บทที่ 1857 ข้าเข้าใจแล้ว
หยางเฉินในขณะนี้ นอนม้วนอยู่กับพื้น หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด พลังทำลายล้าง ยังคงไม่หยุดการทารุณกรรมภายในตัวของเขา ทำให้เขารู้สึกที่อยากตายมากกว่าการมีชีวิตอยู่
นักบูโดจิ่วโจว ต่างก็อยู่ในความกังวลห่วงใยเขา แต่ละคนกำหมัดทั้งสองไว้แน่น ถ้าไม่ใช่รู้ตัวว่าพลังฝีมือด้อยอยู่มาก ใจนั้นอยากพุ่งเข้าไปตะลุมบอนอัดใส่ทิคาโนะ ทาเคชิ
ทิคาโนะ ทาเคชิเอามือไพล่หลัง ยืนอยู่กลางโรงเทพบู๊ ที่เห็นบนใบหน้า มีแต่ความเย็นชา ยืนเฉยอยู่อย่างนั้นจ้องดูหยางเฉิน
“ไอ้หนู แกโดน พลังทำลายล้างจากพลังธาตุของข้า โดยระดับขั้นบูโดของแก ไม่มีทางที่จะต้านทานพลังทำลายล้างที่ข้าซัดเข้าไปได้”
ทิคาโนะ ทาเคชิก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาในทันใด จ้องหน้าหยางเฉินพูดไปด้วยสีหน้าสงบเรียบ “แค่เพียงเจ้าขอร้องกับข้า พร้อมกับรับปากว่าต่อแต่นี้จะสวามิภักดิ์ต่อข้า ข้าก็จะเปิดทางรอดชีวิตให้กับเจ้า สำหรับข้อตกลงสัญญาพนันกันของพวกเรา ก็ถือเป็นการยกเลิก”
ที่แท้ ทิคาโนะ ทาเคชิยังจ้องที่จะให้หยางเฉินเข้าร่วมในสมาคมบูโดประเทศซัน มิน่าถึงได้โอ้เอ้ไม่ลงมือในขั้นสังหารหยางเฉิน
หยางเฉินขบกรามแน่น สายเลือดคลั่งถูกกระตุ้นขึ้นมาถึงขีดสุดแล้ว กระบวนการตามตำราเทพสงครามยังคงขับเคลื่อนไม่หยุดตาที่แดงกร่ำทั้งคู่ เต็มไปด้วยความรู้สึกยังเจ็บใจไม่ยอมละ
เขากำลังต่อต้านกับการถูกทำทารุณจากพลังทำลายล้างอย่างสุดความสามารถ แต่ดูจะไม่เป็นผลเอาเลย เขารู้สึกในตัวดี ถ้ายังปล่อยให้พลังทำลายล้างทำร้ายตัวเขาต่อไปเรื่อย ๆ น่ากลัวว่าอีกไม่นานนัก ก็จะต้องตายเนื่องจากอวัยวะส่วนสำคัญภายในตัวบอบช้ำจนทนไม่ไหว
ตัวเขาในขณะนี้ ความรู้สึกเหมือนกับถูกมดจำนวนนับไม่ถ้วนรุมตอมกัดอยู่ภายในของร่างกาย ความเจ็บปวดเป็นที่สุดนั้น ทำให้เขาเกือบสลบ
แต่เขายังคงไม่ยอมจะประนีประนอมกับทิคาโนะ ทาเคชิ กัดฟันพูดอย่างเคียดแค้นว่า “ถึงจะต้องตาย ข้าก็ไม่มีทางที่จะยอมเข้าสมาคมนักบูโดประเทศซัน!”
“ฮึ!”
ทิคาโนะ ทาเคชิพูดเสียงหนาวเยือก “คงจะไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา ในเมื่อแกไม่ยอมเป็นหมารับใช้ข้า ก็รับกรรมทรมานจากพลังทำลายล้างต่อไป!”
“ข้าจะไม่ฆ่าแกหรอก จะปล่อยให้แกทรมานกับความเจ็บจนตายไปเอง!”
นักบูโดจิ่วโจวได้ยินคำพูดของทิคาโนะ ทาเคชิแล้ว แต่ละคนหน้าซีดเผือด
“พลังทำลายล้าง!ทิคาโนะ ทาเคชิถึงขนาดเข้าถึงการใช้พลังทำลายล้างได้แล้ว ด้วยพลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายในขณะที่หยางเฉินเพียงเพิ่งเข้าถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น แล้วจะทนรับพลังทำลายล้างได้ยังไงไหว?”
ตู้จ้งหน้าซีดเป็นขี้เถ้า สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
เขานึกเสียใจขึ้นมาในทันที อุตส่าห์ยื้อเวลาตั้งเนิ่นนานรอจนหยางเฉินมาถึง ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเขาไปดึงยื้อเวลาไว้ การประลองยุทธของจิ่วโจวกับประเทศซัน ป่านนี้คงเสร็จสิ้นไปนานแล้ว?
