ตอนที่ 3567

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3567 : วิกฤตพันธมิตรอุดรลี้ลับ

 

จี้หยิ่งที่ขึ้นร่างหยุดลงกลางหาวได้อีกครั้ง สารรูปของมันแลดูทุกลักทุเลอยู่บ้าง สายตาที่มองจ้องไปยังหมีซวนนอกจากความกลัวก็เต็มไปด้วยความจริงจัง

 

“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”

 

เหตุไฉนที่มันถามออกไปแบบนั้น เพราะจี้หยิ่งไม่คิดว่าเทพสงคราม 9 ดาราที่มาจะน่ากลัวขนาดนี้ ทักษะวิญญาณเมื่อครู่ มันร้ายกาจจนไม่น่าจะมีใครรับมือได้เลย!

 

ต่อให้เป็นยอดฝีมือเทพสงคราม 9 ดารา หากไม่มีอุปกรณ์เทพคุ้มกันวิญญาณ เกรงว่าคงไม่อาจต้านทานรับมือทักษะวิญญาณเมื่อครู่ได้ด้วยซ้ำ!

 

ตัวตนระดับนี้ คิดฆ่ามันนับเป็นเรื่องราวอันง่ายดายนัก

 

เรียกว่าภายในใจจี้หยิ่งตอนนี้มันซับซ้อนนัก

 

วิหารเฟิงฮ่าวส่งอีกฝ่ายเข้ามายังสมรภูมิ 9 ยมโลกเพื่อช่วยมันตามล่าหาตัวต้วนหลิงเทียนกล่าวไปก็เป็นเรื่องดีอย่างไรก็ตาม พอตระหนักถึงพลังฝีมือของอีกฝ่าย มันกลับรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะรู้สึกเสมือนตัวเองกำลังถูกอีกฝ่ายครอบงำ

 

บัดนี้จี้หยิ่งคล้ายลืมเลือนไปหมดสิ้น

 

เป็นมันที่อยากทดสอบพลังฝีมือของผู้อื่นเขาก่อน ไม่ใช่ผู้อื่นอยากลงมือกับมัน

 

“คนที่เจ้าไม่อาจล่วงเกิน

 

ได้ยินคำถามของจี้หยิ่ง หม่ชวนก็ตอบกลับไปสั้นๆ

 

คำตอบเหมือนไม่ได้ตอบดังกล่าว ย่อมทำให้จี้หยิ่งไม่พอใจเป็นธรรมดา แต่มันก็ไม่กล้าหือถือด้วยกลัวว่าเกิดอีกฝ่ายมีโมโหอะไรขึ้นมาจริงๆ อาจจะฆ่ามันทิ้งเสียให้พ้นๆ

 

คนอื่นอาจกริ่งเกรงมัน เพราะอย่างไรมันก็คือศิษย์ที่แท้จริงอันดับหนึ่ง กระทั่งยังเป็นบุตรบุญธรรมของจักรพรรดิสวรรค์จี้ฟานเทียน แต่ทว่าคนเบื้องหน้ามาจากวิหารเฟิงฮาวที่มีความเป็นมากล้ำ ไม่ใช่อะไรที่มันจะเทียบได้

 

คนที่ชมดูเรื่องราวรอบๆ ก็พร้อมใจกันเงียบกริบ

 

อาวุโสของพันธมิตรฟานเทียนพอมองไปยังหมีซวนอีกครั้ง ในลูกตาก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัว เรียกว่าไม่กล้าแม้แต่จะสบตาอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

 

ส่วนกลุ่มคนของวิหารเฟิงฮ่าววก็ลอบหวาดเสียวจนเหงื่อตก เรียกว่าถึงตอนนี้ยังผวาไม่หาย! ไม่คาดว่าผู้นำของมันจะน่ากลัวขนาดนี้ โชคดีที่ก่อนหน้าพวกมันไม่มีใครฝ่าฝืนคำสั่งที่จ้าววิหารสั่งให้พวกมันเชื่อฟังอีกฝ่าย!!

 

นี่เป็นโลกที่ผู้เข้มแข็งได้รับการเคารพนับถือ เมื่อพลังฝีมือของหมีซวนร้ายกาจขนาดนี้พวกมันก็ยอมรับ และเต็มใจทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง

 

“เจ้ามีเบาะแสอันใดเกี่ยวกับตัวนหลิงเทียนแล้วบ้าง?”

