หลังออกจาก Tiffany อิโตะ นานาโกะ ก็ได้เดินทางไปเป็นเพื่อนกับเย่เฉินอีกครั้ง โดยเดินไปรอบๆ ในร้านค้าใหญ่ๆ ของกินซ่า
เพื่อไม่ให้เกิดความลำเอียงมากเกินไป เย่เฉินก็เลยซื้อชุดสูทยี่ห้อ Boss ระดับไฮเอนด์ให้กับเซียวฉางควนพ่อตาของตัวเองชุดหนึ่ง
ปัจจุบันพ่อตาได้แต่ผสมผสานอยู่กับสมาคมศิลปะจีนอยู่ทุกวัน และได้กลายเป็นบุคคลสำคัญอันดับสองของสมาคมศิลปะจีนไปแล้ว สามารถพูดได้เลยว่าค่อนข้างมีหน้ามีตาบ้างแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นสมาคมศิลปะจีนที่เขาอยู่ในปัจจุบัน กับวิทยาลัยอาวุโสที่หานเหม่ยฉิงอยู่จะมีการติดต่อและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอยู่เป็นประจำ ดังนั้น เย่เฉินจึงซื้อชุดสูทให้พ่อตาของเขา โดยคิดอยากจะช่วยให้พ่อตาได้แต่งตัวสักหน่อย และทำให้เขาดูมีพลังมากขึ้น และก็มีหน้ามีตามากขึ้น
นอกจากนี้ เย่เฉินยังซื้อเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ อย่างอื่น และของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกด้วย
เวลาช่วงบ่ายสามครึ่ง ยังมีเวลาเหลือก่อนเที่ยวบินของเย่เฉินไปโอซาก้าอีกประมาณสองชั่วโมง เพราะคำนึงถึงสนามบินโตเกียวอยู่ไกลจากตัวเมืองค่อนข้างเยอะ เย่เฉินจึงพูดกับ อิโตะ นานาโกะ ว่า “นานาโกะ ใกล้จะถึงเวลาแล้ว ผมจะต้องไปที่สนามบินแล้ว”
อิโตะ นานาโกะ พูดอย่างไม่ลังเลว่า “เย่เฉินซัง ให้ฉันไปส่งคุณเถอะ!”
เย่เฉินกล่าวว่า “ผมต้องขับรถไป และทิ้งรถไว้ที่สนามบิน ถ้าคุณตามผมไป ตอนกลับมาคุณจะทำอย่างไร?”
“ไม่เป็นไรหรอก” อิโตะ นานาโกะ พูดโพล่งออกจากปากว่า “ฉันสามารถให้คนขับรถไปรับฉันที่สนามบินได้ เรื่องนี้เย่เฉินซังไม่ต้องกังวล!”
เย่เฉินถามโดยจิตสำนึกว่า “ลำบากคุณมากเกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่หรอกไม่ลำบากเลย!” อิโตะ นานาโกะ พูดด้วยท่าทางที่อ้อนวอนว่า “เย่เฉินซัง นานาโกะอยากจะไปส่งคุณที่สนามบิน แม้กระทั่งอยากจะไปส่งคุณถึงที่โอซาก้า และไปส่งคุณกลับจินหลิง แต่ตอนนี้สถานการณ์ในครอบครัวมันอยู่ในช่วงพิเศษ ไม่เหมาะที่จะถอนตัวจากไปเลย ดังนั้นจึงขอให้เย่เฉินซังให้โอกาสนานาโกะไปส่งคุณที่สนามบินสักครั้ง……..”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “งั้นเราสองคนก็ขับรถไปสนามบินด้วยกัน คุณก็โทรหาคนในครอบครัวของคุณ และจัดให้พวกเขาส่งรถไปรับคุณที่สนามบิน”
“อืมๆ!” อิโตะ นานาโกะ พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง และพูดอย่างมีความสุขว่า “เย่เฉินซังไม่ต้องเป็นห่วงเลย ฉันจะจัดการให้เรียบร้อยเอง!”
“โอเค!”
เมื่อเย่เฉินได้ยินดังนั้นเขาก็ไม่ได้ยืนหยัดอีกต่อไป ทั้งสองคนขึ้นรถโดยตรง และขับรถไปยังสนามบินโตเกียว
ตลอดทางมานี้ เป็นการเดินทางกลับครั้งแรกของเย่เฉิน
ระหว่างทาง อิโตะ นานาโกะ รู้สึกไม่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา
เธอแอบมองเย่เฉินที่อยู่ข้างกายเธอตลอดเวลา และในใจก็ไม่อยากให้เขาจากไปอย่างยิ่ง
ตอนที่อยู่จินหลิงก่อนหน้านี้ อิโตะ นานาโกะ ก็เริ่มมีความรู้สึกกับเย่เฉินตั้งแต่นั้นแล้ว
และในวันนั้นตอนที่เธอได้พบกับเย่เฉินอีกครั้งอยู่ในญี่ปุ่น อิโตะ นานาโกะ ก็ได้ตกหลุมรักเขาอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว
หลังแยกจากเย่เฉินในครั้งนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสได้พบกับเย่เฉินอีกครั้งหรือไม่
เพราะเธอรู้สึกได้อยู่ในใจว่า สำหรับตัวเอง เย่เฉินได้ปล่อยภาระเพียงเล็กน้อยที่อยู่ในหัวใจของเขาลงแล้ว
อิโตะ นานาโกะ เป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่ง
เธอสามารถมองออกได้ว่า เหตุผลที่เย่เฉินมาที่ญี่ปุ่น จะต้องเป็นเพราะอาการบาดเจ็บของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงมีความเห็นอกเห็นใจให้กับตัวเองอยู่ในหัวใจของเขาเล็กน้อย
และบังเอิญเขาก็มียาที่สามารถรักษาตัวเองได้พอดี ดังนั้นเขาจึงเอายาเม็ดนั้น มาหาตัวเองถึงที่เกียวโต และรักษาตัวเองให้หาย
ในเวลานี้ เธอแอบคิดอยู่ในใจลึกๆ อย่างสุดซึ้งและความเหงา “อาการบาดเจ็บของฉันก็หายหมดแล้ว คาดว่า เย่เฉินซังต่อไปก็จะไม่ต้องมากังวลคำนึงถึงฉันอีกแล้วใช่ไหม?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในใจของอิโตะ นานาโกะ ก็รู้สึกเศร้าอย่างมาก
ในหัวใจของเธอ เธอยอมที่จะปล่อยวางทุกอย่าง เพื่อแลกกับการที่เย่เฉินอยู่ที่ญี่ปุ่นต่อไป
แต่เธอก็รู้อยู่ในใจว่า นี่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก