บทที่ 2817 ต้านได้สารพัดพิษ + ตอนที่ 2818 ชายหญิงไม่อนุญาตให้จูบกัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2817 ต้านได้สารพัดพิษ

“กรุบ ๆ…”

เล่อเล่อเหมือนหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อย เนื้อสีขาวของแอปเปิลในมือลดลงเรื่อย ๆจนท้ายที่สุดก็เหลือเพียงแกนแอปเปิลเท่านั้น!

“พี่อย่ากินนะ…แอปเปิลมีพิษจะตายได้…ฮือ ๆ!” รื่อเป่าน่าตกใจมาก เธอเชื่อจริง ๆว่าแอปเปิลมีพิษ ทั้งยังหลงคิดว่าคนแคระจะช่วยให้ฟื้นคืนชีพได้จริง ๆ

“สบายใจได้…พี่ต้านได้สารพัดพิษ!” เล่อเล่อตบไปที่เสื้อคลุมลายเห็ดพร้อมเรอเสียงดัง

เป่ารื่อน่าเปลี่ยนจากความเศร้ามาเป็นเสียงหัวเราะแล้วมองเล่อเล่ออย่างชื่นชม พี่สาวเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกจริง ๆ!

‘ราชินีใจร้าย’ โกรธจนตาแดงก่ำ แอปเปิลอาบพิษไม่มีแล้วเธอจะแสดงต่ออย่างไรล่ะ?

เหยียนเล่อเล่อร้ายกาจไม่เบา เธอต้องจงใจกลั่นแกล้งทำให้งานป่วนแบบนี้แน่ ๆ!

เด็กน้อยคนอื่น ๆบนเวทีต่างมองกันอย่างงุนงง สีหน้าตะลึงงัน จากนี้จะแสดงต่อไปอย่างไรล่ะ?

ส่วนผู้ปกครองด้านล่างเวทีต่างหัวเราะร่า บางคนถึงกับหัวเราะจนน้ำตาไหลพลางรู้สึกว่าสนุกกว่าเนื้อเรื่องต้นฉบับมาก มองดูเด็กพวกนี้สิร่าเริงขนาดไหน

ครั้นเหมยเหมยเห็นลูกสาวตัวเองที่มีสีหน้าพึงพอใจบนเวทีก็รู้สึกอับอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี เธอไม่รู้จักเด็กคนนี้ ใครจะเอาก็เอากลับบ้านไปเลย!

คุณครูรีบขึ้นไปบนเวทีเพื่อปลอบประโลมเด็ก ๆแล้วก็ดึงเล่อเล่อมาคุยด้วยดี ๆ แน่นอนว่าจะฟังหรือไม่นั้นก็มีแค่เล่อเล่อเท่านั้นที่รู้ดีแก่ใจ

การแสดงดำเนินต่อไป คุณครูนำแอปเปิลอีกลูกมาให้ใหม่เป่ารื่อน่าจึง ‘ตาย’ สำเร็จ คนแคระทั้งเจ็ดได้ช่วยเธอไว้ เนื่องจากเมื่อสักครู่ถูกเล่อเล่อทำให้เสียเวลา ฉากเอาหวีแลกกับแอปเปิลพิษจึงถูกตัดออกแล้วกระโดดข้ามไปฉากสุดท้ายเลย—

เจ้าหญิงสโนไวท์หลับอยู่นาน ในที่สุดเจ้าชายขี่ม้าขาวก็มาถึง เขาเตรียมจะจุมพิตเพื่อให้เจ้าหญิงผู้งดงามฟื้นคืนชีพ

เด็กชายที่แสดงเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวหน้าตาดีไม่น้อย เขาใส่สูทผูกหูกระต่ายดูสง่างามเหมือนเจ้าชายจริง ๆ ผู้ปกครองต่างมองเด็กผู้ชายตัวน้อยที่กำลังเอนตัวก้มลงจุมพิตเป่ารื่อน่าอย่างสนใจพร้อมดวงตาที่ยิ้มอย่างมีความสุข

