ตอนที่ 3495

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3495 : อีก 4 เทพสงคราม 5 ดารา!

 

ท่ามกลางสาตาที่จับจ้องมองมาของทุกคน หลิวคงอวี้ที่เผชิญหน้ากับหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ก็เป็นฝ่ายเปิดฉากลงมือ และพลังที่มันระเบิดออกมา ก็เหนือกว่าพลังที่มันเคยใช้ออกมาก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด!

 

เป็นพลังระดับยอดฝีมือของเทพสงคราม 4 ดารา!

 

“หลิวคงอวี้นั่นมันซ่อนพลังไว้จริงๆด้วย มันไม่ใช่เทพสงคราม 4 ดาราธรรมดาๆ!”

 

“มันเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 4 ดาราจริงๆหากก่อนหน้านี้หลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่ได้ซ่อนพลังเอาไว้คงไม่อาจสู้มันได้ แต่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่พ้นต้องซ่อนพลังเอาไว้เช่นกัน!”

 

ในขณะที่อัจฉริยะเริ่มซุบซิบคุยกัน หลิวคงอวี้กับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ได้ประมือกันแล้ว ตอนแรกมันก็ปะทะกับหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอย่างดุเดือดและเป็นฝ่ารุกไล่มีเปรียบ เพราะหลิงเจวี๋ยอวิ๋นยังคงใช้ พลังระดับเทพสงคราม 4 ดาราทั่วๆไปอยู่

 

“อัจฉริยะที่วิหารเชิงอ่าวปลูกฝังมา นับว่าไม่เบาเลยทีเดียว…”

 

หลิงเจวี๋ยอวิ๋นกล่าวออกมาด้วยยน้ําเสียงเฉยเมย และไม่ได้ดังอะไรมากมาย ทว่าทุกคนที่จับตาดูการประลองระหว่างมันกลับหลิวคงอวี้ย่อมได้ยินชัดเจน และทุกคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะ ไม่มีใครโง่เขลา จึงทราบดีว่าคําพูดของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นได้ผสานพลังอันลึกล้ําเอาไว้

 

“แต่มันจบแล้ว”

 

หลังผ่านไป 30 กระบวนท่า หลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็ปริปากก่าวคําอย่างไม่รีบไม่ร้อนอีกครั้ง ขณะเดียวกันพลังแห่งความตายทั่วร่างก็ลุกโชนขึ้นมาปานเพลิงไฟ จากนั้นร่างแยกแห่งความตายก็หวนคืนสู่ร่างของหลิงวเจวี่ยอขึ้น ทันใดนั้นเองไอพลังสีดําสนิทเปี่ยมล้นไปด้วยจิตอํามหิตอันน่ากลัวกระเบิดออกมาปกคลุมทั่วร่างอย่างน่ากลัว คนคล้ายกลับกลายเป็นยักษ์ตัวเขื่องในพริบตา

 

จากนั้น ในมือของักษ์ตัวเขื่อง ก็ปรากฏไอพลังแห่งความตายพุ่งมาควบรวมก่อเกิดเป็นเคียวแห่งความตายอันมหึมา!

 

“เคียวยมทูต!”

 

หลายคนย่อมสังเกตเห็นได้ไม่ยาก ว่านั่นไม่ใช่แค่ความลึกซึ้งเคียวยมทูตธรรมดา ทว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นได้ผสานความลึกซึ้งของกฎแห่งความตายประการอื่นๆเอาไว้ด้วย!

 

“นั่นไง! เป็นหลิงเจวี๋ยอวิ๋นซ่อนพลังอันร้ายกาจเอาไว้จริงๆด้วย!”

 

การคาดเดาก็เรื่อง การเห็นกับตาก็อีกเรื่องหนึ่ง พอหลิงเจวี๋ยอวิ๋นเผยพลังที่ซ่อนอยู่ออกมา สองตาผู้ชมก็ลุกวาวจ้าขึ้นมาทันที ใจยังเต้นรัวไปด้วยความคึกคัก มองจ้องเรื่องราวเบื้องหน้าไม่วางตา

 

ขวับ!!

