บทที่ 2965 แสดงอิทธิฤทธิ์ + ตอนที่ 2966 คิดร้าย

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2965 แสดงอิทธิฤทธิ์

 

“อาหารเป็นพิษได้อย่างไร? พวกเขาทานอะไรเข้าไป?” หญิงสาวคนหนึ่งร้องขึ้น ซึ่งก็คือคิมิโกะที่สูญเสียคู่หูไปนั่นเอง

 

คนอื่นตอบ “ไก่ แล้วก็สมุนไพรป่าบางส่วน เราเด็ดมาด้วยกันแถมยังเด็ดเหมือนกันอีกต่างหาก…พระเจ้า…”

 

ชายหนุ่มที่เป็นคนตอบสีหน้าเปลี่ยนไปแล้วโยนไก่ย่างที่เหลือแต่โครงกระดูกในมือทิ้งเหมือนถูกผึ้งต่อยก็ไม่ปาน จากนั้นก็กุมท้องด้วยท่าทางหวาดกลัวหน้าขาวซีด คนที่มีอาการเช่นเดียวกับเขายังมีอีกหลายคนรวมถึงเจสันด้วย

 

“พระเจ้า…ฉันทานเหมือนพวกเขาเลย ปิแอร์ เราจะโดนพิษหรือเปล่า…” เจสันเบิกตาจ้องกองกระดูกตรงหน้าอย่างหวาดกลัวและนึกเสียใจภายหลัง

 

ทำไมเขาต้องทานเร็วขนาดนั้นด้วย?

 

ถ้ามีพิษจริง ๆ ทานเร็วก็เท่ากับตายเร็ว!

 

ปิแอร์สีหน้าเรียบนิ่งพร้อมน่องไก่ที่เหลืออีกข้างในมือ เขามักเก็บของดีไว้สุดท้ายเสมอเพื่อลิ้มรสชาติอย่างละเมียดละไม โดยเฉพาะตอนที่คู่หูทานหมดแล้วมองเขาน้ำลายไหลยืด นั่นจะทำให้เขาอารมณ์ดีเป็นเท่าตัว

 

“วางใจเถอะ คนพูดมากอย่างนายพระเจ้าก็รำคาญเป็นเหมือนกัน!” ปิแอร์กัดเนื้อน่องไก่หนึ่งคำแล้วถอนหายใจอย่างพึงพอใจ ช่างเป็นรสชาติที่เปรียบไม่ได้จริง ๆ ตกดึกค่อยไปล่าอีกสักตัวแล้วกัน แค่ครึ่งตัวยังไม่พอเติมเต็มครึ่งกระเพาะเลย

 

เจสันรออยู่นานก็ไม่รู้สึกปวดท้องเลยอดถอนหายใจไม่ได้ ครั้นเห็นคู่หูยังทานไก่ต่อซึ่งไม่ต่างจากพวกเสี่ยวเป่าที่ยังทานกันอย่างเอร็ดอร่อยจึงเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี “มีคนอาหารเป็นพิษเพราะเหตุนี้แล้ว พวกเธอก็ระวังตัวหน่อยดีกว่า!”

 

ไม่มีใครสนใจเขาแล้วทานไก่ต่อไป

 

พอผ่านไปสักพักไม่มีใครมีอาการปวดท้องอื่น ๆอีกเลยค่อยวางใจ แอบโล่งใจที่พ้นภัยครั้งนี้ได้

 

คิมิโกะโวยวายเสียงดังขึ้นอีกครั้ง “ทำไมพวกเธอเด็ดสมุนไพรมาเหมือนกันแต่มีแค่พวกเขาที่อาหารเป็นพิษล่ะ?”

 

“มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ละนะ ฉันว่าป่านี้น่ากลัวไม่เบา แค่เวลาครึ่งวันก็ตายไปแล้วสามคน ผีหลอกแน่!” คนเอ่ยเป็นชายผิวดำคนหนึ่ง ดูท่าทางจะเป็นคนจากสักประเทศในแถบเอเชียใต้ คนที่นั่นนับถือพระเจ้าเหมือนกับชาวอินเดีย

 

คนอื่น ๆก็รู้สึกเช่นเดียวกัน คนตายไม่ใช่เรื่องแปลกแต่การตายที่ไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุก็แปลว่ามีปัญหาล่ะ ทุกคนเริ่มตั้งสติไม่กล้าชะล่าใจอีก

 

คิมิโกะพลันชี้ไปทางพวกเสี่ยวเป่าแล้วตะโกนขึ้นว่า “พวกเขาเป็นคนไปเด็ดสมุนไพรก่อน สตรอว์เบอร์รีพวกเขาก็เป็นคนไปเก็บก่อน สองคดีนี้มีต้นเหตุมาจากพวกเขาทั้งนั้น”

 

เธอกับโคอิซูมิเป็นคู่รักที่เตรียมวางมือลาออกมาจัดงานแต่งงานหลังเสร็จสิ้นภารกิจในครั้งนี้ แต่โคอิซูมิกลับเสียชีวิตในต่างแดน คิมิโกะเสียใจสุดขีดเลยตัดสินใจจับตัวฆาตกรเพื่อคนรักของตัวเองให้ได้

