เย่เฉินโบกมือลา “ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องห่วง ผมมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องไปจัดการนิดหน่อย จัดการเสร็จแล้วก็จะกลับมา”
เฉินจื๋อข่ายถามว่า “อยู่ในโอซาก้าไหม? ให้ผมจัดคนไปปกป้องคุณหรือไม่?”
“ไม่ต้องแล้ว” เย่เฉินไม่ได้บอกว่าตัวเองจะไปไหนกันแน่ และเขาก็ไม่ต้องการที่จะพูด
เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม เขาเอาแต่คิดถึงอิโตะ นานาโกะอยู่ในสมอง บางทีอาจจะเพราะเห็นใจผู้หญิงคนนั้น หรืออาจจะเพราะชื่นชม หรือจากอารมณ์อื่นๆ เย่เฉินคิดไม่ออก และก็ไม่อยากจะไปคิดมัน
ตอนนี้เขา เพียงแค่อยากจะไปเกียวโตเพื่อพบกับอิโตะ นานาโกะกับตาด้วยตัวเอง และไปเยี่ยมดูอาการบาดเจ็บของเธอด้วย
ไม่ว่าจะเป็นยังไง หากอาการบาดเจ็บของเธอหายดีแล้ว ตัวเองก็จะสามารถกลับไปได้อย่างสบายใจ
เฉินจื๋อข่ายเห็นว่าเย่เฉินไม่ยอมเปิดเผยการเดินทางของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยืนกรานอีกต่อไป เพียงแค่ขอให้เขาขับรถอย่างระมัดระวัง หากหิมะตกหนักขึ้นก็รอให้หิมะหยุดตกแล้วค่อยขับรถ
เย่เฉินยอมรับ แล้วขับออกไปตัวคนเดียว
โอซาก้าอยู่ใกล้กับเกียวโตมาก และใช้เวลาในการขับรถเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อเขามาถึงเกียวโต ท้องฟ้าก็ได้มืดลงแล้ว
หิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับหิมะขนห่านเลยทีเดียว
เย่เฉินไม่รู้ว่าคฤหาสน์ของตระกูลอิโตะอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงไปหาร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งแล้วกินราเมงสไตล์จีนไปชามหนึ่ง ตอนที่เช็กบิล เขาก็ถามจากเถ้าแก่ไปคำหนึ่งว่า “เถ้าแก่ คุณรู้ไหมว่าคฤหาสน์ของตระกูลอิโตะอยู่ที่ไหน? ”
อีกฝ่ายยิ้มและพูดว่า “คฤหาสน์ของตระกูลอิโตะอยู่ถัดจากปราสาทนิโจ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มาก และหาง่ายมาก มีโล่ประกาศเกียรติอยู่ที่ทางเข้าด้านหน้า ซึ่งก็คืออิโตะในตัวอักษรจีน”
เย่เฉินพยักหน้า และกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็เดินออกจากร้านอาหาร
ปราสาทนิโจเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเกียวโต ดังนั้นจึงสามารถค้นหาจากแผนที่ได้โดยตรง และอยู่ห่างจากเย่เฉินเพียงสองกิโลเมตร
เห็นว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงแล้ว เย่เฉินที่นั่งอยู่ในรถก็เริ่มลังเลและไม่กล้าเดินต่อเล็กน้อย
เขายังทำใจไม่ได้ ตัวเองจะไปพบกับอิโตะ นานาโกะได้อย่างไร
เมื่อไปถึงบ้านพักของตระกุลอิโตะ ก็จะเคาะประตูเพื่อขอพบโดยตรงงั้นเหรอ?
ไม่เหมาะสม
เพราะยังไง เงินสี่พันห้าร้อยล้านดอลลาร์ของนางาฮิโกะ อิโตะนั้นยังคงอยู่ในมือของตัวเอง หากคนรับใช้ของเขารายงานกับนางาฮิโกะ อิโตะ เขาจะไม่ยอมให้ตัวเองได้พบกับอิโตะ นานาโกะอย่างแน่นอน
แล้วควรจะทำอย่างไรดีล่ะ?
หรือว่า จะแอบหนีเข้าไปข้างในด้วยตัวเองเหรอ?
บางที มันก็มีเพียงวิธีการเดียวเช่นนี้ที่เหมาะสมแล้วเท่านั้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็สตาร์ทรถ เดินตามจีพีเอส และมาถึงบริเวณปราสาทนิโจ แน่นอนว่าเขาเห็นคฤหาสน์ของตระกูลอิโตะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทนิโจ
คฤหาสน์ของตระกูลอิโตะครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มาก มองจากภายนอก ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ปลูกเต็มไปด้วยต้นไม้เก่าแก่สูงตระหง่าน สิ่งปลูกสร้างก็เป็นอาคารไม้โบราณสไตล์ญี่ปุ่นที่มีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมแบบจีนที่แข็งแกร่ง แค่มองดูก็จะสามารถทราบถึงอายุได้อย่างรวดเร็วและเป็นเวลายาวนานมาแล้ว
เนื่องจากมีคูน้ำโบราณรอบๆ คฤหาสน์ของตระกูลอิโตะ และสะพานทั้งสองที่เข้าออกนั้นก็เป็นของส่วนตัว ดังนั้นเย่เฉินจึงจอดรถไว้ข้างถนนที่ไม่ห่างไกลมาก จากนั้นก็ฝ่าหิมะที่ตกหนัก และแอบเข้าไปในบ้านพักของตระกูลอิโตะจากในความมืด
ในเวลานี้
อิโตะ นานาโกะเพิ่งแช่น้ำพุร้อนเสร็จ
เพราะในที่สุดในวันนี้หิมะที่ตั้งตารอคอยมานานก็ได้ตกลงมาแล้ว และยังเป็นหิมะที่ตกหนักอีกด้วย อิโตะ นานาโกะกวาดล้างหมอกควันในหัวใจของเธอออกไป และก็รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
เธอขอให้คนรับใช้ของเธอเปลี่ยนชุดกิโมโนที่สวยงามอย่างเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นไม่ได้ให้กับตัวเอง จากนั้นก็ขดผมยาวของตัวเองอย่างสง่างาม และติดกิ๊บตัวโปรดของเธอ
จากนั้น เข็นรถเข็นเพียงลำพัง แล้วมาถึงที่ลานเล็กๆ ของตัวเอง เพื่อเพลิดเพลินกับหิมะด้วยความปีติยินดี
บ้านพักของตระกูลอิโตะครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีลานบ้านขนาดใหญ่และขนาดเล็กอยู่หลายแห่ง ลานบ้านที่อิโตะ นานาโกะอยู่นั้นห่างไกลและเงียบสงบที่สุด
หิมะตกหนักมาก และในไม่ช้าก็มีหิมะสีขาวตกลงมาบนหัวของเธอชั้นหนึ่ง และอิโตะ นานาโกะมองดูหิมะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า กระโดดด้วยความปีติยินดีเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และพูดอยู่ในใจอย่างตั้งใจว่า “ไม่รู้ว่าเย่เฉินซังกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้? และไม่รู้ว่าที่จินหลิงมี
หิมะตกอยู่ในตอนนี้หรือเปล่า? และก็ไม่รู้ว่าเขาจะคิดถึงฉันหรือไม่……..”