บทที่ 1656 บูรพาจารย์เมืองหวยเฉิง
คำพูดของชายชรา ทำให้เหล่าจิ่วสีหน้าเคร่งขรึม
หยางเฉินรู้สึกหมดแรงในใจ
อยากออกจากเมืองหวยเฉิง ยากขนาดนี้เลยเหรอ
เมื่อกี้เหล่าจิ่วพูดไปแล้ว ชายชราบนเรือ
ถ้าไม่ใช่คนทั่วไป
ที่ไม่มีผลการฝึกบู๊อะไรเลย ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา และเหล่าจิ่วเอนเอียงไปทางอย่างหลัง
นั่นหมายความว่า
ชายชราที่แต่งตัวแสนธรรมดาตรงหน้า มีความเป็นไปได้สูง
ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่ง แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า
เหล่าจิ่วมีพละกำลังเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด ถ้าชายชราตรงหน้า แข็งแกร่งจริงๆ พวกเขาไม่สามารถสู้ได้สักนิด
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเราคงทำได้เพียง ยืมเรือของนายใช้หน่อยแล้วกัน!”
เหล่าจิ่วพูดด้วยสีหน้าหวาดระแวง จากนั้นพูดกับหยางเฉินว่า “พวกนายขึ้นเรือไป!”
หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร พาหวยหลันขึ้นไปบนเรือ
ชายชรายังคงมีรอยยิ้มเต็มหน้า พูดออกมาว่า
“พวกนายจะแย่งเรือฉันเหรอ ทำแบบนี้
ดูไม่ค่อยเหมาะสมนะ”
เหล่าจิ่วปาหยกแขวนไปทางชายชรา แล้วพูดว่า “หยกแขวนมังกรฟ้าอันนี้ เพียงพอให้นายซื้อเรือเป็นหมื่นลำ”
พูดจบ เขาหันหลัง กำลังจะขึ้นเรือ
แต่เขาเพิ่งหันหลัง ชายชราหายไปจากที่เดิม ทันใดนั้น มาโผล่อยู่ตรงหน้าเขา
จนถึงตอนนี้ เหล่าจิ่วแน่ใจแล้ว
ชายชราอัปลักษณ์ตรงหน้า คือผู้แข็งแกร่ง
ที่ไม่เปิดเผยตัว
หยางเฉินหน้าซีดเหมือนกัน เป็นนักบู๊แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า อย่างนั้นเหรอ
“ทำไม ไม่พอหรือไง”
เหล่าจิ่วเลิกคิ้วขึ้น จิตวิญญาณการต่อสู้
แผ่ออกจากตัว
ในแววตายังมีจิตวิญญาณการต่อสู้ อย่างรุนแรง
ชายชราหัวเราะ แล้วเอ่ยขึ้น
“ไม่ใช่ไม่พอ
แต่ให้มากไป ฉันไม่มีทอน”
เหล่าจิ่วพูดด้วยเสียงเย็นชา “ไม่ต้องทอน ที่เหลือถือว่าแถมให้นาย”
ชายชราส่ายหน้า
“ไม่ได้! เรือลำนี้ของฉัน ราคาอย่างมากร้อยหยวน คิดนาย 99
หยวนละกัน”
พูดจบ ชายชราเอาหยกแขวนมังกรฟ้ามูลค่าไม่ธรรมดา โยนให้เหล่าจิ่ว
ตอนหยกแขวนมังกรฟ้า ออกจากมือชายชรา
มีพลานุภาพอันน่ากลัวติดมาด้วย เหล่าจิ่วยื่นมือไปรับ รู้สึกว่าชาไปทั้งแขน
มือที่รับหยกแขวนเอาไว้ รู้สึกปวดเล็กน้อย
“ฉันมีร้อยหยวน ถือว่าซื้อเรือลำนี้แล้วกัน”
หวยหลันเอาธนบัตรร้อยหยวนออกมา ยื่นให้ชายชรา
ชายชราส่ายหน้า
หัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันบอกว่า 99 หยวน ก็ต้อง 99 หยวน
จะมากหรือน้อยกว่าไม่ได้ ไม่งั้นไม่ขาย!”