 

เคียวยมทูตพอพุ่งเข่นฆ่าออกไป ความว่างเปล่าโดรอบก็สั่นสะเทือน ราวกับห้วงมิติอาจพังทลายลงได้ทุกเมื่อ

 

หลังคงอที่ตกเป็นเป้าสังหารของเคียวแห่งความตาย ก็เร่งปะทุพลังพวกายหลบหลีกทันที

 

อย่างไรก็ตาม เคียวแห่งความตายราวกับมีระบบนําวิถี ไม่ว่ามันจะหลีกหลบฉากร่างอย่างไร ก็ไม่อาจหลีกหนีคมเคียวได้พ้น!

 

“หยุดให้ข้า!!”

 

สุดท้ายหลิวคงอวี้ก็ได้แต่ร่ําร้องออกมาเสียงดังปานคําราม รวมรั้งพลังทั้งหมดเพื่อต้านทานปะทะกับเคียวยมทูตที่หมุนคว้างแหวกอากาศเข้ามาปานกงจักรสังหารซึ่งๆหน้า!

 

อย่างไรก็ตาม เคียวยมทูตของหลิงเจวี๋ยอวิ๋น คล้ายได้รับพลังอํานาจจากเทพแห่งความตายหนุนเสริม ไม่ว่าพลังของหลิวคงอวี้จะดุดันกล้าแข็งเพียงใด ก็ถูกบดขยี้ทําลายลงราบคาบ ทําได้แค่ลดทอนพลังสภาวะของเคียวอันเขื่องให้ถดถอยลงเท่านั้น!

 

ทว่าสภาวะพลังที่ถดถอยลง มันช่างเล็กน้อยจนไม่อาจนับเป็นอะไรได้

 

“ยอมแพ้เสีย…”

 

ทันใดนั้น ฉีคงไห่ รองจ้าววิหารเฟิงฮ่าวสาขาหลัก ผู้ที่ควบคุมกํากับการประลองสึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้ ก็ส่งเสียงผ่านพลังไปถึงหูหลิวคงอวี้ “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน”

 

“พวกเราจัดให้เจ้าพบเจอกับมัน ก็เพื่อจะหยั่งวัดพลังฝีมือของมันเท่านั้น”

 

“ตอนนี้ถือว่าเจ้าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว”

 

และในขณะที่เสียงผ่านพลังของฉีคงไม่ดังจบคํา เคียวแห่งความตายของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นก็กวาดฟันมาเจียนจะถึงตัวหลิวคงอวี้อยู่แล้ว

 

เรียกว่าทําให้ใจของผู้ที่ชมดูอยู่อดไม่ได้ที่จะเต้นรัวขึ้นมา

 

เพราะอีกเสี้ยววินาทีที่เหลือ หากหลิวคงอวี้ไม่บดขยี้ทําลายป้ายหยก เกรงว่ามันได้ตายคาคมเคียวของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นแน่

 

และในห้วงเวลาสุดท้ายระหว่างคาบเกี่ยวความเป็นความตาย ในที่สุดหลิวคงอวี้ก็บดขยี้ทําลายป้ายหยกดัง “แคร่ก” จากนั้นคนก็อันตรธานหายไปในอากาศ ปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ถูกส่งออกไปนอกสังเวียนแสงแล้ว

 

ซุ้มมม!!

 

อย่างไรก็ตามเคียวยมทูตของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอันบรรจุไว้ด้วยพลังมหาศาลปานกงจักรสังหารที่ฉีกกระชากได้ทุกสิ่ง แม้จะพบเจอกับม่านแสงกั้นสังเวียน แต่ก็พุ่งผ่านม่านแสงไปได้อย่างง่ายดาย! เข่นฆ่าไปยังร่างหลิวคงอวี้ที่อยู่นอกสังเวียนสืบต่อปานมีดวงตางอกเงย!!

 

ไม่ใช่ว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่คิดยั้งมือ เพียงแค่ไม่อาจยั้งมือได้ทัน เพราะการหายตัวไปโผล่ด้านหลังม่านแสงของหลิวคงอวี้แต่ดันอยู่ในวิถีเดิมแบบนี้ เป็นอะไรที่มันตั้งตัวไม่ทันจริงๆ! เช่นนั้นเคียวที่หมุนคว้างปานกงจักรก็ยังคงเข่นฆ่าเข้าหามันสืบต่อโดยไม่ตั้งใจ!!

