ยากระเพาะเสี่ยวหลิน เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทผลิตยาโคบายา และรายได้และผลกำไรส่วนใหญ่ ได้รับการสนับสนุนจากยาตัวนี้

ถ้าถูกยากระเพาะจิ่วเสวียนเอาชนะไปจริงๆ งั้นบริษัทผลิตยาโคบายาก็จะได้รับการสูญเสียครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

ดังนั้น มีคนถามโคบายา มาซาโยชิว่า “ท่านประธาน พวกเราจะรอตายแบบนี้ไม่ได้แล้ว! คุณมีทางออกที่ดีอะไรหรือไม่?”

โคบายา มาซาโยชิกล่าวว่า “วิธีตอบโต้ก็พอจะมี นั่นก็คือเราจะต้องเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาตัวยา และเราจะต้องอัพเกรดผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของเราอย่างรวดเร็ว หากยากระเพาะเสี่ยวหลินของเราสามารถแซงยากระเพาะจิ่วเสวียนในแง่ของประสิทธิภาพฤทธิ์ยาได้ ตลาดก็ต้องเป็นของเราแน่นอน!”

ผู้รับผิดชอบ R&D ได้เปิดปากและพูดว่า “ท่านประธาน ถ้าจะเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ก็จะต้องมีงบประมาณมหาศาล บริษัทถูกโกงเงินออกไปจำนวนมากเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ยังพอมีกำลังอยู่หรือไม่? ”

โคบายา มาซาโยชิกล่าวอย่างราบเรียบว่า “นี่ก็คือสิ่งที่ผมกำลังจะบอกกับทุกคน กระแสเงินสดของเราในตอนนี้ไม่ค่อยดีเลย การลงทุนในฐานการผลิตในโอซาก้าก็มีค่าใช้จ่ายสูง ประกอบกับการสูญเสียจากอุบัติเหตุเมื่อครั้งก่อน ซึ่งทำให้เงินทุนของเราในตอนนี้ที่จะสามารถนำไปลงทุนในการวิจัยและพัฒนานั้นน้อยกว่าห้าสิบล้านดอลลาร์ ดังนั้นความคิดของผม คือการระดมทุนโดยเร็วที่สุด อย่างน้อยต้องมีหนึ่งพันล้านดอลลาร์ เพื่อยกระดับห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนายาของเรา!”

เมื่อทุกคนได้ยินว่าจะระดมทุน ทุกคนต่างก็นั่งตัวตรง มีบางคนถามว่า “ท่านประธาน ตอนนี้ท่านมีคนที่ร่วมหุ้นทางการเงินที่เหมาะสมแล้วหรือยัง? ”

โคบายา มาซาโยชิพยักหน้าและกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ ประธานโคบายาชิจิโร่ ก็ได้เจรจากับหัวหน้าของตระกูลอิโตะ นางาฮิโกะ อิโตะเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุน คาดว่าทุกคนจะต้องรู้เรื่องนี้แน่นอนใช่หรือไม่?”

ทุกคนต่างพยักหน้า

โคบายา ชิจิโร่อยากรับการลงทุนของนางาฮิโกะ อิโตะมาโดยตลอด และแม้กระทั่งอยากจะเป็นลูกเขยของนางาฮิโกะ อิโตะอีกด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ทุ่มเทเงินสนับสนุนในการแข่งขันการต่อสู้แบบฟรีสไตล์ที่อิโตะ นานาโกะเข้าร่วมด้วยหรอก ซึ่งในจุดนี้เป็นที่รู้ดีของคนในบริษัทผลิตยาโคบายามานานแล้ว

แม้กระทั่ง ทุกคนก็ได้เตรียมพร้อมแล้วกับการแต่งงานของบริษัทผลิตยาโคบายาและตระกูลอิโตะ แต่น่าเสียดาย ที่การแต่งงานยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างเป็นทางการ โคบายา ชิจิโร่ก็หายตัวไปแล้ว

ทุกคนยังคิดว่า ความร่วมมือกับตระกูลอิโตะก็จะจบลงด้วยเหตุนี้เช่นกัน แต่ไม่ได้คาดคิดว่า โคบายา มาซาโยชิจะเริ่มความร่วมมือกับตระกูลอิโตะในตอนนี้แล้ว

ดังนั้น ส่งผลให้ทุกคนเริ่มมีความสนใจ และถามอย่างตื่นเต้นทันทีว่า “ท่านประธาน ไม่รู้ว่าตระกูลอิโตะจะประเมินค่าอะไรให้เราได้บ้าง?”

โคบายา มาซาโยชิกระอักกระอ่วน และพูดว่า “คุณนางาฮิโกะ อิโตะแห่งตระกูลอิโตะเต็มใจที่จะลงทุนสี่พันห้าร้อยล้านดอลลาร์ในบริษัทผลิตยาโคบายา ด้วยมูลค่าประเมินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะคิดเป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทผลิตยาโคบายาหลังการลงทุน! ”

“มูลค่าประเมินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์เหรอ?!”

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะพูดคุยกันขึ้นมา

ในตอนแรก ที่โคบายา ชิจิโร่และนางาฮิโกะ อิโตะได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่มันไม่ใช่ราคานี้เลย

โคบายา ชิจิโร่ได้บอกกับทุกคนไปแล้วว่า การประเมินราคาจะต้องอยู่ที่อย่างน้อยสองหมื่นล้านดอลลาร์ขึ้นไป

ทำไมตอนนี้จู่ๆ มันก็ลดลงมากขนาดนี้? !

มีคนถามว่า “ท่านประธาน ข้อเสนอก่อนหน้านี้ของตระกูลอิโตะไม่ได้ต่ำขนาดนี้เลย ทำไมมันถึงหดลงมากในคราวเดียว? ”

มีคนพูดอีกว่า “ใช่! อย่างน้อยก็ต้องสองหมื่นสองพันล้านดอลลาร์ถึงจะเหมาะสมหรือไม่? การประเมินมูลค่าหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ มันเหมือนกับการปล้นเอาเลยจริงๆ …….”

การแสดงออกของโคบายา มาซาโยชิค่อนข้างดูน่าเกลียด และเขากล่าวว่า “พวกคุณต้องคิดให้ดีนะ เรากำลังเผชิญกับปัญหาภายในและภายนอก ไม่ใช่แค่ว่าประธานหายตัวไปโดยไม่มีเหตุผล และยังมียากระเพาะจิ่วเสวียนอีกตัวหนึ่งเปิดตัวอยู่ในประเทศจีน หากเราไม่รีบระดมทุนในเวลานี้ หากเรารอให้ยากระเพาะจิ่วเสวียนโจมตีเราแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงเวลานั้นผลงานของเราก็จะลดลงอย่างมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมูลค่าประเมินหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลลาร์ส หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์สก็จะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”