บทที่ 1635 ความแข็งแกร่งของเหล่าจิ่ว

The king of War

บทที่ 1635 ความแข็งแกร่งของเหล่าจิ่ว

ในอีกด้านหนึ่ง ขณะที่หยางเฉินและหลงจิ่วกำลังจะมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์เจ้าเมืองหวยเฉิง จู่ๆ พวกเขาก็ถูกห้อมล้อมด้วยผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์สี่คน
หยางเฉินขมวดคิ้ว “พวกคุณเป็นใคร?”
ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่แต่ละคนมีพลังแห่งวิถีบู๊ระดับแดนเหนือมนุษย์เปล่งปลั่งออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าผู้แข็งแกร่ง มีพลังแห่งวิถีบู๊ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา
ส่วนผู้แข็งแกร่งอีกสามคนที่เหลือ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหก
กำลังพลเช่นนี้ เมื่อจัดวางอยู่ในกำลังพลใดๆ ก็ล้วนมีความแข็งแกร่งมหาศาล
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งถามอย่างเยือกเย็น “คุณคือหยางเฉินใช่ไหม? คุณฆ่าคนจากหุบเขาราชายาของพวกเรางั้นหรือ?”
หยางเฉินแอบแปลกใจ เขาได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาสองคนจริงๆ แต่เรื่องนี้มีเพียงเฝิงเสียวหว่าน อ้ายหลิน รวมถึงเฝิงเจียหยีเท่านั้นที่รู้
คนอื่นๆ ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาเหล่านี้ จะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
หรือว่าจะมีคนทำเรื่องนี้รั่วไหล?
แต่สองพี่น้องตระกูลซ่งก็ถูกผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิงตามไล่ล่า วิถีบู๊ก็ถูกทำลายไปแล้ว ก็ไม่น่าใช่พวกเขาที่ทำเรื่องนี้รั่วไหล
ถ้าไม่ใช่สองพี่น้องตระกูลซ่ง แล้วจะมีใครอีก?
ไม่ใช่อ้ายหลินกับเฝิงเสียวหว่านแน่นอน หรือว่าจะเป็นเฝิงเจียหยี?
จู่ๆ หัวหน้าผู้แข็งแกร่งก็ออกคำสั่ง “ฆ่าเขาซะ! ล้างแค้นให้สมาชิกหุบเขาราชายาของพวกเรา!”
ทันทีที่เขาออกคำสั่ง ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ทั้งสี่ได้พุ่งเข้ามาหาหยางเฉินและหลงจิ่วพร้อมๆ กัน
หยางเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย “ไม่เจียมกะลาหัว!”
สิ้นเสียง พลังแห่งวิถีบู๊ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขาในทันที
“ออกไปให้พ้น!”
หยางเฉินคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วเขาก็หายตัวไปจากจุดนั้นในทันใด
“ปังๆๆๆ!”
วินาทีถัดมา ผู้แข็งแกร่งสี่คนในระดับแดนเหนือมนุษย์ก็กระเด็นออกไปอย่างต่อเนื่อง
หยางเฉินขยับเท้า เขามาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหัวหน้าผู้แข็งแกร่ง เอาเท้าเหยียบหน้าอกของอีกฝ่ายแล้วถามอย่างเยือกเย็น “พวกคุณรู้ได้ยังไงว่าผมฆ่าสมาชิกหุบเขาราชายาของพวกคุณ?”
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งมีสีหน้าอับอาย กัดฟันพูดว่า “นี่คือความลับของพวกเราชาวหุบเขาราชายา คุณไม่มีสิทธ์รู้”
“ผมแนะนำให้คุณปล่อยผมดีกว่า มิฉะนั้นคุณจะต้องชดใช้ในสิ่งที่คุณกระทำลงไปอย่างหนัก”
หยางเฉินยิ้มเยาะ “รนหาที่ตาย!”
