บทที่ 2807 สัญชาตญาณหวงของกิน + ตอนที่ 2808 แสดงเป็นเห็ดตัวโต

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2807 สัญชาตญาณหวงของกิน

อู่เชาหัวเราะคิกคักหยอกเย้าเจ้าหนูน้อยและไม่ได้คาดหวังว่าเล่อเล่อจะช่วยอะไรได้ เจ้าหนูน้อยไม่ได้เป็นพระแม่กวนอิมประทานบุตรเสียหน่อย ลูกของสยงมู่มู่…ต้องอาศัยสติปัญญาของเขาต่างหาก อย่างอื่นคงหวังอะไรด้วยไม่ได้

คุณย่าหยางร้อนใจกระวนกระวาย พอต้มเกี๊ยวเสร็จยกมาก็เค้นถามเหมยเหมยว่าตกลงเป็นข่าวดีเรื่องอะไรกัน แต่เหมยเหมยกลับไม่บอกแค่ก้มหน้าก้มตาทานเกี๊ยวไป

“เธอนี่นะ ใครเขาพูดจาครึ่ง ๆกลาง ๆแบบนี้กัน ไม่งั้นก็ไม่ต้องพูด พูดครึ่ง ๆกลาง ๆแบบนี้จงใจทำให้ฉันนอนไม่หลับใช่ไหม!”

คุณย่าหยางโกรธจนฟาดเหมยเหมยไปที ไม่รู้หรือไงว่าคนแก่ที่บ้านเป็นพวกอยากรู้อยากเห็นมากขนาดไหน แต่ก็ดันชวนให้อยากรู้แล้วก็ไม่บอกเสียได้!

“มู่มู่ เสี่ยวเชา พวกเธอรู้ไหมว่าข่าวดีอะไรกัน?” หญิงชราเปลี่ยนเป้าหมายไปที่พวกสยงมู่มู่แทน

“คือเรื่องนี้…ถึงแม้พวกเราจะรู้…แต่ก็บอกไม่ได้…คิก ๆ…” พวกเขาส่ายศีรษะพร้อมกัน เมื่อครู่ระหว่างทางเหมยเหมยกำชับมาแล้วว่าห้ามไม่ให้พวกเขาพูด ต่อให้ยื่นความกล้าให้พวกเขาก็ไม่กล้าพูดหรอก

คนท้องใหญ่สุดนี่นา!

คุณย่าหยางโมโหจนยกชามเกี๊ยวย้ายไปทางเล่อเล่อแทน ไม่ใช่คนดีกันทั้งนั้น อย่าหวังจะได้ทานเกี๊ยวของเธอเลย

“เล่อเล่อกินเยอะ ๆนะ ถ้าไม่พอย่าทวดค่อยตักให้อีก” คุณย่าหยางยกเกี๊ยวชามโตที่มีประมาณยี่สิบกว่าชิ้นมาซึ่งต่อให้เป็นผู้ใหญ่ก็กินไม่เยอะขนาดนี้

แต่สำหรับเล่อเล่อก็แค่ออเดิร์ฟรองท้องเท่านั้นแหละ!

“เล่อเล่อ ไส้อะไรเหรอ?” ครั้นสยงมู่มู่เห็นเจ้าหนูทานอย่างเอร็ดอร่อยก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ มื้อเที่ยงถูกเหมยเหมยก่อกวนจนไม่ได้ทานข้าวดี ๆเลยเกิดอาการหิวขึ้นมาอีกแล้ว

“ไส้หมู…อร่อยมาก”

เล่อเล่ออ้าปากกว้างกัดเกี๊ยวครึ่งชิ้นคำโตเผยให้เห็นไส้หมูสับผักกาดมันวาววับ ผักเป็นผัก หมูเป็นหมูที่สับอย่างละเอียด เห็นแล้วน่ากินไม่หยอก สยงมู่มู่และอู่เชาอดกลืนน้ำลายไม่ได้จนเผลออ้าปากค้าง

