อันที่จริงแล้ว ตอนที่ชายคนนั้นยกคะนุอิขึ้น อีกห้าคนก็ทยอยถอยหลังสองก้าว
นี่เป็นเพราะว่า พวกเขาไม่อยากให้ตอนที่เลือดพุ่งออกมา และสาดกระเซ็นไปบนตัวของพวกเขา
แต่ทว่า ดวงตาทั้งสองของพวกเขา กลับจับจ้องไปที่อิโตะ นานาโกะตลอด รอฉากนองเลือดนั้นมาถึง
และตัวของอิโตะ นานาโกะเอง ก็เตรียมพร้อมที่จะพบกับความตายแล้ว
แต่ทว่า ภาพกลับหยุดกะทันหัน ในขณะนี้!
คะนุอิที่ยกขึ้นสูง ก็หยุดค้างอยู่ในอากาศ คนอื่นก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาชักช้าไม่ลงมือสักที
เมื่อพวกเขามองไป ถึงได้พบว่า เพชฌฆาตที่ยกดาบ ในเวลานี้ตายตาไม่หลับไปแล้ว!
บนหน้าผากหว่างคิ้วของเขา ด้ามสั้นที่ยาวเพียงไม่กี่เซนติเมตรยังคงอยู่ เนื่องจากบาดแผลนั้นอยู่ใกล้ตัวดาบมากเกินไป ดังนั้นมีเลือดซึมผ่านออกมาจากบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหยดลงหิมะสีขาวหนาทึบบนพื้น แดงสดแผ่ไปทั่วในทันที!
เมื่อตอนที่หลายคนตกตะลึงจนตาค้างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาพบว่า มีดคุไนที่แทงอยู่กลางคิ้วของคนคนนั้น ช่างคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด!
คนที่ถือด้วยโทรศัพท์ถ่ายวิดีโอคนนั้นก็ตะโกนด้วยความสยดสยองอย่างสุดขีด: “เฮ้ย! นี่…นี่เป็นมีดคุไนของโอตะ!”
นี่เป็นมีดคุไนของฟูจิบายาชิ โอตะจริงๆ!
หลังจากที่เย่เฉินฆ่าเขา ก็เก็บมีดคุไนทั้งหมดของเขาไว้ และก็มีประโยชน์ในเวลานี้พอดี!
ห้าคนที่เหลือก็ตื่นกลัวมากอย่างกะทันหัน!
การตายอย่างอนาถของทั้งสี่คนรวมถึงฟูจิบายาชิ มาสะกับฟูจิบายาชิ โอตะ ยังคงทำให้หวาดผวาอยู่ในใจของพวกเขาตลอด ตอนนี้ มีดคุไนของฟูจิบายาชิ โอตะ ได้ฆ่าสมาชิกอีกคนในตระกูลของพวกเขาตาย จากเรื่องราวนี้พบว่า วิกฤติอันตรายอยู่ตรงหน้า!
คนที่ถือโทรศัพท์ถ่ายวิดีโออยู่คนนั้น เขาโยนโทรศัพท์ทิ้งในทันที และอ้าปากพูดกับอีกสี่คนว่า: “ตั้งค่าย! ตั้งค่าย!”
อีกสี่คนดึงสติกลับมาในทันที ทยอยหยิบคะนุอิออกมา ทั้งห้าคนหลังชนกันตั้งเป็นวงกลมขนาดเล็ก ทุกคนต่างก็ระวังทิศทางที่แตกต่างกัน
นี่เป็นแนวป้องกันการโจมตีของนินจา เป็นขบวนรบทหารที่ใช้บ่อยที่สุด
ในเวลานี้อิโตะ นานาโกะได้ยินการเคลื่อนไหว ลืมตาขึ้น ทันใดนั้นก็พบว่า ชายที่กำลังจะฟันตัวเอง กลายเป็นศพที่ยืนนิ่งแล้ว อีกห้าคน ได้ตั้งค่ายกลเหมือนแนวป้องกันที่เผชิญหน้ากับศัตรู!
เธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้น หนึ่งในห้าคนก็โยกไปโยกมาล้มลงไปตรงด้านหน้า และล้มหัวปักเข้าไปในหิมะที่หนาทึบ!
คนข้างกายของเขาก็เอื้อมมือออกไปพลิกตัวเขากลับมา ถึงได้พบว่า หน้าผากหว่างคิ้วของเขา ก็มีมีดคุไนปักอยู่เล่มหนึ่ง!
ชายคนนั้นชี้ไปทิศทางกำแพงรั้ว และพูดอย่างวิตกกังวลอย่าสุดขีดว่า: “ตรงที่กำแพงรั้ว!”
ดังนั้น สี่คนเหลือก็เลิกใช้ค่ายแนวป้องกันวงกลม ทยอยปลุกความคล่องแคล่วว่องไวขึ้นเป็นอย่างมาก และจับจ้องมองไปที่ทิศทางที่มีดคุไนพุ่งมาเมื่อกี้นี้
หนึ่งในนั้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นว่า: “ลอบทำร้ายผู้อื่นจะไปมีความสามารถอะไร! มีความสามารถแกก็ออกมา!”
แม้ว่าปากจะพูดอย่างนั้น แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดแบบนี้ก็สามารถที่จะกระตุ้นให้อีกฝ่ายออกมาจริงๆ
เนื่องจากนี่ก็ฟังดูเด็กเกินไป ฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแกร่งแบบนี้ จะหลงกลตัวเองได้อย่างไร
แต่ทว่า ใครก็คาดไม่ถึงว่า ทันทีที่เสียงของเขาลดลง บนกำแพงรั้วก็มีเงามืดกระโดดลงมาอย่างกะทันหัน
ทันใดนั้น เงามืดก็ก้าวฝีเท้าเข้ามาอย่างสบายๆ และก้าวใหญ่เดินไปหาพวกเขา!
ทุกย่างก้าวที่เงามืดนั้นก้าวออกมาหนึ่งก้าว ก็เหยียบจนหิมะบนพื้นเสียงดังแกรกกราก ทำให้ในใจของทั้งสี่คนหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
อิโตะ นานาโกะก็เบิกตากว้างจ้องมองเงามืดนั้น เธออยากจะรู้ว่า คนที่ลงมือช่วยตัวเองอย่างลับๆคนนี้ เป็นใครกันแน่
และเมื่อเงามืดนั้น มาถึงตรงหน้าของเธอทำให้เธอมองคนที่มาออก ทั้งตัวของเธอก็ราวกับถูกฟ้าผ่าในทันที!
เธอฝันก็ยังคิดไม่ถึงว่า คนที่มาช่วยตัวเอง ก็คือเย่เฉินที่ตัวเองคิดถึงนานอยู่ตลอดเวลา!
ในเวลานี้ อิโตะ นานาโกะยังคิดว่าตัวเองมองผิดไป เกิดภาพลวงตา
ดังนั้น เธอจึงขยี้ตา แล้วมองดูดีๆอีกครั้ง