“โอ๊ย…ฉันดูจนจิตวิญญาณความเป็นวัยรุ่นของฉันจะเด้งออกมาอยู่แล้ว อยู่ดี ๆก็อยากกลับไปมีความรักเหมือนตอนจีบกัน” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทุบหน้าอกตัวเองอย่างเกินจริง ใจเต้นตึกตักเหมือนหนุ่มสาวที่กำลังมีความรัก

“แสดงว่าทำการบ้านกันไม่บ่อย ช่วงนี้อิงจวี้กังของเธอสุขภาพส่วนล่างใช้การไม่ได้หรือไง!” ฉีฉีเก๋อพูดโดยไม่ต้องคิดพูดล้อเล่นอย่างที่เคยทำปกติ

เหมยเหมยหนังตากระตุกจัดการฟาดเธอไปทีหนึ่งแล้วคำรามเสียงต่ำว่า “เธอยังกล้าพูดลามกในโรงเรียนอนุบาลอีกเหรอ เธอไม่อายแต่ฉันอายนะ!” ฉีฉีเก๋อเพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรพูดเรื่องแบบนี้ที่นี่จึงรีบปิดปากเงียบแล้วยิ้มอย่างละอายใจ หวังว่าจะไม่มีใครได้ยินเพราะไม่เช่นนั้นเธอคงไม่กล้ามาประชุมผู้ปกครองแน่นอน

อู่เชาที่กำลังเบื่อสุด ๆได้ยินคำพูดของฉีฉีเก๋อชัดทุกถ้อยคำ คำว่า ‘การบ้าน’ ใช้ได้ดีทีเดียว เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตเลยว่าเพื่อนของเหมยเหมยจะเก่งขนาดนี้

เขาไม่ได้สนิทกับฉีฉีเก๋อมากนักแต่เพราะเธอสนิทกับเหมยเหมยจึงเคยทานข้าวด้วยอยู่สองสามครั้ง เจอกันน้อยครั้งนักแต่ก็พอจะรู้จักฉีฉีเก๋ออยู่บ้าง

เขารู้ว่าสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างสูงโปร่งคนนี้เป็นสาวน้อยจากทุ่งหญ้า พอเรียนจบปริญญาตรีก็แต่งงานกับรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่เนื่องด้วยชีวิตคู่ไม่มีความสุขจึงหย่ากันเมื่อหลายเดือนที่แล้ว เห็นท่าทางสดใสร่าเริงของเธอก็พออธิบายได้ว่าหลังจากหย่าแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดี ไม่เหมือนหญิงสาวคนอื่น ๆที่ดูขมขื่นทุกข์ทรมาน

เมื่อนึกถึงแม่ที่เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเหมือนกัน อู่เชาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉีฉีเก๋ออีกครั้ง

หลังจากเว่ยชิวเยวี่ยแม่ของเขาหย่ากับพ่อของเขาแล้วมาแต่งงานกับจี้เจี้ยนโปอดีตอาเขยของเขา ซึ่งในฐานะที่เขาเป็นลูกชายก็ไม่ได้คัดค้านแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนต่อสิ่งที่แม่เลือกแต่เขาก็ไม่ได้มองว่าดี

ไม่ใช่เพราะจี้เจี้ยนโปไม่ใช่คนดีแต่เพราะมันไม่ถูกต้อง

อีกทั้งในวันแต่งงานคุณอาอู่เจิ้งหงก็ถูกรถชนตายซึ่งเรื่องนี้เป็นเหมือนก้างชิ้นโตที่ทิ่มแทงเว่ยชิวเยวี่ยกับจี้เจี้ยนโปอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นลูกพี่ลูกน้องจี้เหวินฮุ่ยก็คอยมาก่อกวนอย่างไม่ลดละ ชีวิตหลังแต่งงานของเว่ยชิวเยวี่ยกับจี้เจี้ยนโปจึงไม่สงบสุขนักเพราะมักจะมีเรื่องให้ระแวงอยู่เสมอ ต่อให้ความรักจะลึกซึ้งขนาดไหนก็ถูกเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆเหล่านี้มาบั่นทอนให้ลดลงได้เช่นกัน

……………………………………….

ตอนที่ 2818 ชายหญิงไม่อนุญาตให้จูบกัน

อู่เชาถอนหายใจ จากนั้นก็เป็นไปตามที่เขาคาดคิดเพราะเว่ยชิวเยวี่ยและจี้เจี้ยนโปทนความทุกข์ทรมานได้ไม่เกินสามปีก็ตัดสินใจแยกทางกันด้วยดี แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ยังคงไปได้ดี แม้จะเป็นสามีภรรยากันไม่ได้แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้

ทว่าตอนนี้เว่ยชิวเยวี่ยกลับมีความสุขกับชีวิตดี ต่อให้โสดแต่ก็ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ตัวเขาเองและพี่ชายค่อนข้างยุ่ง ดังนั้นบางครั้งเว่ยชิวเยวี่ยจะเดินทางไปท่องเที่ยวเพียงลำพังใช้ชีวิตได้น่าอิจฉามากกว่าพวกเขาเสียอีก

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถไปเที่ยวแบบปุบปับได้!

เสียงหัวเราะของผู้ปกครองรอบข้างขัดจังหวะความคิดของอู่เชาเขาจึงมองไปยังเวที ความรู้สึกเจ็บปวดที่ทะลักขึ้นมาเมื่อครู่ล่องลอยหายไปในอากาศแล้วแทนที่ด้วยเสียงหัวเราะ

ลูกสาวของเหมยเหมยคนนี้น่ารักกว่าตอนที่แม่เธอยังเด็กเยอะเลย!

เล่อเล่อแย่งซีนอีกครั้งอย่างงดงาม เธอใช้เพียงมือเดียวคว้าคอเสื้อของ ‘เจ้าชาย’ ไว้แล้วกระชากเขาไปอีกทางราวกับเทพธิดาผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จากนั้นก็ดันเป่ารื่อน่าไปปกป้องไว้ด้านหลัง

“ห้ามจูบ ชายหญิงห้ามจูบกัน!” เล่อเล่อพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกลอกตาใส่

กลางวันแสก ๆยังกล้าจูบน้องเป่ารื่อน่าอีก คิดว่าเธอตายไปแล้วหรือไงฮะ?

เด็กผู้ชายคนนี้อยากจะบ้าตาย “พวกเรากำลังแสดงกันอยู่ต่างหาก!”

“ต่อให้แสดงก็จูบไม่ได้ ฉันจะช่วยนายจูบเอง!”

เล่อเล่อก้มตัวลงกระดกก้นขึ้น ชุดเห็ดดอกใหญ่ดูตลกมากพวกผู้ปกครองจึงขำขันกันอีกครั้ง โอ๊ย…ทำไมเจ้าหนูน้อยที่แสดงเป็นเห็ดถึงน่ารักจังนะ?

ทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้?

เล่อเล่อจูบประทับลงบนใบหน้าของเป่ารื่อน่าแล้วตะโกนเสียงดังว่า “จูบเสร็จแล้ว…แสดงต่อได้!”

คุณครูที่อยู่หลังเวทีกลับอยากจะร้องไห้ เธอเก่งนักก็เขียนบทเองสิ…ไม่เคยเจอเด็กคนไหนแย่งซีนเก่งขนาดนี้เลย!

พอเหมยเหมยได้ยินบทสนทนาของผู้ปกครองที่อยู่รอบข้างก็มุดตัวหลบอยู่หลังเซียวเซ่อ เธออยากจะหาร่องแล้วมุดลงไปเสียจริง ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่เคยรู้นะว่าเล่อเล่อรักการแสดงมากขนาดนี้?

