เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ฮว๋า สีหน้าของพวกหยางเฉินก็ตกใจ
หยางเฉินจ้องมู่ฮว๋า ถามว่า “เจ้าเมืองมู่เรื่องหาผมมีเรื่องอะไรครับ?”
มู่ฮว๋าส่ายหน้าเล็กน้อย “ขอโทษด้วยครับ เรื่องของท่านเจ้าเมือง ผมไม่สะดวกที่จะถามมาก รบกวนคุณหยางไปกับผมแล้วกันครับ!”
หยางเฉินพยักหน้า “ได้!”
ทันใดนั้นเหล่าจิ่วไปขวางไว้ตรงหน้าหยางเฉิน หรี่ตาพูดกับมู่ฮว๋าว่า “ถ้าหากหยางเฉินเป็นอะไรไป ฉันรับประกันว่าจะให้จวนมู่ได้ชดเชยแน่นอน!”
มู่ฮว๋าอึ้งไปเล็กน้อย จากนันก็ยิ้ม “พวกคุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ? ท่านเจ้าเมืองให้ความสำคัญกับคุณหยางมาก แล้วจะให้ปล่อยให้คุณหยางเป็นอะไรไปได้ยังไงละครับ? พวกคุณสบายใจได้ แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าท่านเจ้าเมืองมีธุระอะไรกับคุณหยาง แต่รู้ว่า เจ้าเมืองมู่ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีต่อคุณหยางแน่นอนครับ”
หยางเฉินเองก็หันไปมองเหล่าจิ่ว พูดว่า “ท่านเก้าครับ คุณวางใจได้ เจ้าเมืองมู่ไม่มีทางทำอะไรผมแน่นอนครับ”
เหล่าจิ่วจึงได้ยอมหลีกทาง เพียงแต่ความเป็นห่วงในแววตา ก็ยังมากมายอยู่เหมือนเดิม
ไม่นาน มู่ฮว๋าพาตัวหยางเฉินมาถึงที่พักของเจ้าเมืองมู่
เมื่อได้เจอเจ้าเมืองมู่แล้ว หยางเฉินเอ่ยถามว่า “เจ้าเมืองมู่ ท่านหาผมหรือครับ?”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มเล็กน้อย ชี้เก้าด้านข้างแล้วพูดว่า “นั่งคุยสิ!”
เมื่อหยางเฉินนั่งลงแล้ว เจ้าเมืองมู่ถึงได้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรียกนายมา เพราะมีข่าวดีอยากจะบอกกับนาย เนื่องจากเสียวหว่านทำให้ขาของฉันได้มีความรู้สึกกลับมาบ้างแล้ว ทำให้พลังของฉันมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น ในตอนนี้ถึงแม้จะเป็นเจ้าเมืองหวยเฉิงมา ฉันเองก็มีความมั่นใจว่าสามารถปกป้องพวกนายได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ภายในใจของหยางเฉินแอบตกใจเล็กน้อย เขารู้ดีว่าพลังของเจ้าเมืองมู่คาดการณ์ไม่ได้ แต่ไม่คิดว่า เฝิงเสียวหว่านยังไม่ทันได้รักษาเจ้าเมืองมู่จนหายดี เพียงแค่ทำให้ขาของเขาได้มีความรู้สึกกลับมาเล็กน้อยเท่านั้น แต่พลังของเจ้าเมืองมู่กลับมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น
แล้วถ้าหากของขาเจ้าเมืองมู่หายดีแล้ว พลังจะแข็งแกร่งมากเพียงใด?
หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่างนั้นก็ยินดีกับเจ้าเมืองมู่ด้วยครับ!”
เจ้าเมืองมู่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ก็ล้วนเป็นบุญจากนายทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ชีวิตนี้ของฉันคงจะไม่ต้องเดินอีกทั้งชาติแล้วละ”
หยางเฉินไม่อยากจะคุยเรื่องนี้เท่าไหร่นัก จึงเอ่ยปากพูดว่า “เจ้าเมืองมู่ ท่านเรียกผมมาคงจะไม่ใช้เพียงเพราะเรื่องนี้หรอกใช่มั้ยครับ?”
เจ้าเมืองมู่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด จ้องหยางเฉินและถามว่า “ในมือของนาย มีมีดพกอาถรรพ์อยู่ใช่มั้ย?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ใจของหยางเฉินก็สะดุ้ง เนื่องจากเตรียมใจไว้แล้ว บนใบหน้าของเขาจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเท่าไหร่
หยางเฉินถามว่า “ทำไมเจ้าเมืองมู่ถึงได้คิดอย่างนั้นละครับ?”
