ตอนที่ 3601

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 3601 : ศิษย์นิกายฟ้าจรัสแสง?

 

เช่นเดียวกับผลไม้วิญญาณบนระนาบเทพ ที่ไม่ใช่ว่าทั้งหมดจะเป็นผลไม้เทพ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นผลไม้อมตะ

 

โอสถหรือเม็ดยาใดๆบนระนาบเทพเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นระดับเทพทั้งหมด พวกมันยังมีโอสถอมตะด้วย

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองเล็กๆไกลห่างอย่างเมืองหลินซานในดินแดนดาราพิศวงแห่งนี้ เม็ดยยาและโอสถทั้งหลายที่ขายอยู่ในร้านค้า ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นโอสถอมตะ มีโอสถเทพไม่กี่ขนานและยังมีราคาสูงมาก

 

ในเมืองหลินซานก็มีร้านขายโอสถที่ดีที่สุดอยู่ 3 ร้าน เป็นของตระกูลเฉียน ตระกูลเมิ่ง และนิกายเมฆอรุณ

 

ตระกูลเฉียน ตระกูลเมิ่ง และนิกายเมฆอรุณ ก็คือ 3 ใน 4 ขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองหลินซาน ส่วนขุมกำลังสุดท้ายนั้นก็คือนิกายฟ้ายุทธ์ ทว่าแม้ในนิกายฟ้ายุทธ์จะมีผู้หลอมโอสถแต่ก็ไม่เก่งกาจอะไร ทำให้ถึงจะมีร้านโอสถเป็นของตัวเองแต่ธุรกิจก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าอีก 3 ขุมกำลัง

 

ในร้านโอสถตระกูลเฉียนเอง แม้ส่วนใหญ่จะขายโอสถอมตะ แต่นานๆครั้งก็ปรากฏโอสถเทพออกมาขาเช่นกัน ทว่าหาผู้ที่จะมีกำลังซื้อค่อนข้างยาก

 

“ท่านลูกค้า นอกจากแลกหินเทพแล้ว มิทราบท่านต้องการอันใดอีกหรือไม่?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งมาถึงร้านโอสถ ฮุ่ยเฉิน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลเฉียน ก็ปรากฏพนักงานต้อนรับที่เฝ้าอยู่หน้าร้าน 2 คนเดินเข้ามาเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น

 

“ข้าคิดจะแลกเปลี่ยนหินเทพ และดูโอสถในร้านสักหน่อย”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยเสียงเรียบ

 

“เช่นนั้นเชิญท่านลูกค้า เข้ามาด้านในก่อนขอรับ”

 

พอได้ยินจำนวนหินเทพที่อีกฝ่ายอยากแลกเปลี่ยน พนักงานต้อนรับก็ตาลุกวาว จากนั้นก็รีบเชิญต้วนหลิงเทียนเข้าร้านฮุ่ยเฉินของมันทันที “ท่านลูกค้า ร้านฮุ่ยเฉินของพวกเรานั้นแบกออกเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกพวกเราจะขายแต่โอสถอมตะทั่วไป ส่วนชั้นที่ 2 พวกเราจะขายโอสถอมตะที่หายาก…ส่วนชั้นที่ 3 พวกเราจะขายโอสถอมตะระดับสูงสุด และบางครั้งก็มีโอสถเทพ”

 

“สำหรับการแลกเปลี่ยนหินเทพ…หากจำนวนน้อยสามารถแลกได้ที่ชั้นแรกเลยย แต่หากมีปริมาณมากต้องไปแลกเปลี่ยนที่ชั้น 2”

 

ในขณะที่พาต้วนหลิงเทียนเข้ามาในร้าน พนักงานต้อนรับก็กล่าวแนะนำก่อน ค่อยเอ่ยถามสืบต่อ “ท่านลูกค้า มิทราบว่าท่านต้องการแลกเปลี่ยนหินเทพเป็นจำนวนเท่าใดหรือขอรับ?”

 

“ข้าอยากแลกหินเทพมาใช้พันก้อน”

 

พอต้วนหลิงเทียนพูดจบคำ พนักงานต้อนรับก็ถึงกับอึ้งจนหยุดเดิน มันตกใจยกใหญ่แล้ว

 

เพราะสำหรับพนักงานต้อนรับตัวเล็กๆเช่นมัน หินเทพจำนวนพันก้อนนั้น เป็นความมั่งคั่งอันมหาศาลปานดาราเกลื่อนฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

อันที่จริงแล้ว แม้แต่ตระกูลเฉียนที่อยู่เบื้องหลังร้านโอสถแห่งนี้ นอกจากผู้นำตระกูลเฉียนกับตัวตนขอบเขตเทพอันทรงพลังของตระกูลเฉียนแล้ว…เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถควักหินเทพจำนวนพันก้อนออกมาได้ในคราเดียว!

