ครืน…
บนท้องฟ้าของทุกสวรรค์นั้นบันไดสวรรค์ตั้งมันค่อยๆ พังทลายลง!
หลังจากผ่านไปได้หนึ่งปีในที่สุดการทดสอบด่านบันไดสวรรค์ตั้งมันก็จบลง พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดการแบ่งแยกของยอดอัจฉริยะในแต่ละสวรรค์ขึ้น
อันดับหนึ่งนั้นยังคงเป็นหยางชิงอย่างน่าอัศจรรย์ เพียงแค่ว่าตัวหยางชิงในเวลานี้ไม่ได้รู้สึกยินดีปรีดาใดๆ เขาได้แค่มองเย่หยวนด้วยใบหน้าบึ้งบูด เขานั้นรู้สึกได้ว่าหากเย่หยวนคิดผ่านด่านนี้ตามปกติแล้วอันดับหนึ่งนี้มันคงไม่มีทางตกเป็นของเขาได้ เพราะหยางชิงนั้นก็เข้าใจได้ว่าต่อให้จะเป็นตัวเขาที่ได้อันดับหนึ่งมานี้แต่หากเทียบกับยอดอัจฉริยะจากทั่วสวรรค์แล้วมันก็คงไม่ได้แตกต่างกันไปมากมาย
ความต่างชั้นของสามสิบอันดับแรกนั้นเรียกได้ว่าแทบไม่มีอยู่!
แต่หากเย่หยวนลงสนามด้วยแล้วเขาคงจะสามารถทิ้งห่างคนอื่นๆ ไปได้ไกลลิบ
บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นเฟิ่งชิงซวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “เย่หยวนมันกลับไม่ติดอันดับ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
หลงเหอกล่าวขึ้นมาตาม “นี่มันผิดปกติ! ไม่ว่าเขาจะอ่อนแอลงแค่ไหนมันก็ไม่มีทางไม่ติดพันอันดับแรกแน่นอน!”
เฟิ่งชิงซวนกัดฟันร้องขึ้น “เจ้าเด็กนี่มันชอบทำคนอื่นเป็นห่วงเสียจริง!”
ในเวลานั้นเองที่เงาร่างของหวูเทียนมันก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“รอบบันไดสวรรค์ตั้งนั้นจบลงแล้ว! น่าเสียดายแค่ว่าผลลัพธ์นี้มันทำให้ข้าผิดหวังมากนัก! คนที่ผ่านรอบนี้มาได้มันน้อยนิดกว่าที่บรรพบุรุษผู้นี้คาดคิดไปมากทีเดียว! ผลลัพธ์เรื่องเวลาของพวกเจ้าทั้งหลายเองก็ด้อยกว่าสมัยวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตยังอยู่ดีมาก! ดูท่ายิ่งนับวันสวรรค์มันจะยิ่งตกต่ำลงไป!” หวูเทียนกล่าวขึ้นมาด้วยความผิดหวัง
แต่เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมาแล้วยอดอัจฉริยะจากทั่วทุกสวรรค์ก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันที
โดนดูถูก!
“ฮ่าๆ ยอดอัจฉริยะของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตท่านเก่งกาจนัก? ท่านจะบอกว่าอย่างนั้นเถอะ?”
“บรรพบุรุษหวูเทียน เรายอมรับว่าท่านนั้นเป็นยอดคนเก่งล้ำฟ้าแต่ข้าคงถานผู้นี้ไม่มีทางด้อยไปกว่าศิษย์วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตท่านแน่ๆ!”
“หากยอดอัจฉริยะวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตท่านเก่งกาจนักทำไมพวกเขาถึงแพ้กันเล่า? ท่านมีแต่พูด!”
…
ยอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นหลงตัวเองกันแค่ไหน?
ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นยอดอัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุดตั้งแต่บรรพกาลมามันก็ไม่มีทางยอมรับคำดูถูกได้!
รู้ได้อย่างไรว่าวันหน้าพวกเขาทั้งหลายจะก้าวไม่ถึงระดับนั้น?
แต่ก่อนจะไปถึงระดับนั้นแล้วพวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองด้อยค่าอย่างแน่นอน
หวูเทียนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจใดๆ ออกมาแต่กลับยิ้มขึ้นแทน “ก่อนนั้นเมื่อวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตของข้าเปิดบันไดสวรรค์ตั้งขึ้นข้านั้นจะรับแค่คนเผ่ามนุษย์ ในหนึ่งสวรรค์นั้นมันมีคนที่ขึ้นมาได้มากมายถึงสองแสนคนเป็นปกติ
แต่ดูตอนนี้เถอะ อย่างมากสุดยังมีแค่แสนคนเท่านั้น! นี่มันจะยังไม่เรียกว่าเป็นปัญหาอีกหรือ? แต่ในหมู่พวกเจ้านั้นมันก็มีสวรรค์ที่ทำให้บรรพบุรุษผู้นี้ตกตะลึงด้วย สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดกลับมีคนผ่านบันไดสวรรค์ตั้งขึ้นมาได้ถึงหนึ่งล้านสองแสนคน! บรรพบุรุษผู้นี้จะตั้งหน้ารอดูพวกเจ้า!”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมาเหล่ายอดอัจฉริยะจากทุกสวรรค์ก็แตกตื่นกันไป!
