บทที่ 2957 ผีเข้าสิงหรือเปล่า + ตอนที่ 2958 อวดความรัก

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2957 ผีเข้าสิงหรือเปล่า

เล่อเล่อโตมาพร้อมกับเสี่ยวเป่า พอเห็นรอยยิ้มเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามีเงื่อนงำบางอย่างจึงโน้มหน้าไปกระซิบถาม “มีอะไรเหรอ?”

เสี่ยวเป่ามองเธอแวบหนึ่ง พอเห็นมุมปากเธอเปื้อนมันเทศไม่น้อยเลยยกมือเช็ดให้เธอด้วยท่วงท่าอ่อนโยนเบามือ ทว่าเล่อเล่อกลับทำตัวเหมือนถูกผึ้งต่อยกระเด้งตัวเหมือนติดสปริงพลางมองเสี่ยวเป่าอย่างนึกสงสัย

“พี่ไม่ใช่เสี่ยวเป่า พี่เป็นใคร?” เล่อเล่อตะคอกเสียงถาม

เมื่อกี้ยอมให้เธอป้อนแล้วตอนนี้ยังเช็ดปากให้เธออีก แถมยังอ่อนโยนขนาดนี้ สิ่งเหล่านี้เสี่ยวเป่าเคยทำมันในอดีตแต่นั่นก็ตั้งแต่ก่อนอายุสิบขวบแล้ว หลังจากครบอายุสิบขวบเสี่ยวเป่าก็รักษาระยะห่างกับเธอแล้วพร่ำบอกแต่ว่าชายหญิงควรรักษาระยะห่างไว้

โดยเฉพาะเมื่อคืนทำท่าทีรังเกียจเธอตีตัวออกห่างไกลกว่าหมื่นเมตรขนาดนั้น ทว่าเพียงคืนเดียวเสี่ยวเป่าก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แถมใช้สายตาอ่อนโยนขนาดนั้นมองเธออีกต่างหาก…เล่อเล่อรู้สึกมันงดงามราวกับอยู่ในห้วงฝันไม่ใช่ความจริง

อย่างไรฝันก็ยังคือฝัน คนเรายังคงต้องเผชิญหน้ากับความจริงอยู่ดี เล่อเล่อถลึงตาจ้องเสี่ยวเป่าที่ทำท่าเอือมอย่างหวาดระแวงพร้อมตะคอกเสียงถามอีกที “แกเป็นผีมาจากไหน? รีบออกจากตัวเสี่ยวเป่าซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

เสี่ยวเป่าที่อ่อนโยนขนาดนี้ต้องไม่ใช่ตัวจริงแน่นอน ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว–ผีเข้าสิง

เสี่ยวจูบอกแล้วว่าผีมีอยู่จริง ความจริงปรโลกก็เหมือนโลกคู่ขนานอีกแห่งหนึ่งซึ่งบางครั้งอาจมีผีที่ไม่สงบเสงี่ยมตัวจำนวนหนึ่งออกมาจากโลกเดิมที่เคยอยู่แล้วมาป่วนอยู่ในโลกของพวกเขา

เสี่ยวเป่ารู้สึกปวดใจเล็กน้อยแต่มากกว่านั้นคือความรู้สึกผิด เมื่อก่อนเขาปฏิบัติไม่ดีกับน้องเล่อเล่อมากไป ตอนนี้ทำดีด้วยเล็กน้อยเล่อเล่อถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้

ในเมื่อรู้ใจตัวเองก็จะไม่หนีไปไหนแล้ว

ทางฝั่งคุณอาเหยียนเขาจะพยายามเกลี้ยกล่อมและจะไม่ปล่อยให้น้องเล่อเล่อต่อสู้เพียงลำพังอีก!

