ตอนที่ 2677 เจาเม่ยบ้าอะไร
เหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อมองหน้ากันพลันไม่เข้าใจว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจะทำอะไรอีก!
“เธอทะเลาะกับอิงจวี้กังเหรอ?” เหมยเหมยถาม
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนส่ายศีรษะแรง ๆแล้วตอบอย่างได้ใจว่า “จะเป็นไปได้ยังไง ตอนนี้สามีฉันหวงฉันจะแย่…”
ตั้งแต่เธอผอมลงอิงจวี้กังก็เหมือนเป็นโรคประสาท วัน ๆนึกอยากผูกเธอไว้รอบเอวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง พลิกแพลงเมนูอาหารอร่อย ๆทุกวันเพราะอยากป้อนเธอให้กลับมาอ้วนเหมือนเดิม เจตนาช่างร้ายกาจนัก!
เหมยเหมยก็คิดงั้นเช่นเดียวกัน อิงจวี้กังในตอนนี้ต่อให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนออกมากับพวกเธอเกินหนึ่งชั่วโมง หมอนี่ก็จะโทรตามหยิก ๆ ตามติดแจยิ่งกว่าสมัยรักกันใหม่ ๆด้วยซ้ำ
“แล้วเธอเป็นอะไรอีก? เมื่อก่อนอยากมีลูกจะตายไม่ใช่เหรอ?” เหมยเหมยไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยิ้มแหยและรู้สึกผิดพอสมควร
“ฉันกลัวกลับไปอ้วนเหมือนเดิมนี่นา ทุกคนต่างบอกกันว่าผู้หญิงคลอดลูกก็จะอ้วนขึ้น ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะผอมลงได้ ถ้ากลับไปอ้วนอีกเสื้อผ้าใหม่ ๆที่ฉันซื้อไว้ก็ใส่ไม่ได้แล้วสิ…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกังวลมากจริง ๆ หลังจากผอมลงเธอก็นำเสื้อผ้าเก่า ๆไปบริจาคหมดแล้ว แต่ตอนนี้ตู้เสื้อผ้ากลับมาเต็มเหมือนเดิมซึ่งมีแต่เสื้อผ้าเพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ เสียเงินไปไม่น้อยเชียว!
ถ้าเธอคลอดลูก ลำพังคนอ้วนง่ายอย่างเธอต้องอ้วนขึ้นอีกสิบห้ากิโลกรัมแน่…
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่กล้าแม้แต่จะคิด เนื้อไขมันสิบห้ากิโลกรัมเชียวนะ…กองเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆได้เลย!
ถ้ามากองอยู่บนตัวเธออีก เธอก็กลับไปอยู่จุดเดิมอีกครั้งไม่ใช่หรือ?
งั้นเธอก็ต้องบริจาคเสื้อผ้าอีกสิ?
แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหตุผล เหตุผลหลักคือเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่อยากอ้วนอีกแล้ว เธอทนความปวดใจเวลาได้แต่มองคนอื่นใส่ชุดสวย ๆตาละห้อยไม่ไหวอีกต่อไป…
เหมยเหมยรู้สึกอัดอั้นอยู่ในอก อารมณ์ขุ่นมัวบางอย่างพุ่งพรวดขึ้นมาพลางปรายตามองเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอย่างเย็นชา
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตัวสะท้านเฮือกแล้วก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เธอก็รู้ว่าความคิดของตัวเองเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่…
“พวกเธอไม่เคยอ้วน ไม่เข้าใจความเศร้าของคนอ้วนอย่างเราหรอก…ถ้าให้ฉันกลับไปอ้วนเหมือนเดิม ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วจริง ๆ…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเบะปาก พอได้ลิ้มรสเป็นสาวหุ่นดีร่างเพรียว ตีให้ตายอย่างไรเธอก็ไม่อยากเป็นสาวอ้วนอีก…ถึงเธออ้วนแล้วจะไม่น่าเกลียดแต่ใครจะอยากเป็นสาวสวยร่างอ้วนกันล่ะ?
อีกอย่างตอนนี้อายุเธอไม่ถือว่ามากเพิ่งจะยี่สิบหกห่างจากอายุสามสิบอีกตั้งสี่ปี อย่างมากเธอก็สนุกไปอีกสองปีรอยี่สิบแปดปี…ต่อให้ต้องอ้วนขึ้นจริง ๆ เธอก็จะมีลูกเป็นของตัวเอง!
ให้เธอได้ใช้ชีวิตสาวร่างเพรียวอีกสักสองปีเถอะ!
