ตอนที่ 2933 มีคนสะกดรอยตาม
เล่อเล่อและเป่ารื่อน่าขับรถออกไปแล้ว ตรงแผงขายปิ้งย่างมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งดูเหมือนเป็นลูกครึ่งฝรั่งตาน้ำข้าว หน้าตาคมเข้ม ดวงตาสีอำพัน แววตาเคร่งขรึมมองพวกเล่อเล่อจากไปพลางครุ่นคิดบางอย่าง
ดูท่าทางเหมือนจะเป็นกรุ๊ปเลือดหายากแฮะ!
หรือจะเป็นเลือดกรุ๊ปเดียวกับคุณชายกันนะ?
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาแล้วพุ่งไปหาพวกเพื่อน ๆเป่ารื่อน่าที่พากันตื่นตระหนก ไม่นานก็คุยกับพวกเขาอย่างถูกคอและพอจะรู้ข้อมูลของเป่ารื่อน่ามาบ้าง
วันต่อมาเล่อเล่อไม่ได้ไปหาเสี่ยวเป่าบนเขา เธอกำลังคิดถึงพวกผู้ชายเมื่อคืนพลันรู้สึกแปลก ๆ จิตใต้สำนึกของเธอบอกว่าคนพวกนี้ต้องมีอะไรแน่ เธอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกทะแม่ง ๆจนนั่งก้นไม่ติดเลยออกไปสืบหาภูมิหลังของคนพวกนั้น
หลายปีมานี้เล่อเล่อรู้จักคนไม่น้อย แม้แต่พวกนักเลงก็ไม่น้อย ไม่นานเธอก็สืบหาข้อมูลมาได้
พวกเขาเพิ่งมาเมืองหลวงเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน ได้ยินว่าเป็นคนทางใต้ขึ้นมาทำธุรกิจอยู่ที่นี่แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำธุรกิจอะไร
แต่คนพวกนี้ก็สงบเสงี่ยมพอสมควรเพราะแต่ไรมาไม่เคยหาเรื่องใคร ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อคืนชายมีรอยสักเต็มตัวนั่นดื่มหนักเมามายแถมโชคร้ายมาเจอเล่อเล่ออีก พวกเขาคงไม่มีทางตกเป็นเป้าสนใจของเล่อเล่อแน่นอน
เล่อเล่อจดจำคนเหล่านี้ได้หมดเลยสืบหารายละเอียดว่าพวกเขาเคยทำเรื่องไม่ดีอะไรบ้างเป็นระยะ ๆแต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าแค่เรื่องนี้จะพัวพันเรื่องมากมายตามมาภายหลังโดยไม่รู้ตัว
ผ่านไปไม่กี่วันก็เวียนมาถึงคาบจิตวิทยาอีกแล้ว เสี่ยวเป่ามาเข้าคลาสตามปกติ พอเห็นเล่อเล่อด้านล่างก็รู้สึกประหม่าแต่เล่อเล่อกลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากเลิกเรียนเสี่ยวเป่าก็รีบออกไป ฉับพลันเขาก็นึกเสียใจที่รับคำเชิญของทางมหาวิทยาลัยตำรวจ เพราะประเมินตนเองสูงไป เขาในตอนนี้…ไม่กล้ามองหน้าน้องเล่อเล่อเหมือนเดิมอีกแล้ว
ทุกครั้งที่เจอเล่อเล่อ ในสมองของเขาก็จะผุดเรื่องราวในคืนนั้นอย่างควบคุมไม่อยู่
พอนึกถึงสัญญาอีกหนึ่งปี เสี่ยวเป่าก็นึกปวดศีรษะขึ้นมา แล้วหนึ่งปีนี้เขาจะผ่านมันไปได้อย่างไร?
เล่อเล่อเดินตามหลังเสี่ยวเป่าไปเงียบ ๆโดยไม่เรียกเขาสักนิด เธออยากให้เสี่ยวเป่าเห็นตนตลอดเวลาจนลืมเลือนไม่ได้ ฉะนั้นต้องเอาเงาของเธอตามติดหนิงเสี่ยวเป่าไปทุกที่!
เสี่ยวเป่ารู้แล้วว่าเล่อเล่อตามมาด้านหลังจึงยิ้มเจื่อนแล้วเร่งฝีเท้าซึ่งไม่นานก็มาถึงลานจอดรถ เขาสตาร์ทรถแล้วค่อย ๆขับออกไป เล่อเล่อแค่นเสียงทว่าไม่ได้ตามไปแล้วเตรียมตัวกลับหอ
แต่ตอนหมุนตัวหางตากลับเห็นเงาคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งที่ลานจอดรถ เสี่ยวเป่าออกไปไม่นานชายคนหนึ่งก็เดินเลี้ยวออกมาจากลานจอดรถแล้วขึ้นรถสีดำคันหนึ่ง
ชายคนนี้ก็คือเพื่อนของชายรอยสักเต็มตัวในคืนนั้น ทำไมเขามาโผล่อยู่ในมหาวิทยาลัยได้ล่ะ?
เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทิศทางเดียวกับเสี่ยวเป่า
เล่อเล่อนึกระแวงขึ้นมาเลยหมุนตัวมาขวางหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเล่นสเก็ตบอร์ดข้าง ๆไว้ “ขอยืมก่อนนะ!”
เด็กหนุ่มตกตะลึงแต่ยังไม่ทันรู้สึกตัวสเก็ตบอร์ดก็ถูกเล่อเล่อแย่งไปแล้ว เธอกระโดดขึ้นสเก็ตบอร์ดอย่างชำนาญแล้วไล่ตามไปด้วยความรวดเร็วซึ่งเร็วกว่าขี่จักรยานเสียอีก
ในเมืองห้ามขับรถเร็ว เล่อเล่อไถสเก็ตบอร์ดราวกับบินก็ไม่ปานจึงตามหลังรถสีดำมาได้พอดี เธอต้องรู้ให้ได้ว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไร?
ถ้าคิดจะทำร้ายเสี่ยวเป่าละก็…หึ งั้นก็อย่าว่าเธอใจร้ายแล้วกัน!
พอเสี่ยวเป่าเห็นเล่อเล่อผ่านกระจกหลังก็ตกใจยกใหญ่จึงจอดรถข้างทางแล้วให้เล่อเล่อขึ้นรถมา
………………………………
ตอนที่ 2934 ฝ่ายลึกลับ
เล่อเล่อขึ้นรถแล้วก็สังเกตเห็นว่ารถคันด้านหลังก็จอดเช่นกัน หลังจากเสี่ยวเป่าออกรถ รถคันสีดำก็ยังตามอยู่ด้านหลังช้า ๆและรักษาระยะห่างโดยตลอด
“รถคันนั้นตามหลังรถพี่ตลอดเลย พี่ไม่สังเกตเห็นเหรอ?” เล่อเล่อชี้รถสีดำผ่านกระจกหลังพลางถาม
เสี่ยวเป่าเสมองด้วยท่าทีเรียบนิ่งอย่างไม่ใส่ใจ “เห็นนานแล้ว ไม่ต้องสนใจเขาหรอก!”
ต่อให้เป็นนักสะกดรอยตามที่เก่งกาจที่สุดก็หนีสายตาเหล่าเพื่อนสัตว์ของเขาไม่ได้หรอก ตอนที่รถคันนี้เพิ่งสะกดรอยตามมานกน้อยแสนน่ารักก็บินมาบอกเขาแล้ว ทว่าเขาไม่ได้ใส่ใจนัก
“พี่รู้แล้วยังนิ่งนอนใจอีกเหรอ? ทั้งที่คน ๆนี้แฝงเจตนาร้ายแท้ ๆ” เล่อเล่อร้อนใจ
เสี่ยวเป่าอมยิ้ม “อย่าใจร้อนไป คนพวกนี้สะกดรอยตามพี่มาครึ่งปีแล้ว สนุกจะตายไป ไม่เป็นไรหรอก”
ความจริงเสี่ยวเป่าสังเกตเห็นว่าคนที่สะกดรอยตามเขาไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ตอนนี้อย่างน้อยต้องมีสองกลุ่ม กลุ่มอิทธิพลกลุ่มหนึ่งเขามั่นใจแล้วว่าน่าจะเป็นฝ่ายลึกลับของสักประเทศหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายยังสืบหาไม่พบ แต่คงไม่ได้มาด้วยเจตนาดีแน่นอน
เรื่องพวกนี้เขาไม่ได้บอกเฮ่อเหลียนเช่อเพราะไม่อยากรบกวนชีวิตแสนสุขของคุณพ่อและคุณน้าหานเหมย เพราะวัน ๆสองคนนี้เอาแต่พลอดรักกัน ตอนเด็ก ๆเพราะกลัวเป็นตากุ้งยิงเลยมักไปหลบอยู่บนเขา นับแต่นั้นมาเลยชินกับการใช้ชีวิตที่นั่นแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายลึกลับไหนหรือกลุ่มอิทธิพลไหนเสี่ยวเป่าก็ไม่ใส่ใจทั้งนั้น เขามีศักยภาพในการปกป้องตัวเองมากพอ ฉะนั้น…ก็ทำทุกอย่างไปตามปกติ เขาจะทำทีว่าไม่รู้อะไรทั้งนั้นเพื่อดูว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไรกันแน่
เล่อเล่อกลับใจร้อนไม่ได้นิ่งนอนใจขนาดนั้น “พี่โง่หรือไง? ถูกคนรังแกขนาดนี้แล้วยังไม่เอาคืนเหมือนคนโง่อยู่ได้ เรื่องนี้พี่ไม่ต้องยุ่งแล้วฉันช่วยสืบหาให้เอง!”
