เมื่อได้ยินคำพูดที่แน่วแน่ของเย่เฉิน อิโตะ นานาโกะค่อนข้างตกตะลึงจนตาค้าง

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อาการบาดเจ็บของตัวเองยังคงมีโอกาสหายดีเหมือนเดิม แต่คำพูดนี้ออกมาจากปากของเย่เฉิน เธอก็รู้สึกวางใจเป็นอย่างมากในทันใด

ดังนั้น เธอจึงถามเย่เฉินด้วยความประหลาดใจ: “เย่เฉินซัง คุณมีวิธีรักษาอาการบาดเจ็บของฉันให้หายดีจริงๆเหรอ?”

เย่เฉินพยักหน้า และพูดว่า: “แต่ก่อนหน้าที่จะรักษาคุณ ยังต้องจัดการศพพวกนี้ก่อน”

อิโตะ นานาโกะรีบพูดว่า: “ฉันจะโทรเรียกพ่อบ้านมาจัดการเดี๋ยวนี้!”

“ไม่ต้อง”เย่เฉินห้ามเธอไว้ และเอ่ยปากพูดว่า: “ฉันมีเรื่องขัดแย้งกับพ่อของคุณในโตเกียวเล็กน้อย ถ้าหากคุณบอกพ่อบ้าน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาจะต้องแจ้งให้พ่อของคุณทราบในทันทีอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นก็อาจดูไม่ดี”

อิโตะ นานาโกะถามด้วยความประหลาดใจ: “เย่เฉินซัง คุณเจอพ่อของฉันที่โตเกียวเหรอ?! พวกคุณขัดแย้งกันได้ยังไง?”

เย่เฉินยักไหล่ และพูดว่า: “เรื่องนี้พูดแล้วยาว เดี๋ยวตอนที่รักษาอาการบาดเจ็บของคุณ ค่อยบอกให้คุณทีหลัง”

อิโตะ นานาโกะแลบลิ้นเล่น และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ดูเหมือนว่าท่านพ่อคงจะต้องทนทุกข์ทรมานกับเย่เฉินซังไม่น้อยนะ…”

เย่เฉินยิ้มเยาะเย้ย: “ไม่ได้ทนทุกข์ทรมาน ก็แค่เสียเงินเล็กน้อย”

อิโตะ นานาโกะพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ไม่เป็นไร ถึงยังเขาไม่ขาดเงินอยู่ดี เสียไปเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร”

เย่เฉินกระแอม และพูดว่า: “เสียไปสี่พันห้าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ”

“หา?”อันที่จริงอิโตะ นานาโกะรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโตเกียวจากทานากะซังก่อนแล้ว แต่เพื่อไม่ให้เย่เฉินมีความกดดันอะไรในใจ ถึงได้แกล้งทำเป็นประหลาดใจแล้วถาม: “สี่พันห้าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ? เย่เฉินซังไม่ได้ล้อเล่นไม่ใช่เนี่ย?”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม: “ไม่ได้ล้อเล่น เรื่องจริง แต่ว่าตอนนี้ฉันยังไตร่ตรองไม่ได้ว่า จะให้เขาเสียมากขนาดนี้จริงหรือเปล่า”

อิโตะ นานาโกะพูดโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า: “เย่เฉินซังไม่ต้องไตร่ตรองแล้ว เงินก้อนนี้ก็ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่ท่านพ่อให้คุณแทนฉัน เนื่องจากเมื่อกี้นี้คุณช่วยชีวิตของฉันไว้ ชีวิตของฉันอยู่ในสายตาของเขา คงจะมากกว่าสี่พันห้าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ”

เย่เฉินหัวเราะ: “คุณใจกว้างจริงๆ ก็ไม่กลัวว่าพ่อของคุณรู้เข้าแล้วจะโกรธเหรอ?”

อิโตะ นานาโกะส่ายหน้า และพูดอย่างจริงจังว่า: “ถ้าเขากล้าโกรธฉัน งั้นฉันก็จะหนีออกจากบ้าน และบากหน้าไปขออาศัยกับเย่เฉินซังที่ประเทศจีน ต่อจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกแล้ว!”

“เอ่อ…”

เย่เฉินพูดไม่ออกทันที

เขาไม่รู้ว่าอิโตะ นานาโกะกำลังล้อเล่น หรือจริงจัง ถ้าหากจริงจัง งั้นภายในใจส่วนลึกของตัวเองก็ย่อมยินยอมเป็นธรรมดา แต่ตัวเองไม่สามารถอธิบายให้เซียวชูหรันได้…

ในเวลานี้ อิโตะ นานาโกะเห็นท่าทางลังเลของเย่เฉิน และพูดด้วยรอยยิ้ม: “เย่เฉินซัง นานาโกะล้อคุณเล่น คุณไม่จำเป็นต้องจริงจัง ที่สำคัญต่อให้นานาโกะจะไปประเทศจีนจริงๆ ก็ต้องซื้อบ้านหลังหนึ่งของตัวเองปักฐานอยู่ที่เมืองจินหลิง ไม่มีทางทำให้เย่เฉินซังลำบาก!”

เย่เฉินก็ถอนหายใจ และพูดว่า: “เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง ฉันจัดการกับศพทั้งหกร่างนี้ก่อน ในลานบ้านนี้ของคุณมีห้องมากมาย ห้องไหนไม่ค่อยได้ใช้?”

อิโตะ นานาโกะชี้ไปที่ห้องทางทิศตะวันตก และพูดว่า: “ห้องนั้นเป็นห้องเก็บของ แต่ว่าเพราะไม่ได้กลับมาอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นข้างในว่างเปล่ามาโดยตลอด”

เย่เฉินพยักหน้า และพูดว่า: “อากาศหนาว ฉันส่งคุณกลับไปที่ห้อง ต่อจากนั้นค่อยมาจัดการกับศพเหล่านี้ รอจัดการเสร็จ ฉันจะรักษาอาการบาดเจ็บให้คุณก่อน หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บหายดี คุณค่อยบอกกับพ่อบ้านและคนใช้ในบ้าน ให้พวกเขาจัดการศพให้ถูกวิธี”

อิโตะ นานาโกะถามอย่างรวดเร็ว: “เย่เฉินซัง รักษาฉันหายดีแล้วคุณก็จะกลับไปแล้วเหรอ?”

“ใช่”เย่เฉินพยักหน้าพูดว่า: “ฉันยังต้องกลับไปที่โอซาก้า จัดการธุระที่โอซาก้าเสร็จก็จะกลับไปที่ประเทศจีนแล้ว”

ท่าทางของอิโตะ นานาโกะก็ค่อนข้างผิดหวัง และพึมพำว่า: “งั้นฉันหวังว่า…อาการบาดเจ็บของฉันจะไม่มีวันรักษาหาย…”

เย่เฉินอ้าปากพูดว่า: “อย่าพูดจาเหลวไหล ไม่เป็นมงคล”

อิโตะ นานาโกะพูดอย่างจริงจังว่า: “แบบนั้น เย่เฉินซังก็สามารถอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ใช่เหรอ? เพราะคุณบอกว่า รักษาอาการบาดเจ็บหายดีแล้วคุณก็จะไป รักษาไม่หาย คุณก็กลับไปไม่ได้”

เย่เฉินมองดูเธอด้วยรอยยิ้มที่หมดหนทาง และพูดว่า: “วางใจเถอะ ฉันจะรักษาคุณให้หายดีอย่างแน่นอน”