 

อย่างไรก็ตาม ฉีคงไห่ที่ลอยล่องอยู่บนฟ้า เพียงพ่นลมสบถเสียงเย็นออกมาคําหนึ่ง จากนั้นมันพุ่งฝ่ามือคว้าจับอากาศธาตุ ทว่าพริบตาต่อมา ฝ่ามือพลังพลันผุดโผล่ขึ้นจากความว่างเปล่า พุ่งไปขย้ําทําลายเคียวยมทูตของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นจนสลายลงได้อย่างง่ายดาย ช่วยชีวิตหลิวคงอวี้ได้ทันท่วงที

 

หลิงเจวี๋ยอวิ๋น ชนะ!

 

หลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่ลอยร่างกลางอากาศ ชุดคลุมโบกสะบัดหยอกเย้าสายลม ตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจของทุกผู้คน!

 

เพราะมันได้เปิดเผยพลังเทพสงคราม 5 ดาราออกมาอีกคน!

 

“จนถึงตอนนี้ มีผู้ที่เปิดเผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมากี่คนแล้วนะ?”

 

เหล่าอัจฉริยะบนอัฒจันทร์ที่นั่งโดยรอบรู้สึกคึกคักอักโขนัก

 

“โจวกู้ยอวี่ ถังซานเปา ต้วนหลิงเทียน โจวหย่งฉี หลิงเจวี๋ยอวิ๋น และเหมือนจะมีอีก 2-3 คนที่คาดว่าน่าจะเป็นเทพสงคราม 5 ดาราเช่นกัน”

 

“เช่นนั้นไม่ใช่ว่าศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้เผลอๆอาจจะมีเทพสงคราม 5 ดาราถึง 10 คน หรือไม่ก็อาจจะมากกว่า 10 คนเลยรีไร?”

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น”

 

ถึงแม้จะเคยมีศึกอัจฉริยะสวรรค์ที่ปรากฏเทพสงคราม 5 ดารา 10 คนหรืออาจจะมากกว่านั้นอยู่บ้าง แต่ก็เกิดขึ้นน้อยนัก

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แค่ช่วงที่ 2 ของศึกอัจฉริยะสวรรค์รอบที่ 5 ก็ปรากฏตัวตนที่เป็นเทพสงครามดาราออกมาหลายคนแล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกหลายคนที่คาดว่าน่าจะเป็นเทพสงคราม 5 ดาราอีก!

 

“ให้ตายเถอะ ดูท่าศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้อาจจะมีเทพสงคราม 5 ดาราเกิน 10 คนจริงๆ!”

 

หลายคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา อย่างไรก็ตามในแววตาพวกมันก็ฉายชัดถึงความคาดหวังไม่น้อย

 

และไม่ใช่แค่อัจฉริยะเท่านั้นที่รู้สึกแบบนี้ กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์หรือคนของวิหารเฟิงฮาวเองก็คาดหวังเช่นกัน

 

“พี่น้องหลิงเจวี๋ยอวิ๋น ที่แท้ท่านเป็นเทพสงคราม 5 ดาราจริงๆด้วย”

 

หลังหลิงเจวี๋ยอวิ๋นกลับมานั่งที่ ก็เป็นถังซานเปาที่โพล่งออกมาก่อนใคร แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้แปลกใจอะไรที่หลิงเจวี๋ยอวิ๋นเป็นเทพสงคราม 5 ดารา

 

ต้วนหลิงเทียนกับซูหลีก็ไม่แปลกใจเช่นกัน

 

มีแต่พวกจางเทียนโย่วทั้ง 3 เท่านั้นที่แลดูตื่นตกใจ ถึงแม้จะรู้แต่แรกว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นไม่น่าจะธรรมดาก็ตาม

 

นี่มันอะไรกันแน่?

