บทที่ 2829 สู้ไม่ไหว + ตอนที่ 2830 ออกรายการ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2829 สู้ไม่ไหว

สยงมู่มู่ซาบซึ้งใจจนน้ำตาน้ำมูกไหลพราก ว่าที่พ่อตาแม่ยายช่างสุดยอดเหลือเกิน นี่มันสวรรค์มาโปรดชัด ๆเลย!

แต่–

เหมยเหมยที่ยืนดูเรื่องสนุก ๆอยู่ข้าง ๆมาตั้งแต่แรกในที่สุดก็หาโอกาสที่จะพูดแทรกได้สักที ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “คุณอาเซียว คุณน้าเฝิง เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วละ เซ่อเซ่อกับสยงมู่มู่ยังไม่มีอะไรกันทั้งนั้น พวกปาปารัสซี่เขียนซี้ซั้วเอง เซ่อเซ่อเพิ่งไปตรวจที่โรงพยาบาลมาหยก ๆยังบริสุทธิ์อยู่เลย!”

เซียวเซ่อเลิกคิ้วเค้นรอยยิ้มชื่นชมให้เหมยเหมยทีหนึ่ง แม้ปกติสมองไม่ค่อยทันคนเท่าไร แต่เวลาสำคัญก็ช่วยได้มากทีเดียว

สยงมู่มู่โกรธจนรีบลุกจากพื้นเดินไปยืนข้าง ๆเหมยเหมยแล้วถลึงตาใส่เธอ ด่าเสียงเบาว่า “ว่างก็ไปช่วยทำกับข้าวที่ครัวไป พูดมากจริง!”

เหมยเหมยไม่กลัวเขาหรอกเลยเถียงกลับไปว่า “ฉันอยู่บ้านฉันอยากพูดอะไรก็พูด นายมายุ่งอะไรด้วย? ไม่พอใจก็ไสหัวกลับบ้านตัวเองไป!”

สยงมู่มู่แค่นเสียงทีหนึ่งด้วยความโมโหแต่สุดท้ายก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำอะไรอีก ยัยทอมอยู่ไหนเขาก็จะอยู่ที่นั่น เขาต้องรีบทำคะแนนตอนอยู่ใกล้ ๆ อาศัยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ยึดครองดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์อย่างยัยทอมให้ได้!

คุณหนูใหญ่เฝิงกับเซียวจิ่งหมิงมองหน้ากัน ผ่านไปครู่ใหญ่เพิ่งจะได้สติเลยถามเสียงตกใจว่า “เซ่อเซ่อยังบริสุทธิ์อยู่เหรอ?”

น้ำเสียงดูตกตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน โดยเฉพาะคุณหนูใหญ่เฝิงที่เหมือนได้ยินอะไรที่มันน่าเหลือเชื่อ เธอเบิกตาโตจนลูกตาแทบหลุดออกมา แต่คราวนี้คู่กรณีกลายเป็นสยงมู่มู่

“เธออยู่กับเซ่อเซ่อมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ถึงสิบปีหรือยัง?” คุณหนูใหญ่เฝิงซักถาม

สยงมู่มู่พยักหน้ารับและรู้สึกอ่อนยวบที่หัวใจ ไม่คิดว่าเขาจะอยู่เคียงข้างยัยทอมมาตั้งสิบปีแล้ว ชีวิตคนเราจะมีเวลาสิบปีสักกี่ครั้งเชียว?