 

สัญชาตญาณของผู้หญิงทำให้คิมิโกะเจาะจงไปที่เสี่ยวเป่า

 

ตอนนี้ความตายของผู้ชายสองคนนี้ยิ่งทำให้คิมิโกะมั่นใจว่าเสี่ยวเป่าคือตัวบงการ

 

เล่อเล่อโมโหพลางตวาดเสียงโต้กลับไป “เธอยังมีสติดีอยู่หรือเปล่า สามีฉันเก็บสตรอว์เบอร์รีหรือเด็ดสมุนไพรแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเธอ เขาให้พวกเธอตามไปเก็บด้วยงั้นเหรอ? เขาให้พวกเธอกินงั้นเหรอ? พวกเธอโง่ทำตัวเองแล้วเกี่ยวอะไรกับผู้ชายของฉัน!”

 

เสี่ยวเป่ายกยิ้มมุมปากน้อย ๆ ‘สามี’ … ‘ผู้ชาย’ …สรรพนามสองคำนี้น่าฟังกว่าพี่เสี่ยวเป่ามากทีเดียว!

 

เสี่ยวจูกับพวกเน่าเน่าเบิกตากว้างแล้วกวาดตามองเสี่ยวเป่ากับเล่อเล่ออย่างสงสัย นี่มันมีลับลมคมในกันชัด ๆ!

 

หรือว่าข้าวสารหุงเป็นข้าวสุกแล้วจริง ๆนะ?

 

คิมิโกะตะโกน “เขาไม่ได้พูดตรง ๆ แต่เขาใช้อาหารหลอกล่อพวกโคอิซูมิ!”

 

เล่อเล่อแค่นหัวเราะหลายทีพลางมองคิมิโกะอย่างเย้ยหยัน “อาหารหลอกล่อเหรอ? เธอนี่พูดออกมาได้นะ พวกเธอไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว อะไรกินได้อะไรกินไม่ได้ไม่รู้อยู่แก่ใจบ้างเลยหรือไง? หาเรื่องให้ตัวเองเพราะความตะกละก็อย่ามาโทษคนอื่นสิ!”

 

คิมิโกะยังอยากจะเถียงต่อ เล่อเล่อถลกแขนเสื้อขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ มือเท้าสะเอวด่ากลับไป “ถ้ายังโวยวายฉีกปากของเธอขาดแน่!

 

ว่าแล้วเธอก็หันไปอุ้มต้นไม้ที่ขนาดใหญ่ประมาณน่องขาของผู้ชาย แค่ดึงเบา ๆก็ถอนขึ้นพร้อมรากพร้อมโคนเหมือนถอนต้นหอมก็ไม่ปาน

 

ทุกคนตกตะลึงกันใหญ่อ้าปากพะงาบ ๆอยู่นานก่อนจะรีบหุบปากไม่กล้าปริเสียงอีกสักนิด!

 

…………………………

 

ตอนที่ 2966 คิดร้าย

 

เล่อเล่อปัดมืออย่างพึงพอใจแล้วยัดต้นไม้กลับหลุมคืนดังเดิมแล้วบุ้ยปากให้สือเอ้อร์ทีหนึ่ง “ฝากเธอด้วยนะ!”

 

สือเอ้อร์เบะปากหยิบกาน้ำไปตักน้ำที่ธารน้ำมาเทใส่หลุมต้นไม้สามกาติดกัน จากนั้นให้เน่าเน่าเติมดินให้แน่นค่อยเทน้ำไปอีกกา สองมือแทงลงหน้าดินที่เปียกชุ่ม ดูเหมือนกำลังปลูกต้นไม้แต่ความจริงเธอกำลังสื่อสารกับน้ำ

 

น้ำเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิต แม้ต้นไม้ต้นนี้ได้รับความเสียหายแต่รากยังอยู่ ฉะนั้นขอแค่น้ำสะอาดชโลมรากทุกเส้นได้อย่างทั่วถึง ต้นไม้ต้นนี้ก็จะฝังรากลงดินนี้ใหม่อีกครั้ง แล้วจะมีรากอ่อนงอกขึ้นกลายเป็นต้นไม้ใหญ่อันแข็งแกร่ง

 

“พี่เล่อเล่อ คราวหลังพี่อยากจะโชว์พลังช่วยหยุดทำร้ายต้นไม้น่าสงสารพวกนี้ทีได้ไหม? พี่ไปหาก้อนหินพวกนั้นสิ พวกมันปล่อยให้พี่ทารุณได้ตามสบายไม่ต้องทะนุถนอมเลย!” สือเอ้อร์ท้วงขึ้นอย่างไม่พอใจ

 

หลังโชว์ความเท่เสร็จก็ต้องให้เธอตามล้างตามเช็ดทุกที เสียเวลาเธอจริง ๆ!

 

เล่อเล่อถลึงตาใส่เธอแวบหนึ่งแล้วชี้ไปยังเน่าเน่าที่กำลังก้มหน้าแทะไก่ข้าง ๆแล้วกระซิบถาม “ไม่อยากเข้าประตูบ้านฉันแล้วเหรอ?”

