ตอนที่ 2877 เครื่องบินรบมิก-25
ตอนที่เสี่ยวเป่าวัดไอคิวโตกว่าเสี่ยวจูไม่เท่าไร อีกทั้งไอคิวจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ฉะนั้น…ค่าไอคิวของเสี่ยวเป่าในตอนนี้ต้องสูงกว่าเมื่อหลายปีก่อนแน่ ๆ
“เก่งจังเลยนะ…ฉันแค่เก้าสิบกว่าเอง ไม่ถึงร้อยด้วยซ้ำ” เหมยเหมยทำท่าลำบากใจเล็กน้อย เธอไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเสี่ยวเป่าด้วยซ้ำ น่าอายเสียจริง
“วางใจได้ คนที่ไอคิวต่ำกว่าเก้าสิบถึงจะมีปัญหา อย่างของเธออยู่ในเกณฑ์ปกติ” เหยียนหมิงซุ่นปลอบเธอ
เหมยเหมยถลึงตาไปแวบหนึ่ง นั่นก็เท่ากับว่าเธอแค่ดีกว่าคนโง่เพียงนิดเดียวสินะ…เฮอะ!
เหยียนหมิงซุ่นมุมปากกระตุกพยายามกลั้นเอาไว้ถึงไม่หลุดขำออกมา พูดปลอบว่า “ถึงไอคิวของเธอจะไม่เป็นที่พึงพอใจ แต่พรสวรรค์ด้านศิลปะของเธอกลับสูงมาก พระเจ้าปิดช่องโอกาสหนึ่งของเธอก็ต้องเปิดช่องโอกาสที่ใหญ่กว่าเดิมให้เธอสิ”
เหมยเหมยทำท่าได้ใจอีกที “แหงสิ…ฉันร้องเพลงเต้นรำเก่งมากนะ ไม่เหมือนใครบางคน ตอนนี้ก็ยังร้องไม่ถูกคีย์”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะ คนที่ร้องเพลงไม่ถูกคีย์ก็คือเขานั่นเอง
เรื่องอื่นไม่ว่าจะเรียนรู้เรื่องใดก็ผ่านไปได้ด้วยดี มีเพียงร้องเพลง…เขากลับร้องไม่เป็นสักที เวลาร้องเพลงมักหลงคีย์อยู่เรื่อยจนเหมยเหมยชอบเอาเรื่องนี้มาล้อเลียนเขาประจำ เช่นนี้ก็ดีจะได้ไม่เป็นการทำร้ายจิตใจ ทำลายศักดิ์ศรีของภรรยามากเกินไป
ทั้งคู่พูดคุยตอบโต้กันไปมากว่าชั่วโมง ในที่สุดประตูก็เปิดออก เสี่ยวจูเดินออกมาคนเดียว พอเห็นเหมยเหมยก็ขออุ้มทันที ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
วันนี้ทำเขาเหนื่อยแทบแย่ ผู้ใหญ่ที่โง่เขลากลุ่มหนึ่งมักถามคำถามโง่ ๆจากเขา แถมยังให้เขาทำเรื่องโง่ ๆอีกต่างหาก…
“ไอคิวของคุณชายเสี่ยวจูสูงมาก คาดการณ์อยู่ที่มากกว่าสองร้อย แต่เขาไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่เลยได้ผลไม่แม่นยำนักเพราะควรจะสูงกว่านี้” ลูกน้องรายงานผลด้วยท่าทีฮึกเหิม
ความจริงขณะที่กำลังทำการทดสอบเมื่อครู่เขามักรู้สึกว่าเสี่ยวจูเหมือนจะดูออกทุกอย่างจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ ค่าวัดสองร้อยนี้เป็นเพียงส่วนที่เสี่ยวจูจงใจแสดงออกมาราวกับผู้มีวรยุทธ์ขั้นสูงปกปิดความสามารถที่แท้จริงของตนแล้วเผยให้เห็นเพียงส่วนเล็ก ๆเท่านั้น
แต่แค่ลำพังส่วนเล็ก ๆนี้ก็มีค่าไอคิวสูงปาไปถึง 200 แล้ว ลูกน้องแทบไม่อยากจะคาดคิดว่าไอคิวที่แท้จริงของเสี่ยวจูจะมากแค่ไหน ไหนจะเป็นแค่เด็กวัยสองขวบ ถ้าอนาคตเขาโตขึ้น…
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นเข้าใจความหมายของลูกน้อง ไอคิวของเสี่ยวจูสูงยิ่งกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ ที่แท้ก็เป็นเครื่องบินรบยอดอัจฉริยะ แถมยังเป็นเครื่องบินรบมิก-25[1] อีกด้วย
วุ่นวายกันอยู่ตลอดทั้งเช้าจนในที่สุดก็เสร็จสิ้นสักที เหยียนหมิงซุ่นปั่นจักรยานพาสองแม่ลูกเหมยเหมยกลับบ้าน พวกคุณย่าหยางต่างพากันเดินล้อมเข้ามา
“เป็นอย่างไรบ้าง? คุณหมอว่าอย่างไรบ้าง?”
“ปกติดีทุกอย่าง เสี่ยวจูแข็งแรงดีและไอคิวสูงมาก” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้เล่ารายละเอียดเพราะกลัวคนแก่ทั้งสองจะตกใจเกินไป
“ฉันก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร ขี้เซาหน่อยแล้วยังไงล่ะ นอนเต็มอิ่มจะได้ตัวสูง ๆ อนาคตเสี่ยวจูจะต้องสูงกว่าคนเป็นพ่อแน่ ๆ ทานข้าวแล้ว เสียเวลาอยู่ตั้งครึ่งวัน”
คุณย่าหยางถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วเรียกพวกเขาไปทานข้าว ทำเอาใจระแวงตลอดครึ่งเช้า
หลังมื้ออาหารเหมยเหมยก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดี ถึงเสี่ยวจูจะไอคิวสูงมากและอ่อนไหวต่อกลิ่น แต่สิ่งเหล่านี้เกี่ยวอะไรกับความขี้เซาล่ะ?
เหยียนหมิงซุ่นพอจะเดาสาเหตุได้แต่ยังไม่แน่ใจ เขาต้องถามเสี่ยวจูก่อนถึงจะมั่นใจได้
ตกดึก…เสี่ยวจูที่ทานอิ่มท้องก็เข้านอนคนเดียว เพราะเป็นบะหมี่เห็ดต้มไข่ของโปรดของเขารวมถึงมันบด เขาทานจนท้องกลมดิ๊กเรอติดต่อกันหลายที ดวงตาก็เริ่มปรือ
เหยียนหมิงซุ่นอุ้มเสี่ยวจูไปห้องหนังสือพร้อมเล่อเล่อกับเน่าเน่า เหมยเหมยเองก็ตามไปด้วยเพราะความสงสัยล้วน ๆ
“วันนี้ลูกจงใจเปลี่ยนรหัสประตูบานนั้นใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถามไปตรง ๆ
………………………………
ตอนที่ 2878 เปิดกล่องเซฟ
เสี่ยวจูหาวทีหนึ่งแล้วพยักหน้า
เหมยเหมยตกใจยกใหญ่ เจ้าเด็กนี่เป็นคนเปลี่ยนจริง ๆ เธอถามด้วยแปลกใจ “ใครสอนลูก?”
“ไม่ต้องสอน มองปราดเดียวก็ทำเป็นแล้ว” เสี่ยวจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน
เรื่องง่าย ๆแบบนั้นเขาทำเป็นตั้งแต่ในฝันแล้ว แถมในฝันซับซ้อนกว่านั้นมากโข เขาแค่ขี้เกียจจะเรียนรู้มันเท่านั้นแหละ เทียบกับการเรียน…เขาชอบนอนมากกว่า
เหยียนหมิงซุ่นเอากล่องเซฟของเขาออกมา ว่ากันว่าเป็นกล่องเซฟที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดในโลก เขาชี้ไปที่กล่องเซฟแล้วถาม “ลูกเปิดกล่องใบนี้ได้ไหม?”
เสี่ยวจูลืมตาขึ้น เดิมทีไม่ค่อยรู้สึกสนใจเท่าไรแต่พอเห็นโครงสร้างกล่องใบนั้นชัดเต็มตาก็ถูกจุดประกายความสนใจขึ้นมา กล่องใบนี้ดูท่าทางแก้ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว!
“ดูหน่อย…”
เสี่ยวจูปีนขึ้นโต๊ะโก่งบั้นท้ายขึ้นกึ่งย่อตัวนั่งมองประเมินกล่องเซฟใบนั้น ขนาดของกล่องไม่ใหญ่มากสูงถึงแค่ช่วงเข่าของเขาเลยต้องฟุบตัวลงถึงจะมองเห็นได้ชัด
“นี่คืออะไร? ผมดูหน่อย!” เน่าเน่าก็ปีนขึ้นมาด้วยคน เขาหมุนรหัสซึ่งหมุนอยู่นานก็เปิดไม่ได้พลันก็เริ่มฉุนเฉียวขึ้นมายกขาหมายจะถีบสักที เหยียนหมิงซุ่นเห็นเข้าก็รีบอุ้มเน่าเน่าขึ้นมา
กล่องเซฟใบนี้ติดตั้งระเบิดภายในตัว หากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงหรือหมุนรหัสผิดติดต่อกันสามครั้ง กล่องจะทำการระเบิดตัวเองโดยอัตโนมัติเพื่อทำลายข้าวของข้างในทั้งหมด
แม้เอกสารสำคัญเขาจะเก็บในช่องมิติทั้งหมดแล้ว แต่ข้างในมีเงินเต็มกล่อง ระเบิดไปก็น่าเสียดายแย่
“น้องชายรีบเปิดสิ!” เน่าเน่าตะโกนใส่เสี่ยวจู สีหน้าเวลามองคล้ายมั่นใจนักหนาว่าเสี่ยวจูจะเปิดได้อย่างไรอย่างนั้น
เหยียนหมิงซุ่นใจกระตุกพลันถาม “ลูกรู้ได้อย่างไรว่าน้องชายจะเปิดได้?”
