คุณท่านเย่พูดประโยคนี้ออกไป ทั้งฉากต่างก็ส่งเสียงอุทานด้วยความตื่นตะลึง!

ลูกชายของฉางอิง ที่พูดไม่ใช่เย่เฉินหรอกหรอ?

ที่จริงแล้ว ตั้งแต่ตอนที่คุณท่านเย่ให้ถังซื่อไห่ซื้อตี้เหากรุ๊ปเอาไว้ นำไปมอบให้กับเย่เฉินที่จินหลิง เชิญเย่เฉินกลับตระกูลในตอนนั้น ทุกคนก็รู้ข่าวที่เย่เฉินยังมีชีวิตอยู่กันหมด

นอกจากคุณท่านแล้ว คนอื่นๆทุกคนต่างก็มีความรู้สึกระมัดระวังกับเย่เฉินเป็นอย่างมาก ถึงขั้นภายในจิตใจขับไล่ถึงขีดสุด กลัวว่าเขาจะย้อนกลับมาที่เย่นจิง แย่งชิงทรัพย์สินและอำนาจในตระกูลเย่กับพวกเขา

ที่โชคดีก็คือ ในตอนแรกเย่เฉินปฏิเสธคำเชิญของถังซื่อไห่ ไม่ได้ย้อนกลับมาที่ตระกูลเย่ ดังนั้นทุกคนถึงได้โล่งอก นานไปก็ค่อยๆผ่อนมาตรการเตรียมความพร้อมลงมา

แต่ถึงแม้เย่เฉินจะไม่กลับมา ทุกคนต่างก็รู้สึกไม่พอใจถึงขีดสุดกับเรื่องที่คุณท่านใช้เงินจำนวนมหาศาลมูลค่าแสนล้าน ส่งมอบตี้เหากรุ๊ปให้กับเขา

ทรัพย์สินของตระกูลเย่เกินล้านล้าน แต่ถึงอย่างไรประชากรก็เยอะมาก

คุณปู่ของเย่เฉินมีลูกชายสี่คน ลูกสาวสองคน

นอกจากน้องสองเย่ฉางอิงที่ในปีนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่วัยหนุ่มแล้ว ลูกชายอีกสามคนทั้งหมดให้กำเนิดหลานชายเจ็ดคน หลานสาวหกคน

ลูกสาวสองคนแม้ว่าจะแต่งออกไปแล้ว แต่ต่างก็ยังดำรงตำแหน่งสำคัญอยู่ในอาณาจักรแห่งการเงินของตระกูลเย่ ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ทายาทสายตรงมากมายแบบนี้ ต่อให้เป็นการกระจายกันอย่างเท่าเทียม ก็ไม่อาจจะถึงระดับหนึ่งคนหนึ่งแสนล้านได้

ดังนั้น เย่เฉินคนเดียวก็ได้รับตี้เหากรุ๊ป นี่ทำให้คนตระกูลเย่จำนวนไม่น้อยริษยามากจริงๆ

ในตอนนั้นก็มีคนจำนวนมากรวมรายชื่อคัดค้าน ประท้วงการกระทำที่ลำเอียงแบบนี้ของคุณท่านอย่างรุนแรง

แต่คุณท่านพยายามขจัดเอาคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่เห็นด้วยทั้งหมดทิ้ง ยึดเอาที่ติดค้างทั้งครอบครัวของเย่ฉางอิงมากมายเหลือเกินเป็นเหตุผล ยืดหยัดที่จะทำเช่นนี้

ทุกคนแม้ว่าในใจจะไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่ดีที่เย่เฉินไม่คิดจะกลับเย่นจิงมาแย่งชิงทรัพย์สมบัติมากไปกว่านี้กับพวกเขา ดังนั้นทุกคนก็เลยฝืนยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างนี้

ในสายตาของทุกคน ให้เย่เฉินอยู่ข้างนอกเป็นผู้ครองแคว้นแบบนี้ ที่จริงแล้วก็ดีมากเหมือนกัน อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลของพวกเขา

แต่ว่า ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าคุณท่านอยากจะให้เย่เฉินกลับมา อีกทั้งยังคิดให้เขาไปดองกับตระกูลซู นี่สำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่ชักศึกเข้าบ้านหรอกหรอ?

