ตอนที่ 3552

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3552 : เขตหวงห้าม!

 

ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะเข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือเทพสงคราม 8 ดารา 2 คน

  

หนึ่งในนั้นก็คือผู้นำกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ ซ่างกวนอวิ๋นเฟิง

  

ส่วนอีกคนก็คือผู้พิทักษ์ใหญ่ของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์

  

ผู้ที่มีฐานะรองลงมาจากผู้นำในพันธมิตรสวรรค์ ก็คือผู้พิทักษ์ 2 จนถึงผู้พิทักษ์ 8…ซึ่งเป็นเทพสงคราม 7 ดารากันหมด และในพันธมิตรสวรรค์ก็มีเทพสงคราม 7 ดาราแค่ 7 คนนี้เท่านั้น

  

ในอดีตที่พันธมิตรสวรรค์ประกาศคำเชิญถึงคุณชายชุดม่วงนั้น เพียงเพราะทราบแค่ข้อมูลว่าต้วนหลิงเทียนมีพลังระดับเทพสงคราม 7 ดาราเท่านั้น จึงตั้งใจเชิญมาให้ดำรงตำแหน่งผู้พิทักษ์ 9

  

ทว่าตอนนี้เมื่อตัวตนของต้วนหลิงเทียนเปิดเผยออกมา และซ่างกวนอวิ๋นเฟิงก็รู้จักดี เช่นนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ต้วนหลิงเทียนดำรงตำแหน่งผู้พิทักษ์ 9 จึงเลือกให้ตำแหน่งที่เหนือกว่าอย่าง ‘รองผู้นำ’

  

ด้านต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้มันจะอะไรมากมาย แต่เหมิงซานรู้ดีว่าเรื่องตำแหน่งรองผู้นำของต้วนหลิงเทียนไม่พ้นสร้างความแตกตื่นให้สมาชิกกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ครั้งใหญ่แน่นอน

  

“จ้าววังน้อย สถานที่พักฝึกฝนของข้านับว่าดีที่สุด เช่นนั้นท่านก็ใช้มันเถอะ”

  

หลังจากรับรองต้วนหลิงเทียนแล้วเสร็จ ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงก็ยินดีสละที่พักของมันให้ต้วนหลิงเทียน

  

“ไม่ต้องหรอก”

  

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา “แค่จัดหาสถานที่เงียบๆให้ข้าก็พอ”

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงเดิมทีจะจัดสิ่งที่ดีที่สุดให้ต้วนหลิงเทียนตามมารยาท แต่พอเห็นสายตาแน่วแน่ของต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่กล้ารบเร้าอะไร จึงพาต้วนหลิงเทียนไปดูที่ทางในค่ายกองกำลังพันธมิตรสวรรค์แทน “จ้าววังน้อย หากท่านต้องตาพึงใจสถานที่แห่งไหน ข้าจะจัดการให้ทันที ไม่ว่าที่นั่นจะมีคนอยยู่หรือไม่ก็ตาม”

  

ในฐานะผู้นำกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงย่อมมีอำนาจเต็มในเรื่องนี้ และมันมั่นใจว่าจัดการได้แน่ๆ

  

หากใครกล้าแข็งข้อไม่ยอมเปลี่ยน มันก็จะใช้กำลังขับไล่ให้รีบไสหัวไปแทบไม่ทัน!

  

“เอาที่นี่ล่ะ”

  

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็เลือกพื้นที่บริเวณตอนเหนือของค่ายกองกำลังพันธมิตรสวรรค์ และมันเป็นหุบเขาอันแห้งแล้งจนไม่มีใครในพันธมิตรสวรรค์เลือกจะมาพักฝึกฝนที่นี่ คนส่วนใหญ่ก็เลือกสถานที่ๆเต็มไปด้วยความเขียวขจีและธรรมชาติอันร่มรื่นทั้งสิ้น

  

“จ้าววังน้อย…”

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงคลี่ยิ้มแห้งๆ “ถึงแม้ในสมรภูมิ 9 ยมโลกจะไม่มีสถานที่ไหนที่มีพลังวิญญาณฟ้าดินหนาแน่นหรือเบาบางเป็นพิเศษ…แต่พื้นที่ตรงนั้นมันจะไม่แห้งแล้งเกินไปหน่อยหรือ ไม่เปลี่ยนเป็นสถานที่ๆมีทิวทัศน์ดีกว่านี้เล่า?”