“ตั้งสิบปีแล้วเซ่อเซ่อของฉันยังบริสุทธิ์อยู่ นี่เธอมัวแต่ทำอะไรอยู่?” คุณหนูใหญ่เฝิงตะโกนถามเสียงหลง พลันเธอก็นึกอะไรขึ้นได้เลยมองสยงมู่มู่อย่างนึกสงสัย หากพูดให้ถูกคือมองช่วงล่างของเขาจนสยงมู่มู่รู้สึกใจผวา แม่ยายที่แสนดีหายไปแล้ว…

“มู่มู่เธอคงไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพหรอกใช่ไหม? เซียวจิ่งหมิง งานแต่งต้องยกเลิก เราจะให้เซ่อเซ่ออยู่เป็นหม้ายไม่ได้”

คุณหนูใหญ่เฝิงได้แสดงให้เห็นถึงความใจง่ายของผู้หญิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ เวลาเพียงครู่เดียวเธอก็ตัดชื่อสยงมู่มู่ออกจากรายชื่อลูกเขยเสียแล้ว แม้เธอหวังอยากให้เซียวเซ่อได้ใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขอย่างแท้จริงแต่สยงมู่มู่ไม่มีความสามารถด้านนั้น เซียวเซ่อจะมีความสุขได้อย่างไรอีกล่ะ!

เซียวจิ่งหมิงทำหน้าตึงเครียดแล้วพยักหน้ากล่าว “ใช่ งั้นงานแต่งต้องเลื่อนไปก่อน รอหาคนที่ดีกว่าค่อยจัด”

สยงมู่มู่อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก ในเวลาสั้น ๆครึ่งชั่วโมงเขาก็ได้ลิ้มรสชาติที่ตรงข้ามกันสุดขั้ว ทั้งที่เมื่อกี้ยังบอกว่าจะจัดงานแต่งงานทันทีด้วยซ้ำ!

“สุขภาพของผมดีมาก แข็งแรงมาก ไม่มีปัญหาด้านนั้น ผู้เชี่ยวชาญตรวจมาแล้ว ความยาวและความอึดทนอยู่เหนือผู้ชายทั่วไปแน่นอน…คุณน้ากับคุณอาลองดูผลการตรวจของผมได้!”

สยงมู่มู่หยิบเอาผลการตรวจที่พกติดตัวเสมอออกมายื่นให้เซียวจิ่งหมิง เขาเขินอายเกินกว่าจะยื่นให้คุณหนูใหญ่เฝิงได้ในเมื่อนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขานี่นา!

แต่คุณหนูใหญ่เฝิงกลับแย่งไป ล้อเล่นหรือไง กระเจี๊ยวน้อยของสยงมู่มู่ในตอนเด็กเธอดูไปไม่รู้กี่รอบ ต่อให้โตขึ้นแล้วในสายตาเธอก็ยังเป็นเด็กตัวแสบผอมกระร่องคนเดิมอยู่ดี

พอเห็นข้อสรุปในผลตรวจคุณหนูใหญ่เฝิงก็ดวงตาเป็นประกาย คุณสมบัติดีไม่หยอก แต่–

เธอกระชากตัวสยงมู่มู่มากระชากเสียงถามเบา ๆ “เธอมีปัญหาด้านจิตใจหรือเปล่า?”

“เปล่า…สภาพจิตใจผมแข็งแรงมาก” สยงมู่มู่ตกใจแทบแย่ ลอบคิดในใจว่าจะลองไปหาจิตแพทย์เพื่อขอผลการตรวจสภาพจิตใจสักใบดีไหม?

“งั้นทำไมเซ่อเซ่อของฉันยังบริสุทธิ์อยู่ล่ะ?” หนุ่มสาวที่อยู่ด้วยกันมาสิบปี ทั้งยังอยู่ในวัยเลือดกายพลุ่งพล่านอีก แล้วจะยังรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้อย่างไร?

สยงมู่มู่ก้มหน้าต่ำอย่างลำบากใจ อึกอักอยู่นานถึงตอบกลับเสียงแผ่วว่า “ผม…ผมสู้เซียวเซ่อไม่ได้!”

