บทที่ 1841 ยั่วยุสำเร็จ

The king of War

บทที่ 1841 ยั่วยุสำเร็จ
พอเห็นตู้จ้งเดินขึ้นสังเวียน พวกนักสู้ชาวซันที่อยู่ในค่ายต่างพากันขมวดคิ้ว
ทิคาโนะ ทาเคชิที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธานและหลับตามาโดยตลอด ก็ได้ลืมตาขึ้นมาเหมือนกัน แล้วมองไปที่ตู้จ้ง
“นักสู้ของจิ่วโจวอยากจบการประลองเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?” 
โยชิดะ โชจ้องมองตู้จ้งที่ยืนอยู่บนสังเวียนแล้วพูดออกไป
คามิชิโร กุนโตขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า นักสู้ของจิ่วโจวนั้นอ่อนแอท่ก ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายท่านนี้ คงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาแล้วมั้ง?” 
ในจังหวะนี้ อาโอกิ ยามาโตะก็ได้พูดออกมาเหมือนกัน “พวกคุณอย่าลืมสิ่งที่เกิดขึ้นบนยอดเมฆาเมื่อคืนสิ” 
พอได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของโยชิดะ โชกับคามิชิโร กุนโตก็ดูแย่ขึ้นมา
การที่พวกเขาต้องเชิญ ทิคาโนะ ทาเคชิมาจากประเทศซัน มันก็เพราะไป๋หลี่จิงหวินไม่ใช่เหรอ?
บนสังเวียน ตู้จ้งยืนเอามือไขว้หลัง จ้องมองไปยัง นาคัตสึ เรียวสุเกะที่อยู่ตรงหน้า แล้วพูดอย่างไร้เยื่อใยว่า “คุณโจมตีก่อนเพราะถ้าให้ผมโจมตีก่อน คุณจะไม่มีโอกาสอีกเลย!” 
พอพูดอย่างนั้น สีหน้าของนาคัตสึ เรียวสุเกะก็บึ้งตึงอย่างถึงที่สุด
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตู้จ้งกำลังกดดันเขา?
ต่อให้เขาจะปกปิดแดนวิถีบู๊ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตู้จ้ง เขาจึงไม่มีความลังเลใดๆ ถ้าให้ตู้จ้งโจมตี ก็อาจจะฆ่าเขาในทีเดียวจริงๆ
“นี่จิ่วโจวไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ? เป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด แต่กลับมาประลองกับฉันที่เป็นแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย นี่แกไม่อายรึไง?” 
นาคัตสึ เรียวสุเกะจ้องมองตู้จ้งด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยวแล้วตะโกนถามไป
ตู้จ้งพูดด้วยสีหน้าที่เหมือนเดิมว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด เมื่อกี้คุณเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่า ต่อให้คุณจะปิดบังฝีมือแล้วมันจะยังไง? เพราะการประลองในวันนี้ สิ่งที่ต้องการคือผู้ชนะคนสุดท้าย เมื่อเป็นอย่างนั้น ผมที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายมาประลองกับคุณที่เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย มันจะไปผิดตรงไหน?” 
“แน่นอนว่า ถ้าคุณไม่กล้าสู้กับผม ก็ยอมแพ้แล้วไสหัวลงไปซะ” 
นาคัตสึ เรียวสุเกะสีหน้าเคร่งขรึม เขาเองก็รับรู้ได้ถึงการข่มขู่ที่อยู่ในคำพูดของตู้จ้งแล้ว ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ ตู้จ้งก็จะลงมืออย่างหนัก
เพราะการประลองในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ตกลงกฎกติกากันตั้งแต่แรก กติกานั้นง่ายมาก มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือฝ่ายไหนที่ยืนหยัดได้เป็นคนสุดท้าย การประลองในวันนี้ ก็ถือเป็นฝ่ายชนะ
เมื่อกี้นาคัตสึ เรียวสุเกะลงมืออย่างหนัก นักสู้ของทุกคนจิ่วโจวทุกคนที่ท้าประลองกับเขา คนที่เบาหน่อยก็เจ็บหนัก ส่วนคนที่หนักก็วิถีบู๊ถูกทำลาย
ตู้จ้งต้องไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่
แต่ถ้าเขายอมแพ้ ก็เท่ากับทำให้ประเทศซันขายหน้า ต่อให้เขายอมแพ้ ทางประเทศซันก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่นอน
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สถานการณ์ของเขาก็ไม่ดีทั้งคู่
“นักสู้ของจิ่วโจวนั้นไร้ยางอายจริงๆ ก่อนหน้านี้พวกแกส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดมาสู้กับฉันที่เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกพวกเราก็ยอมแล้ว นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้ พวกแกกลับส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายมาประลองกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย” 
“นักสู้ของจิ่วโจว นี่พวกแกไม่มีคนแล้วใช่มั้ย? แน่จริงก็ให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกขึ้นสังเวียนสิ? ถ้าพวกแกกลัวแล้วไม่ไหวจริงๆ ก็ให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกทั้งหมดขึ้นมาพร้อมกันเลย ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกของประเทศซันแค่คนเดียว ก็สามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกของพวกแกได้ทั้งหมด” 
“นักสู้ของจิ่วโจว พวกแกกล้าสู้กับคนที่อยู่แดนเดียวกันรึเปล่า? ถ้าไม่กล้า ก็รีบๆ ยอมแพ้ไปซะ” 
……
ทันใดนั้น เหล่านักสู้ชาวซันในค่ายต่างพากันตะโกนอย่างใส่อารมณ์
เหล่านักสู้ของจิ่วโจวที่อยู่ในค่าย สีหน้าต่างก็ดูแย่กันทุกคน แต่กลับไม่มีข้ออ้างที่จะสวนกลับพวกประเทศซัน นาคัตสึ เรียวสุเกะที่ดูเหมือนจะเป็นแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย แต่กลับเอาชนะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นของจิ่วโจวไปแล้ว
แม้แต่ไช่เจิ้งหยางยังแพ้ แล้วยังต้องพูดถึงนักสู้คนอื่นอีกเหรอ? แถมยังเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกด้วย
ตู้จ้งยืนอยู่กลางสังเวียน สภาพจิตใจไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากนักสู้ของประเทศซันเลย จ้องมองกรรมการด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แล้วพูดไปว่า “คุณกรรมการ การประลองในรอบนี้ มันควรเริ่มได้แล้วมั้ย?” 