มุมปากของเซียวเซ่อกลับยกยิ้มขึ้นมองไปทางเล่อเล่อที่อยู่บนเวทีอย่างพึงพอใจ เด็กน้อยที่ทั้งน่ารักทั้งเอาแต่ใจแบบนี้ จริง ๆแล้วควรจะเป็นลูกสาวของเธอถึงจะถูก ทำไมถึงไปเกิดในท้องของเหมยเหมยจอมขี้แยนี่ได้นะ?

ถ้าสามารถให้กำเนิดเด็กน้อยที่น่ารักอย่างเล่อเล่อได้ เธอก็ยังตั้งตารอคอยชีวิตในวันข้างหน้าได้อยู่สินะ!

เซียวเซ่อครุ่นคิด อยู่ดี ๆก็คิดว่าความจริงแล้วการให้กำเนิดเด็กคนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องทุกข์ทรมานขนาดนั้น

เมื่อการแสดงจบลงกลุ่มผู้ปกครองต่างปรบมือเสียงดังอย่างมีความสุข แถมมีผู้ปกครองบางคนยังเช็ดน้ำตาอยู่เลย ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ แค่การแสดงครั้งนี้ก็สามารถทำให้พวกเขาหัวเราะไปได้อีกครึ่งปีแล้ว

กลุ่มผู้ปกครองต่างไปหลังเวทีเพื่อพาลูกของตัวเองกลับบ้าน เหมยเหมยฝืนใจเดินไปหาเล่อเล่อ ต่อให้เธอไม่อยากจะไปเลยสักนิด แต่ลูกสาวก็เป็นลูกสาวแท้ ๆของเธอ ฉะนั้นจะรังเกียจไม่ได้

“คุณแม่คะ วันนี้หนูปกป้องน้องด้วยนะ!”

เมื่อเล่อเล่อเห็นเหมยเหมยก็วิ่งมาขอคำชมจากเธอ ทว่าเหมยเหมยกลับไม่ได้ชมเธอเหมือนเมื่อก่อนแต่กลับทำหน้าบึ้งตึงแล้วสั่งสอนเธอว่า “เล่อเล่อวันนี้ทำไม่ถูกมาก ๆเลยนะ ไม่มีการทำงานเป็นทีมเลยและไม่มีความเป็นมืออาชีพด้วย…ในเมื่อเราแสดงเป็นเห็ด ก็ควรจะแสดงเป็นเห็ดอยู่เงียบ ๆ ทำไมต้องไปแย่งซีนเด็กคนอื่นด้วยล่ะ?”

แต่เพราะเล่อเล่อยังอายุน้อยจึงแค่แสดงละครเวทีในโรงเรียนอนุบาล ถ้าเปลี่ยนเป็นละครเวทีทั่วไป จะมีนักแสดงคนไหนที่กล้าทำแบบนี้ แน่นอนว่าคงถูกขึ้นบัญชีดำแล้วล่ะ!

เล่อเล่อฟังแล้วก็งุนงงแต่ก็พอเข้าใจอยู่บ้าง วันนี้เธอทำผิดเลยไม่ได้รับคำชม

“นั่นสิ อายุน้อยขนาดนี้ยังชอบแย่งซีน ไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อแม่นี่สั่งสอนลูกอย่างไร ฮึ!” เสียงผู้หญิงพูดจาเสียดสีดังลอยมาจากด้านข้างเหมยเหมยจึงเงยหน้ามอง เธอเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 กว่าทาปากสีแดงเข้มเหมือนสีเลือด ใส่เครื่องประดับวิจิตรงดงาม กลิ่นอายของผู้รากมากดีลอยมาเตะหน้าเชียว

โดยเฉพาะไข่นกพิราบยักษ์ที่อยู่บนมืออาจทำให้ตาคนอื่นตาบอดเพราะแสงแยงตาได้

……………………