บทที่ 2987 ผีดูดเลือด + ตอนที่ 2988 จุลินทรีย์ที่แสนประหลาด

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 2987 ผีดูดเลือด

เน่าเน่าก็เพิ่งล้างหน้าแปรงฟันกลับมาจากลำธารเช่นกัน พอเห็นสือเอ้อร์จ้องหนุ่มโป๊เปลือยตาโตก็พุ่งไปปิดตาเธอไว้ด้วยความโกรธพร้อมคำรามว่า “มองอะไร ระวังจะเป็นตากุ้งยิงเอานะ!”

พอไม่ได้ดูของเพลินตา สือเอ้อร์ก็ยื่นมือไปปิดตาเน่าเน่าอย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน “นายเองก็ห้ามดูผู้หญิงเหมือนกัน”

เธอไม่ได้ดู เน่าเน่าก็อย่าหวังจะได้ดูเลย

ทั้งสองคนปิดกันไปปิดกันมาราวกับเด็กน้อยทะเลาะกันก็ไม่ปาน

เน่าเน่าแค่นเสียงใส่ “ฉันเคยเห็นโลกกว้างมาแล้ว ผู้หญิงพวกนั้นนมยานกันหมดให้ดูฟรีฉันยังไม่เอาเลย”

เขาชอบดูสาวอกอึ๋มตึงสวยไม่ใช่ยานแบบนี้ สือเอ้อร์ดูถูกรสนิยมเขามากไปแล้ว

จุดสนใจของสือเอ้อร์กลับเป็นเรื่องอื่น “คิดไม่ถึงว่าจะเห็นหน้าอกของหล่อนแล้ว…นายจะดูส่วนนั้นอีกได้ไง…เอาเป็นว่าเดี๋ยวไปล้างตาเลยนะ”

เน่าเน่าแค่นเสียงใส่ “ฉันไม่ได้ตาบอดนะ อีกอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับฉัน เวลาที่เธอดูนานกว่าฉันอีก…เหอะ!”

นี่ต่างหากที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เน่าเน่าไม่ชอบใจ เขาเจ๋งกว่าเจ้านั่นตั้งเยอะ สือเอ้อร์ตาไม่มีแววเอาซะเลย

สือเอ้อร์แดกดันไปว่า “นายมีสิทธิ์อะไรไปว่าของเขาเล็กเหมือนไส้เดือน ฉันว่าของนายต่างหากล่ะที่ใช่!”

“เหลวไหล…” เน่าเน่ายอมไม่ได้ เขาต้องปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นชายของเขา!

“บ้าบออะไรกันเนี่ย…นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะมามัวหยอกเย้ากันอยู่ได้ รีบหนีเร็ว!” เล่อเล่อเดินปรี่เข้ามาหาแล้วดึงเจ้าทึ่มสองคนที่ถูกความโง่บังตาออกจากกัน ถ้ายังไม่หลบคงได้ประชันกับสายลับสาวนั่นแน่

สายลับสาวว่องไวขึ้นมาก ทั้งยังดวงตาเหม่อลอยราวกับตกอยู่ในห้วงฝัน เธอตามไล่บี้ผู้ชายคนนั้นไม่ห่างแถมประชิดเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

สายลับหนุ่มสบถด่าออกมาแล้วคิดจะวิ่งหนีเร็วกว่านี้อีกหน่อย ทว่าทุ่มสุดแรงกายแล้วก็ยังไม่สามารถหลบฝ่ามือปีศาจของสายลับสาวได้ สายลับสาวคว้าคอของหนุ่มคนนั้นไว้ได้พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจคลุ้มคลั่งชวนให้สยดสยอง

“พระเจ้า…หล่อนกลายเป็นซอมบี้แล้ว” เจสันร้องด้วยความหวาดกลัวแล้วหลบอยู่ด้านหลังปิแอร์

เสียงของเขาเพิ่งเปล่งออกมาสายลับสาวคนนั้นก็กัดเข้าที่คอหนุ่มคนนั้น สายลับหนุ่มดิ้นรนพยายามเอาชีวิตรอด “ช่วยด้วย…ช่วยฉันด้วย…”

เจสันถามเสียงเบา “ช่วยเขาหน่อยไหม?”

