ตอนที่ 2793 อย่าคิดสั้นเด็ดขาด
เหมยเหมยอ่านข่าวจบอารมณ์ก็คุกรุ่น “เหลวไหล กุข่าวซี้ซั้วขึ้นมาทั้งนั้น…ทำไมคนพวกนี้ถึงเขียนอะไรเพ้อเจ้ออย่างไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ล่ะ…”
อู่เชายิ้มเยาะ “พวกเขาต้องรับผิดชอบอะไรกัน ขอแค่ข้อมูลดังเป็นพลุแตก ดึงความสนใจของของมหาชนได้…พวกเขาก็พร้อมจะเค้นสมองเขียนอะไรซี้ซั้วได้ทั้งนั้นแหละ โดยแทบไม่ต้องสนใจหรอกว่าสิ่งที่เขียนออกมาจะเป็นจริงหรือไม่หรือทำร้ายคนที่ถูกพาดพิงอะไรบ้างหรือเปล่า!”
ช่วงก่อนหน้านี้มีดาราหนุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไม่กี่ปีรมควันตัวเองฆ่าตัวตายในบ้าน ตอนที่เจอตัวอาการก็ไม่ไหวแล้ว
ดาราหนุ่มคนนี้อายุยังไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ มีศักยภาพในการทำงานสูงและแสดงละครไปไม่น้อยเลย ปกติดูท่าทางจะเป็นคนสดใสร่าเริงอยู่บ้าง แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าขั้นร้ายแรงคนหนึ่ง แล้วเหตุที่อาการร้ายแรงขึ้นก็เพราะถูกพวกปาปารัสซี่บีบนั่นเอง
ตอนนี้เขาลาลับไปแล้ว พ่อแม่ที่ผมหงอกเต็มหัวกลับเป็นฝ่ายส่งคนผมดำแทน แต่เหล่าปาปารัสซี่ไม่มีซึ่งความละอายใจเลยสักนิด แถมยังเอาคนตายไปละเลงเขียนข่าวขุดคุ้ยเรื่องของดาราหนุ่มช่วงก่อนหน้านี้ กระทั่งยังบอกว่าผู้ตายถูกพวกคนรวยรุมโทรมจนตาย…
อู่เชาไม่ได้สนิทสนมกับดาราคนนี้นัก แต่พอเขาได้เห็นพาดหัวข่าวปั้นน้ำเป็นตัวพวกนั้นก็นึกโมโหจนเขียนบทความขึ้นมาบทหนึ่งเพื่อประณามปาปารัสซี่ใจอำมหิตพวกนั้นให้เลิกกัดผู้ตายและคนในครอบครัวได้แล้ว
คนล่วงลับไปแล้วควรได้รับความเคารพ ไม่ว่าจะด้วยความไม่พอใจหรือความแค้นใด ๆ ในเมื่อตายแล้วก็ปล่อยวางไปเถอะ แต่ยังเอาผู้ตายมาเขียนข่าวซึ่งไร้จรรยาบรรณที่สุด แถมไม่กลัวเกรงกรรมตามสนองเลย
เรื่องดาราหนุ่มคนนี้ที่อู่เชาเล่าให้ฟังเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อนเอง ดาราหนุ่มก็ปักรากฐานที่เมืองหลวงเช่นกัน ตอนนั้นข่าวดังมาก เหมยเหมยเองก็รู้เพราะเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็แฟนคลับของดาราหนุ่มคนนี้ ทั้งยังตั้งใจไปกราบหลุมศพดาราหนุ่มคนนี้อีกด้วย
“วงการบันเทิง หากไม่มีสภาวะจิตใจที่แข็งแกร่งคงอยู่ยากจริง ๆ!”
เหมยเหมยหดหู่ใจแล้วเหลือบมองสยงมู่มู่ที่มีสีหน้าขรึมแวบหนึ่ง จู่ ๆก็ใจเต้นขึ้นมาพลางนึกถึงเรื่องเมื่อชาติที่แล้ว
ก่อนที่เธอจะกระโดดตึกหนึ่งเดือน สยงมู่มู่กรีดข้อมือฆ่าตัวตายในห้องพักของเขา พอนับดูแล้วก็คืออีกห้าปีข้างหน้า เพราะตลอดหลายปีมานี้ใช้ชีวิตสุขสำราญดีเธอจึงลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
เหมยเหมยตกใจจนเหงื่ออาบท่วมตัว หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อชาติก่อนจะเกิดขึ้นในชาตินี้อีก?
“สยงมู่มู่นายอย่าคิดไม่ได้อย่างดาราหนุ่มนั่นล่ะ คนพวกนี้พูดอะไรซี้ซั้วก็ถือว่าพวกเขาผายลมไปแล้วกัน ถ้านายคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะคนใจดำอำมหิตพวกนั้น นายจะไม่รู้สึกผิดกับคุณอาทั้งสองบ้างเหรอ?”