  

“ไม่ล่ะ เอาที่นี่ดีแล้ว”

  

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาพลางกล่าว “ข้าแค่ต้องการสถานที่เงียบสงบร้างผู้คนเท่านั้น”

  

“ผู้นำซ่างกวน”

  

ขณะเดียวกัน ต้วนหลิงเทียนก็มองซ่างกวนอวิ๋นเฟิงด้วยสายตาจริงจัง เอ่ยออกเสียงหนัก “วันหน้าข้าจะฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ในพันธมิตรสวรรค์ เว้นเสียแต่มีเรื่องสำคัญที่ต้องให้ข้าลงมือ…หากไม่มีอะไร อย่าได้ให้ใครมารบกวนข้าเด็ดขาด”

  

“เรื่องนี้ขอจ้าววังน้อยอย่าได้กังวล”

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงพยักหน้ารับทั้งกล่าวรับปากออกมาเป็นมั่นเหมาะ “หลังจากข้ากลับไป ข้าจะระบุให้สถานที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้าม ไม่ให้ผู้ใดเฉียดเข้าใกล้และรบกวนการบ่มเพาะฝึกฝนของจ้าววังน้อยเด็ดขาด”

  

“เช่นนั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณผู้นำซ่างกวนล่วงหน้า”

  

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

  

และคำขอบคุณอย่างจริงจังของต้วนหลิงเทียน ก็ทำให้ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงรู้สึกปลื้มใจไม่น้อย “จ้าววังน้อยเกรงใจไปแล้ว นับเป็นเกียรติของข้าซ่างกวนอวิ๋นเฟิงที่ได้รับใช้จ้าววังน้อย”

  

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ทำการแลกเปลี่ยนลูกแก้ววิญญาณกับซ่างกวนอวิ๋นเฟิง จากนั้นก็โรยตัวลงไปยังหุบเขาอันแห้งแล้ง เพื่อหาทำเลเหมาะๆสำหรับสร้างที่พักสำหรับบ่มเพาะทันที

  

สมรภูมิ 9 ยมโลกนั้น ต่างจากสมรภูมิอเวจีอยู่บ้าง

  

ในสมรภูมิอเวจี นับประสาอะไรกับลูกแก้ววิญญาณ แม้แต่พลังภายนอกอื่นใดก็ไม่สามารถใช้ได้ จึงไม่มีใครใช้ยันต์อมตะ จานค่ายกล โอสถอมตะ หรืออุปกรณ์อมตะใดๆ

  

แต่ในสมรภูมิ 9 ยมโลกนั้นนอกจากจะจำกัดเรื่องไม่ให้ตัวตนขอบเขตเทพขึ้นไปเข้ามาแล้ว ก็ไม่มีข้อจำกัดอะไรอีก

  

ที่นี่ไม่ต่างอะไรจากระนาบเทวโลกขนาดย่อม

  

เพียงแค่จำกัดไม่ให้ตัวตนขอบเขตเทพเข้ามาเท่านั้น

  

แน่นอนว่าเพราะความโหดร้ายรุนแรงของที่นี่ ผู้ที่เข้ามาส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นจักรพรรดิอมตะสมญานามเท่านั้น แม้จะมีตัวตนที่พลังฝีมือไม่ถึงขอบเขตจักรพรรดิอมตะสมญานามเข้ามาบ้าง แต่ก็มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

  

‘ไม่คิดเลยว่าจ้าววังน้อยผู้โด่งดังของพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียนคนนั้น ไม่เพียงแต่จะเข้ามายังสมรภูมิ 9 ยมโลกแล้ว แต่ยังมาเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ของข้าอีก!’

