ตอนที่ 2997 สัตว์ประหลาดที่ฆ่าไม่ตาย
สิ่งที่เสี่ยวจูเขวี้ยงไปเป็นระเบิดเชอร์รี่ที่คิดค้นขึ้นมาเอง พลังทำลายล้างเทียบเท่าระเบิดสามลูกที่สามารถระเบิดบ้านหลังหนึ่งให้เละเป็นผุยผงได้ สัตว์ประหลาดทั้งฝูงถูกระเบิดใส่จนตัวลอยขึ้นฟ้า หัวขาดบ้าง แขนหักบ้าง ขาหักบ้าง…รวมถึงเศษเนื้อต่าง ๆกระจายเต็มฟ้าแล้วถึงร่วงตกสู่พื้นอีกที
สัตว์ประหลาดที่เดิมทียกโขยงมากันเป็นกลุ่มใหญ่แน่นขนัดถูกระเบิดปาใส่จนแหว่งหายไปไม่น้อย แต่สัตว์ประหลาดที่เหลือยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านกับระเบิดสักนิด มีบางส่วนในนั้นที่แขนขาดขาขาดหรือถึงขั้นตัวหายไปเกือบครึ่ง แต่ก็ยังคงใช้ร่างอีกครึ่งส่วนที่เหลือเดินหน้าต่อ…
“ให้ตาย…ของพวกนี้ทำไมถึงฆ่าไม่ตายนะ?”
เจสันลุกจากพื้นพลางปัดเศษขี้ดินกับเศษเนื้อติดตัวออกอย่างนึกรังเกียจ หูอื้อเกิดเสียงวิ้ง ๆราวกับมียุงนับไม่ถ้วนกำลังบินวนอยู่ในหูอย่างไรอย่างนั้น
“เพราะระบบประสาทพวกมันถูกทำลายแล้ว มีแต่ตัดหัวทิ้งพวกมันถึงจะตาย” เสี่ยวจูเอ่ยเสียงนิ่ง เตรียมเอาระเบิดเชอร์รี่อีกลูกมาจุด
ลูกเมื่อครู่พอจะเห็นผลอยู่บ้างเพราะอย่างน้อยก็ฆ่าสัตว์ประหลาดได้นับสิบกว่าตัว เนื่องจากหัวของพวกมันปลิวไปด้วยแรงระเบิด อย่างไรเสียเขาก็มีลูกระเบิดเช่นนี้อีกมากมาย เมื่อก่อนทำไว้ตอนเบื่อ ๆ เพียงครู่เดียวก็ทำออกมานับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาจนพวกเสี่ยวเป่ากลับมาได้
“นายว่าอะไรนะ? เสียงดังหน่อย…ได้ยินไม่ชัด!” เจสันเห็นเสี่ยวจูขยับปากแต่เขากลับไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น มีแต่เสียงวิ้ง ๆดังอยู่ในหู
เสี่ยวจูมองเขาด้วยสายตารังเกียจแวบหนึ่งอย่างคร้านจะพูดต่อ โง่ยิ่งกว่าหมูเสียอีก ทั้งที่เมื่อกี้เขาเตือนล่วงหน้าแล้วแท้ ๆก็ไม่รู้จักเอามือปิดหู สมน้ำหน้าที่หูตึง
ขณะที่เสี่ยวจูเตรียมเขวี้ยงระเบิดลูกที่สองก็มีลมพัดกระหน่ำซัดมาพร้อมทรายเม็ดสีเหลืองตลบไปทั่วทั้งอากาศเลยทำเอายากจะลืมตาขึ้นได้ แถมยังมีกลิ่นหอมของใบชาอ่อน ๆแฝงมาด้วย
“ให้ตาย ทำไมถึงมีพายุได้ล่ะ? นี่มันน่าแปลกจริง ๆ…เรารีบถอยดีกว่า!” เจสันสะดุ้งเฮือกพร้อมใช้มือป้องตาไว้แต่ก็ยังลืมตาไม่ขึ้น แต่เขากลับได้กลิ่นหอมของชาสุดโปรด
“ทำไมถึงมีกลิ่นหอมของใบชาได้ล่ะ? เหมือนจะเป็นชาหลงจิ่งด้วยนะ หรือว่าที่นี่ก็มีต้นใบชาหลงจิ่งเหมือนกันเหรอ?” เจสันทั้งตกใจทั้งดีใจ
เสี่ยวจูรู้ว่าต้องเป็นฉาฉากลายร่างแล้วแน่ เขายิ้มให้เจสันพร้อมกวักมือเรียก เจสันชี้ตัวเองด้วยความแปลกใจ เสี่ยวจูพยักหน้า เจสันรีบวิ่งดุก ๆไปหาอีกฝ่าย ปิแอร์ไม่วางใจจึงตามมาด้วยอีกคน
“มีอะไรเหรอ?” เจสันถาม
เสี่ยวจูยิ้มอย่างลึกลับ เขาแบมือไปตรงหน้าอีกคน “มีของดีให้นายดู!”