ปิแอร์ถลึงตาใส่ เจสันเลยรีบปิดปากแล้วดูเรื่องสนุก ๆต่อไป

“จะช่วยไหม?” เล่อเล่อก็ถามเช่นกัน

เสี่ยวเป่าเอ่ยเสียงทุ้ม “ตอนนี้อย่าเพิ่งช่วย ลองดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”

สายลับสาวกัดเข้าที่คอของสายลับหนุ่มคนนั้นแล้วเปล่งเสียงหัวเราะออกมา สายลับหนุ่มร้องโหยหวน “รีบช่วยฉันที หล่อนกำลังดูดเลือดฉันอยู่ หล่อนบ้าไปแล้ว…”

ทุกคนต่างเสียวสันหลังวาบ เพียงผ่านไปแค่คืนเดียวเท่านั้น ทำไมจู่ ๆหญิงสาวคนนี้ถึงกลายเป็นผีดูดเลือดไปได้ล่ะ?

ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เสียงร้องขอความช่วยเหลือของสายลับหนุ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ เขามองคนอื่น ๆอย่างสิ้นหวัง ถ้าเขารู้ว่าหล่อนจะกลายเป็นผีดูดเลือด เขาไม่มีทางไปร่วมรักกับหล่อนแน่นอน

ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้ง ๆที่เมื่อก่อนจะไม่มีทางวันไนต์สแตนด์ในขณะทำภารกิจแท้ ๆ

“ช่วยพวกเขาเถอะ ฉันอยากตรวจดูเลือดของเขาหน่อย” ไม่รู้ว่าเสี่ยวจูตื่นมายืนอยู่ด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

เสี่ยวเป่ายื่นมือไปห้ามเล่อเล่อที่เตรียมลงมือ “ไม่ต้องเข้าไปประชิดใกล้นักหรอก เน่าเน่า ใช้อาวุธลับของนาย”

“ได้เลย!” เน่าเน่ารับคำแล้วก้มลงหยิบก้อนหินจากพื้นมาไม่กี่ก้อน เขาไม่ต้องเล็งเป้าก็ดีดออกไปซึ่งกำหนดไปที่จุดเส้นลมปราณของหล่อน

สายลับสาวคนนั้นกรีดร้องพร้อมล้มลงพื้นทว่ามือของหล่อนกลับไม่ปล่อยจากคอหนุ่มคนนั้นราวกับล็อกไว้ปลดออกไม่ได้ พวกเขาสองคนล้มลงพร้อมกัน สายลับหนุ่มเสียเลือดมากจนหน้าซีดและอ้าปากหายใจไม่หยุดราวกับปลาที่ขาดน้ำ

…………………………………..

ตอนที่ 2988 จุลินทรีย์ที่แสนประหลาด

“ทำไมถึงบีบแน่นนักล่ะ ต้องหักกระดูกถึงจะเอาออกได้”

เน่าเน่าแกะมือออกอยู่นานแต่ก็แกะมือของสายลับสาวไม่ออก ถ้าไม่รีบเอามือออกสายลับหนุ่มต้องหมดลมหายใจแน่

“ฉันมาแล้ว…” เล่อเล่อเดินพุ่งมาหาแล้วคว้ามือของสายลับสาวไว้ เสียงแกร็กดังขึ้นไม่หยุดจนสุดท้ายนิ้วทั้งสิบของผู้หญิงคนนั้นก็หักจนหมด สายลับหนุ่มถูกเล่อเล่อดึงเบา ๆก็หลุดพ้นจากมือปีศาจนั่นได้ในที่สุด

เจสันอดตัวสะท้านเฮือกไม่ได้ ตอนนี้เขาถึงเพิ่งค้นพบว่าเด็กพวกนี้ไม่ธรรมดาสักคน แต่ละคนฝีมือไม่แพ้กันเลย

ราวกับว่าสายลับสาวคนนั้นไร้ซึ่งความเจ็บปวดใด ๆ ถึงแม้นิ้วจะหักอ่อนปวกเปียกทว่ากลับทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเพียงแค่แสยะยิ้มร้ายกาจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“เหมือนว่าเธอจะสูญเสียความรู้สึกเจ็บปวดไปแล้ว” สือเอ้อร์กล่าว

เสี่ยวจูหยิบกระบอกฉีดยาออกมาสองอันแล้วเก็บเลือดของพวกเขาสองคนโดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าสายลับหนุ่มเสียเลือดไปมากขนาดไหน ทั้งยังเก็บเลือดจนเต็มหลอด สายลับหนุ่มดวงตาทั้งสองข้างนิ่งค้างแล้วเป็นลมสลบไปเพราะทนไม่ไหว

“ฉันไปศึกษาเลือดก่อนแล้วกัน” เสี่ยวจูสีหน้าเรียบนิ่งแล้วหยิบหลอดเลือดทั้งสองกลับไป

เสี่ยวเป่าเดินไปข้างกองไฟที่ใกล้มอดเต็มทีแล้วเก็บดอกลิลลี่สีดำเหี่ยวเฉาสองสามดอกขึ้นมาจากพื้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