  

จนเมื่อแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนหายลับตาไปแล้ว ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงค่อยได้สติกลับมาอีกครั้ง ดวงตาของมันเริ่มฉายประกายวับวาวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเร่าร้อน

  

‘ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ของจ้าววังน้อยยังเป็นจักรพรรดิสวรรค์ในตำนานแห่งจี้เมี่ยเทียน ที่บรรลุถึงขอบเขตเทพแล้วคนนั้น!’

  

ไม่ว่าจะอย่างไรซ่างกวนอวิ๋นเฟิงก็เป็นเทพสงคราม 8 ดาราคนหนึ่ง ถึงแม้มันจะเป็นผู้ฝึกตนอิสระในระนาบเทวโลก และไม่ตั้งใจจะเข้าร่วมกับขุมกำลังใดๆ แถมปกติแล้วมันก็ร่อนเร่พเนจรไปเรื่อยราวกระเรียนป่า…

  

กล่าวได้ว่าในระนาบเทวโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล มันก็คือผู้ฝึกตนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่มีจุดตัดอะไรกับขุมกำลังระดับแนวหน้าของระนาบเทวโลกทั้งหลายเลย ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์

  

อย่างไรก็ตามผู้ฝึกตนอิสระเองก็เป็นผู้คนที่มีจิตใจ อย่างไรก็ต้องมีคิดถึงอนาคตของตัวเองไว้บ้าง

  

โดยเฉพาะตอนนี้มันก็ได้ฝึกฝนมาจนมีพลังระดับเทพสงคราม 8 ดาราแล้ว แถมยังใช้ชีวิตอยู่มาหลายหมื่นปี ถ้าหากยังไม่อาจบังเกิดความก้าวหน้าอะไรอีก มันก็รู้สึกเสมือนว่าชีวิตของมันกำลังจะจบลง…แน่นอนว่าการจบลงในที่นี้หมายถึงจุดจบของความแข็งแกร่ง ไม่ใช่จุดจบของชีวิต

  

ตัวมันมีอายุขัยไร้สิ้นสุด เรียกว่าสามารถดำรงอยู่ได้ยาวนานทัดเทียมกับสวรรค์และโลก ขอเพียงไม่ถูกผู้อื่นฆ่า มันก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล

  

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของความแข็งแกร่ง ก็ไม่ต่างอะไรจากคนไร้เป้าหมายใดๆเสมือนเคว้งคว้างไร้ทิศทางแล้ว…และเมื่อไม่อาจพัฒนาก้าวหน้าได้อีก หลังจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าอะไรที่เคยสนุกบันเทิงแค่ไหน เมื่อทำไปซ้ำๆก็ไม่พ้นเบื่อหน่าย และสุดท้ายก็จะกลายเป็นความเปลี่ยวเหงา…

  

เช่นนั้นจึงมีผู้คนมากมายที่หลังจากฝึกฝนบ่มเพาะแล้ว แต่ไม่อาจบังเกิดความก้าวหน้าได้แม้จะผ่านไปนานนับหมื่นๆปี ก็ได้เลือกที่จะผจญภัยเสี่ยงชีวิตเข้าไปยังสถานที่ต้องห้ามทั้งหลาย เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆในชีวิต…และก็มีหลายคนที่ต้องจบชีวิตลงเพราะการผจญภัยดังกล่าว แน่นอนว่ายังมีบางคนที่สามารถบรรลุความก้าวหน้า ยกระดับพลังของตัวเองได้

  

จะสมรภูมิอเวจีก็ดี สมรภูมิ 9 ยมโลกก็ดี ที่นี่ก็เสมือนสถานที่แห่งโอกาสและเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ในชีวิตของใครหลายๆคน

  