ภายใต้สถานการณ์คับขันแบบนั้นเหมยเหมยเลยพร่ำบ่นยกใหญ่
สยงมู่มู่ฟังอยู่นานถึงเข้าใจว่าเหมยเหมยกำลังบ่นอะไรเลยลุกพรวดอย่างโมโหแล้วคำรามใส่ “เธอต่างหากที่คิดสั้นจะฆ่าตัวตาย ฉันใช้ชีวิตมีความสุขดี อย่างน้อยก็ต้องมีชีวิตไปถึงร้อยปีนู้น!”
เขายังไม่ได้จัดการกับยัยทอมนี่เลย จะฆ่าตัวตายบ้าอะไรกัน!
อีกอย่างการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่คนอ่อนแอขี้ขลาดเท่านั้นถึงจะทำ เขาเป็นถึงชายแท้อกสามศอกจะทำเรื่องโง่ ๆแบบนั้นได้อย่างไร ยัยบ้าจ้าวเหมยถูกลาถีบสมองมาหรือไง ไม่หวังให้เขาได้ดีเลยสักนิด!
ครั้นเหมยเหมยถูกน้ำลายพ่นใส่เต็มหน้าเลยคว้าแขนเสื้อมาเช็ดหน้าอย่างนึกรังเกียจ เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ฉันก็แค่เตือนสตินายเท่านั้น นายจะฮึกเหิมอะไรนักหนา…แล้วตอนนี้เอายังไง ชื่อเสียงฉันโดนนายทำลายป่นปี้หมด ไม่ได้การล่ะ…ฉันต้องให้พี่หมิงซุ่นคิดหาวิธีจัดการปิดนิตยสารบริษัทนี้ซะ!”
บังอาจทำลายชื่อเสียงของเธอ จะประเคนหายนะให้แกเอง!
อู่เชากลอกตาไปมา “ไปฉี่ก่อน มู่มู่นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย!”
“นายจะไปฉี่ยังต้องให้ฉันไปเป็นเพื่อนด้วยเหรอ บ้าไปแล้ว!” สยงมู่มู่กลอกตาใส่อย่างหัวเสียแต่กลับเห็นอู่เชาขยิบตาให้เขาไม่หยุด จากนั้นก็คิดได้เลยเดินตามไปพร้อมเสียงบ่นกระปอดกระแปด
อู่เชาปิดประตูแน่นแล้วเอ่ยเสียงลึกลับว่า “นายยังจัดการยัยทอมนั่นไม่ได้ใช่ไหม? จะให้พี่ช่วยคิดหาวิธีให้น้องชายไหมล่ะ?”
……………………………………
ตอนที่ 2794 แก้ปัญหาที่ปลายเหตุไม่ใช่ต้นเหตุ
เซียวเซ่อกลับไม่สนใจเลยสักนิด เธอหยิบกระเป๋าเดินทางมาจัดซึ่งมีเพียงกระเป๋าเดินทางใบเดียวและเรียบง่ายมาก
“เซ่อเซ่อเธอจะจัดกระเป๋าเดินทางทำไม?” เหมยเหมยเห็นก็ประหลาดใจ
“กลับอังกฤษ” เอ่ยรวบรัดกระชับเช่นเคย
เหมยเหมยกลืนน้ำลาย “กลับ…กลับอังกฤษเหรอ? เธอไม่รอสยงมู่มู่แล้วเหรอ”
“จะรอเขาทำไม…มีทองคำรอให้เก็บหรือไง?” เซียวเซ่อกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ เธอก็คือเธอ เจ้าหมอนั่นก็ส่วนเจ้าหมอนั่น คนสัญจรทั้งสองที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันทำไมต้องมาผูกมัดติดกันอยู่เรื่อย!
เหมยเหมยตวาดใส่อย่างหงุดหงิด “ตอนนี้สยงมู่มู่เจอเรื่องเดือดร้อนใหญ่โตขนาดนี้ เธอเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ต่อให้พวกเธอไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันในเชิงนั้นแต่ก็เป็นเพื่อนกันมาหลายปีนะ เธอจะไปโดยไม่สนใจไม่ทวงคืนความยุติธรรมเลยเหรอ!”
เซียวเซ่อชะงักไปแล้วลูบจมูกปอย ๆ เธอไปแบบนี้ก็เหมือนว่าจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่แฮะ
“งั้นเดี๋ยวฉันจะให้อัลเบิร์ต (ผู้ช่วย) แถลงข่าวอธิบายสักหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว” เซียวเซ่อคิออย่างง่ายดาย
เรื่องหลอกลวงธรรมดาแบบนี้แค่แถลงข่าวก็จบ ไม่มีอะไรหนักหนาสักหน่อย
“โอ๊ย…ห้ามออกแถลงข่าวเด็ดขาด วงการบันเทิงบ้า ๆแบบนี้ยิ่งเป็นความจริงยิ่งไม่มีใครเชื่อ ถ้าเธอออกแถลงข่าวคนอื่นก็จะแค่คิดว่าเธออยากปกปิดเรื่องไม่ดีไว้ อีกอย่างเธอมีสถานะเป็นถึงศักดินาชั้นสูงของทางยุโรป พวกปาปารัสซี่คงอาศัยชื่อเสียงของเธอมาเขียนละเลงข่าวเละแน่!”