ด้วยเหตุนี้ เย่ฉางโคงลูกชายคนโตของตระกูลเย่จึงโพล่งออกมาว่า “พ่อ!ลูกชายของฉางอิงหลายปีมานี้พเนจรอยู่ข้างนอก เขาไม่เคยได้รับการศึกษาระดับสูง ไม่เคยผ่านประสบการณ์มากมายและการอบรมของตระกูล เป็นแค่คนป่าคนหนึ่ง ให้เขาไปดองกับตระกูลซู ไม่ใช่เป็นการทำให้คนหัวเราะจนฟันหลุดหรอครับ? อีกทั้ง ผมจำได้ว่า เขาได้แต่งงานอยู่ที่จินหลิงแล้ว!”

“นั่นสิพ่อ!” น้องสามเย่ฉางหยุนก็รีบเอ่ยขึ้นเช่นเดียวกัน “ลูกหลานทายาทตามกฎหมายของตระกูลเย่เรา คนไหนที่ไม่ใช่โรงเรียนเอกชนระดับสูงที่สุดภายในประเทศมาโดยตลอดตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลาย? คนไหนไม่ใช่เรียนต่อเข้าไปในโรงเรียนมัธยมปลายระดับสุดยอดของต่างประเทศ? คนไหนไม่ใช่ตั้งแต่เด็กได้รับการศึกษาระดับสูงสุดของการผสมผสานกันระหว่างจีนและยุโรป? ไม่ใช่แค่เรียนความรู้ เรียนธุรกิจ เรียนบริหารจัดการ ยังต้องเรียนภาษาหลายประเทศ เรียนศิลปะการขี่ม้าของชนชั้นสูง เรียนกอล์ฟ ลูกชายคนนั้นของพี่สอง เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็ก แม้แต่มหาวิทยาลัยก็ยังไม่เคยเรียน คุณภาพแบบนี้ คุณหนูตระกูลซูจะเห็นเข้าตาได้ยังไงกัน?”

คนอื่นๆก็ทยอยเห็นด้วยตามกันขึ้นมา

ถังซื่อไห่ในเวลานี้เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “คุณชายเฉินเคยเรียนมหาวิทยาลัย เพียงแต่เรียนไม่ครบสี่ปีก็เท่านั้น อีกทั้ง ผมได้สัมผัสกับคุณชายเฉินมาบ้าง ในความคิดของผม คุณชายเฉินมีแบบอย่างและความกล้าหาญของท่านรองในปีนั้นอยู่ จะต้องเป็นที่โดดเด่นในหมู่คนอย่างแน่นอน!”

เย่เฟิงหลานชายคนโตของตระกูลเย่ตวาดเสียงแหลม “ไอ้แซ่ถัง ที่นี่ไม่ได้มีที่ให้แกพูด แกไม่ดูบ้างว่ารอบกายของแกล้วนเป็นใคร พวกเราแซ่เย่กันทั้งหมด!แกคนรับใช้ต่างสกุลของบ้านคนหนึ่ง พูดซี้ซั้วอะไรอยู่ที่นี่?”

ถังซื่อไห่เอ่ยขึ้นอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตนจนดูต่ำต้อย “คนแซ่ถังแม้ว่าจะไม่ใช่แซ่เย่ แต่ชีวิตของคนแซ่ถังคือท่านรองที่เป็นคนให้ ดังนั้นคนแซ่ถังเคยสาบานเอาไว้ตั้งนานแล้วว่า ชีวิตนี้ต่อไปก็คือของตระกูลเย่ ดังนั้นทุกคำที่ผมพูด ล้วนไม่มีเรื่องที่ต้องละอายต่อใจตนเอง!”

เย่เห้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “แกเห็นว่าพวกเราไม่รู้จักแก? แกไม่ได้จงรักภักดีต่อตระกูลเย่เลยแม้แต่น้อย แกจงรักภักดีต่อลุงสองของฉัน ดังนั้นแกถึงได้พยายามทุกวิถีทางซ่อนเย่เฉินเอาไว้ ทั้งพยายามทำทุกวิถีทางหลอกล่อคุณปู่ให้ซื้อตี้เหากรุ๊ปให้กับมัน ตอนนี้แกยังคิดจะหลอกล่อคุณปู่ให้ทำให้มันกลับมาที่เย่นจิง? ฉันว่าแผนการในใจของแก ที่จริงแล้วคืออยากจะช่วยเย่เฉินแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลของตระกูลเย่ล่ะมั้ง?!”

ประโยคนี้พูดออกไป สีหน้าของทุกคนต่างก็เปลี่ยน!