 “ผู้หญิงคนนี้น่าจะกินหัวดอกลิลลี่สีดำที่มีพิษเข้าไป” เสี่ยวเป่ารู้สึกเหนือคาด อีกทั้งลางสังหรณ์ไม่ดีก็รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

เล่อเล่อล้วงเอายาวิเศษออกมาเม็ดหนึ่งซึ่งเหมยเหมยเตรียมไว้ให้ พวกเขาทั้งสามคนพี่น้องต่างมีหมดเพราะปกติมักเอามาทานเล่นเป็นลูกอม เธอเอายาวิเศษยัดใส่ปากสายลับหนุ่ม จากนั้นอาการของเขาก็ดีขึ้นแต่สีหน้ายังคงซีดเซียวอยู่

“เมื่อคืนพวกนายกินหัวดอกลิลลี่สีดำเข้าไปใช่ไหม?” เล่อเล่อตะคอกถาม

สายลับหนุ่มพยักหน้าอย่างอ่อนแรง “ฉันไม่ได้กิน มีแต่หล่อนที่กิน”

“นอกจากนี้แล้วยังกินอะไรอีกไหม?”

สายลับหนุ่มส่ายศีรษะ บนหุบเขาแห่งนี้นอกจากดอกลิลลี่ก็มีแค่หญ้าป่า เขาจะกินอะไรได้

ดูท่าทางสายลับสาวจะอาการไม่ได้ทุเลาลงเลยแต่กลับคลุ้มคลั่งมากกว่าเดิมราวกับซอมบี้ เธอร้องโหยหวนเสียงดังเหมือนในหนังก็ไม่ปาน เล่อเล่อนึกรำคาญเลยเตะเข้าที่คางของสาวคนนั้นทีหนึ่ง

พอเสียงแกร๊กดังขึ้น ความสงบก็บังเกิดขึ้นชั่วขณะ

“ฉันวิจัยออกมาได้แล้ว ในเลือดของพวกเขามีจุลินทรีย์มีชีวิตอยู่ การแพร่กระจายตัวของจุลินทรีย์ชนิดนี้เร็วมาก ฉันลองคำนวณดูแล้วเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเจ้าจุลินทรีย์ชนิดนี้จะกระจายตัวภายในร่างกายได้ทุกซอกทุกมุม” เสี่ยวจูได้ผลลัพธ์แล้วและไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วย

“นายหมายถึงว่าพวกเขาสองคนโดนพิษเข้าแล้วเหรอ? งั้นแล้วทำไมมีเพียงผู้หญิงที่อาการคลุ้มคลั่งล่ะ?”

เสี่ยวจูเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฉันยังพูดไม่จบ ในเลือดของผู้หญิงคนนี้ยังมีจุลินทรีย์มีชีวิตอีกชนิดหนึ่งอยู่ด้วย เอ่ยได้ว่าเป็นดั่งหยินหยาง จุลินทรีย์สองชนิดนี้รวมร่างกันอย่างรวดเร็วจนแปรสภาพเป็นจุลินทรีย์อีกชนิดหนึ่ง”

เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ “จุลินทรีย์ตัวนี้มีผลทำให้ชั้นเยื่อหุ้มสมองของสัตว์ตื่นตัว หรือพูดได้ว่าคลุ้มคลั่งนั่นแหละ”

“งั้นตามที่ว่ามาความต่างของหัวดอกลิลลี่สีดำกับสีอื่น ๆก็คือมีจุลินทรีย์ชนิดที่ต่างกัน หากกินเพียงอย่างเดียวจะไม่เป็นไร แต่ถ้ากินหมดจะทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง หมายความว่าแบบนี้ใช่ไหม?” เสี่ยวเป่าเอ่ยถาม

เสี่ยวจูพยักหน้าและส่ายศีรษะเช่นกัน “ก็ไม่เชิงหรอก จุลินทรีย์ในดอกลิลลี่สีดำมีผลทำให้ประสาทหลอนเท่านั้นแต่ไม่ได้รุนแรงอะไร ทว่าถ้ารวมกันถึงจะแปรเปลี่ยนทำให้อาการประสาทหลอนหนักขึ้น”

“ถอนพิษได้ไหม?” เสี่ยวเป่าเอ่ยถาม

หลังจากเข้าหุบเขามาครั้งนี้เขามักรู้สึกไม่สบายใจเพราะในละแวกหุบเขาหลายสิบลี้แห่งนี้เงียบเหงาไม่มีสัตว์ที่มีชีวิตเลยสักตัว ฉะนั้นพรสวรรค์ของเขาจึงใช้ไม่ได้ในที่แห่งนี้

………………………………………….