อู่เชาออกมาจากห้องน้ำแล้ว ครั้นได้ยินคำพูดของเซียวเซ่อก็กระทืบเท้าปลุกปั่น สยงมู่มู่ที่อยู่ด้านหลังงุดหน้าลง ไม่รู้ว่าเขากำลังหัวเราะ ร้องไห้ หรือกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด
เหมยเหมยเป็นกังวล “ปาปารัสซี่พวกนั้นจะเขียนข่าวว่าอย่างไรได้บ้าง?”
อู่เชาเอ่ยด้วยท่าทีจริงจังว่า “เมื่อก่อนมู่มู่มีข่าวฉาวไม่น้อย ไอ้สารเลวพวกนั้นบอกว่าเขาถูกพวกมหาเศรษฐีรับมาเลี้ยงดู แต่พวกเขาไม่มีหลักฐานเลยทำได้แค่เขียวข่าวซี้ซั้วไร้หลักฐานแบบนี้ไงล่ะ”
เขาเงียบไปพักหนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “ตอนนี้ดันเก็บภาพตอนเขาอยู่โรงพยาบาลกับเซียวเซ่อได้พอดี ถ้าเซียวเซ่อออกแถลงข่าวอีก พวกปาปารัสซี่ต้องสืบหาถึงสถานะของเซียวเซ่อแน่ ราชนิกุลของยุโรป…โอ๊ย คงมีข่าวให้ละเลงเขียนแล้วล่ะ!”
อู่เชาเอ่ยคำโกหกอย่างน่าเชื่อถือออกมาเป็นพรวนยาวโดยเลือกสถานการณ์ร้ายแรงที่สุดมาพูด สยงมู่มู่ที่อยู่ด้านหลังเขาโกรธจนปวดตับ ถ้าวิธีการของเจ้าอ้วนนี่ใช้ไม่ได้ผล เขาจะบีบคอเจ้าอ้วนนี่ให้ตายเลย
พูดบ้าบออะไรกัน แม้แต่เรื่องลามกแบบนี้ยังเอ่ยออกมาได้ น่าขยะแขยงเป็นที่สุด!
ถึงแม้อู่เชาจะพูดโกหกยาวเหยียดแต่เหมยเหมยยิ่งหลงเชื่อและยิ่งเป็นกังวล สยงมู่มู่ในชาติที่แล้วเองก็มีข่าวลือแบบนี้เหมือนกัน ไม่แน่เขาอาจจะรับความเจ็บปวดจากข่าวเล่าลือไม่ได้ถึงเลือกที่จะฆ่าตัวตาย
“เหลวไหล ไม่ว่าอะไรก็กล้าเขียน เดี๋ยวฉันจะให้พี่หมิงซุ่นโทรไปหาแล้วไล่สำนักพิมพ์ใจอำมหิตพวกนี้ปิดไปให้หมดเลย!” เหมยเหมยกล่าวด้วยความโกรธ
อู่เชาเดินมาหยุดอยู่หลังเหมยเหมยแล้วแอบชกเธอเข้าให้พร้อมถลึงตาใส่เธอ
เหมยเหมยลูบศีรษะปอย ๆ แล้วมาชกเธอทำไม?
อู่เชาถลึงตาใส่อีกครั้งแล้วตะคอกใส่ว่า “เธอให้เหยียนหมิงซุ่นไล่ปิดกิจการไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก สำนักพิมพ์พวกนี้ผุดขึ้นเร็วยิ่งกว่าหน่อไม้หลังฝนตก วันนี้ปิดไปพรุ่งนี้ก็ต้องมีมาลงทะเบียนเปิดใหม่อีกอยู่ดี อย่างเธอคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แก้ไม่ได้หรอก พวกเรามาคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุดีกว่า”
เหมยเหมยเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง เมื่อครู่เจ้าอ้วนกับสยงมู่มู่ไปเข้าห้องน้ำด้วยท่าทีลับ ๆล่อ ๆ พวกเขาต้องไปคิดหาหนทางกันมาแน่นอน ถึงจะไม่เข้าใจว่าพวกเขาคิดอะไรกันอยู่ แต่ต้องทำไปเพราะหวังดีกับสยงมู่มู่แน่นอน เธอแค่ให้ความร่วมมือก็พอแล้ว
“แล้วจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างไรล่ะ?” เหมยเหมยเอ่ยถาม
………………………