คงถานนั้นหรี่ตาลงกล่าวอย่างเย็นเยือก “เจ้าคิดว่าปีศาจผู้นี้กลัวมนุษย์หรือ?”
จากนั้นคลื่นพลังชั่วร้ายก็ปะทุขึ้นจากร่างของเขานั้นพร้อมท่าทางที่จะสังหารคนลง
เฟิ่งชิงซวนนั้นต้องผงะไปเมื่อได้เห็นและกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าดำมืด “คงถาน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป? เมื่อคนของข้ามาถึงแล้วเจ้าจะได้รู้!”
คงถานหรี่ตากล่าวอีกครั้ง “เจ้าบอกว่าหยางชิงมันเป็นคนของเจ้า? ฮ่าๆ เฟิ่งชิงซวน เจ้าคิดว่าปีศาจผู้นี้โง่เง่านัก?”
เฟิ่งชิงซวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าก็ลองดู!”
คงถานยิ้มตอบกลับไป “ไม่ว่าหยางชิงมันจะเก่งกาจแค่ไหนสุดท้ายมันก็แค่คนผู้เดียว! เฟิ่งชิงซวน คนเขาอุตส่าห์ไว้หน้าเจ้ากลับไม่รู้จักรับมันไว้! เช่นนั้นก็ตายไปเสียเถอะ!”
สุดท้ายเฟิ่งชิงซวนก็ขู่คงถานไม่สำเร็จ เพราะเผ่าปีศาจนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดุร้ายไร้เหตุผลเป็นทุน หากแข็งแกร่งกว่าพวกเขาจึงจะสามารถข่มขู่พวกเขาได้
ตูม!
พริบตาเดียวนั้นคนทั้งสองเผ่าก็เข้าปะทะกันทันที
คงถานกายอสูรเทวะของเขานั้นมันแข็งแกร่งป้องกันหอกดาบได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือไฟเองก็ไม่อาจทำอันตรายเขาได้
เฟิ่งชิงซวนนั้นมีกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมากไม่ได้อ่อนแอเพียงแค่ว่ามันยังไม่พอเอาชนะคงถาน
ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าปีศาจนั้นยังมียอดฝีมืออยู่มากมาย คงถานนั้นพายอดฝีมือของตนตามมาด้วยในครั้งนี้ไม่น้อย
ฝ่ายแท้นั้นเริ่มเสียเปรียบไปอย่างเห็นได้ชัด
“อ่าว คึกคักกันดีจริงๆ! สมบัติธรรมชาติมากมายขนาดนี้มันจะไม่มีแบ่งให้เผ่ามนุษย์ข้าบ้างเลยหรือ?” จั่วชิงหยางกล่าวขึ้นมาทักทาย
“พี่คงถาน เราจะช่วยพวกท่านเอง แต่เสร็จงานแล้วแบ่งสมบัติธรรมชาติมาบ้างจะได้หรือไม่?” หวังหนิงเหยียน กล่าวขึ้น
คงถานหัวเราะตอบกลับไป “ก็ได้! ข้าคงต้องรบกวนแม่นางหนิงเหยียนแล้ว!”
เฟิ่งชิงซวนนั้นกัดฟันแน่นร้องขึ้น “หวังหนิงเหยียน เจ้ากล้า?”
หวังหนิงเหยียนยิ้มตอบกลับไป “ทำไมข้าจะไม่กล้า? เผ่าแท้ของเจ้ามันดูถูกมนุษย์กันนักมิใช่หรือ? เจ้ายังคิดว่าพวกเราจะไปช่วยเจ้าจัดการพี่คงถานอีกหรือ?”
เพราะแท้จริงแล้วเผ่าต่างๆ บนสามสิบสามสวรรค์นั้นต่างล้วนมีความไม่พอใจต่อเผ่าแท้สิ้น
เพราะว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งกว่าใครๆ ตั้งแต่เกิด!