 

หมีชวนเหลือบมองจี้ห่งพลางถามเสียงเรียบ

 

จี้หยิ่งผงะไปเล็กน้อย พอได้สติก็ส่ายหัวไปมา “ตั้งแต่ที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าศิษย์น้องข้า พันธมิตรสวรรค์ที่มันอยู่ก็สลายตัว จากนั้นมันก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย”

 

“ไม่นานมานี้คนของพันธมิตรฟานเทียนเราได้จับตัวคนที่เคยอยู่ในพันธมิตรสวรรค์มาได้หลายคน แต่ถึงจะทรมานพวกมันจนตาย พวกมันก็ไม่อาจบอกที่อยู่ของต้วนหลิงเทียนได้ เห็นชัดว่าพวกมันไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนไปไหน”

 

“จนถึงตอนนี้ข้าก็เลยยังไม่ได้เบาะแสอันใด”

 

พอพูดถึงคนที่ฆ่าศิษย์น้องที่มันเห็นไม่ต่างอะไรกับน้องชายแท้ๆ สองมือของจี้หยิ่งก็กำแน่นร่างยังสั่นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม

 

“คนของพันธมิตรสวรรค์ที่เจ้าจับมาได้ มีพวกระดับสูงๆหรือไม่?”

 

หมีซวนเอ่ยถามอีกรอบ

 

“ไม่”

 

จี้หยิ่งส่ายหัวไปมา “ที่พวกเราจับตัวพวกมันได้ เพราะพวกมันไปคุยโวว่าเคยอยู่ในพันธมิตรสวรรค์ และได้เห็นการต่อสู้ระหว่างต้วนหลิงเทียนกับหมู่หลงศิษย์น้องข้ากับตา”

 

“พวกมันเป็นแค่สมาชิกธรรมดาๆของพันธมิตรสวรรค์เท่านั้น”

 

หลังจากที่พันธมิตรสวรรค์ถูกยุบ คนของพันธมิตรสวรรค์ก็แยกย้ายกันไปเข้าร่วมกับกองกำลังอื่น บางคนที่มีสมองย่อมไม่เปิดเผยเรื่องที่ตัวเองเคยอยู่ในพันธมิตรสวรรค์ออกไป

 

อย่างไรก็ตามใต้หล้าไม่เคยขาดพวกขี้คุย ยังมีบางคนที่ชอบคุยโวอวดโอ่เมื่อรู้สึกว่าเรื่องราวไม่เกี่ยวอะไรกับตัว และเห็นว่าพูดไปก็ไม่เป็นอะไร

 

ด้วยเหตุนี้ ย่อมมีคนชะตาขาดอย่างโง่งมบ่อยครั้ง!

 

“อย่างไรก็ตาม พวกเรายังคงส่งคนออกไปตา

 

จี้หยิ่งเอ่ยออกเสียงต่ำ “ถึงจะไม่อยากแต่ข้าก็ต้องยอมรับต้วนหลิงเทียนผู้นั้นมีพรสวรรค์และความเข้าใจสูงนัก ข้าเชื่อว่าอายุมันยังไม่ทันครบ 700 ปี มันก็ต้องบรรลุถึงเทพสงคราม 9 ดาราได้แน่ หากช่วงนี้มันยังเก็บตัวเงียบ วันหน้าข้าคงไม่อาจสู้มันได้…”

 

“อย่างไรก็ตาม หากมันฟังบรรลุถึงเทพสงคราม 9 ดารา และเลือกจะปรากฏตัวออกมาทันทีมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าแน่!”

 

พอจี้หยิ่งพูดถึงจุดนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเองก็มีโมโหไม่น้อย เพราะรู้สึกว่าตัวเองสมควรทำได้ดีกว่านี้

 

เผชิญกับความไม่พอใจของจี้หยิ่ง หมี่ซวนก็เหลือบมองมันผ่านๆ และไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อ “เช่นนั้นเจ้าก็ไปจัดที่พักเงียบๆในพันธมิตรฟ่านเทียนให้ข้ากับคนของข้าก่อนเถอะ”

 

ทางด้านต้วนหลิงเทียนในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่จะไม่รู้ว่าหมี่ซวนอดีตผู้นำเผ่าภูตได้เข้าสู่สมรภูมิ 9 ยมโลกมาอีกครั้งและร่วมมือกับจี้หยิ่งเพื่อหาตัวเขา แต่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหมีชวนได้ชิงร่างถังซานเปาที่เขารู้จักไปแล้ว!