หวยหลันกับหยางเฉิน
มองหน้ากัน ไม่ใช่พวกเขาไม่มีเงิน แต่หาเงิน 99 หยวนมาไม่ได้
ชายชราทำให้พวกเขาลำบากใจชัดๆ
สีหน้าเหล่าจิ่วอึมครึมจนน่ากลัว พูดเสียงเย็นชาว่า “แล้วถ้าฉันจะซื้อเรือลำนี้ล่ะ”
ชายชราหัวเราะ “ของที่ฉันไม่ขาย ใครก็แย่งไปไม่ได้ทั้งนั้น”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คงต้องล่วงเกินแล้ว!”
เหล่าจิ่วพูดจบ พลานุภาพบู๊อันน่ากลัว แผ่ซ่านออกจากตัวเขา
เขาก้าวไปด้านหน้า ง้างฝ่ามือขึ้นมา โจมตีไปยังชายชรา
เหล่าจิ่วกำลังจะโจมตีไปที่อกของชายชรา ช่วงเวลาคับขัน ชายชรายกแขนขึ้นมา ฟาดฝ่ามือออกมาเช่นกัน
เหมือนเป็นแค่สะบัดมือเล่นๆ เหมือนพื้นที่บริเวณรอบๆ ปั่นป่วนไปหมด
“พลั่ก!”
วินาทีต่อมา ฝ่ามือของทั้งสองปะทะกัน เสียงดังสนั่น
ตัวของเหล่าจิ่ว
ถอยไปด้านหลัง 7-8 ก้าว
หันกลับมาดูชายชรา ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับสักนิด
บนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม มองเหล่าจิ่ว ที่โดนเขาโจมตีจนเซถอยหลัง “ไอ้หนุ่ม มีอะไรพูดกันดีๆ
ลงมือมันไม่ดีนะ”
คำว่าไอ้หนุ่ม ที่ชายชราพูดออกมา เกือบทำให้เหล่าจิ่วกระอักเลือด
เหล่าจิ่วเป็นผู้อาวุโสอายุประมาณ
60-70 ปี แต่ชายชราคนนี้
กลับเรียกเหล่าจิ่วว่าไอ้หนุ่ม
หวยหลันพูดด้วยสีหน้าตกใจ “เขาคือเจียงเฉิงจื่อ
เป็นบูรพาจารย์
ของจวนเมืองหวยเฉิง และเป็นอาจารย์ของเจ้าเมืองหวยเฉิง!”
เมื่อพูดออกมา หยางเฉินกับเหล่าจิ่ว หน้าเปลี่ยนสี
ใครจะไปคิดว่า ชายชราแต่งตัวแสนธรรมดาตรงหน้า จะเป็นอาจารย์ของเจ้าเมืองหวยเฉิง
เจ้าเมืองหวยเฉิง เป็นผู้แข็งแกร่ง
แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว แล้วผู้อาวุโสตรงหน้า
เป็นอาจารย์ของเขา พละกำลังจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน
เจียงเฉิงจื่อยิ้มตาหยี มองหวยหลัน
ฉันไม่ใช่บูรพาจารย์ ของจวนเมืองหวยเฉิงแล้ว เป็นแค่คนหาปลาเท่านั้น”
จากนั้นพูดเหมือนเย้ยหยันว่า “คิดไม่ถึงว่า บนโลกนี้ ยังมีคนรู้ตัวตนเมื่อก่อนของฉัน แต่ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว
หยางเฉินสัมผัสได้ถึงความเศร้า
จากคำพูดของเจียงเฉิงจื่อ แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโชคดีคือ ดูจากคำพูดของเจียงเฉิงจื่อ
เขาแยกความสัมพันธ์กับจวนเมืองหวยเฉิงแล้ว