 

ในบรรดาคน 4 คนที่นั่งรวมอยู่กับพวกมัน มี 3 คนเป็นถึงเทพสงคราม 5 ดารา!

 

ต้องทราบด้วยว่าจนถึงบัดนี้ ยังพึ่งมีเทพสงคราม 5 ดาราปรากฏตัวในศึกอัจฉริยะสวรรค์แค่ 5 คนเท่านั้น แต่ตอนนี้มี 3 คนอยู่ข้างๆพวกมัน!

 

แต่ไม่ว่าทั้ง 3 จะตกใจแค่ไหน ศึกอัจฉริยะสวรรค์ก็ยังคงดําเนินต่อไป

 

และไม่นานการประลองของอีก 4 คู่ก็จบลง

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมาอีก ทว่ามี 2 คนที่เผยพลังเทพสงงคราม 4 ดาราชนชั้นยอดฝีมือออกมา

 

“พี่น้องต้วน ถึงตาท่านแล้วแน่ะ!”

 

ไม่นานชื่อต้วนหลิงเทียนก็ปรากฏขึ้น และคู่ต่อสู้ของต้วนหลิงเทียนก็เป็นแค่เทพสงคราม 3 ดารายอดฝีมือเท่านั้น

 

อัจฉริยะที่เผยพลังฝีมือระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมาแล้ว วิหารเฟิงฮ่าวจะไม่จัดให้พบเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในช่วงนี้แน่นอน กล่าวได้ว่าการเฟ้นหา 30 ผู้แข็งแกร่งที่สุดนั้น พวกมันจะปล่อยให้เทพสงคราม 5 ดาราได้สิทธิ์ผ่านไปก่อนเลยก็คงไม่มีใครโต้แย้ง

 

อย่างไรก็ตาม พวกมันยังเลือกให้ลงประลองพอเป็นพิธี

 

“ข้ายอมแพ้”

 

ถึงแม้คู่ต่อสู้ของต้วนหลิงเทียนจะเป็นเทพสงคราม 3 ดาราชนชั้นยอดฝีมือ แต่พลังฝีมือของมันก็เก่งกาจในบรรดาเทพสงคราม 3 ดาราด้วยกันเท่านั้น แค่เทพสงคราม 4 ดารามันก็สู้ไม่ได้แล้ว นับประสาอะไรกับคนที่เคยเผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดารา

 

มันเลือกจะยอมแพ้ต้วนหลิงเทียนทันที ไม่คิดจะออกไปยังสังเวียนแสงด้วยซ้ํา

 

ต้วนหลิงเทียนจึงชนะโดยไม่ต้องสู้

 

ต่อมาก็ปรากฏชื่อถังซานเปาขึ้น และสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับต้วนหลิงเทียน วิหารเฟิงฮ่าวจัดให้มันพบเจอกับอดฝีมือเทพสงคราม 3 ดารา

 

“นี่นับเป็นอภิสิทธิ์ของเหล่าเทพสงคราม 5 ดาราหรือไม่?”

 

อัจฉริยะรุ่นเยาว์หลายคนพูดออกมาทํานองเดียวกัน

 

แต่เป็นธรรมดาว่าถึงวิหารเฟิงฮ่าวจะให้อภิสิทธิ์จริงๆ ก็ไม่มีใครคิดโต้แย้งอะไร ในเมื่อผู้อื่นมีพลังฝีมือกล้าแข็งจริงๆ หากท่านมีพังฝีมือระดับเทพสงคราม 5 ดาราบ้าง ก็ย่อมได้รับอภิสิทธิ์เช่นกัน

 

“อวี๋ตงฟาง”

 

ไม่นานนักอวี๋ตงฟางก็ถูกจับคู่ประลอง และคู่ต่อสู้ของมันก็คืออัจฉริยะที่มาจากวิหารเฟิงฮ่าวเช่นกัน ก่อนหน้าก็เปิดเผยพลังฝีมือระดับเทพสงคราม 4 ดาราออกมาแล้ว

 

“ก่อนหน้าเจ้านั่นยังไม่ได้ลงมือเต็มที่

 

