บทที่ 1672 ต้องการความช่วยเหลือ
ขณะนั้นเอง ทั่วทั้งตัวเจ้าเมืองหวยเฉิง ที่มีแต่จิตวิญญาณที่จะฆ่า
เขาพูดไปด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“มันเป็นเพราะข้าดีกับพวกเจ้าไม่พอหรือไง?หรือจะว่า เพราะข้าดีกับพวกเจ้าเกินไป
จนถึงกับทำให้พวกเจ้าคิดว่า ถึงพวกเจ้ามีใจจะฆ่าข้า ข้าคงไม่ถึงกับจะฆ่าพวกเจ้า?”
หวยฉิงอวี่กลัวจนฉี่แทบเล็ด มาถึงตอนนี้ หล่อนก็เพิ่งจะรู้ชัด เจ้าเมืองหวยเฉิงนั้นรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นแล้ว
หล่อนพูดด้วยความหวาดกลัวเต็มใบหน้า “ท่านพ่อ
ต้องเป็นเพราะนางแพศยาหวยหลานนั่น พูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้ากับท่าน ใช่ไหมคะ?ท่านเป็นพ่อของข้า
ข้าจะคิดสังหารท่านได้ยังไงกัน?”
เจ้าเมืองหวยเฉิงมองลึก ๆ
ไปที่หวยฉิงอวี่
เอ่ยปากพูดไปว่า “ในใจของเจ้าเห็นข้าเป็นพ่อเจ้าด้วยหรือ?”
หวยฉิงอวี่สะท้านขึ้นมาทั้งตัว รีบตอบไปว่า “ในใจของข้า ท่านก็คือท่านพ่อของข้าอยู่แล้ว!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ ในใจของเจ้า
ข้าเป็นเพียงคู่แค้นที่ฆ่าพ่อของเจ้า ศัตรูคู่แค้นที่ฆ่าพ่อของเจ้า ที่เจ้าแอบฝึกผู้แข็งแกร่งเตรียมรอโอกาสจะกำจัดมันทิ้ง
ถูกต้องไหม?”
หวยฉิงอวี่สีหน้าเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง
ถึงแม้หล่อนจะเดาเหตุการณ์ออกอยู่แล้ว ว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงต้องรู้ความจริงแล้ว
แต่ขณะนี้ที่เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดเองในข้อเท็จจริงทั้งหมด หล่อนก็จึงหวาดหวั่นพรั่นกลัวไปอย่างที่สุด
เจ้าเมืองหวยเฉิงยังพูดต่อไปอีกว่า “ถ้าไม่ใช่ว่าข้าทำใจยินยอม เจ้ายังคิดว่าเจ้ามีความสามารถพอหรือ ในการที่จะแอบฝึกผู้แข็งแกร่งได้?”
หวยฉิงอวี่ยิ่งหวาดหวั่นหนัก
หรือ ที่หล่อนแอบฝึกเลี้ยงผู้แข็งแกร่งพวกนั้นมานานแล้ว?
เจ้าเมืองหวยเฉิงรู้เรื่องของหล่อนจริง ๆ
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ข้าก็เคยคิดอยู่ก่อนนะว่า ขอเพียงแต่เจ้าไม่ทรยศต่อจวนเมืองหวยเฉิง
ขอเพียงแต่เจ้าไม่ลงมือทำอะไรข้า ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้า ถือว่าเป็นการชดเชยให้กับแม่ของเจ้า”
“ข้าคิดว่า
ถึงขนาดเวลานี้ยังนำพาเอาความหายนะมาสู่จวนเมืองหวยเฉิงอีกด้วย”
ข้าได้ทำถึงแล้วซึ่งเมตตากรุณาธรรมและคุณธรรมก็ถึงพร้อมแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้ายังคิดจะสังหารข้า
“ถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าก็ต้องตาย!”
พูดจบ ออกคำสั่งไป “ประทานเหล้า!”
หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง ประคองถาดเดินเข้ามา ที่วางบนถาด เป็นกาเหล้าสวยวิจิตรกับจอกเหล้าสองใบ
เจ้าเมืองหวยเฉิงเดินเข้าไป
รินเหล้าใส่จอกด้วยตัวเอง สายตาที่ไร้แววอารมณ์ใด ๆ ทอดลงมองไปที่หวยฉิงอวี่กับหวยเฟิ่ง พูดเสียงหนาวเยือก “เวลานี้
พวกเจ้าต้องให้ความตายเป็นการไถ่โทษแล้ว!”
หวยฉิงอวี่สติวุ่นวายไปหมดแล้วในตอนนี้ คุกเข่าคลานเข้าไปหาแทบเท้าเจ้าเมืองหวยเฉิง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “ท่านพ่อ ฉันผิดไปแล้ว ฉันรู้แล้วจริง
ๆ ขอท่านได้โปรดเห็นแก่คุณแม่ ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งด้วยเถิด ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้ว ขอท่านได้โปรดให้ชีวิตลูกอีกสักครั้งด้วยเถิด
ลูกจะไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้วจริง ๆ ”
หวยเฟิ่งก็ร้องไห้คร่ำครวญว่า
หนูยังไม่อยากตาย!”
