เหล่าจิ่วขัดขืนฝืนใจใช้แขนทั้งสองดันค้ำไว้ แขนทั้งสองข้าง เห็นเส้นเอ็นปูดโปนเหมือนจะระเบิด หน้าตาเต็มไปด้วยความเสียวสยอง
ขาของติงชางติงชาง ก็เหยียบขยี้อย่างเอาเป็นเอาตายบนแขนทั้งสองของเหล่าจิ่ว เห็นเหล่าจิ่วยังคงฝืนยันอยู่ได้ ตวาดออกไปอย่างเคียดแค้นว่า “ข้าจะบดขยี้แก!”
เสียงพูดขาดคำ กระแสพลังที่ยิ่งบ้าคลั่งขึ้น แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา
“ปึง!”
ดินบริเวณที่เหลือตรงที่ตัวของเหล่าจิ่วนอนอยู่ ถูกกระแสพลังนี้กดดัน ถึงกับแตกกระจายแหลก
ติงชางติงชางแสยะยิ้มเหี้ยม “เข้าท่า ขนาดร่างกายบาดเจ็บสาหัส ยังรับตีนอันทรงพลังของข้าได้ แต่แกจะทนอยู่ได้สักเท่าไหร่กัน?”
“ตายเถอะมึง!”
หยางเฉินตวาดลั่นด้วยความแค้น พุ่งตรงเข้าใส่ติงชางติงชาง
“ปึง!”
วินาทีต่อมา หมัดที่หนักหน่วง อัดใส่ลงตรงหน้าอกของติงชางติงชาง
แต่ว่า ที่ทำให้หยางเฉินผิดหวังไปเลยคือ ขาข้างหนึ่งของติงชางติงชางยืนอยู่บนพื้นดิน ขาอีกข้างเหยียบอยู่บนแขนทั้งคู่ของเหล่าจิ่ว แรงจากหมัดของเขานี้ ตัวของติงชางติงชางยังคงอยู่กับที่
ติงชางติงชางมองหยางเฉินอย่างเหยียดหยาม พูดเสียงเย้ยว่า “ไอ้หนู แกไม่ต้องรีบ รอข้าจัดการฆ่าไอ้แก่ไม่รู้จักตายคนนี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาจัดการกับแก!”
เหล่าจิ่วมองเห็นหยางเฉินยังไม่ยอมหนีไป สายตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ มองไปที่หยางเฉินตะคอกเสียงกร้าวใส่ “ไปให้พ้น รีบไปเดี๋ยวนี้ ไปจากที่นี่ อย่ามาพลีชีวิตให้เสียเปล่าไร้สาระแบบนี้”
หยางเฉินตาจ้องเขม็งที่ติงชางติงชาง นัยน์ตาทั้งคู่แดงก่ำเป็นสีเลือด กระแสพลังที่บ้าคลั่ง แผ่ออกมาจากภายในตัวกระจายออกไปรอบ ๆ
เขาไม่สนใจกับเหล่าจิ่ว ขยับขา พุ่งเข้าใส่ติงชางติงชางอีกครั้ง
เพียงช่วงสะเก็ดไฟจากตะไลเพลิงนั้นเอง เขาระเบิดพลังของเขาออกมาทั้งหมด อัดเข้าใส่ตรงขั้วหัวใจของติงชางติงชาง
แต่ว่า ก็ยังคงไม่สามารถทำให้ตัวของติงชางติงชางขยับแม้แต่น้อย ตัวของติงชางติงชางมีเพียงโคลงไปเล็กน้อย
ประกายคมกริบสาดออกมาจากตาทั้งคู่ของเขา มองหยางเฉินอย่างสบประมาท พูดเสียงเยือก “อย่างข้านี้ใช้เคล็ดวิชาครอบระฆังทองแล้ว สำหรับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ต่ำกว่าขั้นเก้าลงไป ล้วนไม่ระคายผิว แกใส่ให้เต็มที่ได้เลย เดี๋ยวมีผลให้แกรับอยู่แล้วแน่ ๆ”
พูดจบ เพิ่มกำลังลงไปที่ขาที่เหยียบบนแขนเหล่าจิ่วอีก คำรามเสียงเกรี้ยว “อัดมันลงไป!”
ตอนนี้เริ่มเห็นบริเวณต้นแขนเหล่าจิ่ว มีเลือดออกมาซิบ ๆ
ดูท่าเขาคงจะทานรับไม่ไหวแล้ว
“แคร๊ก!”