“กลางวันแสก ๆมีผีซะที่ไหน น้ำซุปเนื้อเสร็จแล้ว เธอจะกินไหม?” เสี่ยวเป่าตักน้ำซุปกลิ่นหอมกรุ่นถ้วยหนึ่งวางตรงหน้าเล่อเล่อเพื่อยั่วยวนเธอ

ยัยคนนี้ต้องถูกอาหารเบี่ยงเบนความสนใจไปก่อนแน่นอน

“เอา…พี่เป็นเสี่ยวเป่าจริงเหรอ?” เล่อเล่อรีบแย่งน้ำซุปมาแล้วทำท่ากึ่งเชื่อกึ่งไม่เชื่อกับคำพูดของเสี่ยวเป่า

“ไม่อยากกินก็ให้เสวี่ยเอ๋อร์ไป” เสี่ยวเป่าพูดเสียงเรียบยื่นมือหมายจะแย่งน้ำซุปมา

เล่อเล่อรีบเอามือป้องถ้วยน้ำซุปอย่างร้อนใจพร้อมถลึงตาใส่เสวี่ยเอ๋อร์ที่มองตาแป๋วทีหนึ่ง “ไม่ให้ น้ำซุปเป็นของฉัน เสวี่ยเอ๋อร์กินน้ำซุปรสเค็มไม่ได้”

เสวี่ยเอ๋อร์แลบลิ้นมองน้ำซุปเนื้อตาแป๋ว เขาไม่รังเกียจสักนิดว่ารสชาติจะจืดหรือเค็ม ขอเพียงเป็นอาหารฝีมือนายผู้ชายเขาก็ชอบทั้งนั้น!

เสี่ยวเป่าหัวเราะเสียงเบา ความอ่อนโยนในแววตาแทบฆ่าคนมองจมอยู่ในห้วงนั้นเลยทีเดียว เล่อเล่อมองจนตาค้างแล้วหยิกแก้มเขาทีหนึ่งอย่างอดไม่ได้ “พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เสี่ยวเป่าที่เป็นแบบนี้ ทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกเลยจริง ๆ…

เล่อเล่อพลันนึกถึงอะไรบางอย่างก็สีหน้าเปลี่ยนไปจึงตะโกนเสียงต่ำ “มื้อนี่คือมื้อแยกทางกันใช่ไหม? ฉันไม่ทานแล้ว!”

นักโทษประหารจะมีมื้อใหญ่ก่อนทำการประหารทั้งนั้น จู่ ๆเสี่ยวเป่าก็ทำของอร่อย ๆมากมายเช่นนี้แถมยังดีกับเธอขนาดนี้ เพราะคิดจะแยกทางกับเธอแน่ ๆ แต่เพราะรู้สึกผิดถึงได้เอาของอร่อย ๆพวกนี้มาซื้อใจเธอสินะ

“หลังจากนี้ฉันจะไม่ปีนขึ้นเตียงของพี่อีกแล้ว…จะไม่ปีนแล้วจริง ๆ…ถ้าปีนอีกฉันคือหมา!” เล่อเล่อวางน้ำซุปลงชูนิ้วเอ่ยสาบานอย่างจริงจัง

ถ้าเสี่ยวเป่าคิดจะแอบหนีไปจริง ๆ เธอคงตามหาไม่เจออีกแน่ ๆ ฉะนั้นต้องพูดดีเพื่อหลอกให้เขาตายใจก่อน จากนี้ค่อยหาทางรวบหัวรวบหางเขาอีกที ไม่ปีนเตียงแต่ปีนขึ้นรถได้นี่นา!

ขั้นตอนไม่สำคัญ ผลลัพธ์ต่างหากที่เธอต้องการ

เสี่ยวเป่าถอนหายใจแล้วตักน้ำซุปป้อนใส่ปากเธอ “ไม่ไปไหนหรอก รีบกินน้ำซุปซะ เย็นหมดแล้ว!”

“ไม่ไปจริงเหรอ?”

“จริง เธอยังจะกินน้ำซุปอยู่ไหม ถ้าไม่กินก็ให้เสวี่ยเอ๋อร์”

“กิน…ใครว่าฉันไม่กินกัน ฉันจะเอาซือจื่อโถวด้วย…”

เล่อเล่อที่ได้คำมั่นสัญญามาก็เบาใจและเริ่มอยากอาหารเหมือนเดิม เธอซดน้ำซุปเนื้อหมดหนึ่งถ้วยแล้วเขมือบซือจื่อโถวหมดหนึ่งลูกภายในสองสามคำแล้วทานติดต่อกันสามลูกก็ทำหน้าอิ่มเอมใจพร้อมสายตาเปื้อนยิ้ม

………………………….