 

หินเทพก้อนหนึ่งก็มีค่าเท่ากับผลึกอมตะขั้นสูง 100 ชิ้นแล้ว

 

เช่นนั้นหินเทพพันก้อน ก็ต้องใช้ผลึกอมตะขั้นสูงถึง 100,000 ชิ้นมาแล้ว

 

“ท่านลูกค้าท่าน…ท่านมิได้ล้อเล่นกระมัง?”

 

หลังจากอึ้งไปครู่หนึ่ง พนักงานต้อนรับก็ฟื้นคืนสติ ยังหันไปมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาราวเห็นผี ใบหน้าฉายชัดถึงความเหลือเชื่อ

 

“เจ้าคิดว่าข้าพูดเล่น?”

 

ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองพนักงานต้อนรับผ่านๆ ย้อนถามว่า “หากร้านโอสถฮุ่ยเฉินของพวกเจ้าไม่อาจแลกเปลี่ยยนหินเทพจำนวนนี้ได้ก็บอกมา ข้าจะได้ไปร้านอื่น”

 

ในเมืองหลินซานนั้น แน่นอนว่าอัตราแลกเปลี่ยนผลึกอมตะขั้นสูงกับหินเทพนั้น ไม่เป็นไปตามอัตราแลกเปลี่ยนสาธารณะในระนาบเทพแน่นอน

 

อัตราแลกเปลี่ยนสาธารณะที่ว่า มักจะใช้กันในเมืองใหญ่ๆ

 

สำหรับเมืองหลินซานแห่งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนจะสูงกว่าอัตราแลกเปลี่ยนสาธารณะ 1 ใน 10 ส่วน กล่าวได้ว่าหากอัตราแลกเปลี่ยนสาธารณะต้องใช้ผลึกอมตะขั้นสูง 100 ชิ้นเผื่อแลกหินเทพ 1 ก้อน ที่เมืองหลินซานแห่งนี้จำต้องใช้ผลึกอมตะขั้นสูงเพื่อแลกเปลี่ยน 10 ชิ้น

 

หลังจากนั้นร้านในเมืองหลินซานก็จะนำผลึกอมตะที่ได้ ไปแลกเปลี่ยนกับหินเทพในเมืองใหญ่อีกที เพื่อกินส่วนต่างดังกล่าว

 

หากจะถามว่า แล้วไฉนผู้คนถึงไม่ไปแลกเปลี่ยนที่เมืองใหญ่เองเล่า ทำไมต้องมาเสียค่าส่วนต่างเพิ่มขึ้นด้วย?

 

นั่นเพราะการเดินทางไปยังเมืองใหญ่ ก็มีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน หากไม่ใช่ตัวตนขอบเขตเทพใครจะกล้าเดินทางไปเมืองใหญ่?

 

“ขอท่านลูกค้าโปรดรอสักครู่ ข้าน้อยจะไปตามเจ้าของร้าน”

 

พนักงานต้อนรับกล่าวบอกต้วนหลิงเทียนอย่างสุภาพ จากนั้นก็เร่งแจ้นเข้าไปด้านในร้านโอสถฮุ่ยเฉินทันที เพราหากลูกค้าคนนี้ต้องการแลกเปลี่ยนหินเทพมากขนาดนั้นจริงๆ มันก็ร่ำรวยแล้ว!

 

ถึงแม้มันจะได้ค่าส่วนต่างแค่ 1 ใน 100 ส่วนจากธุรกรรมใดๆของลูกค้าที่มันต้อนรับในร้านฮุ่ยเฉิน

 

ทว่าหินเทพ 1,000 ก้อนนั่น ต้องใช้ผลึกอมตะขั้นสูงสุด 100,000 ชิ้น

 

และร้านฮุ่ยเฉินของมันก็จะเก็บผลึกอมตะส่วนต่างเป็นกำไรเพิ่มอีก 10,000 ชิ้น!

 

หนึ่งในร้อยส่วนของผลึกอมตะขั้นสูง 10,000 ชิ้น นั่นก็เป็นผลึกอมตะขั้นสูงถึง 100 ชิ้นแล้ว! มากกว่าทรัพย์สมบัติชั่วชีวิตของมันถึง 10 เท่า!

 

หากธุรกรรมนี้เสร็จสมบูรณ์ ก็เหมือนชีวิตมันเปลี่ยนทันที!