ก่อนนั้นตอนที่เผ่าแท้รุ่งเรืองสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างของพวกเขานั้นมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์มากถึงห้าคน!
หากเผ่าทั้งหลายไม่ร่วมมือกันมันก็จะไม่มีทางเทียบเคียงกับเผ่าแท้ได้เลย
ส่วนอีกด้านนั้นเผ่ามนุษย์กลับต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดอย่างยากลำบาก
หลังจากที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตผงาดขึ้นมาแล้วเผ่ามนุษย์ถึงได้พัฒนาขึ้นมากลายเป็นเผ่าใหญ่เผ่าหนึ่งที่เทียบเคียงเผ่าอื่นๆ ได้
หวังหนิงเหยียนนั้นฉลาดแค่ไหน? นางย่อมจะเห็นสภาพตรงหน้าและตัดสินใจได้ทันทีว่าต้องช่วยคงถาน
เมื่อพวกหวังหนิงเหยียนเข้าสนามรบมามันก็กลายเป็นสภาพของการปิดล้อมรอบด้านไปทันที
เฟิ่งชิงซวนนั้นต้องกัดฟันแน่นภายใต้การโจมตีของยอดอัจฉริยะทั้งหลายจนสุดท้ายนางก็แทบไม่อาจจะยืนหยัดได้มั่นคงอีก
แต่ในเวลานั้นเองที่มันมีกลุ่มยอดฝีมืออีกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันคือเผ่าปีก
ยู่หรานนั้นยิ้มกว้างกล่าว “พี่คงถานต้องการให้ยู่หรานช่วยหรือไม่?”
คงถานยิ้มตอบกลับไป “หากน้องยู่หรานคิดช่วยมันย่อมจะดีที่สุดแล้ว!”
ยู่หรานพยักหน้ารับกลับไป “เอาล่ะ เช่นนั้นคนจากเผ่ามังกรทั้งหลายนี้พวกข้าจัดการเอง!”
พูดจบยู่หรานก็พุ่งตัวพากำลังเผ่าปีกเข้าร่วมวงต่อสู้
ในวินาทีนี้เผ่าแท้ทั้งหลายต่างต้องสู้พร้อมหน้าหลังจนบาดเจ็บสาหัสไปหลายคน บ้างก็ถึงขั้นต้องตายลงไปภายใต้การโจมตีของยอดฝีมือจากเผ่าต่างๆ
เฟิ่งชิงซวนนั้นแทบจะคลั่งไป นางไม่คิดว่ามันกลับจะเกิดสภาพเช่นนี้ขึ้นมาได้
“ทำไมเจ้าบ้านั่นมันยังไม่มาอีก?” เฟิ่งชิงซวนนั้นกัดฟันแน่นร้องลั่นขึ้นมา
นางนั้นรู้ดีว่าคนที่จะเปลี่ยนสภาพสงครามในตอนนี้ได้มันมีเพียงแค่เย่หยวน ไม่เช่นนั้นแล้วยอดอัจฉริยะเผ่าแท้ทั้งหลายที่มาวันนี้คงตายสิ้น
และราวกับว่าได้ยินเสียงเรียกของนางนั้น ตอนนี้มันมีกลุ่มคนมากมายกำลังค่อยๆ เดินหน้าเข้ามาใกล้ลานที่คนทั้งหลายต่อสู้กัน
ตอนนี้จำนวนมันชนะได้ทุกสิ่ง
“ได้เห็นหน้าคนเสียที! ฮ่าๆ เจ้าบ้าพวกนี้มันต้องสยบอยู่ใต้เท้าข้า มหาจักรพรรดิฟ้าครามคนนี้!” หยางชิงกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกว้าง
