ตอนที่ 3085 อี้เฉีย!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เจ้าว่าอะไรนะ? หกเจ้าโลกล้ำสวรรค์กลับปรากฏขึ้นบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดพร้อมๆ กัน? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นร้องลั่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินข่าวจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ยอดฝีมือล้ำสวรรค์นั้นมันคืออาวุธนิวเคลียร์เคลื่อนที่

ก่อนที่จะได้สายเลือดทั้งสี่มานั้นแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่อาจจะสร้างยอดฝีมือล้ำสวรรค์ได้ง่ายๆ เช่นกัน

แต่ตอนนี้มันกลับมียอดฝีมือล้ำสวรรค์ถึงหกคนปรากฏตัวขึ้นบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด? มีหรือที่เขาจะไม่ตกตะลึงได้?

อี้เฉียพยักหน้าตอบไป “เดิมทีแล้วสงครามมันกำลังดำเนินไปได้ดีแต่ไม่นึกฝันว่าการต่อต้านจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดมันจะรุนแรงได้ขนาดนี้ ตอนนี้หมี่เทียนได้นำกองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไล่ล่ากองทัพเรามาถึงสามโลกแล้ว!”

อี้เฉียนั้นคือผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเลือด

กำลังของเขานั้นมันแข็งแกร่งอย่างมากแม้จะเทียบกับเจ้าโลกล้ำสวรรค์ทั้งหลาย

ร่างแยกของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก เขาจึงไม่อาจจะออกหน้าไปไหนได้ง่ายๆ และต้องปล่อยให้อี้เฉียคนนี้จัดการเรื่องราวต่างๆ ไป

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นกล่าวขึ้น “การให้กำเนิดเจ้าโลกล้ำสวรรค์ได้ถึงหกคนในเวลาไม่กี่ปีนี้มันย่อมจะเพราะคัมภีร์สวรรค์แน่นอน! แต่ต่อให้เย่หยวนมันจะใช้งานคัมภีร์สวรรค์ตลอดเวลามันก็คงไม่อาจจะพาคนเข้าไปศึกษาได้มากมายขนาดนั้นเช่นกัน! เจ้าเด็กบ้านี่มันใช้วิธีไหนกันแน่?”

อี้เฉียตอบกลับไป “ข้าเองตอนที่ได้ข่าวนี้มาก็รีบส่งคนออกไปสืบและพบว่าเย่หยวนนั้นได้ตั้งค่ายกลที่ดึงพลังโกลาหลจากคงคานิรันดร์ไปยังสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดและใช้พลังของมันนั้นแปลงเป็นปราณเทวะโกลาหลฉีดอัดเข้าคัมภีร์สวรรค์”

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นต้องผงะไปเมื่อได้ยิน “เจ้าเด็กนี่มันอัจฉริยะจริงๆ! คนอื่นๆ นั้นยังคงศึกษาว่าโกลาหลคืออะไรแต่ตัวมันนี้กลับดึงพลังงานโกลาหลไปใช้ได้แล้ว! อี้เฉีย เจ้าเด็กนี่จะปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาด เจ้าต้องออกเดินทางเองแล้ว! หากจำเป็นก็ใช้มหาค่ายกลโลหิตเมฆาเสีย!”

อี้เฉียก้มหัวลงรับสั่ง “ขอรับ!”

“ท่านหวังจั่ว จะไม่มาสังหารข้าจริงๆ หรือ? หนีมาตั้งกี่โลกแล้วทำไมยังไม่คิดหันมาสู้กันอีก?”

บนท้องฟ้านั้นเสียงของเย่หยวนมันแผ่ออกไปไกลทั่วทวีปทำให้ทั้งสวรรค์ต้องแตกตื่นไป

เบื้องหน้านั้นมันมีพวกเฉียฉินที่กำลังหนีหัวซุกหัวซุนอย่างไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง

กองทัพที่ออกมาจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นไล่ล่ากองทัพเผ่าเลือดในสวรรค์ต่างๆ จนพวกเขาต้องหนีมาถึงสี่โลกแล้ว!

ระหว่างนี้หมี่เทียนและคนอื่นๆ เองก็สังหารเจ้าโลกล้ำสวรรค์เผ่าเลือดไปได้อีกถึงสองคน

เผ่าเลือดนั้นกำลังปั่นป่วนอย่างมาก

ในเวลานี้เฉียฉินและพวกนั้นได้รวมกำลังเจ้าโลกล้ำสวรรค์เพิ่มมาอีกห้าคนแต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าจะหันไปต่อสู้กับกองทัพที่ไล่ตามหลังมา

หมี่เทียนและพวกนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป หากไม่มียอดฝีมือล้ำสวรรค์สักสิบคนแล้วมันย่อมจะไม่มีทางชนะได้แน่นอน