ตอนที่ 2958 อวดความรัก

เสี่ยวเป่าเติมน้ำซุปให้เล่อเล่ออีกถ้วยพร้อมปอกมันเทศให้อีกลูกวางไว้ในถ้วย “กินช้า ๆ มีอีกเยอะ”

เล่อเล่อยัดเนื้อเข้าไปเต็มปากจนแก้มอูมพึมพำเสียงอู้อี้ไม่กี่ประโยคที่แทบไม่มีเวลาสนใจเลยสักนิด อาหารของเสี่ยวเป่าอร่อยที่สุดเท่าที่เธอเคยทานมาในชีวิตเลย ฝีมือของแม่กับป้าฟางยังสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่เสียดายเสี่ยวเป่าเข้าครัวน้อยครั้งมาก โดยเฉพาะหลายปีมานี้เธอเจอตัวเสี่ยวเป่ายากเย็นเหลือเกิน ฉะนั้นยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงของอร่อย ๆเลย

“พี่ก็กินด้วยกันสิ” เล่อเล่อคีบซือจื่อโถวป้อนเสี่ยวเป่า

เสี่ยวเป่าลังเลอึดใจเดียวก็อ้าปากกัดครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งที่เหลือเล่อเล่อย่อมจับยัดเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉยอยู่แล้ว เสี่ยวเป่ากลับหน้าแดงระเรื่อชั่ววูบพร้อมเสียงหัวใจที่เริ่มเต้นเป็นไม่จังหวะ

อย่างตอนนี้…คือจูบทางอ้อมที่เขาว่ากันไหมนะ?

เสี่ยวเป่ามองเล่อเล่อที่ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแวบหนึ่ง ครั้นเห็นผมสยายของเธอก็ส่ายศีรษะเล็กน้อย พลางล้วงเอาหวีจากถุงนอน “อย่าขยับนะ”

เล่อเล่อนั่งนิ่งไม่ขยับตัวสักนิด เสี่ยวเป่าท่วงท่าอ่อนโยนอย่างมากและทำได้อย่างคล่องมือ ตอนเด็กเนื่องจากเล่อเล่อชอบปีนต้นไม้ทำให้ผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่ประจำ และมักเป็นเสี่ยวเป่าเองที่ช่วยหวีผมถักเปียให้เธออย่างสวยงาม

“พี่จะถักเปียให้เหมือนตอนเด็ก” เล่อเล่ออดคลี่ปากยิ้มไม่ได้ เธอชอบพี่เสี่ยวเป่าหวีผมให้เธอที่สุดเลยเพราะไม่เจ็บสักนิด ไม่เหมือนแม่หวีผมให้เธอทีไรก็ดึงผมขาดไปเป็นกำเชียว

“ได้!” เสี่ยวเป่าแบ่งผมออกเป็นสองข้างอย่างคล่องแคล่ว ผมของเล่อเล่อทั้งดำเงาทั้งเยอะแล้วยังนุ่มลื่นอีกด้วย ยามสัมผัสให้ความรู้สึกราวกับกำลังลูบไล้เส้นไหมราคาแพง

เล่อเล่อซดน้ำซุปอึกใหญ่พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าแทบล้นออกมาจากแก้มอย่างไรอย่างนั้น เพียงแค่คืนเดียวก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เสี่ยวเป่าอ่อนโยนจนน่าเหลือเชื่อ เมื่อกี้เธอแอบหยิกต้นขาไปทีหนึ่ง เจ็บมาก นี่ไม่ได้กำลังฝันแต่เป็นความจริง

วิธีของเป่ารื่อน่าใช้ได้ผลจริง ๆ แค่ครั้งเดียวก็ทำให้หนิงเสี่ยวเป่าเปลี่ยนความคิดได้ ฮิฮิ…ไว้กลับไปซื้อเครื่องสำอางราคาแพงที่สุดให้เป่ารื่อน่าสักชุดดีกว่า