 

“ท่านลูกค้า ท่านคิดแลกหินเทพ 1,000 ก้อนหรือ?”

 

ไม่นานนักพนักงานต้อนรับก็กลับมาพร้อมมีชายชราในชุดสีฟ้าอ่อนผู้หนึ่งเดินตามหลังมา ชายยชราคนนี้มีรูปร่างปานกลาง หน้าตาแลดูธรรมดา เส้นผมสีขาวอมเทาทอดยาวไปด้านหลัง ถึงแม้จะแลดูชรามากแล้ว แต่แววตายังกระจ่างใสราวคนหนุ่ม

“อืม”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับเบาๆ จากนั้นก็ฌสะบัดมือออกคราหนึ่ง บังเกิดเสียงกระทบดังกอกๆแกกๆ เป็นผลึกอมตะขั้นสูงจำนวน 110,000 ชิ้นที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งไปกองเป็นเนินเขาย่อมๆเบื้องหน้าชายชรา พาลให้สองตามันลุกวาวทันที

 

“ผลึกอมตะขั้นสูง 110,000 ชิ้น ไม่ขาดไม่เกิน ลองนับดูก่อนได้”

 

ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับชายชราทันที หลังจากที่สร้างกองผลึกอมตะขั้นสูงเสร็จ และด้านชายชราก็พยักหน้าขานรับเร็วไว “ท่านลูกค้า ตั้งแต่ที่ท่านเรียกผลึกอมตะขั้นสูงออกมา ข้าก็ใช้สำนึกเทวะตรววจสอบแล้ว เป็นผลึกอมตะขั้นสูง 110,000 ชิ้นครบถ้วน”

 

“ตกลงร้านฮุ่ยเฉินของพวกเจ้ารับแลกเปลี่ยนหรือไม่ หากไม่ข้าจะได้ไปหาแลกร้านอื่น”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถามอีกรอบ

 

“รับ! ย่อมรับ!!”

 

ชายชราเร่งพยักหน้าขานคำเร็วไว จากนั้นก็กล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มแฉ่ง “ท่านลูกค้าโปรดรอสักครู่ ข้าได้ส่งข้อความไปแล้ว อีกมินานจักมีคนนำหินเทพมาให้ท่านลูกค้า…ใช้เวลาไม่เกิน 1 เค่อแน่นอน”

 

“ขอท่านลูกค้ากรุณารอสักครู่”

 

ตอนนี้เรียกว่าท่าทีของชายชราที่มีต่อต้วนหลิงเทียนได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แลดูสุภาพเรียบๆร้อยๆนัก กระทั่งยังนอบน้อมเพิ่มขึ้นหลายส่วน

 

ล้อกันเล่นหรือไร?

 

ผู้ที่อยู่ๆก็หยิบควักผลึกอมตะขั้นสูง 110,000 ชิ้นมาแลกเปลี่ยนหน้าตาเฉยในคราเดียว จะเป็นคนธรรมดาได้หรือ?

 

ยิ่งไปกว่านั้นลักษณะของชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าก็ไม่ธรรมดาเลย มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชนชั้นต่ำทราม นอกจากนั้นครั้งนี้ทางร้านก็ทำกำไรได้มาก มันย่อมไม่กล้าละเลยอีกฝ่าย

 

“อืม”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ

 

“ท่านลูกค้า ข้าเรียกว่า เฉียนตง เป็นเถ้าแก่ร้านโอสถฮุ่ยเฉินแห่งนี้ และยังเป็นอาวุโส 7 ของตระกูลเฉียน…มิทราบท่านลูกค้ามีนามเลิศล้ำว่าอะไร?”

 

ในขณะที่กล่าวแนะนำตัวเองกับต้วนหลิงเทียน ชายชราก็ไม่ลืมถามรายละเอียดของต้วนหลิงเทียน นั่นเพราะตระกูลเฉียนได้ติดต่อกลับมาหามันเมื่อครู่ เพื่ออยากรู้ว่าผู้ที่สร้างกำไรให้พวกมันเป็นใครมาจากไหน เผื่อจะได้ลาภก้อนโตยิ่งขึ้น..

 

คิดฆ่าปล้นทรัพย์!

