไปจากแม่ไม่ได้ มีแม่บุญธรรมกับน้าเหมยอยู่ต้องไล่คนร้ายไปได้แน่ ๆ อย่ากลัวนะ!”
“อื้ม…ขอบคุณค่ะน้าเหมย!”
เป่ารื่อน่าพยักหน้า อมยิ้มช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอให้สงบลงได้บ้าง เพียงแต่ยังไม่ยอมอยู่ห่างจากฉีฉีเก๋ออยู่ดี เธอรั้นจะซุกอกฉีฉีเก๋อแล้วเอาหน้าแนบหน้าเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเจ้าหนูน้อยก็จะร้องไห้ไม่หยุด
“เวรกรรมจริง ๆ…ฉันว่าช่วงนี้ฉีฉีเก๋อไปอยู่บ้านฉันก่อนเถอะ ที่นี่ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ กลัวว่าคนหน้าไม่อายคู่นั้นจะก่อเรื่องอะไรอีก” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแอบเป็นห่วงเล็กน้อย
ในเมื่องานที่บริษัทเธอค่อนข้างเยอะไม่สามารถอยู่เฝ้าฉีฉีเก๋อได้ทุกเมื่อ อย่างวันนี้ที่ยายแก่ปีศาจมาแย่งเด็กเธอก็ไม่อาจตามมาได้อย่างทันท่วงที โชคดีเหมยเหมยไปก่อน ไม่อย่างนั้นฉีฉีเก๋อตัวคนเดียวต่อกรยายแก่ปีศาจไม่ไหวแหง
อีกอย่างเป่ารื่อน่าจะได้รับเรื่องสะเทือนใจอีกไม่ได้แล้ว เด็กเล็กขนาดนี้ต้องทิ้งบาดแผลไว้ในใจแน่ ๆ
“นั่นสิ แม่ของเธอมาอยู่เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่เห็นล่ะ?” เหมยเหมยถาม
หลายวันก่อนแม่ของฉีฉีเก๋อก็เดินทางมาอยู่กับฉีฉีเก๋อ แต่วันนี้ยายแก่ปีศาจมาแย่งเด็กกลับไม่เห็นแม่ของฉีฉีเก๋อ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ปรากฏตัว
“แม่ฉันสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ฉันเลยให้ท่านกลับบ้านก่อน พี่สะใภ้ใหญ่ของฉันบอกว่าจะมาวันพรุ่งนี้” ฉีฉีเก๋อรู้สึกผิดอย่างมาก
แม่ของเธอป่วยเพราะความโกรธล้วน ๆ เพราะเธอไม่สู้คนทำให้คนที่บ้านต้องวุ่นวาย ชีวิตก็ไม่ค่อยสงบสุขเท่าไร
“ดูเหมือนยายแก่ปีศาจจงใจเลือกเวลาที่แม่เธอไม่อยู่ ไอ้แก่หน้าไม่อาย ทำไมพระเจ้าถึงไม่ตามเก็บพวกคนชอบทำลายชีวิตคนอื่นแบบนี้ไปนะ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนด่าอย่างโมโห
ฉีฉีเก๋อเอ่ยขอบคุณ “วันนี้ขอบคุณพวกเธอมากนะ ไม่งั้น…”
เธอไม่ได้พูดต่อ เสียงเริ่มสะอื้นตาเริ่มแดงก่ำ เป่ารื่อน่าตกใจรีบดึงไม้อมยิ้มออกมายัดใส่ปากฉีฉีเก๋อ “แม่กินอมยิ้ม…”
“แม่ไม่กิน เป่ารื่อน่ากินเลย!” ฉีฉีเก๋อกลั้นน้ำตาไว้แล้วเค้นรอยยิ้มออกมา เป่ารื่อน่าถึงค่อยวางใจแล้วทานอมยิ้มอย่างเอร็ดอร่อย
“ต้องหย่าให้ได้ ถ้ายังใช้ชีวิตกับคนแบบนี้ต่อไปต้องไม่ดีต่อการเติบโตของเป่ารื่อน่าแน่ อีกอย่างเธอส่องกระจกดูตัวเองสิ เพิ่งเรียนจบมาได้แค่สามปีก็กลายเป็นคุณป้าตามท้องตลาดไปแล้ว!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเห็นเสื้อผ้าสีหม่นบนตัวฉีฉีเก๋อก็นึกโมโหทุกที
เมียน้อยหน้าด้านนั่นแต่งตัวสดใสกว่าฉีฉีเก๋อมากโขซึ่งใช้แต่เงินฉางชิงซานทั้งนั้น แต่ความจริงควรเป็นเงินของฉีฉีเก๋อต่างหาก!
……………………..
ตอนที่ 2620 ไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด
ฉีฉีเก๋อก้มมองเสื้อตัวนอกสีเทาหม่นของตัวเองแวบหนึ่ง นี่เป็นเสื้อที่เธอเสียเงินหนึ่งร้อยยี่สิบหยวนซื้อมาจากตลาดขายเสื้อผ้า ไม่นับว่าถูกมากแต่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้ายี่ห้อดีอะไร นี่เป็นแค่เสื้อผ้าที่คนทั่วไปสวมใส่กันเท่านั้น
เพราะเธอคิดว่าฐานะบ้านยากจนมีเงินแค่ห้าพันหยวนทุกเดือน หักค่าน้ำค่าไฟค่าเดินทางรวมถึงค่าขนมค่าเสื้อผ้าของเป่ารื่อน่า เธอไม่เคยประหยัดเงินที่ต้องใช้กับลูกและนั่นเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ที่สุดของบ้าน
หักค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปก็เหลือเงินจากห้าพันไม่เท่าไร เธอจะทำใจยอมเสียเงินซื้อเสื้อผ้าราคาแพงให้ตัวเองอย่างไรไหว แค่สวมใส่ได้ปกติก็พอ ส่วนเครื่องประดับเครื่องสำอางต่าง ๆเธอไม่ชอบมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงช่วยประหยัดไปมากทีเดียว
แต่พอเห็นความสดใสของเจินหวานหว่านพลันฉีฉีเก๋อก็รู้สึกว่า…เธอเหมือนตัวตลก!
