ถึงแม้จีเสวียนคงจะสามารถช่วยเขากลั่นยาเซียนระดับเจ้ายุทธจักร ทว่าการฝึกตนบนวิถียุทธ์ หลัวซิวอยากก้าวไปข้างหน้าด้วยการพึ่งพาตัวเองมากกว่า การสนับสนุนจากผู้อาวุโสสามารถทำให้เส้นทางของตัวเองราบรื่นมากกว่าเดิมได้ก็จริง แต่ในขณะเดียวกันมันก็จะทำให้ตนเองขาดแคลนการขัดเกลาและอุปสรรคเช่นกัน และส่งผลให้วิถียุทธ์ไม่งดงามสมบูรณ์แบบ

ในเมื่อได้ตั้งปณิธานว่าจะแสวงหาขั้นสูงสุดของวิถียุทธ์แล้ว หลัวซิวจึงเข้มงวดต่อตนเองมาก ๆ ยืนหยัดว่าทุกย่างก้าวที่ก้าวออกไปล้วนต้องทำให้รากฐานของตนเองแข็งขัน และทำให้วิถีแห่งยุทธ์ในอนาคตของตัวเองสามารถเดินได้ยาวไกลมากขึ้น

ในเมื่อมีแผนการในใจแล้ว หลัวซิวจึงไม่มีความลังเลใจใด ๆ อีก ทิ้งฉียู่หรงและหนิงหานยู่ที่หลับลึกอยู่ในม่านแสงคุ้มกันจากกฎชีวิต ก่อนที่จะเขาผนึกเป้าหมายไปที่ส่วนที่ลึกยิ่งกว่าในเทือกเขาวายุเปราะ

……

ในขณะที่ร่างหลัวซิวกำลังเพ็ญตนและขัดเกลาวิธียุทธ์ของตนอยู่ในเทือกเขาวายุเปราะ เนื่องจากข่าวคราวที่แพร่งพรายออกไปจากแดนเทวนิรันกาล ทำให้ทุกมุมในโลกาทั้งสามพันในจักรวาลต่างโกลาหลวุ่นวายและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้

สิ่งที่ทำให้ผู้คนเฝ้าติดตามมากที่สุดก็ต้องเป็นจุดจบของภัณฑ์เซียนล้ำค่าทั้งสามชิ้นในแดนเทวนิรันกาลอยู่แล้ว รองลงมาบุคคลที่น่าจับจ้องมากที่สุดก็คือบุตรผู้ภาคภูมิของสวรรค์ที่ถูกเรียกว่าดาวร้ายชุดคลุมยาวดำ!

โอรสคนโปรดของสวรรค์คือบุตรผู้ภาคภูมิของสวรรค์ โดยส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึงผู้ที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง และผู้ที่มีความปราดเปรื่องอย่างอัศจรรย์โดยเฉพาะ

จากข่าวคราวที่สำนักจักรพรรดิและแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้รับ ราวกับว่าภัณฑ์เซียนล้ำค่าทั้งสามชิ้นในแดนเทวนิรันกาลล้วนเกี่ยวข้องกับดาวร้ายชุดคลุมยาวดำนั่น

ลำดับแรกสิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือกระบี่ตรีภพ สำหรับสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้นั้น อัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศจำนวนมากในแดนเทวนิรันกาลต่างเคยแก่งแย่งกันหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน ตอนแรกเริ่มมันถูกครอบครองโดยบัตรผู้ภาคภูมิของสวรรค์ในตระกูลหง โอรสสวรรค์โชคลาภ ทว่าต่อมากลับถูกดาวร้ายชุดคลุมยาวดำนั่นแก่งแย่งไปต่อหน้าต่อตาทุกคน

นอกเหนือจากนี้ ข่าวลือเล่ากันว่าหินนิรันดร์ก็ถูกครอบครองโดยดาวร้ายชุดคลุมยาวดำนั่นเช่นกัน

สุดท้ายก็คือดอกถานฮวาเทียนเต้า ในฐานะที่เป็นสมบัติที่ลึกลับที่สุดในบรรดาภัณฑ์เซียนล้ำค่าทั้งสามชิ้น เล่ากันว่ามีความเร้นลับของกฎเวลาแฝงซ่อนอยู่ภายใน กลีบดอกถานฮวาเก้ากลีบก็ถูกครอบครองโดยดาวร้ายชุดคลุมยาวดำ ใบเซียนเทียนเต้าอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือนั้น ถูกครอบครองโดยผู้สืบทอดของเขาดึกดำบรรพ์

ด้วยเหตุนี้หลังจากอัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศจำนวนมากออกมาจากแดนเทวนิรันกาลแล้ว เมื่อสำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทราบข่าว จึงเริ่มตรวจสอบความเป็นมาและตัวตนของดาวร้ายชุดคลุมยาวดำนั่นในทันที

แต่ทว่าโลกาทั้งสามพันในจักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากเพียงใด จำนวนสำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์มีนับหมื่น การที่อยากตรวจสอบตัวตนและความเป็นมาของคนคนหนึ่งนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย

ฝั่งมหาโลกายอดอัมพร นอกจากหลัวซิวสามารถมีชีวิตรอดกลับมาคนเดียวแล้ว อัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศคนอื่น ๆ ล้วนเสียชีวิตอยู่ในแดนเทวนิรันกาล นี่จึงทำให้หอยอดอัมพรและแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายต่างโกรธเกรี้ยวและเจ็บใจมาก ๆ

มีอัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นที่มีชีวิตรอดกลับมาจากแดนเทวนิรันกาล ได้ทำการบรรยายรูปประพันสันฐานและวาดภาพดาวร้ายชุดคลุมยาวดำและสตรีที่อยู่ข้างกายเขา ซึ่งเจ้ายอดยอดอัมพรก็ได้รับหนึ่งฉบับเช่นกัน

“นะนี่คือ……”

ภาพวาดภายในม้วนหยก เขาไม่มีทางดูออกอยู่แล้วว่าดาวร้ายชุดคลุมยาวดำนั่นคือหลัวซิว แต่จีเสี่ยวจื่อที่ติดตามอยู่ข้างกายหลัวซิวกลับถูกเจ้าหอยอดอัมพรจำได้ในทันที

ในความเป็นจริงแม้แต่ตัวหลัวซิวเองก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าตัวตนจะถูกเปิดเผยเร็วขนาดนี้ ที่สุดแล้วถึงแม้เขาจะทำการวางแผนมาไม่น้อย ทว่าสุดท้ายก็มีจุดที่ไม่รอบคอบอยู่ดี

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

เจ้าหอยอดอัมพรมองม้วนหยกบนมืออย่างเหลือเชื่อ ตกลงจีเสี่ยวจื่อนั่นเข้าไปได้อย่างไร?

ต้องท้าวความก่อนว่าทุกมหาโลกา อย่างมากสุดก็ส่งคนเข้าไปภายในได้เพียงสิบคนเท่านั้น หลังจากผ่านการทดลองและอนุมานครั้งแล้วครั้งเล่า จำนวนตัวเลขนี้ถือเป็นขีดจำกัดแล้ว

มาตรแม้นว่าเป็นสำนักจักรพรรดิจ้านเทียนที่มีมหาจักรพรรดิยุทธ์ปกปักรักษา มากสุดก็ส่งมกุฎเทพเข้าไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ทว่าไม่มีทางส่งนักยุทธ์เข้าไป 11 คนได้แน่นอน