คิดไม่ถึงว่าเขาจะดูหมิ่นตัวเอง เรื่องที่ตัวเองเคยเป็นบูรพาจารย์ ของจวนเมืองหวยเฉิง
เห็นได้ชัดว่า ระหว่างเจียงเฉิงจื่อกับเจ้าเมืองหวยเฉิง ต้องเกิดเรื่องไม่ค่อยดี อย่างแน่นอน
หลังจากเหล่าจิ่วตั้งสติได้ เขามองเจียงเฉิงจื่อ
ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม คารวะ
แล้วพูดว่า “ที่แท้เป็นผู้อาวุโสเจียงเฉิงจื่อนี่เอง เมื่อกี้เหมียวจิ่วเสียมารยาทแล้ว”
เจียงเฉิงจื่อหัวเราะ
แล้วโบกมือไปมา “ไม่เป็นไร! ช่วงนี้เจ้าเมืองเหมียว
สบายดีใช่ไหม”
เหล่าจิ่วรีบพูดว่า “เจ้าเมืองเหมียวร่างกายแข็งแรงมาก อีกทั้งยังพูดถึงคุณบ่อยๆ
ผมมาเมืองหวยเฉิงครั้งนี้
เจ้าเมืองสั่งผมว่า ถ้าเจอผู้อาวุโส ฝากให้ผมทักทายคุณด้วย”
“ฮ่าๆ”
เจียงเฉิงจื่อหัวเราะเสียงดัง ลูบหนวดแล้วพูดว่า “ขอบคุณที่เจ้าเมืองเหมียวนึกถึง!”
หยางเฉินกับหวยหลันเหม่อไป ทั้งสองไม่คิดว่า
เจ้าเมืองเหมียว จะรู้จักเจียงเฉิงจื่อ จากคำพูดของเหล่าจิ่ว
เจ้าเมืองเหมียวดูเคารพเจียงเฉิงจื่อเป็นอย่างมาก
เหล่าจิ่วพูดอีกว่า “ผู้อาวุโส เห็นแก่เจ้าเมืองเหมียว คุณปล่อยเราไปได้ไหม”
เจียงเฉิงจื่อยิ้ม
เพราะฉันรับปากเจ้าเมืองหวยเฉิงว่า ทั้งชีวิตนี้ จะไม่ทำเรื่องไม่ดีต่อเมืองหวยเฉิง”
แล้วส่ายหน้า “ในเมื่อนายรู้แล้ว ว่าฉันเป็นใคร งั้นก็น่าจะรู้ คนอย่างเจียงเฉิงจื่อ ไม่เคยทำเรื่องที่ไม่รักษาคำพูด การที่ฉันอยู่ที่นี่ ได้อย่างปลอดภัย
“ในเมื่อพวกนายคือคนที่เจ้าเมืองหวยเฉิง ต้องการให้อยู่ที่นี่ ฉันไม่มีทางให้พวกนายใช้เรือฉัน ออกไปอยู่แล้ว”
เหล่าจิ่วหน้าซีด มองเจียงเฉิงจื่อ
แล้วพูดอ้อนวอน
“ผู้อาวุโส ยืดหยุ่นหน่อยไม่ได้เหรอ”
เจียงเฉิงจื่อส่ายหน้า “ไม่ได้!”
หยางเฉินพูดว่า
“ท่านผู้อาวุโสเจียง ในเมื่อคุณบอกว่าไม่ให้เราใช้เรือหนีไป งั้นหมายความว่า
ถ้าเราใช้วิธีอื่นหนีไป คุณจะไม่ขัดขวางงั้นเหรอ”
เจียงเฉิงจื่อหัวเราะ แล้วมองหยางเฉิน
“นายไหวพริบดีมาก ถูกต้อง
แค่ไม่ใช้เรือฉันหนีไป ฉันก็จะไม่ยุ่ง”
หยางเฉินพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นขอบคุณท่านผู้อาวุโสเจียงมากครับ!”
ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน เหล่าจิ่วกับหวยหลัน
มองหยางเฉิน
ด้วยสีหน้าสงสัย ไม่รู้เขาจะใช้วิธีอะไร ข้ามแม่น้ำนี้ไป
ขณะที่พวกเขากำลังสงสัย หยางเฉินขึ้นไปบนเรือของเจียงเฉิงจื่อ