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด!
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดอีกแล้ว!
“อะไรนะ?! สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันกลับมีคนผ่านบันไดสวรรค์ตั้งมาได้ถึงหนึ่งล้านสองแสนคน?”
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรกเรายังมีคนผ่านขึ้นมาได้แค่เก้าหมื่นแท้ๆ!” หวังหนิงเหยียน กล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง
“หรือว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันจะผงาดขึ้นมาในช่วงหลายปีนี้? นอกจากจะมีหยางชิงคนนั้นแล้วเหล่ายอดอัจฉริยะของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดยังมีมากมายกว่าพวกเรานับสิบๆ เท่า!”
…
คนจากทุกสวรรค์แตกตื่นไปตามกัน!
เพราะว่าจำนวนนี้มันน่ากลัวจนเกินไป!
สวรรค์ระดับล่างเช่นนั้นมันกลับมีคนผ่านบันไดสวรรค์ตั้งขึ้นมาได้มากกว่าพวกเขาทั้งหลายเป็นสิบๆ เท่า!
หากแค่จำนวนมันก็ยังพอว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรต่อให้จะมีจำนวนมากแค่ไหนมันก็ไร้ค่าต่อหน้าพลังที่แท้จริง
คุณภาพนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด!
แต่พวกเขากลับมีหยางชิง!
เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพหรือปริมาณ สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นก็เอาชนะทุกสวรรค์ได้อย่างสิ้นเชิง นี่มันน่าคับแค้นใจเกินไป
“พวกเจ้าไม่ต้องคิดให้มากไปก่อนหรอก เดี๋ยวพวกเจ้าก็จะได้เห็นเองว่าพลังของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นทรงพลังแค่ไหน! รอบต่อไปนั้นมันคือโถงพันวิญญาณ! ภายในโถงนั้นมันมีบันทึกยอดคนที่เก่งกาจที่สุดหนึ่งพันคนในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต! ตราบเท่าที่พวกเจ้าเอาชนะได้สิบคนมันก็จะถือว่าเจ้านั้นได้รับสิทธิ์ผ่านเข้าไปยังวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตหลัก!”
พูดจบหวูเทียนก็ยกมือขึ้นมาเผยให้เห็นสะพานหินยาว พร้อมๆ กันนั้นก็ได้ปรากฏสะพานหินเชื่อมไปยังวังอีกแห่งขึ้น
แต่เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนี้ตัวเขาก็ต้องผงะไปทันที
โถงพันวิญญาณนี้มันฟังดูเหมือนลานฝึกซ้อมของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตน้อยที่เขาเคยเข้าไปมาก่อน เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่ายอดฝีมือในโถงพันวิญญาณนี้มันจะเหมือนของตอนนั้นหรือไม่ แต่เป็นคนทั้งหลายจากสวรรค์ต่างๆ ที่ได้ยินว่าแค่เอาชนะสิบคนได้ก็จะได้สิทธิเข้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตและแสดงสีหน้าท่าทางเย้ยหยันออกมา
“ฮ่าๆ หนึ่งพันคนที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์? ทำข้ากลัวเสียจริงๆ!”
“แค่สิบคนนั้นหากข้ายังเอาชนะมันไม่ได้ข้าจะยังเข้าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตไปเพื่อ?”
“บรรพบุรุษหวูเทียนท่านจะดูถูกเรามากเกินไปแล้ว!”
…
คนที่มั่นใจในฝีมือนั้นต่างก้าวขึ้นสะพานหินมุ่งหน้าสู่โถงพันวิญญาณอย่างไม่คิดลังเล
หวูเทียนนั้นยิ้มมองก่อนจะค่อยๆ จางหายไป
เมื่อคนทั้งหลายมาถึงโถงพันวิญญาณแล้วพวกเขาก็พบศิลาใหญ่ตั้งอยู่กลางโถง
บนศิลานั้นมันมีนามหนึ่งพันนามสลักไว้
เย่หยวนเดินมองดูรอบๆ และพบว่านามบนศิลานี้มันแตกต่างจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตที่เขาเคยเข้าไปลิบลับ
แน่นอนว่ามันยังมีนามที่คุ้นเคยอยู่บ้าง แต่ส่วนมากนั้นมิใช่แล้ว
“ดูท่าการแข่งขันในโถงพันวิญญาณมันจะดุเดือดจริงๆ! ข้าไม่รู้ได้เลยว่าคนทั้งหลายนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”
เย่หยวนเริ่มสงสัยขึ้นมา
เขารู้ว่าเมื่อมาถึงระดับมหาจักรพรรดิ พลังฝีมือของคนทั้งหลายย่อมจะแตกต่างจากสมัยจักรพรรดิอย่างสิ้นเชิง
มหาจักรพรรดิทั้งหลายนี้คือเมล็ดต้นอ่อนเจ้าโลก!