ด้วยเหตุนี้ตัวตนระดับเทพสงคราม 7 ดารา เทพสงคราม 8 ดารา จวบจนเหล่าเทพสงคราม 9 ดารา ที่ในระนาบเทวโลกแทบไม่มีผู้ใดรู้จักแล้ว ก็อาจพบเห็นได้ในสมรภูมิ 9 ยมโลก

  

ในฐานะผู้ฝึกตนอิสระของระนาบเทวโลก พวกมันอาจไม่สุงสิงกับใครและไม่สนใจการช่วงชิงอำนาจได้ก็จริง

  

อย่างไรก็ตามผู้ฝึกตนอิสระทั้งหลายก็มีความต้องการและมีเป้าหมาย…เพื่อจะยกระดับพลังฝีมือของตัวเอง ยกระดับพลังฝึกปรือ เช่นนั้นสมรภูมิ 9 ยมโลกจึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในการผจญภัยแสวงหาโอกาสเพื่อความก้าวหน้า และสายสัมพันธ์ก็ถือเป็นหนึ่งในโอกาสที่ว่า

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงผู้นำกองกำลังพันธมิตรสวรรรค์เอง ก็เป็นผู้ฝึกตนอิสระเช่นนี้

  

‘วันหน้าเมื่อจ้าววังน้อยบรรลุถึงขอบเขตเทพ ตราบใดที่จ้าววังน้อยยินดีให้คำชี้แนะต่อข้า ข้าก็อาจจะเห็นหนทางก้าวหน้า! เพราะสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือ…จ้าววังน้อยเป็นถึงผู้ที่เข้าใจ 2 ใน 4 วิถีแห่งสวรรค์และโลก!!’

  

ซ่างกวนอวิ๋นเฟิงที่มักจะหยิ่งทะนงกับคนอื่น แต่มากระตือรือร้นกับต้วนหลิงเทียนนั้น ไม่ใช่เพราะเหตุผลใดอื่น แต่มันเชื่อว่าหากรักษาความสัมพันธ์กับต้วนหลิงเทียนให้ดี วันหน้าไม่แน่ต้วนหลิงเทียนอาจเป็นผู้ที่ชี้แนะให้มันเห็นโอกาสอะไรได้…

  

หาไม่แล้วต่อให้จักรพรรดิสวรรค์สักคนมายืนต่อหน้ามัน ตัวมันก็ไม่คิดจะแยแส!

  

นอกจากนี้ยังมีจักรพรรดิสวรรค์มากมายนัก ที่พลังฝีมืออ่อนด้อยกว่ามัน! กล่าวได้ว่าถ้าพรุ่งนี้มันอยากเป็นจักรพรรดิสวรรค์ มันก็มีตัวเลือกไม่น้อย!

  

หลังจากซ่างกวนอวิ๋นเฟิงหันหลังย้อนกลับมายังกลางค่าย มันก็เร่งออกคำสั่งให้พื้นที่หุบเขาอันแห้งแล้งกระทั่งวิหกยังไม่อยากแวะเวียนไปขับถ่ายที่ต้วนหลิงเทียนเลือก กลายเป็นเขตหวงห้ามทันที ห้ามมิให้ผู้ใดเฉียดเข้าใกล้โดยเด็ดขาด…และเพื่อการนี้มันถึงกับจัดให้ผู้พิทักษ์กับยอดฝีมือบางส่วนของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์แบ่งเวรกันไปเฝ้าระวัง พบเจอผู้ใดคิดล่วงล้ำเข้าไป ฆ่าไม่ต้องถาม!

  

“เขตหวงห้าม?”

  

“เอ่อ…ข้าพลาดอะไรไปรึเปล่า? ไฉนอยู่ๆสถานที่ๆกระทั่งวิหกยังไม่อยากแวะเวียนไปขับถ่ายนั่น มันถึงกลายเป็นเขตหวงห้ามไปได้เล่า?”