จุดที่คนทั้งหลายถูกส่งขึ้นมานั้นมันอยู่ห่างจากพวกไปไม่น้อยทำให้พวกเขามาช้ากว่าใครๆ
หยางชิงนั้นได้อันดับหนึ่ง ด้วยนิสัยของเขาแล้วมันย่อมจะไม่มีทางห้ามการโม้อวดตัวเองของเขาได้
เย่หยวนนั้นมีสายตาที่เฉียบคมเขานั้นเห็นได้ทันทีว่าตอนนี้เผ่าต่างๆ กำลังรุมโจมตีเผ่าแท้อยู่จนต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา
แต่ว่าหยางชิงนั้นไม่รอให้เขาได้พูดสั่งอะไรแล้ว
“เฮ้ย มหาจักรพรรดิฟ้าครามอันดับหนึ่งแห่งรายชื่อพันวิญญาณมาถึงแล้ว! เจ้าพวกขยะทั้งหลายกลับคิดทำร้ายสหายของหยางชิงผู้นี้หรือ? ทำไมยังไม่หยุดมืออีก?” หยางชิงนั้นวิ่งขึ้นเนินดินและใช้หอกชี้หน้าคนทั้งหลายพร้อมเสียงตะโกนลั่น
เย่หยวนได้แต่ต้องเอามือปิดหน้าอย่างอับอายไม่อาจจะทนมองได้อีก
เจ้าบ้านี่มันขี้โม้เกินไป!
แน่นอนว่าแม้จะเป็นคนขี้โม้แค่ไหนหยางชิงก็ยังมองสภาพตรงหน้าออกชัดเจน
ก่อนนั้นคนที่มาช่วยสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้น ส่วนมากแล้วมันเป็นกำลังเผ่าแท้ เฟิ่งชิงซวนคนนี้เองก็ไปด้วยในครานั้น
หยางชิงนั้นจำหน้าเฟิ่งชิงซวนได้ในทันทีและรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าต้องช่วยฝั่งไหน ที่สำคัญหยางชิงยังรู้ด้วยว่าเย่หยวนนั้นเป็นครึ่งแท้
คำพูดเดียวของเขานี้มันได้ทำให้คนทั้งหลายต้องหยุดมือลงทันที เพราะแท้จริงแล้วยอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นต่างก็สงสัยเหลือเกินว่าหยางชิงนั้นเป็นคนเช่นใด
คนทั้งหลายนั้นอยากจะเห็นว่ายอดอัจฉริยะที่กดหัวคนทั้งสวรรค์ลงนั้นมันจะมีหน้าตาเช่นไร
แต่มองทีเดียวพวกเขาก็ต้องผิดหวังอย่างมาก เพราะเจ้าบ้านี่มันไม่มีท่าทางของยอดฝีมือเลย!
ยอดฝีมือที่แท้จริงนั้นมันต้องวางท่า พูดน้อยต่อยหนักมิใช่หรือ?
แต่เจ้าบ้านี่ดูอย่างไรมันก็แค่คนขี้โม้หลงตัวเองคนหนึ่ง!
แต่ว่าจะอย่างไรเสียฝีมือของหยางชิงนั้นมันก็ถูกพิสูจน์ด้วยด่านโถงพันวิญญาณแล้ว หน้าของเขาย่อมจะใหญ่โตเกินกว่าจะเมินได้
หวังหนิงเหยียนนั้นเป็นคนแรกที่หยุดมือลงและกล่าว “ได้ ข้าจะไว้หน้าให้พี่หยาง! ศาลาสวรรค์ม่วงล้ำเราขอหยุดมือลงเท่านี้!”
พูดจบนางก็ถอยกลับออกไปพร้อมคนของนาง
ยู่หรานเองก็ยิ้มกล่าวขึ้น “หน้าพี่หยางนั้นเราย่อมต้องไว้ให้แน่นอน เผ่าปีกเราขอถอนตัวเช่นกัน!”