ใช้เวลาไม่นานเสี่ยวเป่าก็ถักเปียเสร็จทั้งสองข้าง เขามองผมเปียที่ออกจะดูจืดชืดไปสักหน่อยแวบหนึ่งก็ส่ายหน้าก่อนจะไปเด็ดดอกไม้ป่าสีแดงสองดอกแถวนั้นมาปักบนผมเปีย พลันภาพตรงหน้าก็โดดเด่นชวนให้ดูน่าเย้ายวนขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

“สวยไหม?” เล่อเล่อส่องกระจกแล้วหันมาถาม

“สวย!” เสี่ยวเป่าพยักหน้า

เล่อเล่อดีใจจนยิ้มตาหยีพลางซดน้ำซุปต่ออย่างรื่นเริงใจ เธอชอบเสี่ยวเป่าในตอนนี้จัง เสี่ยวเป่าคนเดิมก็ดีแต่มักให้ความรู้สึกว่าไกลตัวเกินไปเพราะมักตีตัวออกห่างอยู่เสมอ เธอต้องพยายามอย่างหนักทุ่มแรงอย่างมากถึงจะไล่ตามทัน

แต่ตอนนี้เสี่ยวเป่ากลับลอยลงมาจากฟากฟ้าแล้วเป็นฝ่ายเข้าหาเธอด้วยตัวเอง เธอถูกเสี่ยวเป่าคอยประคบประหงมรักเหมือนตอนเด็กได้อีกครั้ง…มีความสุขจัง!

“หงิง ๆ…”

เสวี่ยเอ๋อร์ทนไม่ไหวจริง ๆถึงได้ส่งเสียงร้องต่ำออกมา นายผู้ชายกับนายผู้หญิงคืนดีกันได้มันย่อมดีใจยิ่งกว่าใครแต่เรื่องไหนก็สำคัญไม่เท่าอาหาร ไม่ให้เขาทานเนื้อก่อนเขาทนได้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ให้อาหารมันอีก ทั้ง ๆที่เห็นอยู่ว่าเนื้อใกล้จะถูกนายผู้หญิงจัดการหมดเกลี้ยงอยู่รอมร่อ

“ไม่ขาดส่วนของแกหรอก”

เสี่ยวเป่ามองค้อนเสวี่ยเอ๋อร์แวบหนึ่งแล้วหยิบน้ำซุปที่ตักไว้ล่วงหน้าออกมาปอกเปลือกมันเทศผสมน้ำซุป ก่อนจะเทลงบนใบไม้สะอาดจนกองพูนขึ้นมา เสวี่ยเอ๋อร์สะบัดหางแล้วลงมือแทะคำโต

เจสันที่คอยอยู่ข้าง ๆครู่ใหญ่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาอยากทานลูกชิ้นเนื้อ ไม่อยากทานอาหารหมา[1]แล้ว…

อีกอย่างเขาไร้ตัวตนได้ขนาดนี้เชียวหรือ คนตัวเบ้อเร่ออย่างเขานั่งมองตาแป๋วอยู่ตั้งนานอย่างน้อยก็ควรแบ่งลูกชิ้นให้เขาทานสักลูกสิ!

“เอาถ้วยมาเอง!” เสี่ยวเป่าเอ่ยประโยคหนึ่ง

เจสันตาวาวกลับไปเอาถ้วยมาขอแบ่งน้ำซุปเนื้อหนึ่งถ้วยรวมถึงลูกชิ้นเนื้อสองลูก ส่วนมันเทศเผาเสี่ยวเป่าบอกว่าทานได้ตามใจชอบเลย เจสันก็ย่อมไม่เกรงใจอยู่แล้ว

คนอื่น ๆได้แต่มองเจสันด้วยความอิจฉาริษยาพลันยิ่งนึกรังเกียจอาหารกระป๋องกับขนมปังแข็งรสชาติจืดชืดมากกว่าเดิม

“อ๊าก…งู!” มีเสียงร้องโหยหวนดังแว่วมาจากด้านบน

…………………………..


[1] อาหารหมา ศัพท์แสลงจีนที่ใช้เวลามีคนอวดความรักต่อหน้า