………………………………

ตอนที่ 2830 ออกรายการ

คุณหนูใหญ่เฝิงมองสยงมู่มู่ที่ร่างกายผอมบางอย่างพูดไม่ออก เนื่องด้วยขนาดตัวที่สูงทำให้ดูผอมเหมือนตะเกียบก็ไม่ปาน ไม่เข้าข่ายแข็งแรงกำยำจริง ๆ เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “อย่างน้อยเธอก็ไปฝึกมวยเทควันโดอะไรบ้างสิ แม้แต่ผู้หญิงยังสู้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้เลย!”

สยงมู่มู่แทบหลั่งน้ำตา “คุณน้า ผมฝึกแล้ว แต่อาจารย์บอกว่าผมไม่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้”

คิดว่าเขาไม่อยากหรือไง ทั้งเทควันโด คาราเต้ ชกมวยหรือมวยจีน…เขาลองมาหมดแล้วแต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน ไม่มีอาจารย์คนไหนอยากสอนเขา

เพราะทักษะการทรงตัวของเขาย่ำแย่มาแต่เกิดจึงไม่เหมาะกับการฝึกศิลปะป้องตัวกันแต่อย่างใด อาจารย์ยังบอกตรง ๆเลยว่าให้เขาอย่ามัวเสียเวลากับการฝึกศิลปะป้องกันตัวเลย ชีวิตคนเราสั้นนัก ไปหาอะไรที่มันมีความหมายมากกว่านี้ทำดีกว่า!

ใครจะเหมือนคนโรคจิตอย่างยัยทอมที่มีพรสวรรค์ด้านการกีฬาดีเกินมนุษย์มนุษย์มนากันล่ะ ไม่ว่าจะเรียนอะไรแค่สอนนิดเดียวก็เข้าใจ ต่อให้มีเขาสิบคนยังสู้ยัยทอมคนเดียวไม่ได้เลย!

คุณหนูใหญ่เฝิงเองก็นึกถึงพรสวรรค์ด้านกีฬาสุดแสนจะน่ากลัวของลูกสาวตัวเองขึ้นได้ ต่อให้ผู้ชายปกติก็คงกำราบไม่อยู่ แต่ปัญหาคือนี่ตั้งกี่ปีแล้ว รอบตัวเซียวเซ่อมีสยงมู่มู่เป็นผู้ชายแค่คนเดียว พอเห็นว่าเซียวเซ่ออายุย่างเข้าเลขสามตำตา พลางคิดว่าสถานการณ์ดูเหมือนจะรุนแรงเกินกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้

ผู้หญิงที่อายุใกล้จะเลขสามยังบริสุทธิ์อยู่ ชีวิตถือว่าล้มเหลวมาก ๆ!

นึกถึงเธอที่มีแฟนหนุ่มตั้งแต่อายุสิบหกปี วัยสิบแปดปีรู้จักกับเซียวจิ่งหมิงก่อนจะสูญเสียครั้งแรกไปแล้วคลอดเซียวเซ่อในวัยยี่สิบสองปี ผู้หญิงคนหนึ่งควรผ่านเรื่องราวประสบการณ์อะไรบ้างในชีวิตเธอล้วนเคยผ่านมาหมดแล้ว

ถึงไม่นับว่าสมบูรณ์แบบมากแต่เธอก็ไม่มีเรื่องอะไรให้เสียใจภายหลัง

เธอเองก็หวังว่าลูกสาวจะไม่มีอะไรต้องเสียใจภายหลังในชีวิต ไม่จำเป็นต้องแต่งงานมีลูก แต่ความสุขการร่วมรัก—ก็ต้องได้ลิ้มลองบ้างหรือเปล่า?

เธอไม่อยากให้เซียวเซ่อกลายเป็นคุณยายหัวโบราณเหมือนคุณแม่ของเซียวจิ่งหมิงหรอกนะ ไม่สิ อย่างน้อยหญิงชราคนนั้นก็เคยมีคนรักมาก่อนจนคลอดเซียวจิ่งหมิงออกมาได้ เซ่อเซ่อของเธอตอนนี้กลายเป็นสาวแก่บริสุทธิ์แล้ว!