เป็นตัวตลกอย่างแท้จริง!
“ตอนนี้ฉันแค่อยากรีบ ๆหย่า ไม่อยากใช้ชีวิตกับเขาแม้แต่วันเดียว” ฉีฉีเก๋อพูดด้วยเสียงเคียดแค้น
“ต้องค่อยเป็นค่อยไปจะรีบร้อนไม่ได้ รอฉันกับเหมยเหมยรวบรวมหลักฐานครบค่อยฟ้องศาล ไปทีละก้าว อย่างไรเสียก็จะให้ครอบครัวหน้าไม่อายนั่นเอาเปรียบไม่ได้” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดปลอบ
ฉีฉีเก๋อลังเลครู่หนึ่งก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา “ความจริง…ฉันแค่อยากรีบ ๆหย่าไป บ้านกับเงินพวกนั้นก็ปล่อยมันไปเถอะ พ่อฉันเก็บเงินไว้ให้ฉันไม่น้อย อีกอย่างท่านก็ซื้อบ้านไว้ให้ฉันสองชุด หลังหย่าไปฉันค่อยหางานทำ แบบนี้คงพอเลี้ยงเป่ารื่อน่าได้แหละ”
เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินทองมานานแล้ว เงินเหล่านั้นของฉางชิงซานอาจเป็นเงินก้อนมหาศาลสำหรับคนอื่น แต่ในสายตาของเธอกลับเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ใช่เรื่องนักหนาอะไรและไม่ได้กระตุ้นความต้องการของเธอเลย
‘เพี้ยะ’
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฟาดหลังเธอทีหนึ่งแล้วตะคอกด่า “เธอใจกว้างสินะ? นั่นบ้านสามหลังกับเงินแปดแสนเชียว พอให้เธอกับเป่ารื่อน่าใช้ชีวิตสุขสบายไปทั้งชาติแล้ว อีกอย่างของพวกนี้เดิมทีก็เป็นของเธออยู่แล้ว ทำไมเธอไม่แย่ง? เธอคิดว่าเธอไม่แย่งแล้วฉางชิงซานจะสำนึกบุญคุณเธอเหรอ? ถุย ยัยโง่…ลับหลังคนอื่นเขาต้องหัวเราะเยาะว่าเธอโง่เหมือนหมูแล้วคิดจะฆ่าเธอไปย่างกินแหง ๆ!”
“ฉัน…ฉันแค่ไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ ฉันแค่อยากรีบไปจากคนชั่วน่าขยะแขยงนั่นเร็ว ๆ!” ฉีฉีเก๋อกอดศีรษะคอยหลบฝ่ามือเหล็กของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน
“เธอไม่เอาเงินพวกนี้มันน่าขยะแขยงยิ่งกว่า เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? แม่พระเหรอ? คนเขามีแต่จะคิดว่าเธอเป็นหมู!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนด่าจนตาลุกเป็นไฟพลางมองอีกฝ่ายอย่างเจ็บใจ
เหมยเหมยห้ามเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่จวนจะระเบิดไว้แล้วผ่อนน้ำเสียงพูดช้า ๆ “ฉีฉีเก๋อเธอต้องคิดแบบนี้ ถ้าเธอไม่แย่งสมบัติพวกนี้ไว้ รอเธอหย่าไปสมบัติพวกนั้นก็จะตกเป็นของเมียน้อยกับลูกชายของหล่อน เธอต้องคิดให้ดี เมียน้อยกับลูกชายของหล่อนอาศัยในบ้านของเธอ ใช้เงินของเธอ นอนกับผู้ชายที่เคยเป็นของเธอ…”
“ผู้ชายไม่เท่าไหร่ยกให้นังจิ้งจอกนอนกกตามสบายเถอะ แต่บ้านกับเงินจะปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยแทรก
ฉีฉีเก๋อเริ่มคิดตาม เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้มาก่อน แต่พอฟังเหมยเหมยพูดเอาตอนนี้ใจเธอก็เจ็บจี๊ด อารมณ์บางอย่างพุ่งพรวดขึ้นมา
เหมยเหมยพูดถูก ทำไมเงินของเธอถึงต้องเอาไปให้เมียน้อยล่ะ?
ของพวกนั้นเป็นของเป่ารื่อน่า ใครก็อย่าคิดจะแย่งกับลูกสาวเธอทั้งนั้น!
“ได้…ฉันจะไม่เหลือให้พวกเขาสักแดงเดียว!” ฉีฉีเก๋อกัดฟันแน่นดวงตาเป็นประกายเหมือนย้อนกลับไปเป็นสาวน้อยไฟแรงกล้าในอดีตอีกครั้ง
“ใช่…ห้ามใจอ่อนกับพวกชายโฉดและเมียน้อยเด็ดขาด!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกล่าว
“ให้สองคนนี้ไสหัวไปตัวเปล่าเลย!”
เหมยเหมยยื่นมือแปะมือกับเพื่อนอีกสองด้วยอารมณ์ฮึกเหิม!
……………