“จะมีหรือไม่มีสองสามีภรรยาตัดสินใจเอง แต่เธอต้องคิดให้ดีว่าควรบอกพ่อแม่สามีเธอยังไง!” เหมยเหมยก็ไม่ได้ว่าอะไรในเมื่อเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน อิงจวี้กังยังไม่ว่าอะไรเธอก็ไม่ควรว่าอะไรเหมือนกัน
“อิงจวี้กังบอกว่าแล้วแต่ฉัน อย่างไรเสียพ่อแม่สามีฉันก็ไม่รู้ว่าฉันกำลังทานยาอยู่ อย่างมากก็แค่ทำตามแผนเดิม ผ่านเทศกาลหยวนเซียวเราก็ไปรับเลี้ยงเด็ก ชื่อเด็กฉันคิดไว้แล้ว อิงเจาตี้!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น
“พรวด!”
เหมยเหมยพ่นกาแฟในปากออกมา เจาตี้หรือ?
ช่างเป็นชื่อที่ดีจริง ๆ!
“แล้วพวกเธอจะรับเลี้ยงเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงล่ะ?”
“ก็ต้องผู้ชายอยู่แล้ว พ่อแม่สามีฉันอยากอุ้มหลานไม่ใช่เหรอ งั้นก็ต้องสนองความต้องการพวกท่านหน่อย!”
“ผู้ชายก็ชื่อเจาตี้เหรอ?” เหมยเหมยอดถามไม่ได้
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนชะงักพลันคิดว่าผู้ชายใช้ชื่อนี้ไม่ค่อยดีเท่าไรเช่นกัน คิด ๆแล้วก็เปลี่ยนชื่อใหม่ “งั้นชื่อเจาเม่ยดีไหม?”
“พรวด”
เหมยเหมยพ่นน้ำชาในปากออกมาอีกทีแล้วโต้กลับอย่างไม่สบอารมณ์นัก “เจาเม่ยบ้าอะไรล่ะ!”
ผู้ชายชื่อเจาเม่ยต้องถูกหัวเราะเยาะตายแน่!
………………………..
ตอนที่ 2678 รองพื้นสูตร DIY จากสามี
แม้เหมยเหมยไม่เข้าใจอารมณ์อยากสวยของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแต่เรื่องลูกเป็นเรื่องสองสามีภรรยา ขอแค่อิงจวี้กังไม่ว่าอะไรก็พอ เธอกับฉีฉีเก๋อเป็นแค่เพื่อน ฉะนั้นอย่าไปเสนอความเห็นอะไรมากจะดีกว่า
อิงจวี้กังเชื่อฟังเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทุกอย่าง ไม่ต้องให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนบอกก็เสนอขึ้นเองว่าเลื่อนเวลามีลูกออกไปอีกสองปี พวกเขาจะรับเลี้ยงเด็กสักคนมาให้พ่อแม่เขาทดลองเลี้ยงหลานให้สมใจ และเป็นการหาอะไรให้คนแก่ทั้งสี่คนที่รู้สึกเบื่อหน่ายทำสักหน่อย!
“พวกเธอจะไปรับเลี้ยงเด็กจริงเหรอ? ไปเมื่อไหร่?” เหมยเหมยค่อนข้างอิจฉากับความเชื่อฟังภรรยาของอิงจวี้กัง
มิน่าอดีตคนแก่มักบอกว่าลูกสาวแต่งงานไม่ควรเห็นแก่เงินทองหน้าตา ขอแค่มีความจริงใจ ผู้ชายดีกับคุณต่างหากถึงสำคัญที่สุด!
อิงจวี้กังหน้าตาธรรมดาครอบครัวฐานะยากจนแต่มีความสามารถอยู่เล็กน้อย ทว่าเมืองที่มีคนมากความสามารถแน่นขนัดอย่างเมืองหลวงข้อดีจุดนี้ก็ยังไม่พอด้วยซ้ำ
แต่อิงจวี้กังกลับมีหัวใจที่ล้ำค่ายิ่งกว่าเพชรพลอย รักเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคนเดียว ไม่ว่าจะที่บริษัทหรือที่บ้านเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นดั่งราชินีก็ไม่ปาน อิงจวี้กังมักตามใจเธออยู่ทุกเรื่องและพกเงินติดตัวไม่เคยเกินห้าร้อยหยวน แม้แต่กางเกงชั้นในเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็เป็นคนซื้อให้
เมื่อก่อนพ่อแม่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังแอบดูถูกอิงจวี้กังอยู่บ้างมักคิดว่าลูกเขยคนนี้ธรรมดาเกินไป ไม่มีอะไรน่าชื่นชม แต่ตอนนี้พ่อแม่เหริ่นกลับพึงพอใจในตัวอิงจวี้กังอย่างมาก
เกิดเรื่องขึ้นถึงจะเห็นจิตใจคนอย่างแท้จริง!