เซียวเซ่ออารมณ์ย่ำแย่สุดขีด เธอเกลียดการที่มีคนมายุ่มย่ามกับชีวิตของเธอมากที่สุด เดิมคิดว่าพ่อแม่คงไม่มายุ่งอะไรด้วยแต่ใครจะคิดว่าพวกเขากลับมีความกระตือรือร้นมากที่สุด ทำเอาเธอรำคาญใจยิ่งกว่าอะไร!

“พ่อแม่กลับบ้านไปเลย!” เซียวเซ่อเอ่ยเสียงเย็น

เซียวจิ่งหมิงกับคุณหนูใหญ่เฝิงแลกเปลี่ยนสายตากันอย่างระอาและรู้สึกเสียใจภายหลังอย่างมาก ตอนวัยรุ่นมัวแต่หาความสุขใส่ตัวจนเพิกเฉยต่อเซียวเซ่อที่ยังวัยเยาว์ ถึงทำให้เซียวเซ่อกลัวชีวิตการแต่งงานมากขนาดนี้ เฮ้อ!

“ข่าวในนิตยสารพวกนี้จะทำอย่างไร? ให้ฉันไปซื้อสำนักพิมพ์พวกนี้เลยมั้ย” คุณหนูใหญ่เฝิงเสนอความคิดที่อวดความรวยอย่างเต็มที่

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ๆ พรุ่งนี้ไปออกรายการของเสี่ยวเชาก็จะชี้แจงเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจนเอง ไม่ต้องเสียเงินมากขนาดนี้หรอกค่ะ” เหมยเหมยยิ้มกล่าว

คุณหนูใหญ่เฝิงยังคิดจะถามต่อแต่เซียวเซ่อแค่นหัวเราะเอ่ยแทรก “คุณย่าน่าจะมาถึงพรุ่งนี้ พ่อแม่เตรียมตัวรับมือแล้วเหรอ?”

“คุณย่าของเธอจะมางั้นเหรอ? โอ๊ย…ทำไมเธอไม่รีบพูดแต่เนิ่น ๆ เซียวจิ่งหมิง ฉันจะออกไปเที่ยวต่างประเทศ บ๊ายบาย!” คุณหนูใหญ่เฝิงรีบออกไปจากบ้านเหมยเหมยอย่างเร่งด่วนเหมือนโดนผึ้งต่อยอย่างไรอย่างนั้น

เซียวจิ่งหมิงก็สีหน้าเปลี่ยนไปอีกคนแล้วสาวเท้าตามไป “เซ่อเซ่อ พ่อก็มีธุระจะออกไปเหมือนกัน ไว้เจอกันนะ!”

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีสองสามีภรรยาคู่นี้ที่มาอย่างกะทันหันก็หุนหันกลับไปอีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนเป็นแค่เรื่องตลกที่เรียกให้คนอยากร้องไห้และหัวเราะในเวลาเดียวกัน

คนที่รู้สึกแย่ที่สุดคงไม่พ้นสยงมู่มู่ เขาเหมือนได้นั่งรถไฟเหาะเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงจนโรคหัวใจแทบกำเริบอยู่แล้ว

วันต่อมาคือวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นช่วงเวลาทองคำของรายการต่าง ๆ เหมยเหมยกับเซียวเซ่อรวมถึงสยงมู่มู่ไปออกรายการของอู่เชาพร้อมกัน คุณย่าหยางกับป้าฟางและพวกฉีฉีเก๋อก็เข้าร่วมด้วย พวกเธอเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทที่ต้องไปให้กำลังใจถึงที่

ในห้องส่งเต็มไปด้วยผู้คนซึ่งส่วนมากเป็นแฟนคลับของสยงมู่มู่ และมีนักข่าวที่ไม่ประสงค์ดีอีกบางส่วนต่างคาดหวังกับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้มาก ๆ

………………………