“ท่านปู่ ขอท่านได้โปรดสงสารพวกหนูด้วย ปล่อยให้พวกหนูมีชีวิตต่อไปด้วยเถิด
เจ้าเมืองหวยเฉิงไม่สนใจแยแสกับทั้งสองคน
หันหลังกลับเดินออกจากไป จนเดินไปถึงประตูที่จะออกจากห้องโถงใหญ่ จึงได้เอ่ยปากออกมาว่า
“ประทานให้ดื่มเหล้า”
สองผู้แกร่งหุ่นกำยำ เดินมุ่งตรงเข้าไปหาหวยฉิงอวี่กับหวยเฟิ่ง
หญิงกลางคนที่ประคองถาดเหล้ามา เอ่ยปากพูดว่า “ทั้งสองท่าน เชิญดื่มค่ะ!”
ด้วยสีหน้าที่สิ้นหวัง หวยฉิงอวี่มองตามทางที่เจ้าเมืองหวยเฉิงที่เดินหายออกจากห้องโถงใหญ่ด้วยสายตาเคียดแค้นอย่างมาดร้าย
ขบขึ้ยวเคี้ยวฟันสบถออกไปว่า “ให้ข้าตายกลายเป็นผีไป ข้าก็จะไม่ปล่อยละแก!จอมมารร้ายอย่างแก ตัวมารร้ายที่ฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของข้า
ตัวมารร้ายที่ฉุดคร่าแม่ของข้ามา!”
“ลงมือ!”
เสียงหนาวเยือกของหญิงกลางคนนั้นพูด
ผู้แข็งแกร่งทั้งสองนาย ต่างคนต่างหยิบจอกเหล่าคนละถ้วย ฝืนกรอกใส่ปากหวยฉิงอวี่และหวยเฟิ่ง
เจ้าเมืองหวยเฉิงเพิ่งเดินพ้นออกจากห้องโถง ผู้แข็งแกร่งที่เป็นคนรับใช้วิ่งเข้ามารายงาน
“ท่านเจ้าเมือง เกิดเหตุร้ายแล้ว เมื่อสักครู่นี้ ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์จากหุบเขาราชายา
ระดมกำลังทั้งหมด มุ่งหน้าบุกโจมตีจวนเมืองหวยเฉิง!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงสูดหายใจเข้าอย่างลึก
สีหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดไปว่า “มันจะคิดว่าจวนเมืองหวยเฉิงไม่มีคนแล้วหรือไง?ถ่ายทอดคำสั่งข้าออกไป
ให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ที่มีอยู่ในเมืองหวยเฉิง ลุยเข้าทำศึกกันทั้งหมด!”
“ในเมื่อพวกหุบเขาราชายาอยากจะหาที่ตายกัน งั้นข้าก็จะช่วยให้สมปรารถนา!”
คนรับใช้รีบตอบทันที “ขอรับ ท่านเจ้าเมือง!”
ขณะนั้นเอง ผู้เฒ่าในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทา
ถ้าหากมีการเปิดศึก ผลตามหลังมาจะหนักหนาสาหัสมากนะ!กองกำลังของจวนเมืองหวยเฉิน จะต้องเสียศูนย์ไปเป็นอย่างมาก”
เข้ามาข้างหน้าเจ้าเมืองหวยเฉิง พูดเสียงหนักแน่น “ท่านเจ้าเมือง
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดเสียงเยือก “แล้วท่านคิดว่า ระหว่างพวกเรากับพวกหุบเขาราชายา ยังมีที่เหลือให้เจรจากันได้อยู่อีกหรือ?”
ผู้เฒ่าในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทาพูดว่า
“สวีฮว๋ากับสองผู้คุมกฎซ้ายขวา จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ถูกพวกคนของเราฆ่า ข้าถึงจะไม่รู้ชัดว่าทั้งสามคนนั้นตายอย่างไร แต่ก็มั่นใจได้ว่า การตายของพวกเขา
ต้องเกี่ยวพันกับหยางเฉินเป็นแน่”
“เพียงให้พวกเราหาหยางเฉินให้พบ ก็คงจะสอบรู้ได้ว่า ผู้แข็งแกร่งจากหุบเขาราชายาตายได้อย่างไร”
เจ้าเมืองหวยเฉิงถามเสียงเยือก ๆ “หลังจากสืบจนรู้ชัดแล้วเป็นไง?พวกหุบเขาราชายาฆ่าผู้แข็งแกร่งในจวนเมืองหวยเฉิงของเราไปมากมายขนาดนั้น แล้วยังจะให้พวกเราต้องก้มหัวให้กับพวกมันอีกหรือ?”
ผู้เฒ่าในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทาขมวดคิ้วย่น “เพียงขอให้เรามีเวลาสักระยะหนึ่ง
พวกหุบเขาราชายาก็จะไม่กล้าโอหังได้อีก!ตอนนี้ขอเพียงรักษาจวนเมืองหวยเฉิงของพวกเราไว้ได้
จะยอมก้มหัวให้สักชั่วคราว ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร”
“เรื่องนี้ไม่ได้!”