  

  

เรียกว่าการประกาศเขตหวงห้ามครั้งนี้ของซ่างกวนอวิ๋นเฟิงทำให้ทั้งระดับสูงต่ำของกองกำลังพันธมิตรสวรรค์บังเกิดความสงสัยแปลกใจกันถ้วนหน้า

  

แน่นอนว่ายังมีหลายคนที่บังเกิดอาการคันในหัวใจยากจะเกา อยากรู้ให้ได้ว่าไฉนที่นั่นถึงกลายเป็นเขตหวงห้ามไปได้?

  

ปกติสถานที่แห่งนั้นก็ไม่มีใครคิดจะไป แต่พอมันกลายเป็นเขตหวงห้าม ไม่ทราบเพราะอะไรกลับทำให้หลายๆคนอยากเข้าไปดูเหลือเกิน…

  

“มีสมบัติเลิศล้ำอะไรหรือไม่?”

  

หลายคนลอบคาดเดาไปทำนองดังกล่าว

  

อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลายคนก็ทราบว่าที่แท้ตัวเองเดาผิด ที่นั่นไร้ซึ่งสมบัติเลิศล้ำอันใด เพียงแต่มันเป็นเขตหวงห้ามเพียงเพราะผู้นำพันธมิตรสวรรค์ได้ยกสถานที่แห่งนั้นให้เป็นที่พักบ่มเพาะของใครบางคน!

  

“คุณชายชุดม่วง!?”

  

“คุณชายชุดม่วงฝึกฝนบ่มเพาะอยู่ที่นั่นรึ?”

  

  

ผู้ที่มีเส้นสายก็พบได้ในเวลาอันสั้น ว่าผู้ที่บ่มเพาะฝึกฝนอยู่ในสถานที่แห่งนั้นก็คือ ‘คุณชายชุดม่วง’ ที่พึ่งจะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในพื้นที่แถบนี้เมื่อไม่นานนัก

  

อย่างไรก็ตาม หลายคนยังอดสงสัยต่อไม่ได้

  

ต่อให้เป็นคุณชายชุดม่วง ก็ไม่น่าจะหน้าใหญ่ขนาดนั้นกระมัง?

  

สถานที่พักบ่มเพาะของมัน ถึงกับถูกผู้นำพันธมิตรสวรรค์กำหนดให้เป็นเขตหวงห้าม มิอนุญาตให้ผู้ใดเฉียดเข้าใกล้เด็ดขาดเชียวหรือ?

  

“เฮ่ ข้าพึ่งได้ข่าววงในมา…คุณชายชุดม่วงผู้นั้น หลังเข้าร่วมพันธมิตรสวรรค์ของพวกเรา มันมิได้เป็นผู้พิทักษ์ 9 แต่อย่างไร ทว่าได้เป็นถึงรองผู้นำพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราเชียว!”

  

หลายคนที่ไปสอบถาม ‘คนวงใน’ มา ก็เริ่มนำความที่ทราบมาบอกกล่าวต่อๆกัน

  

และพอได้รับทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว สมาชิกกองกำลังพันธมิตรสวรรค์หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความรู้สึกอันท่วมท้น

  

รองผู้นำ?!

  

พันธมิตรสวรรค์ของพวกมันมีรองผู้นำแล้ว?!

  

“ตำแหน่งรองผู้นำ เห็นได้ชัดว่าอยู่เหนือกว่าผู้พิทักษ์ทั้ง 8…แต่ในเมื่อผู้พิทักษ์ใหญ่ของพวกเราก็เป็นถึงเทพสงคราม 8 ดาราแล้ว…ไฉนคุณชายชุดม่วงอะไรนั่นถึงได้กลายเป็นรองผู้นำได้ทันทีที่เข้ามาเลยเล่า เรื่องนี้ข้าไม่ยอมรับ!”

  

“นั่นสิ พลังฝีมือของคุณชายชุดม่วงไม่ใช่อย่างดีก็แค่ยอดฝีมือเทพสงคราม 7 ดาราหรือไร? ไฉนพอเข้ามาก็ได้เป็นรองผู้นำทันทีล่ะ?”