 

สือเอ้อร์ชะงักไปครู่หนึ่งก็รีบเปลี่ยนสีหน้าพร้อมจุดยิ้มกว้างแสนจริงใจ “พี่เล่อเล่อ พี่อยากดึงอยากถอนอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฉันสนับสนุนพี่อย่างสุดหัวใจเลย!”

 

เล่อเล่อแค่นเสียงเบา ๆคร้านจะสนใจเธออีก จากนั้นก็หันไปยิ้มหวานส่งให้เสี่ยวเป่าแล้วดึงน่องไก่ทั้งสองข้างในมือของสือเอ้อร์ไปให้เสี่ยวเป่าทั้งหมด “สือเอ้อร์ทานไม่หมด พี่เสี่ยวเป่าทานนะ”

 

“ได้ เธอก็ทานด้วยสิ” เสี่ยวเป่าอมยิ้มเล็กน้อยแล้วแบ่งให้เล่อเล่อข้างหนึ่ง ทั้งคู่มองหน้ายิ้มให้กันพร้อมแทะน่องไก่ท่ามกลางบรรยากาศที่หวานหยดย้อย

 

สือเอ้อร์มองไก่ในมือที่หายไปทั้งสองข้างก็แทบจะร้องไห้ ใครว่าเธอทานไม่หมดกัน?

 

เธออยู่ในวัยเจริญเติบโตที่กำลังเจริญอาหาร แล้วจะทานไม่หมดได้อย่างไร?

 

เธอแค่เก็บไว้ลิ้มรสช้า ๆทีหลังเท่านั้นเอง!

 

เน่าเน่าเลื่อนหน้ามาใกล้หัวเราะคิกคักเอ่ยแซว “ถ้าจะกินเนื้อกับพี่สาวฉันก็ต้องรวดเร็วหน่อย ทีหลังก็ระวังหน่อยเถอะ!”

 

สือเอ้อร์กลอกตาใส่เขาแวบหนึ่ง ด้วยความกลัวเล่อเล่อจะแย่งเนื้อไปจากเธออีกจึงตัดสินใจแลบลิ้นยาวเลียไก่ทั้งตัวให้เปื้อนน้ำลาย ไม่รังเกียจก็เชิญมาแย่งไปทั้งตัวเลยสิ หึ!

 

คนอื่น ๆต่างใจเย็นกันแล้วและไม่มีใครเป็นอะไรอีก แม้ทุกคนจะทานไก่แต่คนที่อาหารเป็นพิษมีแค่สองคนจากประเทศเล็ก ๆเท่านั้น คนที่เหลือแอบโล่งใจและไม่ได้รู้สึกเศร้ากับการตายของสองคนนี้กลับกันยังดีใจมากเสียกว่า

 

ตายยิ่งเยอะยิ่งดี เช่นนี้ก็ไม่มีใครแย่งของดีกับพวกเขาแล้ว ทุกคนต่างคิดเช่นนี้กันหมดและนึกอยากให้คนอื่น ๆรีบตายจากไปด้วยอุบัติเหตุเร็ว ๆ

 

ผู้ตายสองคนถูกฝังลงหลุมแล้วกลบอย่างลวก ๆเหมือนโคอิซูมิซึ่งไม่ทิ้งไว้แม้กระทั่งชื่อแซ่ ในสิบสองคนนี้ต่างใช้ชื่อปลอมกันทั้งสิ้น ไม่มีใครโง่ถึงขั้นบอกชื่อจริงตัวเองกันหรอก

 

เน่าเน่าหันไปมองบางจุดแล้วพูดเสียงเบา “ยายผู้หญิงคนนั้นคิดร้ายกับพี่ล่ะ!”

 

เล่อเล่อมองไปยังต้นทางที่เขาบอกซึ่งก็คือคิมิโกะที่เพิ่งทะเลาะกันเมื่อครู่ เธอจึงแค่นเสียงทีหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ “สงบเสงี่ยมหน่อยก็ให้เธอมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายวัน ถ้าคิดไม่ได้รนหาที่ตายเองก็ลงไปอยู่เป็นเพื่อนเขาในนรกเถอะ!”

 

เมื่อเช้าคนที่ชื่อโคอิซูมิตายยัยคนนี้ร้องไห้เหมือนสูญเสียพ่อแม่ก็ไม่ปาน คิดว่าหล่อนคงเป็นคนรักของโคอิซูมิแหง ไม่แน่อาจจะเป็นสามีภรรยากันด้วยซ้ำ เช่นนั้นเธอจะสนองคู่รักคู่นี้เอง!

 

เสี่ยวเป่ามองเธอแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ พลางเอ่ยเสียงเบา “เธอแค่เดินทางต่ออย่างสบายใจก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องไปสนใจ!”

 

มีเขาอยู่แล้วจะปล่อยให้น้องเล่อเล่อลงมือได้อย่างไรกัน?

 

ภูเขาเป็นถิ่นของเขาเชียว เขาต้องปล่อยให้น้องเล่อเล่อเที่ยวให้สนุกสนานสิ!

 

………………………