เซวียนจิงหยุนชอบหญิงงาม นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนในจินเฮ่าซิงรู้กันดี

“คารวะท่านชายเซวียน” จอมยุทธ์วัยกลางคนทั้งสองประสานมือคารวะเซวียนจิงหยุนที่นั่งอยู่บนรถม้าปีกฟ้ากลางอากาศ

เซวียนจิงหยุนพยักหน้าเบา ๆ “พวกเจ้าทั้งสองข้าพอจะจำได้ ในเมื่อบังเอิญเจอเข้ากับข้าแล้ว พวกเจ้าทั้งสองก็ไสหัวไปเถอะ。”

เซวียนจิงหยุนพูดเรียบง่ายมาก บอกให้ผู้อื่นไสหัวไปได้หน้าตาเฉยเช่นนนี้ ทำให้จอมยุทธ์วัยกลางคนทั้งสองคนหน้าเขียวขึ้นมา

แต่ว่าพวกเขาก็ไม่กล้าต่อกรกับเซวียนจิงหยุน หมุนตัวเดินหายไปโดยไม่พูดสิ่งใดสักคำ

“ขอบคุณท่านชายเซวียน”

เมื่อเห็นเซวียนจิงหยุนพูดแค่สองสามประโยคก็สามารถทำให้ยอดฝีมือที่มีผลการฝึกตนกึ่งมกุฎเทพถอยไปได้ ในใจของฉียู่หรงกลับไม่ได้วางใจลงเลยแม้แต่น้อย

ความฝักใฝ่ในกามของท่านชายเซวียน มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วจินเฮ่าซิง ฉียู่หรงอยู่ที่จินเฮ่าซิงมาก็เนิ่นนานแล้ว จะเป็นไปได้หรือที่จะไม่เคยได้ยินคำพูดเช่นนี้?

“เฮอ ๆ เจ้าดูเหมือนจะเกรงกลัวข้าเหลือเกิน?” เซวียนจิงหยุนเผยรอยยิ้มบนใบหน้า ยิ้มและพูดอย่างสุภาพ

“ข้าเพียงแค่ประหม่านิดหน่อย ขอบคุณท่านชายเซวียนที่ช่วยชีวิตข้า” ฉียู่หรงกล่าวด้วยความเคารพ

“แม่นางเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าสงสัยว่าเจ้าจะถอดผ้าคลุมหน้าออก ให้ข้าได้ยลโฉมสักนิดได้หรือไม่?” เซวียนจิงหยุนเขาหรี่ตาลงและพูด ในไม่กี่คำ เขาก็ได้เผยสัญชาตญาณที่แท้จริงของเขาออกมาแล้ว

สำหรับเขา โดยปกติแล้วเขาไม่มีทางที่จะมองผิดว่าแม่หญิงคนหนึ่งใช่แม่หญิงชั้นยอดหรือไม่ ถ้าเอาผ้าคลุมหน้าออกแล้วความงามนั้นอยู่ในกลุ่มธรรมดา เซวียนจิงหยุนก็จะหมุนตัวกลับไป ถือเสียว่าใช้อำนาจในเรื่องดีก็แล้วกัน

แต่หากเป็นหญิงที่งดงามเย้ายวนผู้คนทั้งเมือง นั่นก็ต้องเป็นอีกเรื่องหนึ่งแน่นอน

เมื่อเห็นว่าหลังจากที่พูดจบ อีกฝ่ายกลับไม่ได้รีบร้อนถอดผ้าคลุมออกเป็นเวลานาน เซวียนจิงหยุนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ,“ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ครั้งหนึ่ง คำขอที่ง่ายดายเช่นนี้ แม่นางก็ยังไม่ยินยอมให้ข้าหรือ?”

ฉียู่หรงได้ยินคำพูดเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ค่อย ๆ ยกมือขึ้น ถอดผ้าคลุมหน้าออก

รูปลักษณ์ของนาง แม้แต่หลัวซิวในตอนนั้นก็ยังมอบการประเมินไว้สูงมาก ความงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ สามารถเคียงคู่กับเสิ่นปิงหยูซึ่งเยือกเย็นราวกับเทพธิดา ได้โดยไม่ถูกกลืน

ในช่วงหลายวันมานี้ ฉียู่หรงไม่ได้ให้ความสนใจกับการแต่งกายของตนเลย แต่ด้วยความงดงามประเภทนี้ของนาง โดยไม่มีเครื่องแต่งกายแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรก็ยังคงมีความงามที่บริสุทธิ์จนถึงที่สุดอยู่ นาทีนั้นทำให้เซวียนจิงหยุนท่านชายผู้ฝักใฝ่ในกามมองจนเหม่อลอย

ผ้าคลุมหน้าถูกถอดออก เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น ฉียู่หรงก็สวมผ้าคลุมกลับอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณท่านชายอีกครั้งที่ช่วยข้าไว้ ข้าขอตัว”

ระหว่างพูดคุย ฉียู่หรงก็รีบหนีห่างไปด้วยความตื่นตระหนกเล็ก ๆ หลังจากเลี้ยวไปตามตรอกสองสามรอบ ร่างนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ท่านชาย? ท่านชาย?……”

เหล่าผู้หญิงที่น่าหลงใหลและมีเสน่ห์มากมายข้างกายเซวียนจิงหยุนเรียกเขาอย่างแผ่วเบา พร้อมกับเอามือผลักเขาเบา ๆ

“อ๊ะ?”

เซวียนจิงหยุนได้สติขึ้น ในตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่งดงามราวกับเทพธิดาจุติได้หายไปแล้ว

“เทพธิดาท่านนั้นเล่า?” เซวียนจิงหยุนมองหาไปทั่วทั้งสี่ทิศ เหล่าผู้หญิงรอบตัวเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักไม่หยุด。

“แม่นางผู้นั้นช่างงดงามราวกับเทพธิดาจริง ๆ ท่านชายเผลอมองจนเหม่อลอยไปก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”

“ใช่แล้ว แม่หญิงที่งดงามเช่นนี้ช่างหาได้หายากยิ่ง ท่านชายพบความสุขเข้าแล้ว”

“ที่จินเฮ่าซิงแห่งนี้ ไม่ว่าแม่นางผู้ใดที่ถูกท่านชายหมายปอง ก็ถูกกำหนดให้เข้ามายังอ้อมแขนของท่านชาย ยิ่งไปกว่านั้นหากสามารถได้รับความเอ็นดูจากท่านชาย สำหรับแม่หญิงทุกคนแล้ว นั่นถือเป็นพรแห่งโชคชะตาที่มีความสุขที่สุดในสามโลก”

คำพูดเยินยอมากมายถามโถมเข้ามาไม่หยุด ทำเอาท่านชายเซวียนจิงหยุนผู้นี้แทบจะลอยขึ้นไปเป็นเซียนอยู่รอมล่อ ช่างเพลิดเพลินเหลือเกิน

ถ้าหากเป็นผู้ชายชมเชยผู้ชาย สภานการณ์คงไม่เป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม การชมเชยและชื่นชมจากเพศตรงข้าม ต่างก็จะทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความสำเร็จไปโดยปริยาย

……