ในสายตาของต้วนหลิงเทียน อัจฉริยะที่ประมือกับอวตงฟาง ก็ได้เผยให้เห็นพังฝีมือระดับเทพสงคราม 4 ดาราชนชั้นยอดฝีมือออกมา

 

แต่กระนั้น สุดท้ายก็แพ้พ่าย

 

เพราะช่วงแรกๆอวี๋ตงฟางก็เผยพลังระดับเทพสงคราม 4 ดาราชนชั้นยอดฝีมือออกมาเท่านั้น ทว่าหลังงถูกอัจฉริยะของวิหารเฟิงฮ่าวรุกไล่มากเข้า สุดท้ายก็เลือกจะเปิดเผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมา และนับเป็นครั้งแรกเลยที่มันเปิดเผยยพลังดังกล่าว

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้ากล้าปากดีกับข้าที่แท้ก็มีพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราจริงๆ

 

ต้วนหลิงเทียนฉีกยิ้มเฉยเมยบางๆ เขาไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเดาไว้แต่แรกแล้ว

 

เพราะหากอ ตงฟางไม่มีพลระดับเทพสงคราม 5 ดารา ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะพูดขู่เขาว่าจะไม่ปราณีออกมาแบบนั้น

 

“เทพสงคราม 5 ดาราคนที่ 6 ปรากฏตัวออกมาแล้ว..ศิษย์ที่แท้จริงลําดับ 3 ของจักรพรรดิสวรรค์ชวนหยวนเทียน อวี๋ตงฟาง!”

 

หลังอวตงฟางเปิดเผยพลังฝีมือระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมา มันก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมอยู่บ้าง และการปรากฏตัวขึ้นมาของเทพสงคราม 5 ดาราอีกคน ก็ทําให้บรรยากาศทวีความคึกคักขึ้น เสียงพูดคุยดังระงมปานตลาดสด

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากอวตงฟางแล้ว ก็มีเทพสงคราม 5 ดาราปรากฏตัวเพิ่มขึ้นอีก 2 คน!

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากก่อนหน้ามีโจวหย่งฉี หลิงเจวี๋ยอวิ๋น และอวตงฟาง เช่นนั้นเทพสง คราม 5 ดาราอีก 2 คนที่พึ่งเผยพลังออกมา แม้จะสร้างความฮือฮาให้ผู้คนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คึกคักเหมือนก่อน คล้ายคนดูเองก็ชินกับการปรากฏตัวของเทพสงคราม 5 ดาราแล้ว หลังๆมาก็เลยแลดูเฉยๆ

 

“8 เทพสงคราม 5 ดารา…”

 

จางเทียนโย่วอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “หากซูหลี่ตัดสินไม่ผิดหงหยวนที่เอาชนะซูหลีได้คนนั้นเป็นเทพสงคราม 5 ดาราด้วย เช่นนั้นก็จะมีเทพสงคราม 5 ดารา 9 คนเข้าไปแล้ว”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจฟังจางเทียนโย่วสักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เขากําลังมองไปยัง 1 ใน 2 เทพสงคราม 5 ดาราที่พึ่งเปิดเผยพลังออกมา

 

เจ้านั่นเองก็เป็นคนของวิหารเฟิงฮ่าวเช่นกัน ตอนแรกเขาก็สงสัยว่ามันกับอีก 2 คนน่าจะเป็นเทพสงคราม 5 ดารา…

 

ตอนนี้มันก็เผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมาจริงๆ ทําให้เขาเริ่มมีผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นไพ่ตายของวิหารเฟิงฮ่าวเพิ่มมาอีกคน

 

“จะเป็นเจ้านั่นหรือหงหยวนกันแน่

 

จากนั้นต้วนหลิงเทียนก็หันกลับไปมองหงหยวนที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของอัฒจันทร์อีกครั้ง เพราะในบรรดาอัจฉริยะนับสิบของวิหารเฟิงฮ่าว ในปัจจุบันนอกจากหงหยวนที่เอาชนะซูหลีแล้ว ก็มีแต่ชื่อหม่ารุ่ยผู้นี้ที่เผยพลังระดับเทพสงคราม 5 ดาราออกมา