นอกจากนั้นเฉียฉินเองยังบาดเจ็บและไม่อาจจะเข้าต่อสู้ใดๆ ได้ในเวลานี้

“ไอ้เด็กเวรเย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! เจ้าคิดหรือว่าเผ่าเลือดข้านั้นมีกำลังแค่นี้? หลังจากที่บรรพบุรุษท่านรู้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แล้วท่านคงจะส่งกำลังเสริมที่ทรงพลังมาแน่นอน ถึงเวลานั้นแล้วเจ้าล้างคอรอโดนเชือดไว้ได้เลย!” เฉียฉินนั้นร้องตอบกลับไปอย่างไม่คิดหันหน้ากลับ

“เรอะ? เช่นนั้นข้าจะรอมันมา แต่พวกเจ้าคิดจะหนีไปถึงไหน? หนีไปเช่นนี้ทั้งสามสิบสามสวรรค์คนได้รู้แล้วว่าท่านหวังจั่วนั้นมีชื่อเสียงลือเลื่องแค่ไหน!”

เฉียฉินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมา เพราะระหว่างที่หนีมานี้มันย่อมจะกลายเป็นที่สนใจของทั้งฝ่ายเผ่าเลือดเองและฝ่ายกองกำลังที่ต่อสู้กับเผ่าเลือดอยู่

ตอนนี้ไม่ว่าจะผ่านไปที่ไหนพวกเขาก็จะกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนไป

พวกเขานั้นไม่มีหน้าจะไปสู้ใครได้อีกแล้ว

เผ่าเลือดนั้นผงาดกลืนสามสิบสามสวรรค์แต่สุดท้ายกลับถูกกองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไล่ล่าจนต้องหนีไปหลายโลก

แต่จู่ๆ มันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นบนท้องฟ้าเบื้องหน้าคนทั้งหลาย

ผู้มาถึงนั้นเป็นชายหนุ่มผมสีแดงเลือด

เมื่อหมี่เทียนเห็นผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องส่งสัญญาณให้คนทั้งหลายหยุดตัวลงทันที

ชายผมแดงคนนี้มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความหนักหน่วง!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตั้งแต่ที่เขาได้ศึกษาคัมภีร์เอกภพนั้นกำลังของหมี่เทียนก็พัฒนาไปอย่างไม่คาดฝัน

แต่ตอนนี้ชายหนุ่มผมแดงตรงหน้าเขานี้กลับทำให้เขารู้สึกได้ถึงความกดดัน มันชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา

“คนผู้นี้แข็งแกร่ง!” หมี่เทียนกล่าวขึ้น

เย่หยวนเองก็ไม่คิดแปลกใจมากมาย “หากไม่มีพลังขนาดนี้เผ่าเลือดมันก็คงไม่กล้าเปิดสงครามกับสามสิบสามสวรรค์พร้อมๆ กันหรอก!”

เมื่อเฉียฉินได้เห็นหน้าผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นเหมือนได้เห็นเจ้านายและแทบร้องไห้ออกมา

ถูกไล่ล่ามาหลายโลกเช่นนี้มันย่อมจะมิใช่ประสบการณ์ที่ดีนัก

“ท่านอี้เฉีย ท่านมาจนได้!” เฉียฉินนั้นกล่าวขึ้น

พูดจบเขาก็หันกลับมาร้องแยกเขี้ยวใส่เย่หยวน “เย่หยวนไอ้เวร เจ้าไล่ล่าพวกเรามานี้คงได้ใจมากแล้ว? ทีนี้เจ้ารู้หรือยังเล่าว่าหัวเราะทีหลังดังกว่านั้นมันเป็นอย่างไร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ลมมันเปลี่ยนทิศได้เสมอ ตอนนี้เจ้าดีใจมากไปเดี๋ยวเจ้าจะได้ร้องไห้หนักกว่าเก่าเล่า”

เฉียฉินนั้นยิ้มตอบกลับไป “ที่เจ้าพูดได้เพราะเจ้าไม่รู้ว่าท่านอี้เฉียนั้นแข็งแกร่งเพียงใด! ท่านผู้นี้คือเทพแห่งสงครามของเผ่าเลือดเรา มือขวาของบรรพบุรุษท่าน!”

อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนก่อนจะกล่าวขึ้น “พวกเจ้าหนีไม่รอดแล้ว!”

หมี่เทียนตอบกลับไป “หากบรรพบุรุษผู้นี้อยากจะไปคนอย่างเจ้าก็หยุดข้าไม่ได้หรอก!”

อี้เฉียนั้นยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นส่งสัญญาณ

พริบตาเดียวกันนั้นมันก็ปรากฏกองทัพเผ่าเลือดมากมายเข้ามาล้อมกองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไว้!

ในกลุ่มคนนั้นมันมีเจ้าโลกอยู่มากมาย!

กองทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นแตกตื่นกันไปทันทีเมื่อต้องตกอยู่ในวงล้อม

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นภาพนี้พวกเขาก็ต้องหน้าซีดขาวลง

“ไม่ดีแล้ว! เราติดกับวงล้อมของเผ่าเลือดแล้ว!”

“นี่มัน…แค่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์มันก็มีมากถึงเก้าคนแล้ว เราจะทำอย่างไรดี?”

“เราบุกเข้ามาในแดนศัตรูลึกจนเกินไป!”

ทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างแตกตื่นกันไปสิ้น

ได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นเฉียฉินก็ยิ้มกว้างขึ้นอย่างสะใจ

เพราะหลายวันมานี้เขาช่างอับอายคับแค้นเหลือเกิน!

“ฮ่าๆๆ เย่หยวน เจ้าคิดว่ามันจะยังมีลมที่ไหนเปลี่ยนทิศอีกหรือไม่? ตอนนี้ทัพเผ่าเลือดของเราครอบคลุมฟ้าดิน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะรอดไปได้อย่างไร!” เฉียฉินกล่าวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะลั่น

อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนก่อนจะกล่าวขึ้น “หมี่เทียน ข้ารู้ว่าเจ้านั้นได้ศึกษาคัมภีร์เอกภพมาแล้วทำให้ฝีมือของเจ้าพัฒนาไปอย่างมากล้ำ คิดจะจับเจ้าไว้มันย่อมไม่ง่ายแต่ครั้งนี้ข้าได้เตรียมการไว้อย่างดี ห้วงมิตินี้มันถูกเจ้าโลกร้อยแปดสิบคนปิดล้อมไว้สิ้น! บางทีแค่นี้มันอาจจะหยุดเจ้าไม่ได้แต่คนที่เจ้าพามานั้นย่อมจะไม่มีทางหนีตามเจ้าไปได้แน่!”

ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ต้องหน้าซีดขาวลงกว่าเก่า

พวกเขานั้นอยากจะมุดห้วงมิติหนีไปแต่พบว่าห้วงมิติในบริเวณนี้มันแข็งจนไม่อาจจะขยับเคลื่อนได้แล้ว

เท่านี้คนทั้งหลายก็เริ่มกังวลขึ้นมาจริงๆ

หมี่เทียนตอบกลับไป “เช่นนั้นเจ้าอยากจะต่อรองกับข้า?”

อี้เฉียยิ้มตอบกลับไป “คุยกับคนฉลาดมันประหยัดเวลาดีจริงๆ ข้ามีเงื่อนไขเดียวในการปล่อยพวกเจ้าไป ทิ้ง เย่หยวนไว้ นอกจากนั้นจะไปไหนก็ไป!”

“กับแม่เจ้าเถอะ! คิดจะให้เราทิ้งเย่หยวนไว้นั้นเจ้าคงต้องฝันเอาแล้ว! เจ้านามว่าอี้เฉีย? รอก่อนเถอะ เมื่อใดที่หยางชิงผู้นี้ก้าวถึงอาณาจักรเจ้าโลกข้าจะไปล่าหัวเจ้าเอง!” คำพูดของอี้เฉียนั้นทำให้หยางชิงต้องร้องคำรามตอบกลับไป

“ใช่แล้ว ต่อให้เราต้องตายเราก็ต้องพานักบุญสวรรค์เย่ออกไป!”

“นักบุญสวรรค์เย่นั้นคือวิญญาณของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเรา เราขอสู้ตายเพื่อเปิดทางหนีให้เขา!”

“เจ้าหมาเลือด เจ้าคิดง่ายไปแล้ว! เราไม่มีทางทิ้งเขาไว้แน่นอน!”

คำตอบของคนทัพสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

ดูแล้วตอนนี้เย่หยวนคงกลายเป็นดั่งเทพเจ้าของคนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไป

เย่หยวนนั้นคือเสาหลักที่ค้ำจุนจิตวิญญาณของพวกเขาไว้! เย่หยวนนั้นคือศาสนาของพวกเขา!

หมี่เทียนมองหน้าอี้เฉียก่อนจะยิ้มตอบกลับไป “ได้ยินไหมเล่า? ไม่มีทางที่เราจะทิ้งเย่หยวนไว้หรอก! นอกจากนั้นบรรพบุรุษผู้นี้ยังไม่คิดว่าเจ้าจะปิดล้อมเราไว้ได้จริงๆ ด้วย!”

อี้เฉียนั้นยิ้มเย้ยตอบกลับไป “หมี่เทียน เจ้าจะหลงตัวเองไปแล้ว!”

แต่หมี่เทียนกลับเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นพร้อมกล่าว “จะหลงตัวเองหรือไม่เจ้าก็จะได้รู้แล้ว! เย่หยวน ลงมือเถอะ!”

………………………