นอกจากนั้นคนทั้งหนึ่งพันที่ถูกบันทึกไว้ในโถงพันวิญญาณนี้มันยังเป็นยอดฝีมือที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นสะสมมาตลอดเวลาชั่วกาลนานปี
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขานั้นคงกลายเป็นเจ้าโลกกันไปสิ้นแล้ว!
คนทั้งหลายนั้นดูถูกด่านนี้อย่างมาก
แต่เย่หยวนนั้นรู้ว่านรกกำลังรอพวกเขาอยู่!
“เฮอะ โถงพันวิญญาณ พูดให้คนกลัวเปล่าๆ! มหาจักรพรรดิผู้นี้อยากจะเห็นนักว่ามันจะเก่งกาจกันได้แค่ไหน!” หยางชิงกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเย้ยหยันก่อนจะเลือกนามอันดับที่หนึ่งพันและก้าวเข้าค่ายกลต่อสู้
ค่ายกลต่อสู้นี้มันถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ความเข้าใจห้วงมิติที่ลึกล้ำ
หยางชิงนั้นรู้สึกได้เลยว่ามือเท้าของเขานั้นสามารถขยับไหวได้ตามปกติในค่ายกลนี้แต่ส่วนที่เขาต่อสู้นั้นมันเป็นแค่ส่วนเล็กๆ มุมหนึ่งของโถงพันวิญญาณ
นอกจากนั้นมันยังไม่มีอะไรปิดกั้น คนภายนอกสามารถมองเข้ามาดูการต่อสู้ได้ชัดเจน
แน่นอนว่าคนทั้งหลายเองก็ย่อมจะอยากเห็นการต่อสู้นี้
อันดับหนึ่งพัน โอหยางฟางเต๋อ!
เมื่อโอหยางฟางเต๋อได้เห็นหยางชิงนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าเก่ง!”
หยางชิงยิ้มตอบกลับไป “เรื่องนั้นยังต้องพูดด้วย? มหาจักรพรรดิผู้นี้คือยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งในสามสิบสามสวรรค์! ต่อให้เจ้าเย่หยวนนั้นก็ยังเป็นได้แค่ศัตรูที่รอวันพ่ายแพ้ให้ข้า!”
โอหยางฟางเต๋อต้องผงะไป ‘เย่หยวนไหนวะ?’
แต่เขานั้นสัมผัสได้ถึงกำลังของหยางชิงและก็เตรียมตัวรับมืออย่างเต็มรูปแบบ
ศึกนี้มันปะทุขึ้นอย่างดุเดือดทันที
เมื่อพวกเขาแลกกระบวนท่ากันหยางชิงก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าไป
เพราะเขาคิดว่าการจัดการคนอันดับหนึ่งพันมันคงง่ายเหมือนปอกกล้วย สังหารศัตรูลงได้ในกระบวนท่าเดียว!
แต่เขาคิดผิดไปมหันต์!
คนทั้งสองนั้นปะทะกันอย่างต่อเนื่องรุนแรง!
“แข็งแกร่งนัก! นี่แค่อันดับหนึ่งพันก็เก่งกาจได้ปานนี้แล้วหรือ? นอกจากนั้นเขายังมีพลังบ่มเพาะในระดับเดียวกับข้าพอดีด้วย! มหาจักรพรรดิผู้สู้แต่กับคนระดับสูงกว่าเสมอมา!”
หยางชิงนั้นแทบจะบ้าไป!
เพราะแม้แต่อันดับหนึ่งพันยังแข็งแกร่งปานนี้แล้วอันดับหนึ่งจะต้องมีพลังขนาดไหน?
ภายในโถงพันวิญญาณนั้นเย่หยวนเองก็ยืนอ้าปากค้างเช่นกัน!
เพราะกำลังของอันดับหนึ่งพันมันเหนือกว่าที่เขาคาดคิดไป!
เทียบกับโถงพันวิญญาณแล้วลานฝึกที่เขาเคยไปนั้นมันเป็นเหมือนแค่สนามเด็กเล่น!
ตูม!
ร้อยกระบวนท่าต่อมาหอกยาวของหยางชิงก็แทงทะลุกลางอกโอหยางฟางเต๋อไป
หยางชิงชนะลงในที่สุด!