 

ตอนนี้เขากำลังคร่ำเคร่งกับการบ่มเพาะพลัง ทั้งทำความเข้าใจการผสานรวมความลึกซึ้งของกฏมิติ มรรคากระบี่มิติ ไม่เว้นวิถีควบคุมในภาคเหนือเขต 2 อย่างลืมวันลืมคืน

 

ด้วยพลังวิญญาณฟ้าดินในโลกใบเล็กภายในกายเขาได้มาจากซากปรักหักพังของระนาบเทพและสามารถมอบสภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะที่ดีที่สุดให้เขาได้ เช่นนั้นพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

สถานการณ์เป็นไปอย่างราบรื่นและเงียบสงบ

 

สำหรับคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่หวังให้ต้วนหลิงเทียนช่วยพันธมิตรอุดรลี้ลับฮุบกลืนอีก 2 กองกำลังในภาคเหนือเขต 2 ทั้งหลาย นานวันเข้าพอไม่มีความเคลื่อนไหวใด พวกมันก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้น้อยลง

 

พวกมันยังเริ่มตระหนักได้ว่าผู้คุมกฏอาวุโสของพวกมันไม่ต่างอะไรกับพระชราที่รักความสงบ

 

พวกมันจึงแทบไม่คาดหวังอะไรต่อไป

 

“อ๊าคค!”

 

ทว่า วันนี้พันธมิตรอุดรลี้ลับที่เคยเงียบสงบ อยู่ๆพลันมีเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดหนึ่งดังขึ้น ความสงบเงียบแต่เดิมพลันหายไปทันที ยังทำให้ทั้งพันธมิตรอุดรลี้ลับตกใจไม่น้อย

 

ไม่ทันที่ทุกคนจะได้ทำอะไร ก็มีร่างคนกลุ่มหนึ่งเร่งรุดเข้ามาจากด้านนอก สีหน้าท่าทางแลดูตื่นตระหนกสุดขีด

 

และในขณะที่คนกลุ่มนี้วิ่งหน้าตั้งเข้ามา พวกมันก็ร่ำร้องด้วยความแตกตื่นเสียงดังลั่น “คนของพันธมิตรขุนเขาบุกมาแล้ว!!”

 

“คนของพันธมิตรเมฆยามสารทก็มา!”

 

“ฉีคุนรองผู้นำพันธมิตรขุนเขานั่น มันพาคนบุกมาเข่นฆ่าด้วยตัวเอง! ยังพาผู้พิทักษ์ของพันธมิตรขุนเขามากันหมด!!”

 

พอกลุ่มคนที่เร่งรุดเข้ามาปาวประกาศอย่างแตกตื่น คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็หน้า เสียไปเป็นแถบ

 

ในใจของหลายๆคนเริ่มบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้น!

 

และไม่นานนักสังหรณ์อัปมงคลในใจของพวกมัน ก็กลายเป็นความจริง!

 

“แย่แล้ว! นอกประตูตะวันออก ผู้นำของพันธมิตรเมฆยามสารท ซีเหมินเจียงเฉินพาคนบุกเข่นฆ่าเข้ามาด้วยตัวเอง!!”

 

“ไม่ดีประตูทิศใต้ ถูกผู้นำพันธมิตรขุนเขา หยวน บุกถล่มเข้ามาแล้ว!”

 

นธมิตรเมฆยามสารท พาคนนับสิบเข่นฆ่าเข้ามา!!”

 

เรียกว่าค่ายที่พักดั่งมหานครใต้ธารน้ำแข็งอันเงียบสงบของพันธมิตรอุดรลี้ลับ กลับกลายเป็นปั่นปวนโกลาหลในเวลาไม่ถึงสิบลมหายใจ

 

“ฉิบหายแล้วไง พวกมันบุกเข่นฆ่าเข้ามาถึงถิ่นเราแล้ว…ทำอย่างไร! พวกเราจะทำอย่างไรกัน ดี?!”

 

“ถล่มมารดามันเถอะ! พันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาพวกมันรวมหัวกันชิงบุกจู่โจมพันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเราก่อนจริงๆ! ไฉนผู้คุมกฏอาวุโสไม่ร่วมมือกับท่านผู้นำและรองผู้ นำบุกไปทำลาพวกมันแต่แรก! สุดท้ายก็บีบให้พวกมันร่วมมือกันจนบุกเข้ามาถล่มมารดาเราถึงที่!?”

 

“ข้าเกลียดนัก! หากรู้แบบนี้ข้ากอดเมียอยู่บ้านอีกหลายๆเดือนเสียก็ดีไม่น่ารีบกลับมาเมื่อวานเลย! พึ่งกลับมาได้ไม่ทันไรก็เจอเรื่องแบบนี้ ยังมีผู้ใดซวยกว่าข้าอีกไหม!?”

 

“เฮ่อ ข้าหวังเพียงแค่พวกพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขา จะยอมรับคนที่ยอมจำนนไปเข้าร่วมกับพวกมัน”

 

“เจ้าว่าคนที่แปรพักตร์ยามมีภัยเช่นนี้ พวกมันจะกล้ายอมรับไว้ใช้งานหรือไม่เล่า?!”

 

“เจ้าก็พูดเกินไป นั่นมันสำหรับด้านนอก แต่ในสมรภูมิ 9 ยมโลกทุกคนถือผลประโยชน์เป็นสำคัญ ยังมีใครไม่คิดหาไม้ใหญ่พึ่งพิง?”

 

ในขณะที่สมาชิกพันธมิตรอุดรอี้ลับกำลังขวัญกระเจิง และความโกลาหลเกิดขึ้นทุกแห่งหน ผู้นำรวมถึงรองผู้นำของพันธมิตรเมฆยามสารทและพันธมิตรขุนเขา ก็นำกำลังคนบุกเข่นฆ่าเข้ามางด้านในค่ายพันธมิตรอุดรลี้ลับ โลหิตเพิ่งนองเป็นสายธาร..

 

ทุกคนในพันธมิตรอุดรลี้ลับที่ถูกพบเห็น โดนฆ่าไม่ละเว้น

 

ต่อให้ร้องขอความเมตตา ก็ไม่รอด

 

“ซีเหมินเจียงเฉิน หยวน พวกเจ้าคิดจะทำอะไร!?”

 

ในที่สุดผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับ หลัวอี้หมิง ก็มาถึง บัดนี้สีหน้าหลัวอี้หมิงบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นักดวงตาฉายแววเคืองแค้นปานจะพ่นไฟ

 

หลัวเฟิง รองผู้นำพันธมิตรอุดรลี้ลับเองที่ติดตามมาด้านหลังติดๆ ก็ชักสีหน้านั้นยากไม่ต่าง

 

“ผู้นำ!”

 

“รองผู้นำช่วยด้วย!”

 

พอเห็นหลัวอี้หมิงกับหลัวเฟิงปรากฏตัว เหล่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับที่เดิมคิดจะสู้ตาย ก็เร่งเหินร่างมารวมตัวกันอยู่ด้านหลังทั้งคู่ทันที ราวกับมีเพียงทำแบบนี้เท่านั้นถึงจะปลอดภัย

 

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

 

และเมื่อหลัวอี้หมิงกับหลัวเฟิงปรากฏตัวขึ้นเงาร่างมากมายจากทุกทิศก็เหินมารวมตัวกันเร็วไว เป็นเหล่าผู้คุมกฎของพันธมิตรอุดรลี้ลับ และเป็นชนชั้นเทพสงคราม 7 ดาราทั้งสิ้น

 

“ท่านผู้นำ ใต้เท้าหลัวเฟิง”

 

ครูต่อมา เหล่าผู้คุมกฎพันธมิตรอุดรลี้ลับก็มาลอยร่างอยู่ด้านหลังหลัวอี้หมิงกับหลัวเฟิง และมองจ้องไปยังคนของพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาด้วยสายตาดุร้ายเอาเรื่อง

 

แน่นอนว่าถึงพวกมันแต่ละคนจะแลดูดุร้ายเอาเรื่อง แต่หากมองให้ดีจะพบว่าลึกลงไปในสายตาดุร้ายดังกล่าว ไม่ขาดความกลัว ร่างบางคนยังถึงกับสันไปอย่างห้ามไม่ไหว

 

พันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาร่วมมือกัน ส่งยอดฝีมือบุกเข่นฆ่าเข้ามา

 

เรื่องที่พวกมันกลัวที่สุด ได้เกิดขึ้นแล้ว!

 

เดิมทีตั้งแต่ที่ได้รับทราบเรื่องการเข้าร่วมของผู้คุมกฎอาวุโส คนของพันธมิตรอุดรลี้ลับก็หวัง ว่าผู้นำ รองผู้นำ และผู้คุมกฎคนอื่นๆจะบุกไปจัดการพันธมิตรเมฆยามสารทกับพันธมิตรขุนเขาทีละกองกำลัง แต่ในเมื่อผู้คุมกฏอาวุโสที่ว่าเลือกจะเก็บตัวเงียบไม่ทำอะไร พวกมันก็เริ่มตระหนักได้ถึงอันตรายเช่นนี้

 

ถึงแม้พันธมิตรเมฆยามสารทกพันธมิตรขุนเขาจะเป็นศัตรูกัน แต่เพื่อจัดการพันธมิตรอุดรลับ พวกมันจะยอมละวางความแค้นความบาดหมางและร่วมมือกันหรือไม่?

 

ในอดีตนั้น พวกมันไม่แน่ใจว่าคำตอบของคำถามนี้จะเป็นอย่างไร

 

แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้ว

 

พวกมันร่วมมือกันจริงๆ!

 

“หลัวอี้หมิง เจ้ายังต้องถามอีกหรือ…จุดจบของพันธมิตรอุดรลับเจ้ามาถึงแล้ว”

 

หยวน ผู้นำพันธมิตรขุนเขามองหลัวอี้หมิงพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ซีเหมินเจียงเฉิน แล้วเจ้าเล่า จะเอาเช่นนี้ด้วยหรือไม่?”

 

ขณะเดียวกันหลัวอี้หมิงก็หันไปมองถามซีเหมินเจียงเฉิน ผู้นำพันธมิตรเมฆยามสารทพลางถามเสียงต่ำ

 

แม้ซีเหมินเจียงเฉินจะไม่พูดอะไร แต่ด้วยสายตาเย็นชาที่มองหลัวอี้หมิง ก็มากพอจะตอบทุกสี่

 

“ดี ดี.ดีมาก!”

 

หลัวอี้หมิงหัวเราะด้วยโทสะ “ก่อนที่พันธมิตรอุดรลี้ลับเราจะไปหาพวกเจ้าเพื่อขอคำชี้แนะแต่พวกเจ้ากลับเป็นฝายมาหาพวกเราเอง ดูเหมือนพวกเจ้าคงร้อนใจอยากทำลายพันธมิตรอุดรลับของพวกเราเต็มแก่แล้ว”

 

หลัวฝูพอได้ฟังก็แสยะยิ้มกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “หลัวอี้หมิง หากจะโทษ ก็โทษที่พันธมิตรอุดรลี้ลับเจ้าดันรับเทพสงคราม 8 ดาราเพิ่มมาอีกคนเถอะ…เจ้าเองก็รู้ดีว่าสมดุลของ 3 กองกำลังเราที่อยู่มานานปี ไม่ใช่อะไรที่เจ้าคิดจะทำลายก็ทำได้”

 

สมาชิกพันธมิตรอุดรลี้ลับหลายคนเองก็คาดเดาเรื่องนี้ได้แต่แรก พอมาได้ยินหวนผู้กล่าวย้ำซ้ำแผลใจ สีหน้าพวกมันก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก “ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะผู้คุมกฏอาวุโส!”

 

“ผู้คุมกฏอาววุโสนั่นเข้าร่วมพันธมิตรอุดรลี้ลับเราทำอันใด ข้าไม่เห็นมันจะทำประโยชน์อันใดสักอย่าง….ตอนนี้ยังทำให้พันธมิตรอุดรลี้ลับพวกเราฉิบหายวายวอดอีก!”

 

“ผู้คุมกฏอาวุโสบัดซบอันใด…มารดามันไร้ประโยชน์สิ้นดี!”

 

“พันธมิตรอุดรลี้ลับของพวกเรามิน่าให้มันเข้าร่วมเลย”

 

เหล่าคนของพันธมิตรอุดรลี้ลับได้แต่กระซิบกระซาบด่าทอกันด้วยความไม่พอใจ

 

แม้แต่เหล่าผู้คุมกฏของพันธมิตรอุดรทมิฬเองก็มีหลายคนคิดแบบนี้ แต่ด้วยสถานะของพวกมันที่ต่างจากสมาชิกทั่วไป จึงไม่สะดวกจะกล่าว