“ก็เปิดได้ น้องชายทำอะไรเป็นอีกตั้งเยอะ” เน่าเน่าเชิดคอท่าทางภูมิใจนักหนา
น้องชายของเขาไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร แค่ขี้เกียจเกินไปหน่อยเท่านั้น
เหยียนหมิงซุ่นมองด้วยสายตาเปื้อนยิ้ม พี่น้องฝาแฝดเข้าใจซึ่งกันและกันมากที่สุดตามคาด เขาถามอีก “ลูกรู้ไหมว่าทำไมน้องชายถึงชอบนอนขนาดนั้น?”
เน่าเน่าเอามือเกาหลังศีรษะครุ่นคิดว่าควรประกอบคำศัพท์อย่างไรดีถึงทำให้คุณพ่อเข้าใจได้ คิดอยู่นานเน่าเน่าถึงพูดเสียงตะกุกตะกักว่า “น้องชายเหนื่อยแล้ว…เขามีอะไรที่ต้องเรียนเยอะมาก…เขาขี้เกียจอีกด้วย”
เหมยเหมยฟังแล้วก็ฉงนเลยพูดเสียงค่อนแคะว่า “วัน ๆน้องชายของลูกเอาแต่นอนแล้วจะเรียนอะไรได้? เรียนการนอนเหรอ?”
หนึ่งวันมียี่สิบสี่ชั่วโมง ลำพังแค่นอนก็กินเวลาไปตั้งยี่สิบสองชั่วโมงแล้ว สองชั่วโมงที่เหลือถ้าไม่ได้กำลังทานข้าวก็กำลังอุจจาระ…
เอาเวลาที่ไหนมาเรียนรู้กัน?
เรียนบ้าอะไร!
เน่าเน่าไม่พอใจก็พูดแย้งว่า “เรียนอยู่…เรียนตอนหลับ…”
เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความหมายของเน่าเน่าคงหมายถึงว่าเสี่ยวจูไม่ได้หลับเฉย ๆ เขายังเรียนรู้บางอย่างในห้วงนิทรา ดังนั้นเขาถึงได้นอนกินเวลานานขนาดนั้น
แต่เสี่ยวจูเรียนรู้จากใครในฝัน?
พระอินทร์ก็คงเป็นไปไม่ได้มั้ง!
ทางเสี่ยวจูได้ทำการศึกษากล่องเซฟคร่าว ๆแล้ว สองมืออวบหมุนรหัส ครั้งแรก…เปิดไม่สำเร็จ เสี่ยวจูกลับไม่มีท่าทีลุกลน ขมวดคิ้วขบคิดอีกสักพักก็เริ่มหมุนครั้งที่สอง
เหยียนหมิงซุ่นคอยจับจ้องมองตาไม่กะพริบพร้อมใจเต้นมาถึงคอหอย เลขที่เสี่ยวจูหมุนรหัสเมื่อสักครู่ต่างจากรหัสที่เขาตั้งไว้เพียงตัวเดียวซึ่งที่เหลือก็ถูกต้องทั้งหมด
เจ้าเด็กนี่เก่งจริง ๆ ไม่รู้ว่าเขาแก้รหัสได้อย่างไร
เสี่ยวจูคอยหมุนรหัสอย่างระมัดระวังด้วยสีหน้าจริงจังอย่างมาก หน้าผากมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มไปหมด บรรยากาศเงียบสงัดเสียจนได้ยินแต่เสียงหมุนเปิดรหัสของเสี่ยวจู
“ครืด ๆ…แกร๊ก…”
กล่องเปิดออกแล้ว เผยให้เห็นธนบัตรเรียงเป็นแถวอย่างมีระเบียบกับทองเส้นอีกจำนวนหนึ่ง…
เสี่ยวจูพรูลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่งใช้หลังมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก หาวหวอดใหญ่อีกทีแล้วดวงตาก็เริ่มหรี่ลงอีกครั้ง
………………………….
[1] เป็นเครื่องบินสกัดกั้นทิ้งระเบิดและลาดตระเวนความเร็วเหนือเสียงของสหภาพโซเวียต