 

“ต้วนหลิงเทียน”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่คิดจะปิดบังชื่อแซ่ของตัวเอง บางทีหากเป็นอีก 300 ปีหลังจากนี้ เขาอาจพะวงเรื่องเปิดเผความเป็นมาของตัวเองออกไป เพราะไม่แน่วิหารเฟิงฮ่าวหรือศัตรูของเขาอาจจะส่งข้อมูลของเขามายังระนาบเทพแล้ว

 

แต่ตอนนี้เนื่องจากช่องทางเชื่อมต่อระหว่างระนาบเทพกับระนาบเทวโลกยังปิดตัวอยู่ เขาจึงไม่กังวล

 

“ที่แท้เป็นนายน้อยต้วน”

 

ในขณะที่ยยิ้มรับอ่างกระตือรือร้น เฉียนตง ก็ไม่ลืมเอ่ยถามเพิ่มเติม “ว่าแต่ นายน้อต้วนท่านมาจากกองกำลังใดหรือ?”

 

พอกล่าวจบคำ เฉียนตงก็เผยท่าทางราวกับเมื่อครู่พลั้งปากไป “ขออภัยด้วนายน้อยต้วน เป็นข้าเอ่ยถามไปตามประสาเท่านั้น หากนายน้อยต้วนมิสะดวกกล่าวก็ไม่เป็นไร”

 

“ไม่เป็นไร”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยออกเสียงเรียบ “ข้ากับสหายไม่กี่คนแอบหนีผู้อาวุโสมาสูดอากาศเล็กน้อย…อ้อพวกเรามาจากนิกายฟ้าจรัสแสง”

 

นิกายฟ้าจรัสแสง!

 

เป็นนิกายของ เย่เป่ยหยวน ชายชราที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอในระนาบสมรภูมิ และใจดีพาต้วนหลิงเทียนไปส่งถึงค่ายทหาร

 

ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่รู้ว่าฐานะของนิกาฟ้าจรัสแสงในดินแดนดาราพิศวงจะเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ควรเป็นนิกายนิรนามหากมีชนชั้นอาวุโสระดับจอมราชันเทพขั้นกลางอย่างเย่เป่ยหยวน

 

แต่คนตรงหน้าจะรู้จักนิกายฟ้าจรัสแสงหรือไม่เขาไม่ค่อยจะแน่ใจนัก แต่เขาเชื่อว่าในฐานะผู้อ่อนแอ ต้องพยายามรู้จักผู้เข้มแข็งให้มากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ล่วงเกิน…

 

สุดท้ายแล้ว ก็เป็นกองกำลังที่มีจอมราชันเทพขั้นกลางเป็นผู้อาวุโส ในดินแดนดาราพิศวง ถึงจะไม่ได้มีมากมายดั่งขนวัว แต่ก็มีอยู่ไม่น้อย

 

ปรากฏว่าต้วนหลิงเทียนเดาถูก

 

แทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ สีหน้าท่าทีเฉียนตงก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง พอมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ในแววตาก็ฉายชัดถึงความยำเกรง “ที่แท้นายน้อยต้วนมาจากนิกาฟ้าจรัสแสง…หากก่อนหน้าผู้แซ่เฉียนมีอันใดล่วงเกินท่านไป หวังว่านายน้อยต้วนจะไม่ถือสา”

 

หลังกล่าวจบคำ เฉียนตง ก็ประสานมือโค้งคารวะทันที พนักงานต้อนรับข้างๆเองก็เร่งก้มหัวแทบไม่ทัน

 

และในแววตาของพนักงานต้อนรับตอนนี้ก็ฉายชัดถึงความหวาดกลัวสยดสยอง มันไม่เคยคิดเคฝันมาก่อนเล ว่าลูกค้าที่มันต้อนรับวันนี้ ที่แท้จะเป็นคนของนิกายฟ้าจรัสแสง!

 

นิกายฟ้าจรัสแสง เป็นนิกายที่ทรงพลังและมีชื่อเสียงไม่ใช่ชั่วของคฤหาสน์ตงหลิงเขตตะวันออกของพวกมัน

 

ถึงแม้จะไม่ใชนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดของคฤหาสน์ตงหลิงเขตตะวันออก แต่นิกายฟ้าจรัสแสงก็เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมีตัวตนระดับจักรพรรดิเทพเป็นประมุข รากฐานยังลึกล้ำไม่น้อย และครอบครองอาณาเขตกว้างขวางไม่ใช่เล่นๆ

 

 

ณ จวนตระกูลเฉียนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองหลินซาน อาณาบริเวณกว้างขวางใหญ่โต น่านฟ้าปรากฏอาวุโสทั้งสมาชิกในตระกูลมากมายเหินลาดตระเวนตลอดเวลา ผู้ใดที่เหินร่างผ่านไปมา ก็จงใจหลีกเลี่ยงการล่วงล้ำเข้าน่านฟ้าเหนือจวนตระกูลเฉียน

 

