บทที่ 1768 เป็นแค่สวะ

The king of War

จวนมู่ ตรงทางเข้า
มู่ชงพาผู้แข็งแกร่งชั้นสูงสามสี่คนเดินไปแล้ว
“ผมมู่ชง เจ้าเมืองน้อยจวนมู่ ยังขอเชิญเจ้าเมืองน้อยซ่งออกมาพบหน่อยครับ!”
มู่ชงทำมือเคารพพูดขึ้นไปทางด้านหน้า
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือ หลังจากพวกเขาออกมา ก็ไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของซ่งอี้และคนอื่นๆ เลย
เพียงแต่ หลังจากมู่ชงพูดจบ ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ แล้ว ก็ไม่เห็นมีใครปรากฏตัวออกมา
ชั่วขณะนั้นมู่ชงขมวดคิ้วขึ้นมา พูดเสียงดังฟังชัดไปอีกรอบ “ผมมู่ชง เจ้าเมืองน้อยแห่งจวนมู่ ขอเชิญเจ้าเมืองน้อยซ่งออกมาพบด้วยครับ ผมมีธุระสำคัญ อยากคุยกับเจ้าเมืองน้อยซ่งสักหน่อย
ครั้งนี้ ยังคงไม่มีใครคนใดตอบรับ
ชั่วพริบตาสีหน้าของมู่ชงอึมครึมลงมา มองทางเหล่าฉีที่อยู่ด้านข้างแล้วถามว่า “คนของเมืองซ่ง คงไม่ใช่ว่ากลับไปกันแล้วมั้ง?”
เหล่าฉีทำท่าทางสงสัยเหมือนกัน หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาส่ายหน้าแล้ว “ไม่น่านะครับ! คนของเมืองซ่ง ไม่น่าจะกลับไปกันเร็วขนาดนี้”
มู่ชงพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ “งั้นทำไมไม่มีคนออกมาเลย?”
เหล่าฉีทำสีหน้าขมขื่น “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
“ผมมู่ชง เจ้าเมืองน้อยแห่งจวนมู่ ขอเชิญเจ้าเมืองน้อยซ่งมาคุยธุระกันด้วย!”
มู่ชงกวาดสายตามองรอบด้าน พูดจาเสียงดังไปอีกครั้ง
เพียงแต่ ยังคงไม่มีคนตอบรับ มีเพียงเสียงร้องเจื้อยแจ้วของนกน้อย บนต้นไม้เก่าแก่สูงตระหง่านตรงด้านข้าง
ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าของมู่ชงเต็มไปด้วยความโกรธเคือง กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “สารเลว สรุปพวกเขาอยู่ที่ไหนกัน?”
“ตึง!”

มู่ชงเพิ่งพูดจบ กิ่งไม้ที่มีใบไม้เขียวอยู่เต็มกิ่งหนึ่ง พุ่งตกลงไปทางมู่ชงในทันใด กิ่งไม้ที่ความหนาเท่าข้อมือ กระแทกเข้าหน้าอกของมู่ชงโดยตรง ร่างกายของมู่ชงกระเด็นไปทันที
“ใครกัน?”
เหล่าฉีและผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ สีหน้าเปลี่ยนในชั่วขณะนั้น ต่างพากันขวางอยู่ด้านหน้าของมู่ชงแล้ว
มู่ชงปีนขึ้นมาจากพื้น ที่มุมปากยังมีเลือดสดติด ใบหน้าเขาดูดุร้ายเต็มที่ กัดฟันไว้แน่นพูดอย่างโมโห “สรุปเป็นใครลอบโจมตีฉัน? ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“หึๆ พูดไม่เจียมตัว”
ในเวลานี้เอง เสียงที่เต็มไปด้วยการหยอกเย้าเสียงหนึ่ง ดังขึ้นกะทันหัน
มู่ชงและคนอื่นๆ ต่างมองไปกันหมด เห็นเพียงชายหนุ่มอายุสามสิบต้น และสวมชุดจีนโบราณคนหนึ่ง เอามือไพล่หลังไว้ ด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ยังมีผู้แข็งแกร่งกลิ่นอายสยองขวัญสองคนตามมาด้วย
ชายหนุ่มไม่ใช่ใครอื่น ก็คือเจ้าเมืองน้อยที่มาจากเมืองซ่ง ซ่งอี้
“นายเป็นใครกัน?”