เผ่าปีกทั้งหลายหยุดมือลงและร่อนตัวถอยกลับไป
เมื่อคงถานได้เห็นสภาพเช่นนี้เขาย่อมรู้ว่าศึกนี้สู้กันต่อไปไม่ได้ร้อง ‘เฮอะ’ ขึ้นมาก่อนจะหยุดมือ
เมื่อเผ่าทั้งหลายหยุดมือแล้วคนเผ่าแท้ทั้งหลายจึงค่อยมีเวลาหายใจ
แต่ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นต่างก็ได้รับบาดเจ็บไปถ้วนหน้าและมีหลายคนที่ต้องถึงขั้นตายลงไป
หวังหนิงเหยียนนั้นเดินเข้าไปหาหยางชิงด้วยพัดพับในมือและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเปิดขึ้นครั้งนี้พี่หยางได้สร้างชื่อเสียงทั่วสวรรค์! ในเมื่อพี่หยางนั้นเป็นมนุษย์เช่นเดียวกันแล้วทำไมท่านไม่มาอยู่ศาลาสวรรค์ม่วงล้ำของข้าเล่า? ศาลาสวรรค์ม่วงล้ำของเรานั้นจะช่วยให้พี่หยางก้าวขึ้นไปถึงระดับล้ำสวรรค์ได้แน่นอน!”
หวังหนิงเหยียนวางตัวเย็นชาตลอดทางแม้จะเจอพวกจั่วชิงหยางหยอดคำหวานใส่นางก็ไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย
แต่วันนี้นางได้ยิ้มให้แก่หยางชิง!
รอยยิ้มนี้มันเป็นเหมือนพิษหมื่นลี้ทำให้คนมากมายต้องแทบสิ้นใจ
แม้แต่คนเถื่อนอย่างคงถานเองก็ยังแทบไม่อาจควบคุมตัวเองได้
พริบตาเดียวนี้ในบรรยากาศมันมีแต่กลิ่นของความอิจฉาริษยารอบด้าน
แต่เวลาเดียวกันนั้นเองที่ยู่หรานก้าวเข้ามาดึงแขนของหยางชิงไว้ “พี่หยางชิง ยู่หรานนั้นชอบคนเก่งที่สุดเลย! ทำไมพี่ไม่มาเป็นคู่เต๋ากับข้าเล่า? ยู่หรานนั้นเป็นบุตรีศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าปีก! หากพี่มาเป็นคู่เต๋าของข้าแล้วมันย่อมจะมีทรัพยากรให้ท่านใช้สอยไม่มีหมด! นอกจากนั้นบรรพบุรุษของข้าท่านก็เป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์คนหนึ่งด้วย หากท่านมาเป็นคู่เต๋าของข้าแล้วบรรพบุรุษท่านย่อมจะช่วยดูแลพี่แน่!”
หยางชิงนั้นรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองมันเปล่งแสงขึ้นมาได้ในเวลานี้ เขากลายเป็นเป้าความอิจฉาของชายทุกคนในที่นี้ไป เพราะตอนนี้มันมีสามยอดนางงามกำลังรายล้อมตัวเขาอยู่
หวังหนิงเหยียน ยู่หรานและเฟิ่งชิงซวน!
คนทั้งสามนั้นคือยอดฝีมือสาวงามที่ไร้คนเปรียบ!
ตอนนี้สองจากสามคนนั้นต่างเข้าไปกอดแขนหยางชิงกันไว้คนละข้าง
ส่วนตัวเฟิ่งชิงซวนนั้นหยางชิงยังเรียกนางเป็นสหายอีกด้วย!
นี่มันคือสภาพที่ชายทุกคนต่างเฝ้าฝันถึง!
คงถานมองหน้าเฟิ่งชิงซวนก่อนจะกล่าวขึ้นเย้ย “เฟิ่งชิงซวน คนของเจ้ามาแล้วทำไมไม่ไปขอให้เขาแก้แค้นเล่า?”
คงถานนั้นมองออกตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว หยางชิงนั้นไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นกับเฟิ่งชิงซวนแม้แต่น้อย