“อย่าไป เธอสู้พวกนั้นไม่ได้หรอก ไม่ต้องยุ่งอะไรทั้งนั้น!” เสี่ยวเป่าสีหน้าจริงจัง
พวกฝ่ายลึกลับนั่นไม่ได้หาเรื่องด้วยง่าย ๆ เขาเคยประลองด้วยหนหนึ่งสมาชิกในนั้นพลังไม่ธรรมดาเหมือนเสี่ยวจูกับเน่าเน่า แต่เขาสังเกตเห็นว่าร่างกายที่ผิดปกติของคนเหล่านี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนเสี่ยวจูกับเน่าเน่า ดูทรงคงรักษาพลังได้ไม่นานและมีพลังเป็นพัก ๆ
“ทำไมพวกเขาต้องสะกดรอยตามพี่ด้วย” เล่อเล่อไม่เข้าใจ
พ่อของเสี่ยวเป่าออกจากวงการมาใช้ชีวิตกับคุณน้าหานเหมยที่ใคร ๆต่างพากันอิจฉาตาร้อนนานแล้ว วัยรุ่นสมัยนี้แทบไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเฮ่อเหลียนเช่อคือใคร ยิ่งไม่รู้จักหนิงเฉินเซวียนไปใหญ่ เสี่ยวเป่าใช้ชีวิตสันโดษไม่ไปมาหาสู่ใคร แต่ไรมาไม่เคยเปิดเผยตัวด้วยซ้ำ แล้วจะมีคนคอยตามสืบเรื่องเขาทำไมกัน?
“ไม่รู้สิ พี่รอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน เธออย่าทำเสียแผนเชียว” เสี่ยวเป่าเอ่ยเตือน
เขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนพวกนี้ต้องสะกดรอยตามเขาด้วย!
เล่อเล่อเบะปากแค่นเสียงใส่ “ไม่สืบก็ไม่สืบ ฉันก็ไม่ได้ว่างนักหรอก จอดรถ”
เสี่ยวเป่าจอดรถริมทาง พอเห็นเล่อเล่อจะไถสเก็ตบอร์ดอีกก็อดพูดไม่ได้ว่า “พี่ไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยดีกว่า ไถสเก็ตบอร์ดมันอันตรายเกินไป!”
“ไม่ต้องมายุ่ง พี่ไม่ได้จะขอฉันเป็นเมียสักหน่อย ฉันจะทำอะไรพี่ก็มาห้ามฉันไม่ได้หรอก!”
เล่อเล่อกลอกตาใส่เขาแล้วกระโดดขึ้นสเก็ตบอร์ดสไลด์ไปตามลม เสี่ยวเป่ายิ้มเจื่อนแล้วมองไปทางรถคันสีดำที่จอดอยู่แวบหนึ่งพลันริมฝีปากก็เผยรอยยิ้มเย็นชาแล้วขับรถจากไป
ถ้าอีกหนึ่งเดือนคนพวกนี้ยังไม่เปิดเผยตัวตน เขาก็จะเป็นฝ่ายรุกก่อนเองแล้ว
มีคนน่ารังเกียจคอยแอบสอดส่องตลอดแบบนี้รู้สึกไม่ดีเลยจริง ๆ
อีกอย่างเขาเป็นห่วงว่าเล่อเล่อจะทนไม่ไหวจนไปหาเรื่องคนพวกนี้เข้า อันที่จริงเรื่องนี้ต่างหากที่เขากังวลมากที่สุด
ในสมองของเสี่ยวเป่าผุดเรื่องคืนนั้นขึ้นมา จู่ ๆจมูกก็ร้อนผ่าวเขาจึงรีบดึงทิชชู่ออกมาสองสามแผ่นปิดจมูกไว้พลันก็นึกปวดศีรษะเหลือเกิน
“หื่น…เสี่ยวเป่า…หื่นกามขึ้นมาแล้ว!” นกน้อยตัวหนึ่งกระพือปีกอยู่ข้างรถแล้วเอ่ยร้องเสียงเจื้อยแจ้ว
เสี่ยวเป่าปิดกระจกด้วยความโกรธพร้อมใบหน้าที่แดงปานลูกมะเขือเทศ หัวใจเองก็เต้นแรงดังรัวกลอง
………………………………….