“หนูกินหมดไหมเนี่ย” อู่เชาเอ่ยเสียงเบา

เล่อเล่อใช้มือมาปิดชามโตไว้อย่างหวาดระแวงแต่จะปิดหรือไม่ปิดก็มีค่าเท่ากันเพราะชามใหญ่มากแต่มือเล็กนิดเดียว…ทว่ากลับแสดงให้เห็นว่าเล่อเล่อมุ่งมั่นจะปกป้องอาหาร

“กินหมด…เกี๊ยวเป็นของหนู!” เล่อเล่อตะโกนเน้นเสียงหนักแล้วเขมือบครึ่งชิ้นที่เหลือภายในคำเดียวจนหมด พวงแก้มยุ้ยขยับไปมา น่ารักจนชวนให้คนที่เห็นอยากจะหยิกสักที

เซียวเซ่ออดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มออกมา ครั้งนี้เธอค้นพบว่าที่แท้เด็กน้อยก็น่ารักแบบนี้นี่เอง มีสัญชาตญาณหวงอาหารเหมือนไทเฮา ฉีชื่อตอนพวกมันยังเล็ก ๆเลย

“ใครแย่งเกี๊ยวของเล่อเล่อ ฉันจะซัดให้ตายเลย!” เซียวเซ่อลูบศีรษะเล่อเล่ออย่างเบามือเพื่อปลอบประโลมเจ้าหนูน้อยพร้อมทั้งถลึงตาใส่พวกเขาสองคนที่น้ำลายสอทีหนึ่ง

ทั้ง ๆที่เป็นผู้ใหญ่แต่ดันแย่งของกินเด็กซะได้ ขายหน้าบรรพบุรุษ 18 ชั่วโคตรหมดแล้ว!

“ขอบคุณนะคะน้าสะใภ้…หนูให้น้าสะใภ้กินด้วย!”

เล่อเล่อยิ้มหวานแล้วจิ้มเกี๊ยวขึ้นมาชิ้นหนึ่งป้อนเซียวเซ่อ ดวงโตกลมโตทั้งอ่อนหวานทั้งน่ารัก เซียวเซ่ออ้าปากให้อย่างคุมตัวเองไม่อยู่ ชั่ววินาทีที่เกี๊ยวเข้าปากเธอก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคำพูดพวกนั้นที่เหมยเหมยเคยพูดในรถก่อนหน้านี้

เด็กน้อยเวลาน่ารักขึ้นมา ช่างชวนให้ใจละลายอ่อนระทวยเหลือเกิน!

ตอนนี้เซียวเซ่ออยากจะจุ๊บดวงหน้าไข่อันอวบอ้วนแรง ๆสักที แต่เธอยังอดใจไว้ได้ ตอนนี้คนเยอะเกินไปต้องแซวเธอแน่ ๆ รอวันหลังตอนไม่มีคนก่อนเธอค่อยจุ๊บแล้วกัน!

“อร่อยจัง…ขอบคุณนะ!”

เซียวเซ่อทานเกี๊ยวไปทั้งชิ้น นับว่าเป็นรสชาติที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เธอเคยทานมาเลยตัดใจกลืนไม่ลง เธอจึงค่อย ๆเคี้ยวเพื่อสัมผัสรสชาติของมันไป

คุณหนูใหญ่เซียวถูกความน่ารักใสซื่อของเล่อเล่อทำให้ซึ้งใจเลยมัวแต่จดจ่อเกี๊ยวจนไม่ได้ยินเสียงที่เล่อเล่อเอ่ยเรียกเธอ ตอนแรกสยงมู่มู่ชะงักไปแต่จากนั้นก็ฉีกยิ้มกว้างจนปากเกือบถึงหลังหู

เจ้าอ้วนพูดไม่ผิดหรอก ความจริงยัยทอมชอบเขาจะตายไป เพียงแต่ปากแข็งไม่พูดเท่านั้นแหละ!

………………………………………………….