เจ้าเมืองมู่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “นายอย่าได้เข้าใจผิดละ ที่ฉันถามนายเรื่องนี้ เพราะว่าก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันส่งผู้แข็งแกร่งไปฆ่าติงชางที่บ้านตระกูลติง แล้วได้รู้มาโดยบังเอิญ ว่าในมือนายมีมีดพกอาถรรพ์อยู่”
Smart address bar. th.readeraz.com The king of War บทที่ 1703 นอนไม่หลับ – th.readeraz
“ดังนั้นฉันเลยมาถามนาย เพราะว่าเรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าหากข่าวแพร่ออกไป จะทำให้นายลำบากเป็นอย่างมาก”
“ถ้าหากในมือนายมีมีดพกอาถรรพ์ นายวางใจได้ ฉันไม่ทางความโลภ แต่ฉันจะคิดหาทุกวิถีทาง เพื่อช่วยนายปิดบังเรื่องนี้”
“ตอนนี้หาตัวนาย ก็เพื่ออยากจะมั่นใจ ว่าในมือนายมีมีดพกอาถรรพ์จริงหรือไม่ ถ้าหากมี แล้วมีใครรู้บ้าง? ฉันจะคิดหาวิธี จัดการฆ่าทิ้งพวกศัตรูที่รู้เรื่องนี้ทิ้งซะ!”
พูดจบ เจ้าเมืองมู่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก สายตาจับจ้องหยางเฉิน
ทันใดนั้นหยางเฉินยิ้มเยาะออกมา “เจ้าเมืองมู่ ถ้าผมไม่ได้จำผิด มีเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าถึงจะสามารถควบคุมของอาถรรพ์ได้ไม่ใช่หรือครับ? แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นและชั้นกลาง ยังอาจจะไม่สามารถควบคุมของอาถรรพ์ได้เลยนะครับ”
“ผมก็แค่พลังระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดเท่านั้น แล้วจะสามารถควบคุมมีดพกอาถรรพ์ได้ยังไงกันละครับ?”
ได้ยินเช่นนั้น เจ้าเมืองมู่ไม่ได้พูดอะไร ยังจับจ้องหยางเฉินอยู่เหมือนเดิม
หยางเฉินพูดต่อไปว่า “ถ้าหากผมเดาไม่ผิด ข่าวนี้น่าจะเป็นข่าวเท็จนะครับ เพราะว่าผู้แข็งแกร่งของจวนเมืองหวยเฉิงเอาแต่ไล่ฆ่าผม ดังนั้นคนอื่นน่าจะคิดว่า จวนเมืองหวยเฉิงจะต้องอยากได้อะไรจากตัวผมแน่นอน ถึงได้ไล่ฆ่าผมอย่างบ้าคลั่ง”
“เพียงแต่ จากระดับแดนบูโดของผมแล้ว จะมีอะไรให้จวนเมืองหวยเฉิงโลภต้องการละ? ฉะนั้นจึงมีคนคาดเดา ว่าผมอาจจะมีของอาถรรพ์ ดังนั้นจึงได้ถูกจวนเมืองหวยเฉิงไล่ฆ่า”
“แต่ผมสามารถบอกกับคุณได้อย่างมีความรับผิดชอบว่า ในมือของผม ไม่มีของอาถรรพ์ ส่วนทำไมจวนเมืองหวยเฉิงต้องไล่ฆ่าผม เนื่องจากว่าผมเคยฆ่าลูกเขยของเจ้าเมืองหวยเฉิง และครั้งนี้ที่ผมไปที่เมืองหวยเฉิง ก็เป็นเพราะจวนเมืองหวยเฉิงใช้แผนบีบบังคับให้ผมไป”
เห็นได้ชัดว่าคำพูดพวกนี้ของหยางเฉิน ไม่ได้มีความน่าเชื่อสักเท่าไหร่นัก
หยางเฉินเองก็รู้ในจุดนี้ จึงพูดต่อไปว่า “และครั้งนี้ที่ไปเมืองหวยเฉิง ผมไม่เพียงแต่ไปมีปัญหากับจวนเมืองหวยเฉิงเท่านั้น แต่ยังมีปัญหากับหุบเขาราชายาอีกด้วย สุดท้ายทั้งสองอำนาจจึงไล่ฆ่าผม ก่อนที่ผมจะจากมา จึงได้ใช้แผนทำให้หุบเขาราชายาและจวนเมืองหวยเฉิงฆ่ากันเอง”