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดเสียงกร้าว “ถ้าขืนพูดให้พวกเรายอมก้มหัวให้หุบเขาราชายา ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งเป็นคนแรก!”
ได้ยินดังนั้น ผู้เฒ่าในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทาไม่กล้าพูดให้มากความอีก ได้แต่แอบถอนหายใจ
ทันทีนั้นเจ้าเมืองหวยเฉิงก็สั่งการออกไป “ให้เวลาเจ้าครึ่งวัน หาหยางเฉินให้พบ แล้วเอาตัวมาให้ข้าที่นี่!”
“ขอรับ ท่านเจ้าเมือง!”
ผู้เฒ่าในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทาพูดจบ หันกลับเดินออกไป
ในขณะนี้ คนที่เจ้าเมืองหวยเฉิงต้องการฆ่ามากที่สุดก็คือหยางเฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉิน จวนเมืองหวยเฉิงกับหุบเขาราชายาก็คงไม่มีเรื่องวุ่นวายต่อกันรุนแรงถึงขนาดนี้
เมื่อผู้เฒ่าในชุดเสื้อคลุมยาวสีเทาออกไปแล้ว เจ้าเมืองหวยเฉิงเข้าไปที่หลังเขา
“บรึม!”
ที่หลังเขาปรากฏเป็นช่องถ้ำ เจ้าเมืองหวยเฉิงก้าวเดินเข้าไปข้างใน
ไม่มีใครรู้เลยว่า ที่หลังเขาที่ตั้งของจวนเมืองหวยเฉิง จะมีถ้ำลึกลับอยู่ด้วย
ภาพที่เห็นภายในถ้ำ แสงไฟสว่างทั่ว
ก็จะมีส่งเสียงโอดร้อง ดังแว่วออกมาจากส่วนที่ลึกเข้าไปในถ้ำ
มีคนอยู่ในชุดคลุมยาวสีขาวกลุ่มหนึ่ง กำลังง่วนกันอยู่ดูไม่ว่าง บางที่พัก ๆ
“เจ้าเมืองหวย ท่านมาแล้ว”
ขณะนั้นเอง
เสียงที่ฟังเหมือนเสียงหุ่นยนต์พูด จู่ ๆ ก็ดังขึ้น
เงาร่างของผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในชุดคลุมดำทั้งตัว เดินเข้ามา
มองไปที่เงาร่างในชุดคลุมดำทั้งตัวที่ปรากฏมาข้าง ๆ ตัวในทันใดนั้น
ส่วนลึก ๆ
ในแววตา เกิดความรู้สึกตื่นสะดุ้งนิด ๆ
เจ้าเมืองหวยเฉิงพูดเสียงทุ้มลึก “ขณะนี้ จวนเมืองหวยเฉิงประสบปัญหายุ่งยาก ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเหลือ”
เงาร่างในชุดคลุมดำหัวเราะเคี้ยก
ข้าก็ต้องช่วยแน่นอน แต่ว่า ไม่ทราบว่าเจ้าเมืองท่าน จะต้องการใช้ผู้แข็งแกร่งเท่าไหร่?”
ๆ ขึ้นมา “ในเมื่อเจ้าเมืองท่านออกปาก
เจ้าเมืองหวยเฉิงชูขึ้นมาห้านิ้ว เอ่ยปากไปว่า “ผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดแดนเหนือมนุษย์ห้านาย!”
เงาร่างในชุดคลุมดำหัวเราะ แล้วก็หันไปทางส่วนลึกเข้าไปของถ้ำ ยกมือดีดนิ้วเป็นเสียง
ทันทีต่อมา ตัวประหลาดครึ่งคนครึ่งหุ่นยนต์ห้าตนเดินก้าวออกมา
เจ้าเมืองหวยเฉิงขมวดคิ้วย่น จากตัวตนของห้าคนนั้น เขาไม่ได้สัมผัสถึงความมีพลังบูโดอยู่เลยแม้แต่น้อย
เงาร่างในชุดคลุมดำยิ้มกวน ๆ พูดว่า “ท่านเจ้าเมืองลองดูไหม?”
“ได้!”
เจ้าเมืองหวยตอบรับ
และในขณะนั้นเอง ทั้งห้านายนั่นพุ่งเข้าใส่เจ้าเมืองหวยเฉิงในบัดดล
นาที่นั้นเอง เจ้าเมืองหวยเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปในฉับพลัน รีบลงมือตอบโต้
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่สิบวิฯ. เจ้าเมืองหวยเฉิงแสดงออกในสีหน้าที่ตื่นตา
มองจ้องไปยังเงาร่างในชุดคลุมดำนั่น พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ด๊อกเตอร์แบล็ก
พลังจริงของทั้งห้านายนี้ ดูที่น่ากลัวห่างแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น ก็ไม่น่าไกลเท่าไหร่แล้วนะ?”
เงาร่างในชุดคลุมดำ ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง นั้นเอง