ทันทีที่สิ้นเสียง หัวหน้าผู้แข็งแกร่งก็รู้สึกได้ถึงพลังอันน่าพิศวงที่เปล่งออกมาจากหน้าอกของเขา ราวกับต้องการจะทำลายพื้นฐานวิถีบู๊ภายในร่างกายของเขา
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งกัดฟันพูดว่า “ไอ้สารเลว! ปล่อยฉันนะ!”
หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย บอกผมมา พวกคุณรู้ได้ยังไงว่าผมได้ฆ่าผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายา?”
ทันทีที่เขาพูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ย่างกรายมาถึงหน้าอกของหัวหน้าผู้แข็งแกร่ง
ในเวลานี้ หัวหน้าผู้แข็งแกร่งรู้สึกเพียงว่าร่างกายแข็งทื่อ
ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย นี่คือการบดขยี้ของพลังแห่งวิถีบู๊ เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน
พวกเขาไม่มีแรงจะตอบโต้กลับเลย
“พูด!”
หยางเฉินตะคอกใส่อีกครั้ง
ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายากัดฟันพูดว่า “ต่อให้ต้องตาย พวกเราก็จะไม่บอกคุณหรอก คุณฆ่าพวกเราเสียเถอะ!”
ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ไม่มีท่าทีว่าจะถอย ทั้งหมดมีสีหน้าเคียดแค้นชิงชัง
หยางเฉินรู้ว่าแทบไม่มีความหวังที่จะให้คนแบบนี้พูดความจริง เขาหรี่ตาพร้อมกับพูดว่า “ในเมื่อพวกคุณอยากตาย งั้นผมจะสงเคราะห์ให้!”
สิ่งเดียวที่เขากลัวในตอนนี้ก็คือ สองพี่น้องตระกูลซ่งไม่ได้สูญเสียวิถีบู๊ แต่กลับใช้วิธีการบางอย่างเพื่อเสแสร้งทำเป็นว่าถูกทำลายวิถีบู๊จนหมดสิ้น
หากเป็นแบบนี้จริงๆ อ้ายหลินและเฝิงเสียวหว่านจะตกอยู่ในอันตราย
เมื่อนานมาแล้ว สองพี่น้องตระกูลซ่งเคยเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามและขั้นสอง บัดนี้ผ่านไปนานมากแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าความสามารถของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นแล้วหรือไม่
สำหรับเฝิงเจียหยี เธอมีความสามารถเพียงระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งเท่านั้น หากสองพี่น้องตระกูลซ่งมีปัญหา เฝิงเจียหยีนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในใจหยางเฉินก็รู้สึกกังวลมากขึ้น
“เดี๋ยวก่อน!”
ขณะที่เห็นหยางเฉินกำลังจะฆ่าผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายา ทันใดนั้นเหล่าจิ่วที่นิ่งเงียบมาตลอดก็พูดขึ้นในเวลานี้
เหล่าจิ่วยังคงยิ้มแบบเดิม มองไปที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “จะให้พวกเขายอมเปิดปาก ไม่มีอะไรยากเลย”
ว่าแล้วเขาก็เดินเข้าไปหาผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาทั้งสี่
แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะ ผมแซ่เหมียว
มาจากเมืองเหมียว พวกคุณแน่ใจนะว่าจะไม่พูด?”
หลังจากได้ยินเหล่าจิ่วบอกว่าเขามาจากเมืองเหมียว สีหน้าของผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาทั้งสี่ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนเห็นสัตว์ร้ายที่น่าสยดสยอง
หยางเฉินแปลกใจเล็กน้อย เหล่าจิ่วพูดเพียงว่าเขามาจากเมืองเหมียว แต่กลับสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาที่ไม่กลัวตายรู้สึกหวาดกลัวได้?
เมืองเหมียวมีความอันตรายขนาดนั้นเชียวหรือ? ทำไมเขาไม่รู้สึกเลย?
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งกัดฟันพูดว่า “คุณอย่าแตะต้องพวกเราดีกว่า มิฉะนั้นเจ้าหุบเขาของพวกเราจะไม่มีวันปล่อยพวกคุณไป”
เหล่าจิ่วหัวเราะออกมา พลันดีดนิ้ว หยางเฉินรู้สึกถึงลำแสงสีดำกะพริบวิบวับราวกับสายฟ้า
“อา…”
วินาทีถัดมา ใบหน้าของหัวหน้าผู้แข็งแกร่งก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาร้องโหยหวนเหมือนใจจะขาด
เห็นเพียงเหล่าจิ่วที่ดูสงบนิ่งยิ้มเล็กน้อย แต่รอยยิ้มในเวลานี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรอยยิ้มยามเผชิญหน้ากับหยางเฉิน
ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาที่เหลืออีกสามคนสั่นสะท้านไปทั้งตัว เมื่อพวกเขามองไปที่เหล่าจิ่ว ราวกับได้เห็นปีศาจร้าย
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งเจ็บปวดมาก เกลือกกลิ้งอยู่กับพื้นร้องครวญคราง “ปล่อยฉันเถอะ! ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ!”
แต่ไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไร เหล่าจิ่วก็ไม่ยอมหยุดความเจ็บปวดของเขา
“ฆ่าฉันเลย! รีบฆ่าฉันเถอะ! พวกแกรีบฆ่าฉันเถอะ!”
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งขอร้องสหายทั้งสามของเขา
สหายทั้งสามมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาไม่ยอมรับความรู้สึกของหัวหน้าผู้แข็งแกร่ง แต่กลับสามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่หัวหน้าผู้แข็งแกร่งต้องทนแบกรับอยู่ในเวลานี้
ในเวลานี้ จู่ๆ เหล่าจิ่วก็โบกมือ พิษกู่บนร่างกายของหัวหน้าผู้แข็งแกร่งได้กลับเข้าสู่ร่างกายของเขา
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งหยุดร้องโหยหวน นอนราบกับพื้นหอบหายใจ ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ
เหล่าจิ่วยิ้มตาหยีพร้อมกับพูดว่า “ผมจะให้เวลาพวกคุณคิดใคร่ครวญหนึ่งนาที ว่าจะบอกพวกเราไหมว่าพวกคุณรู้ได้ยังไงว่าหยางเฉินฆ่าผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายา”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ก็ตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว โดยเฉพาะหัวหน้าผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งถูกทรมานจากยาพิษกู่ ยิ่งหวาดกลัวขึ้นกว่าเดิม
ทั้งสี่มองหน้ากันอย่างเด็ดเดี่ยว
เหล่าจิ่วคาดการณ์ไว้แล้วว่าพวกเขาจะทำอะไรบ้าง ทันใดนั้นเขาก็เคลื่อนไหว ก่อนที่ผู้แข็งแกร่งของหุบเขาราชายาทั้งสี่จะรู้ตัว ก็พบว่าขากรรไกรของตัวเองถูกปลดกระดูกออก ปากอ้ากว้างค้างอยู่ ไม่สามารถหุบปากได้ แล้วจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายหรือกัดถุงพิษที่ซ่อนอยู่ในปากได้อย่างไร?
หยางเฉินตกใจกับวิธีการต่างๆ ของเหล่าจิ่ว นี่เป็นวิธีการของผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของเมืองเหมียวงั้นหรือ?
เหล่าจิ่วน่าจะมีความสามารถอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นกลาง ขณะที่หยางเฉินมีความสามารถอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้น
แม้ว่าหยางเฉินสามารถปลดปล่อยพลังการต่อสู้ที่เทียบเท่ากับระดับกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้น แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่า เมื่อเทียบกับเหล่าจิ่วแล้ว เขาไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้เลย
ในเวลานี้เหล่าจิ่วพูดขึ้นมาว่า “หมดเวลาหนึ่งนาทีแล้ว พวกคุณน่าจะคิดทบทวนดีแล้ว ไหนตอนนี้บอกผมที สิ่งที่เขาอยากรู้ ผมจะให้ทางรอดแก่พวกคุณ