“ต่อมา ถูกพวกเขาจับทางได้ เจ้าเมืองหวยเฉิงจึงไล่ฆ่าด้วยตัวเอง พวกผมเกือบจะถูกฆ่าที่แม่น้ำหวยเหอ แต่ในตอนที่ผมเกือบจมน้ำตาย ก็ได้บรรลุพลังแห่งธาตุน้ำ ในตอนที่อีกฝ่ายเผลอ ก็ได้โจมตีเรือที่เจ้าเมืองหวยเฉิงนั่งอยู่ เจ้าเมืองหวยเฉิงไม่สามารถไล่ฆ่าผมในน้ำได้ ส่วนผมเนื่องจากได้บรรลุพลังแห่งธาตุน้ำแล้ว จึงสามารถนำพาท่านเก้าและหวยหลันขึ้นจากแม่น้ำหวยเหอได้สำเร็จ”
“บางทีอาจจะเป็นเพราะผมบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำ ทำให้เจ้าเมืองหวยเฉิงรู้สึกถึงความกลัว จึงได้คอยไล่ฆ่าผม”
เพื่อให้เจ้าเมืองมู่เชื่อ หยางเฉินจึงต้องบอกเรื่องที่ตัวเองบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำออกมาให้เจ้าเมืองมู่รู้อย่างเลี่ยงไม่ได้
การบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำเทียบกับของอาถรรพ์ชิ้นหนึ่งนั้นมีแรงดึงดูดมากกว่า
สีหน้าของเจ้าเมืองมู่นิ่งเฉยอยู่ตลอด จนกระทั่งหยางเฉินบอกเขาว่า ตัวเองได้บรรลุพลังแห่งธาตุน้ำแล้ว สีหน้าของเขาจึงได้มีความตะลึงเกิดขึ้น
เจ้าเมืองมู่ถามว่า “นายบอกว่า นายบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำแล้ว? แดนบูโดระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอดก็บรรลุแล้วงั้นหรอ?”
หยางเฉินพูดว่า “ให้ถูกต้องก็คือ ในตอนที่บรรลุพลังแห่งธาตุน้ำ ระดับแดนบูโดของผม ยังอยู่เพียงแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นกลางเท่านั้นครับ”
พูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไป กระดิกนิ้วใส่แก้วน้ำของเจ้าเมืองมู่
ระหว่างนั้นน้ำชาในแก้ว ก็ได้ลอยออกมาจากแก้วอย่างกับมีชีวิต และได้รวมร่างเป็นรูปงู คดเคี้ยวอยู่บนแขนของหยางเฉิน
เมื่อเห็นภาพนี้ เจ้าเมืองมู่เบิกตาโต สีหน้าเต็มไปด้วยความน่าเหลือเชื่อ
เจ้าเมืองมู่พูดด้วยความตะลึงอย่างมากว่า “เป็นไปได้ยังไงกัน? ฉันยังไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดก็สามารถบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำได้แล้ว แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย ก็ไม่เคยมีมาก่อน!”
“ไปซะ!”
หยางเฉินสะบัดมือ งูน้ำที่คดเคี้ยวอยู่ที่แขนของเขาตัวนั้นก็ได้บินออกไปทางนอกหน้าต่าง
“ปึง!”
วินาทีต่อมา เสียงดังสนั่น งูน้ำชนเข้ากับภูเขาปลอมที่อยู่นอกหน้าต่าง ก้อนหินเล็กก้อนหนึ่งก็ได้ถูกชนแตกละเอียดทันที
จนกระทั่งตอนนี้ เจ้าเมืองมู่ถึงได้มั่นใจ ว่าหยางเฉินบรรลุพลังแห่งธาตุน้ำแล้วจริงๆ แล้วหยางเฉินยังใช้พลังแห่งธาตุน้ำได้อย่างชำนาญอีกด้วย
ผ่านไปสักพัก เจ้าเมืองมู่ถึงได้หันมองหยางเฉินอย่างซับซ้อน “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าเมืองหวยเฉิงถึงต้องการฆ่านาย ตามพรสวรรค์ด้านบูโดของนายแล้ว ถ้าหากว่าเป็นศัตรูกัน แล้วปล่อยให้นายมีชีวิตรอดจากไป เจ้าเมืองหวยเฉิงต้องนอนไม่หลับแน่นอน!”