หยางเฉินอายุยังน้อยขนาดนี้ ระดับบูโดก็เข้ามาถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นแล้ว ถือเป็นอัจฉริยะในบูโดอัจฉริยะเลยทีเดียว และยังจะเป็นความหวังของนักบูโดจิ่วโจว แต่มาตอนนี้ กลับต้องมารับภาระที่ไม่ใช่ภาระที่เขาต้องมารับด้วยเลย
ตู้จ้งพูดตาแดง ๆ “คุณหยาง เพราะผมเองทำให้ท่านเดือดร้อน!”
เหล่าบรรดานักบูโดค่ายประเทศซัน แต่ละคนต่างมีสีหน้าส่อเสียดเย้ยเยาะ เสมือนว่าหยางเฉินช่างไม่รู้จักสำนึกเจียมตัว
อาโอกิ ยามาโตะเห็นสภาพความเจ็บปวดทรมานของหยางเฉิน รอยยิ้มระรื่นเต็มหน้า “ทำหาญกล้ามาท้าท่านนายกทิคาโนะ ช่างไม่รู้จักตายเสียเลย นี่แหละผลกรรมที่ต้องรับจากการมาล่วงเกินนักบูโดประเทศซัน”
คามิชิโร กุนโตพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “ไม่เสียทีที่เป็นนายกทิคาโนะ ช่างร้ายกาจจริง ๆ กระบวนท่าเดียวก็ทำให้หยางเฉินอยากตายมากว่ามีชีวิต”
หยางเฉินที่นอนขดตัวอยู่กลางโรงเทพบู๊ สีหน้าขาวซีดเป็นคนป่วยหนัก พลังทำลายล้างเกือบจะทำให้ทุกอย่างของเขาพังทลายแล้ว แต่เขายังคงกัดฟันสู้ทนอยู่ ถึงแม้จะเจ็บปวดยิ่งไปกว่านี้อีกเขาก็ไม่ยอมที่จะปล่อยเสียงครวญครางออกไป
อีกทั้งเขายังคงค้นคิด ทำอย่างไรจะเข้าถึงพลังปกป้อง
พลังทำลายล้าง เป็นพลังแฝงที่ใช้ทำลาย ในการบดขยี้สัญญาณชีพในตัวของคนรับเคราะห์ ค่อย ๆ ไล่ทำลายอวัยวะสำคัญภายในแต่ละชิ้น ถล่มเส้นเอ็นและกระดูกทั้งตัว แม้กระทั่งเส้นสายเลือด เพื่อบรรลุเป้าในการทำลายล้างผู้รับเคราะห์
ด้วยตัวเขาเองได้เข้าถึงพลังแห่งธาตุน้ำได้แล้ว คือการรู้จักผนวกพลังแห่งธาตุน้ำในตัว ใช้ในการควบคุมของเหลวเพียงน้อยนิดที่มีรอบข้าง แล้วจัดการพุ่งเข้าทำร้ายเป้าหมาย
ยังมีที่เขารับรู้ถึงพลังแห่งเวลา นั้นก็คือในชั่วเวลาเดี๋ยวเดียวนั้น สามารถจัดระเบียบของกาลเวลาได้ แค่เพียงชั่วเดี๋ยวเดียวนั้น จัดให้คู่ต่อสู้เป้าหมายเข้าไปอยู่ในเวลาที่เขาวางกำหนด ในช่วงเวลาที่กำหนดนั้น เขาก็คือเทพที่ควบคุมกาลเวลา ภายในเวลาครู่เดียวนั้น เขาสามารถเพิ่มความเร็วให้เวลา และก็ทำให้เวลาช้าลงได้
พลังแห่งธาตุน้ำ เป็นการรับรู้ในแม่น้ำหวยเหอที่เมืองหวยเฉิง ในขณะที่เผชิญหน้ากับเจ้าเมืองหวยเฉิงที่มีพลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุด ด้วยเพราะจนตรอกหมดทางหนี จึงได้รับรู้ในพลังแห่งธาตุน้ำ
ส่วนพลังแห่งเวลานั้น คือตอนที่เขาต่อสู้กับหวยเจิ่น ขณะในชั่วครู่ที่กำลังจะถูกฝ่ายตรงข้ามถล่มฆ่า เกิดสัมผัสเข้ากับกฎแห่งกาลเวลาในฉับพลัน ความเร็วในการจู่โจมของหวยเจิ่นช้าลงไปหลายเท่าในชั่วแวบนั้น ทำให้รอดชีวิตจากการโจมตีในครั้งนั้นมาได้โดยสะดวก
แล้วพลังปกป้อง จะทำอย่างไรถึงจะรับรู้ได้?
หรือว่า ก็ต้องรอให้ถึงเข้าไปถึงวิกฤตแล้ว จำเป็นสุด ๆ ที่ต้องใช้พลังปกป้อง ถึงจะได้รับรู้งั้นหรือ?