“หลังเทศกาลหยวนเซียวก็ไปเลย พ่อแม่ฉันก็จะไปด้วย พวกท่านบอกให้ฉันรับเลี้ยงลูกสาวก่อนดีกว่ารับเลี้ยงลูกชาย พ่อแม่สามีฉันก็พูดแบบนี้” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกล่าว
“งั้นเธอก็เชื่อฟังคนแก่เถอะ อย่างไรเสียไม่ว่าจะลูกสาวหรือลูกชายในเมื่อเธอรับมาเลี้ยงแล้วก็ต้องชุบเลี้ยงเขาให้ดี ไม่ใช่ว่าพอเธอมีลูกแท้ ๆของตัวเองก็ทิ้งเด็กที่รับเลี้ยงไปล่ะ” เหมยเหมยตักเตือน
“ไม่หรอก ฉันเป็นคนใจดำอย่างนั้นเหรอ? ขอแค่มาอยู่บ้านฉัน ฉันจะเลี้ยงดูอย่างดี ลูกคนอื่นมีอะไรบ้านฉันก็ต้องมี” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลอกตาใส่ เห็นเธอเป็นคนแบบไหนกัน?
ไม่รับเลี้ยงยังพอว่า แต่ในเมื่อรับเลี้ยงก็ต้องรักราวกับลูกแท้ ๆอยู่แล้ว!
“ฉันยังคิดไม่ตกว่าควรรับเลี้ยงเด็กทารกดีหรือรับเลี้ยงเด็กที่อายุห้าหกเจ็ดขวบดี?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนชั่งใจ คนที่บ้านต่างมีความเห็นที่ต่างกันออกไปในเรื่องอายุของเด็กที่จะรับมาเลี้ยง
พ่อแม่เธอบอกว่าควรเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ๆถึงจะสนิทสนมกัน อย่าเลี้ยงเด็กที่จำความได้แล้วเพราะจะเลี้ยงไม่สนิทใจกับตน แต่พ่อแม่สามีกลับบอกว่าให้เลี้ยงที่โตหน่อยจะได้เลี้ยงง่าย ๆ ไว้อนาคตเธอมีลูกก็ยังสามารถช่วยดูแลน้องสาวหรือน้องชายได้
“อิงจวี้กังคิดยังไง?” เหมยเหมยถาม
“เขาบอกว่าแล้วแต่ฉัน ขอแค่ฉันชอบเขาก็ชอบหมด” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตอบเสียงกลั้วหัวเราะแล้วแอบหวานใส่กันอีกระลอก เหมยเหมยถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็พบว่ายายคนนี้ทาแป้งขาวกว่าปกติไม่ใช่รองพื้นสีธรรมชาติอย่างเมื่อก่อน
“เธอเปลี่ยนรองพื้นเหรอ? ยี่ห้ออะไร ขาวดี!” เหมยเหมยอดถามไม่ได้ ผู้หญิงเวลาเห็นเพื่อนด้วยกันเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่หรือเครื่องสำอางชุดใหม่ก็จะอดใจถามไม่ได้
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยักคิ้วอย่างได้ใจ ไม่เสียแรงที่เธอทามาขาวขนาดนี้ ในที่สุดเพื่อนก็สังเกตเห็นสักที
“เป็นรองพื้นชาววังสูตร DIY ของอิงจวี้กังของฉันเอง เขาบอกว่ารองพื้นที่ซื้อมามีผลเสียต่อผิวเลยศึกษาสูตรผสมรองพื้นของชาววังโบราณ ทำอยู่ครึ่งปีกว่าจะทำออกมาได้ จะว่าไปนอกจากสีไม่ค่อยเป็นธรรมชาติแล้วอย่างอื่นไม่ได้แย่ไปกว่าแบรนด์ดังเลย
เธอลองดมดูสิ…มีกลิ่นหอมมะลิด้วยใช่ไหมล่ะ? อิงจวี้กังรู้ว่าฉันชอบกลิ่นมะลิเลยเติมผงดอกมะลิธรรมชาติใส่ลงไปด้วย…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยื่นหน้ามาตรงหน้าเหมยเหมยจนเกือบชิด เหมยเหมยสูดจมูกดมก็พบว่ามีกลิ่นหอมมะลิจริง ๆด้วย
………………