“อะไร…ตุบ…”
เจสันเพิ่งเบิกตาโต เสี่ยวจูสะบัดมือเบา ๆทีหนึ่งก็มีผงไร้สีไร้กลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ เจสันที่สูดดมเข้าไปล้มลงกับพื้น ปิแอร์ตกใจก็ทำการโจมตีเสี่ยวจู แต่ผงยาที่เสี่ยวจูสาดออกไปได้ลอยไปถึงตรงหน้าปิแอร์ตามสายลมแล้ว
ปิแอร์เพิ่งก้าวได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงกับพื้นไม่ต่างจากเจสัน
พายุหยุดลงพวกเสี่ยวเป่าปรากฏตัวแล้ว ร่างใหญ่มหึมาของฉาฉาเหมือนดั่งมังกรยักษ์ ระหว่างทางที่มาได้ทับสัตว์ประหลาดตายไปหลายตัวแล้ว เล่อเล่อกับสือเอ้อร์มองกลุ่มสัตว์ประหลาดที่ยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไปอย่างรังเกียจ
“ทำไมจู่ ๆถึงโผล่มาเยอะขนาดนี้? ปกติพวกมันหลบอยู่ไหน?” เล่อเล่อรู้สึกสงสัยอย่างมาก
ทั้งที่ในหุบเขาไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตเลยสักนิดเดียว ทำไมอยู่ดี ๆถึงมีสัตว์ประหลาดโผล่มามากขนาดนี้ได้ เขารู้สึกเหมือนมุดออกมาจากใต้ดินอย่างไรอย่างนั้น
“ข้างใต้สวนดอกลิลลี่ ที่นั่นเป็นฐานใหญ่ของพวกมัน เสียงร้องคำรามของสายลับกลายพันธุ์สองคนตอนเช้าเรียกพวกมันมา แต่พวกเขากลายพันธุ์สำเร็จแล้วเลยรับมือยากยิ่งกว่า!” เสี่ยวเป่ากล่าว
………………………….
ตอนที่ 2998 แข่งฆ่าสัตว์ประหลาด
“กรร…”
เสวี่ยเอ๋อร์ที่กลับมาพร้อมกับพวกเสี่ยวเป่า พอเห็นสัตว์ประหลาดมากมายก็ใช้กรงเล็บสองขาหน้าลับพื้นอย่างตื่นเต้น ไม่รอให้เล่อเล่อออกคำสั่งก็กระโดดโถมเข้าหาพวกสัตว์ประหลาด
ในที่สุดก็สามารถต่อสู้อย่างหนำใจได้สักที เขาอดกลั้นมาตั้งหลายปีแล้ว!
“เสวี่ยเอ๋อร์ อย่ากัดพวกมัน สกปรกเกินไป!” เล่อเล่อตะโกนกำชับ
เน่าเน่ากลอกตาอย่างระอาใจทีหนึ่ง นี่มันยามคับขันยังเป็นห่วงเรื่องความสะอาดอยู่อีก ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้มักลืมว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ใดตลอด
เสวี่ยเอ๋อร์เชื่อฟังอย่างมากเลยเปลี่ยนเป็นใช้กรงเล็บแทน กรงเล็บของมันคมยิ่งกว่ามีดสั้นเสียอีกจึงตะปบคอสัตว์ประหลาดให้ขาดได้อย่างง่ายดาย ตะปบทีก็จัดการไปได้หนึ่งตัว
“สวยมาก ต่อไปก็ตาฉันโชว์พลังให้ดูบ้างล่ะ!”
เน่าเน่าหยิบมีดกงจักรออกมาสามเล่ม เขาสามารถใช้งานมันได้สามเล่มในเวลาเดียวกัน พลังทำลายล้างน่ากลัวยิ่งกว่าระเบิดเสียอีก เมื่อก่อนเหยียนหมิงซุ่นเคยบอกไว้ว่าถ้าไม่ใช้ของนอกกายอย่างระเบิดกับยาพิษ หากวัดกันที่ค่าพลังทำลายล้างละก็เน่าเน่าต้องเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน เล่อเล่อได้แค่อันดับสองเท่านั้น
ส่วนพวกเสี่ยวเป่ากับเสี่ยวจู ถ้าไม่มีพรสวรรค์ของพวกเขา พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็ต่ำต้อยยิ่งกว่าอะไร
“ไปเถอะ…”
เน่าเน่าเหวี่ยงมีดกงจักรสามเล่มออกไปแล้วเกิดเสียงดังฟิ้วขึ้นกลางอากาศ ทุกคนเห็นเพียงแสงสีเงินวาดผ่านท้องฟ้าไปแล้วตีโค้งกลับพร้อมมีหัวของสัตว์ประหลาดในจุดที่มีแสงสีเงินผ่านด้วย…ราวกับกำลังหั่นแตงโมก็ไม่ปาน จนมันกระเด็นตกเต็มพื้นไปตาม ๆกัน
แสงสีเงินหมุนกลางอากาศหนึ่งรอบแล้วย้อนกลับมาที่มือเน่าเน่าในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่บนพื้นกลับมีแต่หัวระเนระนาด สือเอ้อร์ลองนับดูคร่าวๆ “ยี่สิบเอ็ดหัว พี่เน่าเน่าเก่งจัง!”
ยัยเด็กน้อยดวงตาประกายวิบวับแล้วมองเน่าเน่าอย่างชื่นชม เธอรู้อยู่แล้วเชียวว่าพี่เน่าเน่าเก่งที่สุดเลย!
“ตาฉันบ้าง!”
เล่อเล่อไม่ยอมเป็นรองตัดสินใจทิ้งหนังสติ๊ก เธอดึงดาบอ่อนที่เหน็บอยู่ข้างเอวออกมาสะบัดเบา ๆ ดาบตรงปลายแหลมคมปล่อยไอเย็นยะเยือกออกมา สือเอ้อร์เองก็หยิบอาวุธของเธอออกมาเช่นกัน เป็นแส้ทำจากลวดเงินคล้าย ๆกับอาวุธของเหมยเหมย แต่กลับถูกลี่จิ่วปรับแก้ทำให้มีพลังทำลายล้างสูงกว่าเดิม
ทั้งคู่มองกันและกันแวบหนึ่งแล้วก็เกิดอารมณ์อยากเอาชนะขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะพุ่งเข้าหาฝูงซอมบี้ในเวลาเดียวกัน “เรามาแข่งกัน ดูว่าใครตัดหัวได้เยอะกว่ากัน!”
คนที่เสนอความคิดเป็นสือเอ้อร์ เพิ่งสิ้นเสียงเธอก็สะบัดแส้ไปพัดรอบหัวของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง แค่ดึงเบา ๆหัวก็ขาดสะบั้นลง
เพราะแส้เส้นนี้บางราวกับเส้นใยแต่กลับมีความแข็งแรงทนทานและคมปลาบ ฉะนั้นเนื้อหนังของมนุษย์จะอ่อนนุ่มดั่งเต้าหู้เมื่ออยู่ตรงหน้ามัน
สือเอ้อร์แค่นเสียงทีหนึ่งอย่างได้ใจ แม่แท้ ๆของเธอเป็นถึงนักต่อสู้ที่แม้แต่ลุงเหยียนยังระแวง และเธอเป็นถึงศิษย์เก่งของแม่เชียวนะ!
เล่อเล่อยิ้มอย่างไม่ยี่หระพลันก็ฟันดาบใส่สัตว์ประหลาดตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดจนร่างของมันแยกออกผ่าครึ่งตั้งแต่กลางหน้าผากลงไป ขนาดใช้ไม้บรรทัดวัดยังไม่แม่นยำขนาดนี้
สัตว์ประหลาดยืนนิ่งอยู่สักครู่ สามวินาทีถัดไปร่างที่ถูกตัดแบ่งออกเป็นสองท่อนก็ล้มลงแน่นิ่งกับพื้น
สือเอ้อร์ขมวดคิ้วแน่นอย่างรังเกียจ พี่เล่อเล่อก็เป็นซะแบบนี้ ฆ่าคนได้ไม่สวยงามสักนิด ทำอย่างกับโรงฆ่าอย่างไรอย่างนั้น
“พี่เล่อเล่อ อย่าให้มันสยองขนาดนี้ได้ไหม?”
เล่อเล่อฟันดาบลงไปอีกหน คราวนี้เลือกฟันหัวของสัตว์ประหลาดโดยตรงก่อนจะโต้กลับไป “ฆ่าคนแล้วไม่เห็นเลือด ยังจะเรียกว่าฆ่าอีกเหรอ?”
ดัดจริต!
ทั้งคู่แสดงศักยภาพท่ามกลางฝูงซอมบี้กันใหญ่จนฆ่ากันติดต่อไปหลายสิบตัว แต่จำนวนของสัตว์ประหลาดมากเกินไป แม้จะตายไปไม่น้อยแต่ยังดูเหมือนจะเท่าเดิม เห็นเป็นสีดำเต็มแน่นขนัดไปหมด
เสี่ยวจูตบหัวฉาฉาเบา ๆ ฉาฉาพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายแล้วหันกลับไปพุ่งเข้าหาฝูงสัตว์ประหลาดราวกับรถถัง
……………