ทันใดนั้น เสียงกระดูกหักดังใสเสียดหูลั่นขึ้นมา แขนข้างหนึ่งของเหล่าจิ่วฉีกออก กระดูกขาวโพลนปลิ้นออกมาให้เห็น
ตอนนี้ เขายังคงเหลือแขนอีกข้างเดียว ยังคงฝืนค้ำขาของติงชางติงชางไว้
“ท่านจิ่ว!”
หยางเฉินสีหน้าลนลานเต็มที่ เหล่าจิ่วแขนขาดไปแล้วข้างหนึ่ง อาศัยที่เหลืออีกข้างหนึ่ง มันไม่มีทางต้านรับขาของติงชางติงชางได้เป็นแน่อยู่แล้ว
น่ากลัวคงได้อีกไม่นาน เหล่าจิ่วก็จะรับไม่ไหวแล้ว
ส่วนเขาก็หมดปัญญาที่จะทำอะไรกับติงชางติงชางได้ หรือจะต้องว่า นั่งมองเหล่าจิ่วให้ติงชางติงชางเหยียบหัวเละไปต่อหน้าต่อตา?
“ข้าไม่ขอเชื่อ ครอบระฆังทองของแกจะไม่มีจุดอ่อน”
หยางเฉินสีหน้าออกเหี้ยมเกรียม สายเลือดคลั่งถูกกระตุ้นขึ้น กระบวนในตำราเทพสงครามเคลื่อนไหวอย่าบ้าคลั่ง กระแสพลังมหาศาล แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา
“ปึง ปึง ปึง!”
วินาทีต่อมา หยางเฉิงก็ได้พุ่งเข้าหาติงชางติงชาง ช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที จู่โจมกระหน่ำใส่ลงบนตัวของติงชางติงชางนับครั้งไม่ถ้วน
จุดที่จู่โจมใส่แต่ละครั้ง อยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน
แต่ว่า การจู่โจมใส่ในแต่ละครั้ง คงเหมือนเคาะลงไปที่ผิวพื้นแผงเหล็ก เต็มที่ก็ทำให้ตัวของติงชางติงชางมีอาการโคลงเล็กน้อย ติงชางติงชางไม่ได้รับกระทบบาดเจ็บแม้แต่น้อย เห็นเพียงแววตามุ่งหวังฆ่าเข้มข้นขึ้น
และเขาคงรู้ดีว่า เพียงถ้าเหล่าจิ่วตาย หยางเฉิงก็ไม่ใช่มีอะไรจะน่ากลัวแล้ว ฉะนั้น ถึงยังไงก็ต้องจัดการฆ่าเหล่าจิ่วก่อน มิฉะนั้นที่ทำมาก่อนนี้ก็จะเท่ากับสูญเปล่า
เหล่าจิ่วแค่เหลือเพียงแขนข้างเดียว ฝืนต้านรับขาของติงชางติงชางอยู่ด้วยความฝืนทนอย่างบ้าคลั่ง หลายครั้งพยายามจะดันให้หลุดพ้นออกไป แต่ขนาดตอนที่แขนยังอยู่ทั้งสองข้างก็ยังผลักดันออกไม่พ้น ตอนนี้แขนก็หักไปข้างหนึ่งแล้ว อาศัยเพียงแรงแขนข้างเดียว จะไปผลักดันขาของติงชางติงชางออกยังไงไหว?
หยางเฉินก็ยังทุ่มกระหน่ำใส่ติงชางติงชางอย่างบ้าคลั่ง ทุกครั้งก็ใส่ไปสุดแรง แต่ทุกครั้งก็ทำอะไรฝ่ายตรงข้ามไม่ได้
ในเวลานั้นเอง หวยหลานที่หลบอยู่ในรถมาตลอด จู่ ๆ ก็ตะโกนออกมาในทันใด “พี่หยางใช้มีดพกของท่าน!”
พอคำนี้พูดออกมา หยางเฉินสมองใสแจ้งสว่างโล่ง
เมื่อครู่นี้ที่กำลังจู่โจมติงชางติงชางอย่างหนักหน่วงนั้น เขากลับลืมสนิทถึงมีดพกอาถรรพ์มีดพกอาถรรพ์ที่มีอยู่
ถึงแม้เขาไม่อยากจะต้องรับความเจ็บปวดแสนทรมานจากการแว้งกัดของมีดพกอาถรรพ์มีดพกอาถรรพ์แต่มาถึงตอนนี้ เขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ถ้ายังไม่หาทางกำจัดติงชางติงชาง เหล่าจิ่วก็ต้องถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าตายอย่างแน่นอน
ถ้าเหล่าจิ่วตาย เขาก็คงจบชีวิตเหมือนกัน
ในเมื่อต้องเป็นแบบนี้ แล้วยังจะต้องกลัวอะไรกับที่ต้องถูกมีดพกอาถรรพ์มีดพกอาถรรพ์แว้งกัดอีก?