ความคิดนี้เพิ่งจะได้แวบขึ้น ก็ได้ถูกหยางเฉินปฏิเสธไปทันที หากว่าการรับรู้พลังธาตุรับรู้กันง่ายถึงขนาดนี้จริง นักบูโดที่รับรู้กับพลังธาตุก็คงมีกันมากมายแล้ว
แต่ในความเป็นจริง โดยข้อเท็จจริงแล้ว นักบูโดที่จะรับรู้ได้ถึงพลังแห่งธาตุได้จริง ๆ นั้น พื้นฐานระดับขั้นบูโดล้วนจะต้องอยู่หลังจากเข้าถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแล้ว ไม่ใช่นักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด จะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังแห่งธาตุได้ทุกคน
นักบูโดที่มีขั้นแดนบูโดถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ยังมีใครอีก ที่ไม่เคยผ่านการเฉียดตายมา?
ถึงได้บอกว่า วิธีในการที่จะรับรู้ถึงพลังแห่งธาตุได้นั้น ไม่ใช่จะต้องอยู่ที่การจนตรอก
แต่ที่แน่ชัดก็คือ ในช่วงเวลาจนตรอก ความเป็นไปได้ในการรับรู้พลังแห่งธาตุจะมีโอกาสมากขึ้น
การที่คนเราจะมีการกระตุ้นพลังแฝงที่ซ่อนเร้นอยู่กับตัวออกมา ก็ต่อเมื่อตกอยู่ในสภาวะจนตรอก จึงจะมีหวังเป็นไปได้
ในทันใดนั้นเอง ในสมองของหยางเฉิน ได้ผุดคำที่เป็นประเด็นสำคัญขึ้นมา กฎเกณฑ์
ใช่ ก็คือกฎเกณฑ์!
ตอนที่รับรู้ถึงพลังธาตุน้ำ ก็เพราะตัวเขาเองอยู่ในแม่น้ำหวยเหอ อีกทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดขวางทางในสภาพจนตรอก เขารับรู้ถึงกฎเกณฑ์ของธาตุน้ำ เหมือนกับว่าตัวเขาเองกลมกลืนเข้าไปกับสายแม่น้ำหวยเหอ
ก็ด้วยเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ของธาตุน้ำ จึงรับรู้ได้ถึงพลังแห่งธาตุน้ำ
ส่วนช่วงตอนที่รับรู้ถึงพลังแห่งกาลเวลานั้น ก็เหมือนแบบนี้ ขณะที่สัญชาตญาณในตัวเองหมดปัญญาจะหลบพ้นการโจมตีปลิดชีวิตนั้น มีแต่จะเปลี่ยนเลื่อนเวลา จึงจะหลบพ้นการจู่โจมนั้นได้
เขาก็ได้เพราะเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ของเวลานี้ จึงได้รับรู้ถึงพลังแห่งเวลา
ขณะนี้ เขาขอเพียงเข้าใจได้ถึงกฎเกณฑ์ของการปกป้อง ก็จะสามารถรับรู้ถึงพลังปกป้อง
เพียงแต่ว่า กฎเกณฑ์แห่งการปกป้อง มันคืออะไรกันแน่?แล้วทำยังไงถึงจะเข้าใจถึงกฎเกณฑ์การปกป้อง?
พลังทำลายล้างในร่างกายยังคงทำทารุณอยู่อย่างบ้าคลั่ง อวัยวะสำคัญตัวหลักในตัวของหยางเฉิน เริ่มอ่อนล้าลง ชีวิตของเขาในตอนนี้ น่ากลัวจะเหลืออยู่ไม่กี่นาทีสุดท้ายแล้ว
ถ้าหากว่า ในไม่กี่นาทีสุดท้ายนี้ ยังไม่สามารถรับรู้ถึงพลังปกป้องได้ ก็เป็นอันว่าต้องตายจริง ๆ
“ข้าตายไม่ได้!”
“ถ้าหากข้าตายแล้ว ใครจะปกป้องลูกเมียข้า?”
“ถ้าหากข้าตายแล้ว ใครจะปกป้องศักดิ์ศรีของนักบูโดจิ่วโจว?”
“ถ้าหากข้าตายแล้ว ใครจะมาปกป้องเยี่ยนเฉินกรุ๊ป?”
“ข้าเข้าใจแล้ว กฎเกณฑ์ของการปกป้อง ก็คือต้องปกป้องทุกสิ่งที่เราต้องใส่ใจ”
หยางเฉินรู้แจ้งขึ้นมาในพลัน พลังฟื้นฟูที่ยิ่งใหญ่กระแสหนึ่ง ระเบิดขึ้นภายในร่างกายของเขา อวัยวะสำคัญภายในที่กำลังเสื่อมโทรมหมดแรงลงแต่เดิม ภายใต้กระแสพลังฟื้นฟูที่ยิ่งใหญ่นี้ ค่อย ๆ คืนสภาพพลังชีวิต
ส่วนที่บาดเจ็บตามร่างกาย ก็เริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม