บทที่ 1638 บุกจวนเมืองหวยเฉิง
เหล่าจิ่วจ้องหยางเฉินอยู่นาน จึงพยักหน้า “ได้ ฉันจะรอนายที่โรงแรม!”
หยางเฉินพูดว่า “คุณวางใจเถอะ ผมมีอีกหลายเรื่อง ที่ยังทำไม่สำเร็จ ไม่มีทางไปตายที่จวนเจ้าเมืองหวยเฉิง แบบฟรีๆ แน่นอน”
เหล่าจิ่วพยักหน้า “ไม่ว่าอย่างไร แค่มีชีวิตรอด ถึงจะสำคัญที่สุด”
พูดจบ เขาหันหลังเดินออกไป
หยางเฉินไม่เสียเวลาต่อ ออกจากโรงแรม เรียกรถแท็กซี่ มุ่งหน้าไปยังจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง
แม้เมืองหวยเฉิง เป็นเมืองที่วิถีบู๊รุ่งเรือง แต่ในเมือง ก็มีคนธรรมดาทั่วไป อย่างเช่นคนทั่วไป ที่ขับรถแท็กซี่ประทังชีวิต
คนขับรถแท็กซี่ เป็นชายวัยกลางคน ขับพลางหัวเราะ แล้วถามว่า “พ่อหนุ่ม นายไปจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง ทำไมเหรอ ฉันเดาว่า นายคงไปหางานทำสินะ”
หยางเฉินอึ้งเล็กน้อย จากนั้นถามว่า “ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะครับ”
คนขับรถยิ้ม แล้วพูดว่า “คนที่ไปจวนเจ้าเมือง มีสามประเภทเท่านั้น ประเภทแรกคือ เป็นคนของจวนเจ้าเมืองอยู่แล้ว คนประเภทนี้ จะนั่งแท็กซี่ได้ยังไง ประเภทที่สองคือ คนใหญ่คนโตของเมืองหวยเฉิง ไปทำธุระที่จวนเจ้าเมือง ไม่นั่งแท็กซี่อยู่แล้ว แต่นายเรียกรถไปจวนเจ้าเมือง แถมยังหนุ่มขนาดนี้ นอกจากไปหางานทำ จะไปทำอะไรได้อีก คงไม่ได้ไปก่อเรื่องใช่ไหม”
หยางเฉินยิ้ม “คุณพูดผิดแล้ว ผมไปหาคน”
คนขับรถอึ้งไป “ไปหาคนเหรอ”
หยางเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง! ไปหาคน! และอาจไปก่อเรื่องด้วย”
เห็นท่าทางจริงจังของหยางเฉิน คนขับรถอดหัวเราะไม่ได้ “นายตลกจริงๆ ไปก่อเรื่องที่จวนเจ้าเมือง นายเบื่อการมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ”
หยางเฉินทำเพียงยิ้ม หลับตาลง แล้วไม่พูดอะไรอีก
อันที่จริง เขาก็จิตใจกระสับกระส่ายมาก หลงเยว่ ลูกเขยของจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง ตายคามือเขา ตอนนั้นอาจารย์ผู้ไร้นามออกหน้า เตือนจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง คนของจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง จึงไม่มาหาเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงลั่ว ซ่อนอยู่ในจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง เขาเกือบลืมไปแล้ว ว่าตัวเองเคยฆ่าลูกเขยของจวนเจ้าเมืองหวยเฉิง
อีกทั้งครั้งนี้ เขาโดนเจียงลั่ว วางพิษกู่ไร้หัวใจใส่ มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า จะเป็นแผนร้ายของภรรยาหลงเยว่
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง
แท็กซี่มาถึงหน้าคฤหาสน์ใหญ่ คนขับแท็กซี่จอดหน้าประตูคฤหาสน์ ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันส่งนายได้แค่ตรงนี้
เข้าไปข้างในไม่ได้”
หยางเฉินพยักหน้า “ไม่เป็นไร!”
พูดจบ เขาจ่ายเงิน แล้วเดินลงรถ
คนขับรถไม่ได้รีบร้อนออกไป ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกคาดหวัง หยางเฉินมาก่อเรื่องจริงหรือเปล่า
เขามองหยางเฉินเดินไปหน้าประตู แล้วโดนผู้แข็งแกร่งหลายสิบคน ของจวนเจ้าเมือง ล้อมเอาไว้
ผู้แข็งแกร่งจวนเจ้าเมืองหลายสิบคน ตอนนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม
“ฉันคือหยางเฉิน! มาเยี่ยมเยียนเจ้าเมืองหวยเฉิง!”
หยางเฉินพูดเสียงก้อง เสียงเหมือนสายฟ้า ดังก้องในหูทุกคน เสียงดังเข้าไปในคฤหาสน์
“จวนเจ้าเมืองเป็นสถานที่สำคัญ อย่าเหิมเกริม!”
ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง พูดอย่างเย็นชา
“ไสหัวออกไปจากจวนเจ้าเมืองซะ
ไม่งั้น ฆ่าไม่เว้น!”
ผู้แข็งแกร่งของจวนเจ้าเมือง
หลายสิบคน ก้าวขึ้นมาพร้อมกัน จิตวิญญาณการต่อสู้
แผ่ออกมาทั้งตัว
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น พูดด้วยเสียงเย็นชา “ไสหัวไป!”
“รนหาที่ตาย!”
ผู้แข็งแกร่งของจวนเจ้าเมือง พุ่งเข้ามาหาหยางเฉิน
หยางเฉินแววตาเยือกเย็น ขยับเท้า หายไปจากที่เดิมทันที
ขณะที่เขาพุ่งสวนตรงกลาง ของผู้แข็งแกร่งจวนเจ้าเมืองหลายสิบคนออกไป ผู้แข็งแกร่งที่มีพลานุภาพมากมายเมื่อครู่ ตอนนี้พากันล้มลงบนพื้น
บนแท็กซี่
คันที่มาส่งหยางเฉิน ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล คนขับรถเบิกตาโต
สีหน้าไม่อยากเชื่อ “เขา เขามาก่อเรื่องจริงเหรอ”
พูดจบ เขารีบสตาร์ทรถออกไปอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินไม่ได้ลงมือรุนแรง โจมตีคนพวกนั้นกระเด็น จากนั้นก้าวเข้าไปในจวนเจ้าเมือง
ในเมื่อมีคนในจวนเจ้าเมือง
ไม่ว่าอย่างไร เบื้องหลังเขายังมีอาจารย์ผู้ไร้นามอยู่
ล่อเขามา แน่นอนว่าอีกฝ่าย มีจุดประสงค์อยู่แล้ว
เขาไม่เชื่อว่าเจ้าเมืองหวยเฉิง จะไม่สนใจคำเตือนของผู้ไร้นาม และลงมือฆ่าเขา
เขามาจวนเจ้าเมืองครั้งนี้ อันที่จริงกำลังเดิมพัน เดิมพันว่าเจ้าเมืองหวยเฉิง ไม่กล้าให้เขาเป็นอะไรในจวนเจ้าเมือง
ตอนหยางเฉินบุกเข้ามาจวนเจ้าเมือง ในที่พักสุดหรูของจวนเจ้าเมือง
หญิงสาวหน้าตาสวยหวานคนหนึ่ง
อายุประมาณ 25-26 ปี ตอนนี้สีหน้าโหดเหี้ยม กัดฟันพูดว่า “เขากล้ามาจวนเจ้าเมือง
รนหาที่ตายชัดๆ!”
“คุณหนู เราแจ้งเรื่องนี้กับเจ้าเมืองดีไหม เพราะเจ้าเมืองเคยเตือนเราแล้ว ห้ามแตะต้องหยางเฉิน”
หญิงชราคนหนึ่ง ที่ยืนข้างหญิงสาว พูดออกมา
หญิงสาวกัดฟันพูดว่า
แค่เขาตาย จิตใจฉันจะได้สงบ!”
“ฉันไม่มีเวลาสนใจอะไรมากขนาดนั้น หยางเฉินฆ่าพ่อฉัน เขาต้องตาย!
หญิงชราถอนหายใจ
จากนั้นพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้
งั้นให้ฉันออกไปสั่งสอนเด็กนั่นแล้วกัน”
“ได้!”
หญิงสาวเอ่ยขึ้น
หลังจากหยางเฉินเข้ามา ก็เหมือนคนของจวนเจ้าเมือง ดูท่าทางสบายใจ เดินเล่นไปทั่ว
ผู้แข็งแกร่งของเมืองหวยเฉิง รู้ว่ามีคนบุกเข้ามาในจวนเจ้าเมืองแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเขา ล้วนแอบตามอยู่ในระยะที่เหมาะสม
หยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด และในจวนเจ้าเมือง คนที่มีพละกำลังถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“ไอ้หนุ่ม นายกล้าบุกเข้ามาในจวนเจ้าเมือง โทษตายเท่านั้น!”
ขณะนั้น หญิงชราผมขาว พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว โจมตีหยางเฉินทันที
“ผู้อาวุโสปี้!”
มีคนรู้จักหญิงชรา จึงพูดออกมาอย่างตกใจ
หยางเฉินขมวดคิ้ว มองหญิงชรา ที่พุ่งเข้ามาหาตัวเอง สายเลือดคลั่งในตัว พลุ่งพล่านทันที เคลื่อนไหวตำราเทพสงคราม พลานุภาพอันบ้าคลั่ง ระเบิดออกมาจากตัวเขา
“ไสหัวไป!”
เขาแผดเสียงออกมา เหวี่ยงหมัดออกไปอย่างแรง
“พลั่ก!”
หญิงชราส่งฝ่ามือออกมา ปะทะกับหมัดของหยางเฉิน ทันใดนั้นพลังอันแข็งแกร่ง แผ่ออกมาจากตรงกลาง ที่ทั้งสองปะทะกัน และพุ่งออกไปเป็นวงกว้าง
พวกผู้แข็งแกร่งเมืองหวยเฉิง ที่เดินตามหยางเฉิน หลังจากสัมผัสถึงพลังอันตราย จึงรู้ความแข็งแกร่งของหยางเฉิน รีบพากันถอยหลังไปเป็นสิบเมตร
“ให้ตายเถอะ! ไอ้หนุ่มคนนี้ พละกำลังพอๆ กับผู้อาวุโสปี้ ผู้อาวุโสปี้เป็นผู้แข็งแกร่ง ที่ใกล้เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดแล้วนะ อย่าบอกนะว่า พละกำลังของไอ้หนุ่มคนนี้ ใกล้เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นต้นแล้ว”
“จะเป็นไปได้ยังไง อายุเขาอย่างมากคือ 30 ปีเท่านั้น บางทีอาจไม่ถึง 30 ปีด้วยซ้ำ จะมีคนหนุ่มขนาดนี้ ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดได้ยังไงกัน”
“ถ้าไม่ใช่ ทำไมเขาถึงสู้กับผู้อาวุโสปี้ ได้อย่างสูสีล่ะ”
……
ผู้แข็งแกร่งเมืองหวยเฉิง ที่อยู่ข้างๆ ตกใจเป็นอย่างมาก
หลังจากฝ่ามือของหญิงชรา ปะทะกับหมัดของหยางเฉิน สีหน้าเธอเคร่งขรึมมาก เธอรู้ว่าหยางเฉินแข็งแกร่งมาก แต่คิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ ภายใต้การโจมตีของเธอ เขาไม่ถอยหนีเลยสักนิด