คิดได้อย่างนี้แล้ว หยางเฉินก็ไม่มีอะไรต้องลังเลใจ เอามีดพกขึ้นมาไว้กับมือ
ในทันทีที่เขากำมีดพกนั้นกับมือ พลังบูโดที่คลั่งระห่ำสุด ๆ กระแสหนึ่ง แผ่กระจายออกไปจากตัวของเขา
“บรึม!”
กระแสพลังมหาศาลนี้ กวาดกว้างออกไปรอบทุกทิศทาง
“ปัง ปัง ปัง!”
พื้นบริเวณที่หยางเฉินยืนอยู่ แตกกระจายออกในทันใด รอบ ๆ ตัวเขา ฝุ่นผงปลิวว่อน
มีดพกสีดำเมื่อมเล่มนั้น ส่องแสงเย็นเยือกวูบวาบ
“อือม์?”
สัมผัสถึงกระแสพลังมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวของหยางเฉิน เป็นครั้งแรกที่ติงชางติงชางมีสีหน้าหนักใจขึ้นมา เหมือนว่าไม่คิดเลยว่า หยางเฉินจะมีการเพิ่มพลังตัวเองได้มากถึงขนาดนี้
จากตัวของหยางเฉิง เขากลับรู้สึกถึงความกดดันอย่างมหาศาล
“ตายซะ!”
เสียงหยางเฉินคำรามลั่น ขาแค่ขยับ ตัวก็หายไปจากที่เดิม
“ผลุบ!”
ปลายแหลมของมีดพกวาดวงโค้งอย่างสวยงามกลางอากาศ ปาดผ่านไปทางหน้าอกของติงชางติงชาง
มาคราวนี้ ติงชางติงชางไม่กล้ารับตรง ๆ แล้ว ขารีบขยับเป็นพัลวัน พาร่างถอยไกลออกไปสิบกว่าเมตร แต่กระนั้นก็ยังหลบไม่พ้นหมด โดนมีดพกของหยางเฉินปาดเป็นรอยแผลเลือดเป็นทาง
ถ้าเมื่อกี้นี้เขาตัดสินใจช้าสักนิด น่ากลัวต้องถูกหยางเฉินเอาชีวิตไปแล้ว
หลุดพ้นจากขาของติงชางติงชางที่เหยียบอยู่ เหล่าจิ่วก็หลุดเป็นอิสระในที่สุด คลานลุกขึ้นมาจากพื้น เห็นหยางเฉินมอมแมมเต็มไปด้วยคราบเลือด ทำให้เขาห่วงกังวลเต็มใบหน้า
หยางเฉินในขณะนี้ ดูสภาพกลายเป็นมนุษย์คราบเลือด เพราะร่างกายของเขาถูกพลังที่น่ากลัวของมีดพกอาถรรพ์มีดพกอาถรรพ์เล่มนั้น ทำให้เกิดเป็นรอยแตกปริขึ้นตามเนื้อตามตัว
ฉะนั้น สภาพของหยางเฉินในตอนนี้ดูน่ากลัวมาก
โดยเฉพาะตามแขนข้างที่ถือมีดพก ทั้งแขนจากโคนถึงปลาย เอ็นเขียวขึ้นปูดโปน หนังตึงจนเห็นเส้นเลือดชัดเจน
ถ้าหากสังเกตดูให้ดี จะเห็นได้เลยว่า เลือดในแขนข้างที่หยางเฉินถือมีดพกอยู่ในมือนั้น กำลังถูกมีดพกเล่มนั้นดูดอยู่ไม่หยุด
“ไปตายซะ!”
ดวงตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยแววการฆ่า เขาขยับขา พุ่งเข้าไปถึงตัว ติงชางติงชางในพริบตา
เห็นมีดพกมุ่งปาดเข้ามาที่ตัวเขาอีก สัหน้าติงชางติงชางเปลี่ยนไปทันที ด้วยมีดพกเล่มนี้ เขาสัมผัสได้ถึงความกดดันอย่างรุนแรงมากที่สุด
“ผลุบ!”
มีดพกปาดผ่านไปทางหน้าอกของติงชางติงชางอีกครั้งหนึ่ง
ติงชางติงชางขยับขา ถอยกรูดไปไกลออกไปสิบกว่าเมตร นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสะท้านกลัว ตาทั้งสองจ้องเขม็งอยู่กับมีดพกในมือของหยางเฉิน มองอยู่พักใหญ่ เขาจึงพูดด้วยความไม่อยากเชื่อว่า “นี่คือ ของฃมังเวทย์?”