  

“เป็นไปได้หรือไม่…ว่าพลังฝีมือที่แท้จริงของมันจะกล้าแข็งเหนือกว่าผู้พิทักษ์ใหญ่?”

  

  

ในขณะที่ทุกคนกำลังคลางแคลงสงสัยเรื่องนี้ ก็มีข่าวล่ามาแรงอีกข่าวหนึ่ง

  

“คุณชายชุดม่วงผู้นั้น มีอีกตัวตนที่น่าเหลือเชื่อนัก…ในโลกภายนอก มันคือศิษย์ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวของจักรพรรดิสวรรค์ในตำนานแห่งจี้เมี่ยเทียน ฟงชิงหยาง ผู้นั้น! มันคือจ้าววังน้อยแห่งพระราชวังจักรพรรดิสวรรค์จี้เมี่ยเทียน!!”

  

“ว่าอะไร!? ต้วนหลิงเทียน!? ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ในศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งล่าสุดผู้นั้น? สวรรค์! มันมาสมรภูมิ 9 ยมโลกแล้วแถมยังเข้าร่วมกับพันธมิตรสวรรค์ของพวกเรา?!”

  

“ข้าพึ่งออกไปด้านนอกมาเมื่อเดือนก่อน ตลอดทางข้าได้ยินข่าวเรื่องมันทุกแห่งหน! ในศึกอัจฉริยะสวรรค์มันก็ได้เผยพลังฝีมือระดับเทพสงคราม 7 ดาราชนชั้นยอดฝีมือออกมาแล้ว! และเรื่องของเรื่องก็คือเห็นว่าในศึกอัจฉริยะสวรรค์ด่านพลังฝึกปรือของมันยังเป็นแค่จักรพรรดิอมตะ 9 ตำหนักเท่านั้น!!”

  

“ใช่ ข้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อ 4 เดือนก่อนตอนออกไปด้านนอก รางวัลผู้ชนะอันดับ 1 ของศึกอัจฉริยะสวรรค์ครั้งนี้ก็คือผลอมตะหยวนปะทุ และมีจักรพรรดิสวรรค์กับจ้าววิหารเฟิงฮ่าวมากมายกล่าวไว้ว่า หลังจากมันบรรลุถึงจักรพรรดิอมตะ 10 ทิศเมื่อใด ต่ำๆพลังฝีมือก็จะเทียบได้กับเทพสงคราม 8 ดาราทันที บ้างก็ว่ามันอาจจะกลายเป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดาราด้วยซ้ำ!!’

  

“ยอดฝีมือเทพสงคราม 8 ดารา?! มารดาเราช่วย…เช่นนั้นมิใช่หมายความว่ามันแข็งแกร่งกว่าผู้นำพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราอีกรึไร!?”

  

“ก็นั่นล่ะ ข้าเลยได้ยินผู้พิทักษ์ 7 กล่าวออกมาอีกว่า เดิมทีท่านผู้นำตั้งใจยกตำแหน่งผู้นำให้มันแล้ว…แต่มันปฏิเสธ เช่นนั้นท่านผู้นำจึงปล่อยให้มันเป็นรองผู้นำพันธมิตรสวรรค์ของพวกเราแทน!”

  

  

ข่าวใหญ่แต่ละข่าวที่ทยอยมาถึง ทำให้ค่ายกองกำลังพันธมิตรสวรรค์สั่นสะเทือนไม่น้อย

  

และด้วยมีคำยืนยันจากผู้ที่พึ่งออกไปด้านนอกมาไม่นานหลายต่อหลายคน ทำให้พวกมันรู้ว่าในขณะที่พวกมันอยู่ในสมรภูมิ 9 ยมโลก ด้านนอกก็ได้ปรากฏตัวอัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับ 1 ของระนาบเทวโลกที่แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนไหนในประวัติศาสตร์เทียบได้มาก่อน!!