ข่าวที่ว่าตระกูลมัตสึโมโตะถูกฆ่าล้างตระกูลจนหมด ทำให้นางาฮิโกะ อิโตะตกตะลึงขีดสุด
เขาตกตะลึงอ้าปากค้างและโพล่งออกมา “ฆ่าล้างคนในตระกูลมัตสึโมโตะกว่าสามสิบคนจนหมด นี่มันช่างเหิมเกริมมากเกินไปแล้ว?! คนแบบไหนกันที่กล้าได้ขนาดนี้?”
เอมิ นานาโกะ ส่ายหัวและพูดว่า “เรื่องราวรายละเอียดฉันก็ยังไม่รู้เช่นกัน ตำรวจกำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่”
ในเวลานี้เย่เฉินพูดอย่างเย็นชาว่า “ยังต้องตรวจสอบอีกหรือ? จะต้องเป็นตระกูลซูที่ลงมือทำ ผมเพิ่งช่วยพี่น้องตระกูลซูออกมา ตระกูลซูกลางดึกก็จัดการฆ่าล้างตระกูลมัตสึโมโตะที่อยู่เบื้องหลังทันที”
สีหน้าของนางาฮิโกะ อิโตะดูตกใจเล็กน้อย เขาเอยพึมพำ “พฤติกรรมของตระกูลซูโหดร้ายเกินไปหน่อยหรือไม่? มัตสึโมโตะ โยชิโตะก็แค่ใช้คนของเขาลงโจมตีคนรุ่นหลังสองคน ต่อให้พวกเขาอยากแก้แค้น ก็แค่ฆ่ามัตสึโมโตะ โยชิโตะก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ? อย่างมากก็ฆ่าบอดี้การ์ดของตระกูลพวกเขาไปด้วย ทำไมต้องลำบากไปถึงคนอื่นๆในตระกูลมากมายขนาดนี้?”
เย่เฉินสีหน้าอึมครึม “นี่สมควรจะเป็นสไตล์ที่สอดคล้องกับตระกูลซู”
พูดไป เย่เฉินก็อดคิดถึงพ่อแม่ของตนขึ้นมาไม่ได้
ด้วยรูปแบบที่โหดเหี้ยมและวิธีการที่ร้ายกาจของตระกูลซู เกรงว่ามีโอกาสอย่างยิ่งที่พวกเขาจะเป็นคนทำมันโดยตรง!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ในใจของเย่เฉินก็อัดอั้นถึงขีดสุด!
เขาตาบอดไปจริงๆ ถึงกับช่วยหลานชายคนโตและหลานสาวคนโตของตระกูลซูเอาไว้แล้วปล่อยพวกเขาไป!
ถ้าตนเองไม่เข้าไปแทรกแซง ป่านนี้สองพี่น้องตระกูลซูคงได้กลายเป็นศพเย็นๆไปแล้ว!
แบบนี้ คนรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ของตระกูลซูก็จะต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนัก
และที่สำคัญกว่านั้น นี่สามารถทำลายความเย่อหยิ่งของตระกูลซูได้อย่างมาก!
นี่ไม่ใช่เพราะเย่เฉินใจแคบ แต่เป็นเพราะแค้นของบิดามารดาไม่อาจอยู่ใต้แผ่นฟ้าเดียวกัน!
นางาฮิโกะ อิโตะที่เห็นสีหน้าย่ำแย่อย่างมากของเย่เฉิน ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ “คุณเย่ คุณโอเคไหม?”
เย่เฉินยิ้มเยาะออกมาและส่ายหัว “ไม่มีอะไร แค่แปลกใจนิดหน่อย”
เขาจะพูดอะไรได้?
การตายของพ่อแม่และประสบการณ์ชีวิตของเขานั้นไม่มีทางบอกแก่นางาฮิโกะ อิโตะได้เป็นอันขาด
นางาฮิโกะ อิโตะ พยักหน้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆก็ถอนหายใจขึ้นมา “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน เรื่องราวจะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้….”
พูดไป เขาก็เอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง “เห็นทีตอนนี้ เรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นความบังเอิญที่ผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดกลายมาเป็นตระกูลอิโตะ”