หลังจากมู่ชงสัมผัสได้ถึงลักษณะพลังยิ่งใหญ่ที่ผู้แข็งแกร่งสองคนด้านหลังซ่งอี้ปลดปล่อยออกมา ท่าทางโกรธเคือง
ซ่งอี้หัวเราะหึๆ มองมู่ชงอยู่แล้วพูดว่า “เมื่อกี้นายยังตามหาฉันอยู่เลย ตอนนี้กลับไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันเข้าใจทันทีเลยว่า ทำไมเจ้าเมืองมู่ถึงไม่ยกตำแหน่งของเจ้าเมืองน้อยแห่งจวนมู่ให้นายไปเพราะว่า นายก็แค่สวะคนหนึ่ง”
พอได้ยิน ชั่วขณะหนึ่งมู่ชงสีหน้าเปลี่ยนแปลง ท่าทางโกรธแค้นพูดแบบกัดฟันแน่น “สารเลว แกว่าใครเป็นสวะ?”
“ตบปาก!”
ซ่งอี้สั่งการทีหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งด้านหลังเขา หายลับไปจากที่เดิมทันที
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ต่างสีหน้าเปลี่ยนกันหมด อยากจะขวางไว้ด้านหน้ามู่ชง แต่ว่ากลิ่นอายวิถีบู๊ที่กระจายจากบนตัวของอีกฝ่ายแกร่งเหลือเกิน ทำเอาพวกเขาแม้แต่ขยับตัวยังไม่กล้าขยับสักนิด
“ป้าบ!”
วินาทีต่อมา เสียงตบหน้าที่กังวานดังขึ้น มู่ชงถูกผู้แข็งแกร่งของเมืองซ่งคนหนึ่งตบบนหน้าเข้าให้ ร่างกายของเขาลอยออกไปกลางอากาศโดยตรง ตามมาด้วยฟันกรามสองซี่ลอยออกจากปากอีก
“คุณชายมู่!”
ผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ตกใจยกใหญ่ทั้งหมด แล้วพุ่งเข้าไปหา
มู่ชงถูกคนพยุงลุกขึ้นม่จากพื้นแล้ว หน้าตาเต็มไปด้วยแววความดุร้าย ดวงตาแดงเข้ม จ้องซ่งอี้ด้วยความโกรธแค้น
มุมปากซ่งอี้มีรอยยิ้มเฉยเมยระดับหนึ่ง ท่าทางไม่กลัว
ตามองเห็นมู่ชงจะระเบิดออกมา เหล่าฉีรีบพูดเตือนเอาไว้ “คุณชายมู่ครับ ท่านใจเย็นไว้ครับ! อย่าลืมเป้าหมายที่ท่านมาหาพวกเขาสิครับ”
หลังจากมู่ชงได้ยินคำพูดของเหล่าฉี ถึงค่อยๆ ควบคุมความโกรธลงไป สูดหายใจเข้าลึกๆ มองทางซ่งอี้แล้วบอกว่า “เจ้าเมืองน้อยซ่ง ผมอยากเจรจาตกลงกับคุณ”
ซ่งอี้หัวเราะนิ่งๆ พูดว่า “นายอย่าเพิ่งพูด ให้ฉันเดาก่อนว่า นายอยากเจรจาตกลงอะไรกับฉัน”
“ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ นายอยากเข้ามาแทนที่หยางเฉิน เพื่อคุยเรื่องการร่วมมือที่ก่อนหน้านี้หยางเฉินคุยกันไปแล้วสินะ?”
“ฉันมาคุ้มครองจวนมู่ จากนั้นจวนมู่ร่วมมือกับฉัน ควบคุมจวนเมืองหวยเฉิงมาไว้ในมือ”
ชั่วขณะนั้นมู่ชงตกใจ นึกไม่ถึงว่าซ่งอี้จะเดาออกแล้ว
เขาพยักหน้า มองทางซ่งอี้พูดขึ้นว่า “เจ้าเมืองน้อยซ่งน่าจะเข้าใจ สำหรับจวนมู่นั้น หยางเฉินเป็นคนนอก เขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจใดๆ แทนพวกเราจวนมู่ และเป็นตัวแทนพวกเราจวนมู่ไม่ได้ด้วย ดังนั้นทุกอย่างที่เขาคุยกับคุณ ล้วนเป็นโมฆะ”
“ส่วนผม ถึงแม้ยังไม่ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองน้อยของจวนมู่ แต่ว่าผมก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของคุณพ่อผม ตำแหน่งเจ้าเมืองน้อยแห่งจวนมู่ในอนาคต มีเพียงตกเป็นของผมเท่านั้น”
“ขอแค่คุณรับปากร่วมมือกับผม ผมสามารถช่วยเหลือจวนเมืองซ่ง ยึดจวนเมืองหวยเฉิงได้ เป็นอย่างไรครับ?”
ซ่งอี้ทำหน้านิ่งเฉย ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย หัวเราะแล้วส่ายหน้า “ไม่ดี!”
พอได้ยิน รอยยิ้มบนหน้าของมู่ชงแข็งทื่อในชั่วพริบตา ตวาดใส่ “งั้นคุณอยากจะร่วมมือกับผมอย่างไร?”