กรรมการเห็นว่าไม่มีทางยื้อเวลาต่อไปได้อีกแล้ว จึงมองตู้จ้งด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ จากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า “เริ่มการประลองต่อ!” 
ตู้จ้งหันมองนาคัตสึ เรียวสุเกะที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “ให้เวลาคุณสิบวิ ถ้าในสิบวิ คุณยังไม่โจมตีใส่ผมผมก็จำเป็นต้องโจมตีก่อน” 
พอได้ยินตู้จ้งพูดมาอย่างนั้น นาคัตสึ เรียวสุเกะก็รู้สึกว่าแรงกดดันในตัวได้เพิ่มสูงขึ้น ขอแค่เขาโจมตีตอนนี้ ตู้จ้งต้องเล่นแรงแน่ๆ
แต่ถ้าไม่โจมตี มันก็ไม่ได้
พอเห็นว่าเวลาสิบวิกำลังจะหมดลง ในที่สุดนาคัตสึ เรียวสุเกะก็ตัดสินใจได้ พูดพร้อมกัดฟันว่า “ฉันของสู้ตายกับแก!” 
พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าใส่ตู้จ้งทันที
ในตอนนั้นเอง ตู้จ้งก็ได้แสดงแววตาที่แสนเยือกเย็นออกมา กระทืบเท้าลงพื้นอย่างแรง
“ตูม!” 
เกิดเสียงดังขึ้น เหมือนสั่นสะเทือนไปทั้งสังเวียน ตู้จ้งซัดฝ่ามือใส่หน้าอกของนาคัตสึ เรียวสุเกะ นาคัตสึ เรียวสุเกะที่เมื่อกี้ยังสามารถเอาชนะนักสู้ของจิ่วโจวไปหลายคนอย่างไร้เทียมทาน ได้กระอักเลือดแล้วกระเด็นออกไป
“ตูม!” 
เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของนาคัตสึ เรียวสุเกะกระแทกลงพื้นอย่างแรง
หลังจากที่นาคัตสึ เรียวสุเกะกระแทกพื้น ก็ไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นมาได้อีก เลือดไหลทักออกจากปาก ไม่กี่วิหลังจากนั้น ร่างกายของเขาก็แน่นิ่งไป
“ตายแล้วเหรอ?” 
มีคนตกใจจนอุทานออกมา
นาคัตสึ เรียวสุเกะแข็งแกร่งมาก ความแข็งแกร่งที่แสดงออกมาต่อหน้าทุกคนก่อนหน้านี้ ทำให้ทุกคนไม่สามารถเชื่อมโยงกับการตายในตอนนี้ของเขาได้
ถึงก่อนหน้านี้นาคัตสึ เรียวสุเกะจะทำให้นักสู้ของจิ่วโจวเจ็บหนักหรือทำลายวิถีบู๊ยังไม่ได้ฆ่า แต่ว่าตู้จ้ง พอลงมือ ก็ฆ่านาคัตสึ เรียวสุเกะในการโจมตีเดียว
นี่เขาไม่กลัวตายรึไง?
ตอนนี้เขาได้ฆ่า นาคัตสึ เรียวสุเกะไปแล้ว นักสู้ของประเทศซันที่จะขึ้นประลองต่อจากนี้ จะยอมปล่อยเขาไปเหรอ?
“ตู้จ้ง นี่แกบ้าไปแล้วเหรอ? อยากตาย ก็อย่าลากพวกเราไปด้วยสิ!” 
ทันใดนั้น ในค่ายนักสู้ของจิ่วโจว ติงเหวินจัวได้ตะโกนออกมาด้วยความโมโห “แกรู้รึเปล่าว่าการที่แกทำแบบนี้ จะทำให้นักสู้ของจิ่วโจวที่จะขึ้นประลองต่อจากนี้ต้องพบเจอกับอะไร?” 
ตู้จ้งขมวดคิ้วอย่างแรง สายตาที่เฉียบคมจ้องเขม็งไปที่ติงเหวินจัว “คุณคิดว่า นักสู้คนอื่นของจิ่วโจว ยังมีโอกาสได้ขึ้นประลองอีกอย่างนั้นเหรอ? หรือจะบอกว่า หลังจากที่ผมแพ้แล้ว คุณจะขึ้นมาประลองต่ออย่างนั้นเหรอ?” 
พอได้ยินตู้จ้งพูดมาอย่างนั้น ติงเหวินจัวก็หุบปากไปทันที
นอกจากเขาจะบ้าไปแล้ว ถึงจะขึ้นไปประลองหลังจากที่ตู้จ้งแพ้
และในตอนนั้นเอง ในค่ายนักสู่ของประเทศซัน โยชิดะ โชก็ค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ดุร้ายว่า “ในเมื่อนักสู้ของจิ่วโจวลงมือหนักขนาดนี้ งั้นก็อย่าหาว่านักสู้ของประเทศซันโหดเหี้ยมแล้วกัน! ตู้จ้ง แกยั่วยุฉันสำเร็จแล้ว!”