ตอนที่ 2808 แสดงเป็นเห็ดตัวโต

“คุณแม่…พรุ่งนี้ต้องไปดูหนูแสดงที่โรงเรียน ไม่แม่ก็พ่อต้องไปคนใดคนหนึ่ง” หลังจากทานเกี๊ยวชามโตไปได้ครึ่งหนึ่งก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ อันที่จริงเธอคิดว่าพ่อกับแม่ไม่จำเป็นต้องไปแต่ก็ควรเชื่อฟังคำพูดของคุณครู

“คุณพ่อของหนูงานยุ่ง แม่จะไปให้กำลังใจหนูเอง!”

เหมยเหมยยัดเกี๊ยวคำสุดท้ายเข้าปาก แม้แต่ซุปก็ซดจนเกลี้ยงแล้วเรอออกมาหลายทีอย่างพึงพอใจ

“หนูไม่ต้องการกำลังใจสักหน่อย…” เล่อเล่อแค่นเสียงใส่ เธอเป็นถึงยอดจอมยุทธ์เล่อเล่อที่เก่งที่สุด แสดงเป็นเห็ดดอกเดียวมีอะไรต้องให้กำลังใจกัน

สยงมู่มู่ถามว่าเป็นการแสดงอะไรอย่างสนใจ เหมยเหมยเอ่ยพลางยิ้มว่า “งานแสดงวันเด็ก พวกเล่อเล่อต้องแสดงละครเวทีเรื่องสโนว์ไวท์แต่เธอรับบทแสดงเป็นเห็ดดอกหนึ่ง”

สยงมู่มู่หัวเราะร่า “ทำไมถึงแสดงเป็นเห็ดล่ะ เล่อเล่อของเราแสดงเป็นสโนว์ไวท์ได้นี่นา!”

“ไม่เอา…สโนว์ไวท์อ่อนแอเกินไปเพราะต้องให้คนอื่นช่วยทุกครั้งเลย” เล่อเล่อยู่ปาก เธอยอมแสดงเป็นราชินีใจร้ายยังดีกว่า แต่จะไม่ยอมเล่นเป็นสโนว์ไวท์ที่อ่อนแอเหมือนไก่อย่างนั้นหรอก

เซียวเซ่อยกนิ้วโป้งให้พร้อมเอ่ยชม “ใช่แล้ว…แสดงเป็นราชินีใจร้ายยังดีกว่าเป็นสโนว์ไวท์อีก เล่อเล่อต้องเล่นเป็นราชินีใจร้ายสิ!”

เล่อเล่อมองเธออย่างชื่นชม ฉับพลันเธอก็รู้สึกว่าเข้ากันได้ดีกับน้าสะใภ้คนใหม่เหลือเกิน ใช่ว่าเธอจะไม่อยากแสดงเป็นราชินีใจร้ายสักหน่อย แต่ว่า——

“คุณครูไม่เห็นด้วย”

เล่อเล่อเอ่ยอย่างไม่ชอบใจนัก คนที่รับบทเล่นเป็นราชินีใจร้ายเป็นรุ่นพี่ชั้นโตกว่าซึ่งกำหนดคนเล่นไว้นานแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องการแสดงเลยไม่มีเหตุผลอะไรต้องไปแก่งแย่งมา เธอเลยถอยมารับบทเป็นเห็ดใหญ่ดอกหนึ่งแทน

“ทำไมคุณครูถึงไม่เห็นด้วยล่ะ? คุณครูคนนี้ไม่ได้เรื่องเลย น้าจะไปคุยกับคุณครูเอง” เซียวเซ่อไม่พอใจ มีสิทธิ์อะไรไม่ให้เล่อเล่อแสดงเป็นราชินีใจร้าย เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมจะตายไป คุณครูคนนั้นสายตาพร่ามัวหรือไง

“น้าสะใภ้…หนูจะบอกให้ว่าเพราะพวกเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวของพวกเรามีครอบครัวของพี่เขาเป็นผู้สนับสนุน เดิมทีเธออยากแสดงเป็นสโนว์ไวท์แต่สูงเกินไป คุณครูเลยให้ไปเป็นราชินีใจร้ายแทน”

เล่อเล่อเล่าเรื่องน่าตกใจของคนภายในเจื้อยแจ้วเหมือนผู้ใหญ่ก็ไม่ปาน ทำเอาทุกคนต่างตะลึงค้าง

แม้แต่โรงเรียนอนุบาลเล็ก ๆแค่นี้ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังขนาดนี้เลยเหรอ?