วันนี้เมื่ออยู่ๆมีข้อความจากอาวุโส 7 ตระกูลเฉียนอย่าง เฉียนตง แจ้งเข้ามา ย่อมทำให้ผู้นำตระกูลเฉียนบังเกิดความสนใจตื่นตัวเป็นธรรมดา

 

ชายหนุ่มคนหนึ่งหยิบควักผลึกอมตะขั้นสูงออกมาคราเดียว 110,000 ก้อน เพื่อขอแลกเปลี่ยนหินเทพ 1,000 ก้อนในร้านโอสถฮุ่ยเฉินของพวกมัน…

 

ต้องทราบด้วยว่าแม้ตระกูลเฉียนของพวกมันจะระดมหินเทพออกมาใช้ทันทีได้ไม่น้อย แต่เต็มที่ก็แค่หลักหมื่นก้อนเท่านั้น…หินเทพจำนวน 1,000 ก้อน สำหรับตระกูลเฉียนแล้วเป็นจำนวนมากพอจะให้ความสำคัญ

 

ถึงแม้การทำธุรกรรมครั้งนี้จะทำให้ตระกูลเฉียนได้กำไรพอสมควร

 

แต่หากฆ่าอีกฝ่ายเล่า มิใช่จะได้กำไรเพิ่มขึ้นหรือไร?

 

ดังนั้นมันก็เลยสั่งให้เฉียนตงตรวจสอบความเป็นมาของอีกฝ่าย

 

และรอฟังคำตอบอย่างเงียบงัน

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคำตอบที่รออยู่จะเป็น…อีกฝ่ายมาจากนิกายฟ้าจรัสแสง!

 

“มันเป็นศิษย์นิกายฟ้าจรัสแสงจริงๆหรือ?”

 

ผู้นำตระกูลเฉียน เฉียนเยว่จิ้น รู้สึกเหลือเชื่อยังรีบส่งข้อความไปถามเฉียนตงทันที เพราะมันคิดไม่ออกจริงๆ ว่าศิษย์นิกายฟ้าจรัสแสงที่มีฐานะสูงส่ง จะมาเยือนเมืองเล็กๆอย่างเมืองหลินซานแห่งนี้ทำไม อยากได้อะไรไม่ใช่ในเขตตงหลงตะวันออกก็มีเมืองใหญ่ๆมากมายหรอกหรือ?

 

ต้องทราบด้วยว่าสำหรับคนของนิกายฟ้าจรัสแสงแล้ว ที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรจากสถานที่ๆวิหกยังไม่อยากแวะเวียนมาขับถ่าย…

 

“ข้าเองก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าที่มันพูดเป็นจริงหรือเท็จ…แต่ดูจากท่วงท่าลักษณะคำพูดคำจาของมัน ไม่คล้ายปลอมแปลง”

 

เฉียนตงก็ลอบส่งข้อความตอบกลับทันที

 

“ถึงมันจะเป็นศิษย์นิกายฟ้าจรัสแสงแล้วอย่างไร หากมันยังไม่บรรลุถึงขอบเขตเทพ ตระกูลเฉียนของพวกเราก็สามารถกลืนเนื้อคำนี้ลงคอได้…ขอเพียงไม่ให้เหลือร่องรอยใดๆให้สืบสาวถึงพวกเรา เช่นนั้นก็ไม่ชักนำเภทภัยอะไรมาสู่ตระกูลเฉียนพวกเราแล้ว”

 

เฉียนเยว่จิ้นกล่าว

 

“ท่านผู้นำ ฟังจากที่มันพูดก่อนหน้า…ดูเหมือนมันจะไม่ได้มาที่เมืองหลินซานคนเดียวและยังมีสหายอีก 2-3 คน…นอกจากนั้นตอนที่มันเดินเข้าร้านโอสถฮุ่ยเฉินของพวกเรา ก็สมควรมีคนพบเห็นมันไม่น้อย”

 

ขณะส่งข้อความ เฉียนตงก็ลอบยิ้มแห้งในใจ “ข้ารู้สึกว่าหากพวกเราคิดลงมือกับมันอย่างบุ่มบ่าม ออกจะโง่เขลาเกินไปหน่อย”

 

“อย่าได้ให้หินเทพเพียง 1,000 ก้อน เป็นบ่อเกิดหายนะของตระกูลเฉียนเราเลย…”

 

คำพูดของเฉียนตง ทำให้เฉียนเยว่จิ้นกลัวจนเหงื่อแตกพลั่ก

 

ศิษย์ของนิกายฟ้าจรัสแสงผู้นั้น…ไม่ได้มาเมืองหลินซานคนเดียว!?