ซ่งอี้ส่ายหน้า หัวเราะเยาะ “อย่างนาย ยังไม่มีสิทธิ์มาร่วมมือกับฉัน สวะคนหนึ่ง อยากควบคุมจวนมู่? ฉันขอเตือนนายเอาไว้นะก่อนหน้าที่เจ้าเมืองมู่และนักดาบเงาเพชฌฆาตยังไม่กลับมา นายให้ความร่วมมือกับหยางเฉินจะดีกว่า”
“แน่นอนว่า ต่อให้เจ้าเมืองมู่และนักดาบเงาเพชฌฆาตกลับมาแล้ว ฉันยังคงแนะนำนายว่า อย่าหาเรื่องหยางเฉิน ไม่อย่างนั้น เพื่อไม่ให้ผิดใจหยางเฉิน บางทีเจ้าเมืองมู่จะไล่นายออกจากจวนมู่เอา อย่าคิดว่านี่คือฉันกำลังล้อนายเล่นโดยเด็ดขาด ฉันไม่เคยพูดล้อเล่นกับสวะมาก่อน”
คำพูดพวกนี้ของซ่งอี้ คือกำลังเหยียดหยามมู่ชงโดยแท้ ชั่วขณะนั้นมู่ชงเดือดดาล พูดด้วยท่าทางโหดร้าย “ฉันไม่ใช่สวะ! ดีที่สุดแกคิดให้ดี อยากร่วมมือกับคนนอกที่ไม่มีทางใช้งานผู้แข็งแกร่งจวนมู่ หรือว่าร่วมงานกับคนที่จะกลายเป็นผู้นำแห่งจวนมู่อย่างฉัน”
ซ่งอี้มองมู่ชงเหมือนกำลังมองคนโง่อยู่แล้วพูดว่า “สมองนายมีปัญหา? หรือว่าหูนายมีปัญหากันแน่? หรือว่าที่ฉันพูดยังไม่ชัดเจนพอเหรอ? ฉันไม่เคยร่วมมือกับสวะมาก่อน ที่จวนมู่ ฉันร่วมมือแค่กับหยางเฉินเท่านั้น”
“อีกอย่าง นายคิดว่า ถ้าฉันไม่ร่วมมือกับนาย ด้วยสถานการณ์ของจวนมู่ในตอนนี้ จะทำอะไรฉันได้เหรอ?”
“พอแล้ว วันนี้ฉันแหกกฎพูดกับสวะมากเกินไปแล้ว นายรีบกลับไปขังตัวเองอยู่ในห้องยังจะดีกว่า อย่าออกมาให้ขายขี้หน้าคนเลย”
มู่ชงระเบิดออกมาถึงที่สุด ตะคอกใส่ “ฉันไม่ใช่สวะ! แกวอนหาที่ตาย ฉันจะสู้กับแก!”
พูดจบ เขาตะโกนเสียงดัง “ผู้แข็งแกร่งจวนมู่ฟังคำสั่ง ฆ่าไอ้สารเลวคนนี้ให้ฉัน!”
ได้ยินคำพูดของมู่ชง ในสายตาซ่งอี้มีแสงคมกริบแวบผ่าน หรี่ตาบอกว่า “นี่คือแกรนหาที่ตาย!”
ผู้แข็งแกร่งจวนมู่สามสี่คนที่มู่ชงพามา ล้วนสีหน้าเปลี่ยนไป และไม่มีใครกล้าพุ่งเข้าไปลงมือต่อซ่งอี้
แค่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดสองคนนั้นด้านหลังซ่งอี้ ก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาเหล่านี้ จะสามารถสังหารลงได้
มู่ชงตวาดออกมา “ฉันให้พวกแกลงมือ พวกแกหูหนวกหรือไง? ลงมือเดี๋ยวนี้! ฉันอยากให้มันตาย อยากให้มันตาย!”
เหล่าฉีพูดเตือนว่า “คุณชายมู่ครับ เดิมทีพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา พวกเรากลับกันเถอะครับ!”
“ในเมื่อพวกแกไม่ลงมือ ฉันทำเองก็ได้!”
มู่ชงถูกความโกรธเข้าครอบงำไปตั้งนานแล้ว ตวาดเสียงดัง แล้วพุ่งเข้าไปยังซ่งอี้แล้ว
ในสายตาซ่งอี้มีจิตอาฆาตแวบผ่าน พูดด้วยเสียงเย็นชา “ในเมื่อแกรนหาที่ตาย งั้นฉันจะทำให้สมหวัง ลงมือ!”
หลังจากเขาสั่งไป ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดคนหนึ่งด้านหลังของเขา พุ่งไปหามู่ชงโดยตรง