“เล่อเล่อห้ามพูดซี้ซั้วนะ เล่นเป็นเห็ดก็ดีแล้ว เราก็เล่นเป็นเห็ดนี่แหละ!” เหมยเหมยไม่แปลกใจเลย แต่ก็แค่เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งเล่นสนุกบนเวทีเท่านั้น จะรับบทอะไรก็ช่างเพราะขอแค่ลูกสนุกก็พอ สิ่งสำคัญคือการไปร่วมกิจกรรมต่างหาก!

“เปล่าพูดซี้ซั้วนะ เรื่องเป็นแบบนี้จริง ๆ หึ!” เล่อเล่อไม่ชอบใจเลย เธอพูดความจริงทั้งนั้น มีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอพูดซี้ซั้วล่ะ!

“ฉันเชื่อเล่อเล่อ โรงเรียนนี้ไม่ได้เรื่องเลย ก็แค่เสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวไม่ใช่หรือไง ฉันออกให้สองเท่าเลย!” เซียวเซ่อทนเห็นเล่อเล่อได้รับความไม่เป็นธรรมไม่ได้ เธอเป็นคนนิสัยแบบนี้ ยามเย็นชาก็แช่แข็งคนตายได้เลย แต่หากใส่ใจใครขึ้นมาก็จะกระตือรือร้นยิ่งกว่าไฟป่าเสียอีก

“พรุ่งนี้จะต้องขึ้นแสดงแล้ว เธอจะมัวเอาใจบ้าบออะไรของเธอ เธออายุเท่าไหร่แล้ว?”

เหมยเหมยยอมยัยคนนี้จริง ๆ เรื่องแค่นี้ก็โวยวายได้ จะแสดงอะไรก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ สมควรที่จะต้องมาแก่งแย่งกันหรือไง

“เล่อเล่อมานี่…”

เซียวเซ่อกลอกตาไปมา เธออุ้มเล่อเล่อขึ้นแล้วกระซิบข้างหูไม่กี่ประโยค เล่อเล่อพยักหน้ายิ้มราวกับหนูที่แอบขโมยไข่ไก่มาได้เสียอย่างนั้น สายตาดูมีลับลมคมในบางอย่าง

“เซียวเซ่อเธออย่าพาลูกสาวฉันเสียคนสิ” เหมยเหมยเอ่ยเตือน เธอรู้จักเพื่อนรักคนนี้ดีเชียวล่ะว่าไม่ใช่คนดีอะไร มีวิธีการจัดการคนไม่เคยขาดหรอก

“เธอยุ่งให้น้อยหน่อย ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ทำร้ายเล่อเล่อสักหน่อย กินเกี๊ยวของเธอไปเถอะ!” เซียวเซ่อแค่นเสียงใส่แล้วซุบซิบกับเล่อเล่อต่อ

หลังจากเหมยเหมยทานอิ่ม ความง่วงก็คืบคลานเข้ามา เธอหาวหลายหวอดแล้วก็ไม่มีอารมณ์มาสนใจพวกเขาสองคนอีก ถึงแม้เซียวเซ่อจะชอบวุ่นวายแต่ก็รู้ขอบเขตคงไม่ทำเรื่องเกินกว่าเหตุหรอก

เธอไปนอนก่อนดีกว่า ตอนค่ำพอเหยียนหมิงซุ่นกลับมาค่อยเซอร์ไพรส์เขาแล้วกัน ฮ่า ๆ!

………………………..